หลังจากที่เราลังเลใจในแต่ละช่วง ราคาหุ้นมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ พวกเราจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นมันมีการเคลื่อนไหวจากต่ำขึ้นมาสูงอย่างรวดเร็ว นี่ถือเป็นพฤติกรรมราคาหุ้นที่เป็น Momentum
ภาพรวมหุ้นมักจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นบางช่วง บางครั้งกุญแจที่สำคัญก็คือการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและก็ไม่หยุดนิ่งเลย แต่ในช่วงเวลาอื่นๆ พวกเราก็จะต้องตีหัวเข้าบ้านหลังจากที่ทิศทางแนวโน้มเปลี่ยนไป และมันก็เป็นเรื่องง่ายที่เราจะทำแบบนี้
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะง่ายทุกเรื่องไป
ความจริงแล้วการเล่นหุ้นแบบ Momentum มักจะต้องปรับความคิดจิตใจให้แตกต่างกันออกไปที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ ผมกล้าพูดเลยว่ามันเป็นวิธีสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์แล้วเท่านั้น
ให้ผมอธิบายให้เข้าใจดีกว่านะครับว่าเพราะอะไร
การปรับความคิดจิตใจแบบมือสมัครเล่นกับการปรับปรุงแก้ไข
ก่อนอื่นผมขออธิบายเบื้องต้นก่อนนะครับว่า โดยทั่วไปจะต้องเล่นยังไงบ้าง
เมื่อเห็นกราฟแท่งเขียว เข้าไปซื้อหุ้นได้แล้ว
เมื่อเห็นกราฟแท่งแดง ขายหุ้นออกมา
บ่อยครั้งที่ผู้คนมักจะไม่ตรวจสอบเลยว่ากราฟแท่งเขียวมีมากน้อยแค่ไหน ทุกๆคนก็รู้ว่ามันเป็นกราฟหุ้นที่แข็งแกร่ง ทำให้เราซื้อหุ้นได้โดยไม่ต้องกังวลใจอะไร
ความคิดจิตใจในการเล่นแบบ Momentum จะต้องใช้ควบคู่กันไปและเมื่อเราหาจังหวะเข้าไปซื้อได้ พวกเขาก็สามารถทำเงินได้โดยไม่มีความเครียดเข้ามากดดัน ทำให้พวกเขามักจะพูดอยู่เสมอว่า “ผมคิดว่าผมอาจจะออกจากอาชีพที่กินเงินเดือนที่ทำอยู่นะ”
ในทางตรงกันข้ามเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์แบบผม จะต้องไล่ล่าหาหุ้นเป็นบ้าเลือด เพราะว่าผมมักจะพูดอยู่เสมอว่า ผมจะซื้อหุ้นราคาสูงๆหรือขายหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา ฟังดูแล้วหลายคนอาจจะไม่สนุกด้วย ประสบการณ์จะทำให้พวกเราไม่เขินอายกับสิ่งที่พูดออกมา และจะทำให้เราปฏิบัติจนเคยชินทำให้สามารถเข้าออกได้อย่างเหมาะสม หลายคนมักจะคิดว่า “ตลาดหุ้นมันจะถึงเวลาอ่อนตัวลงแล้วหรือยัง”
หุ้นบางตัวเราอาจจะเห็นว่าวิ่งมากถึง 5 % ตัวอย่างเช่น ให้ผมปรับความคิดจิตใจในการมองความเคลื่อนไหวในครั้งต่อไป ผมรู้ว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวที่ดูดีมากๆหลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีที่ผ่านมา ทำให้หุ้นเคลื่อนไหวไกลมากขึ้นไปอีก ทำให้ผมสามารถซื้อหุ้นในจุดที่เหมาะสม
ผมจะจำวลีนี้ไว้เสมอว่า “เมื่อผมลืมรองเท้าในวันนี้ ผมก็จะไม่ไล่ตามหารองเท้าอีก” ความคิดแบบนี้บ่อยครั้งช่วยผมปกป้องเงินทุนของผมไว้ได้ แต่ในแต่ละช่วงหุ้นมันก็มีแรงเคลื่อนไหวที่ทรงพลังมาก ซึ่งก็ให้จังหวะโอกาสผมเข้าไปทำกำไรอีก
จะต้องตั้งเกียรเดินหน้า
พวกเราจะต้องตั้งแนวทางไว้ 3 อย่างในการเล่นหุ้นแบบ Momentum ที่มันจะช่วยให้พวกเราปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี ในการพร้อมที่จะกระโดดขึ้นบนรถไฟ
1. เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเอง เราจะต้องดูสภาพแวดล้อมการเล่นหุ้นของตัวเองอย่างใกล้ชิด ที่จะทำให้เราเล่นหุ้นได้เหมาะสม บางทีเราก็อาจจะได้กำไร 3-4 % และก็อาจจะได้ 6 % ซึ่งก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ เราก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นหุ้นของตัวเองใหม่ซะ และก็วางกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับภาวะปัจจุบัน และหากเราไม่มีแนวทางเป็นของตัวเอง เราก็ต้องหาแนวทางที่มันสามารถทำกำไรให้กับเราก็โอเคแล้ว
2. จะต้องดู Volume สถานการณ์ต่างๆไม่ว่าทิศทางแนวโน้มจะเป็นแบบไหน พวกเราก็จะต้องเปรียบเทียบ Volume เสมอไม่ว่าจะขึ้นหรือลง และก็จะต้องพยายามสังเกตพฤติกรรมให้ดีๆ ตัวอย่างเช่น ทิศทางขาขึ้นอาจจะเห็นได้ว่ามี Volume เพิ่มมากขึ้นและแต่ละช่วงก็จะมี Volume เบาบางบ้าง แต่เมื่อเราเห็นแรงเคลื่อนไหวของมัน
จริงๆ Volume มันก็อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่พวกเราคิดเสมอไป ราคาหุ้นมันก็ยังคงวิ่งขึ้นต่อไปและก็วิ่งขึ้นเรื่อยๆ และ Volume อาจจะไม่ได้เล่นตามราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นไปด้วย เราก็ต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ และมันอาจจะมีการควบคุมราคาหุ้นเอาไว้ ส่วนใหญ่คำตอบก็จะอยู่ที่ Volume ที่มันขึ้นลงไปมา และบางครั้งก็ปรับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
3. จะต้องสังเกตว่าเมื่อราคาหุ้นหยุดวิ่ง ก็เพิกเฉยไปได้เลย หากว่าเราเล่นหุ้นเกือบทุกๆวัน เราก็จะต้องสังเกตได้ว่าราคาหุ้นมันเริ่มวิ่งตั้งแต่ตอนไหนและก็หยุดพักตอนไหนบ้าง หากว่าราคาหุ้นมันไม่หยุดพัก หุ้นก็มีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน ก็จะเป็นแนวมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีเราก็คงอยากเข้าไปเล่นหุ้นแบบนี้แน่ๆ
จะต้องควบคุมอารมณ์ให้คงที่
สิ่งสำคัญก็คือเรื่องของแนวรับแนวต้านของราคาหุ้นที่เราเพิกเฉยไม่ได้เป็นอันขาด
หมายความว่าหากเรามองว่าหุ้นตัวนี้มันจะปรับตัวลดลงหรือหยุดนิ่ง การเล่นหุ้นแบบ Momentum มันก็จะทำให้เราใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล และก็ใช้อารมณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
กุญแจที่สำคัญก็คือพวกเราจะต้องเข้าใจจังหวะโอกาสในแต่ละช่วงที่อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิดไว้ เราก็ทำตามแรงเคลื่อนไหวที่อกเราและก็อย่าไปขัดขืนจนกว่า Volume มันจะบอกเราเองว่าจะต้องทำยังไง
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net
การเล่นหุ้นแบบ Moumentum Trading กับจิตวิทยาการเล่น
ภาพรวมหุ้นมักจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นบางช่วง บางครั้งกุญแจที่สำคัญก็คือการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและก็ไม่หยุดนิ่งเลย แต่ในช่วงเวลาอื่นๆ พวกเราก็จะต้องตีหัวเข้าบ้านหลังจากที่ทิศทางแนวโน้มเปลี่ยนไป และมันก็เป็นเรื่องง่ายที่เราจะทำแบบนี้
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะง่ายทุกเรื่องไป
ความจริงแล้วการเล่นหุ้นแบบ Momentum มักจะต้องปรับความคิดจิตใจให้แตกต่างกันออกไปที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ ผมกล้าพูดเลยว่ามันเป็นวิธีสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์แล้วเท่านั้น
ให้ผมอธิบายให้เข้าใจดีกว่านะครับว่าเพราะอะไร
การปรับความคิดจิตใจแบบมือสมัครเล่นกับการปรับปรุงแก้ไข
ก่อนอื่นผมขออธิบายเบื้องต้นก่อนนะครับว่า โดยทั่วไปจะต้องเล่นยังไงบ้าง
เมื่อเห็นกราฟแท่งเขียว เข้าไปซื้อหุ้นได้แล้ว
เมื่อเห็นกราฟแท่งแดง ขายหุ้นออกมา
บ่อยครั้งที่ผู้คนมักจะไม่ตรวจสอบเลยว่ากราฟแท่งเขียวมีมากน้อยแค่ไหน ทุกๆคนก็รู้ว่ามันเป็นกราฟหุ้นที่แข็งแกร่ง ทำให้เราซื้อหุ้นได้โดยไม่ต้องกังวลใจอะไร
ความคิดจิตใจในการเล่นแบบ Momentum จะต้องใช้ควบคู่กันไปและเมื่อเราหาจังหวะเข้าไปซื้อได้ พวกเขาก็สามารถทำเงินได้โดยไม่มีความเครียดเข้ามากดดัน ทำให้พวกเขามักจะพูดอยู่เสมอว่า “ผมคิดว่าผมอาจจะออกจากอาชีพที่กินเงินเดือนที่ทำอยู่นะ”
ในทางตรงกันข้ามเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์แบบผม จะต้องไล่ล่าหาหุ้นเป็นบ้าเลือด เพราะว่าผมมักจะพูดอยู่เสมอว่า ผมจะซื้อหุ้นราคาสูงๆหรือขายหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา ฟังดูแล้วหลายคนอาจจะไม่สนุกด้วย ประสบการณ์จะทำให้พวกเราไม่เขินอายกับสิ่งที่พูดออกมา และจะทำให้เราปฏิบัติจนเคยชินทำให้สามารถเข้าออกได้อย่างเหมาะสม หลายคนมักจะคิดว่า “ตลาดหุ้นมันจะถึงเวลาอ่อนตัวลงแล้วหรือยัง”
หุ้นบางตัวเราอาจจะเห็นว่าวิ่งมากถึง 5 % ตัวอย่างเช่น ให้ผมปรับความคิดจิตใจในการมองความเคลื่อนไหวในครั้งต่อไป ผมรู้ว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวที่ดูดีมากๆหลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีที่ผ่านมา ทำให้หุ้นเคลื่อนไหวไกลมากขึ้นไปอีก ทำให้ผมสามารถซื้อหุ้นในจุดที่เหมาะสม
ผมจะจำวลีนี้ไว้เสมอว่า “เมื่อผมลืมรองเท้าในวันนี้ ผมก็จะไม่ไล่ตามหารองเท้าอีก” ความคิดแบบนี้บ่อยครั้งช่วยผมปกป้องเงินทุนของผมไว้ได้ แต่ในแต่ละช่วงหุ้นมันก็มีแรงเคลื่อนไหวที่ทรงพลังมาก ซึ่งก็ให้จังหวะโอกาสผมเข้าไปทำกำไรอีก
จะต้องตั้งเกียรเดินหน้า
พวกเราจะต้องตั้งแนวทางไว้ 3 อย่างในการเล่นหุ้นแบบ Momentum ที่มันจะช่วยให้พวกเราปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี ในการพร้อมที่จะกระโดดขึ้นบนรถไฟ
1. เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเอง เราจะต้องดูสภาพแวดล้อมการเล่นหุ้นของตัวเองอย่างใกล้ชิด ที่จะทำให้เราเล่นหุ้นได้เหมาะสม บางทีเราก็อาจจะได้กำไร 3-4 % และก็อาจจะได้ 6 % ซึ่งก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ เราก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นหุ้นของตัวเองใหม่ซะ และก็วางกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับภาวะปัจจุบัน และหากเราไม่มีแนวทางเป็นของตัวเอง เราก็ต้องหาแนวทางที่มันสามารถทำกำไรให้กับเราก็โอเคแล้ว
2. จะต้องดู Volume สถานการณ์ต่างๆไม่ว่าทิศทางแนวโน้มจะเป็นแบบไหน พวกเราก็จะต้องเปรียบเทียบ Volume เสมอไม่ว่าจะขึ้นหรือลง และก็จะต้องพยายามสังเกตพฤติกรรมให้ดีๆ ตัวอย่างเช่น ทิศทางขาขึ้นอาจจะเห็นได้ว่ามี Volume เพิ่มมากขึ้นและแต่ละช่วงก็จะมี Volume เบาบางบ้าง แต่เมื่อเราเห็นแรงเคลื่อนไหวของมัน
จริงๆ Volume มันก็อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่พวกเราคิดเสมอไป ราคาหุ้นมันก็ยังคงวิ่งขึ้นต่อไปและก็วิ่งขึ้นเรื่อยๆ และ Volume อาจจะไม่ได้เล่นตามราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นไปด้วย เราก็ต้องระวังเอาไว้ให้ดีๆ และมันอาจจะมีการควบคุมราคาหุ้นเอาไว้ ส่วนใหญ่คำตอบก็จะอยู่ที่ Volume ที่มันขึ้นลงไปมา และบางครั้งก็ปรับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
3. จะต้องสังเกตว่าเมื่อราคาหุ้นหยุดวิ่ง ก็เพิกเฉยไปได้เลย หากว่าเราเล่นหุ้นเกือบทุกๆวัน เราก็จะต้องสังเกตได้ว่าราคาหุ้นมันเริ่มวิ่งตั้งแต่ตอนไหนและก็หยุดพักตอนไหนบ้าง หากว่าราคาหุ้นมันไม่หยุดพัก หุ้นก็มีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน ก็จะเป็นแนวมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีเราก็คงอยากเข้าไปเล่นหุ้นแบบนี้แน่ๆ
จะต้องควบคุมอารมณ์ให้คงที่
สิ่งสำคัญก็คือเรื่องของแนวรับแนวต้านของราคาหุ้นที่เราเพิกเฉยไม่ได้เป็นอันขาด
หมายความว่าหากเรามองว่าหุ้นตัวนี้มันจะปรับตัวลดลงหรือหยุดนิ่ง การเล่นหุ้นแบบ Momentum มันก็จะทำให้เราใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล และก็ใช้อารมณ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
กุญแจที่สำคัญก็คือพวกเราจะต้องเข้าใจจังหวะโอกาสในแต่ละช่วงที่อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิดไว้ เราก็ทำตามแรงเคลื่อนไหวที่อกเราและก็อย่าไปขัดขืนจนกว่า Volume มันจะบอกเราเองว่าจะต้องทำยังไง
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net