เช้าวันอาทิตย์ เวลา 09:15 น. อพาร์ทเม้นท์ธรรมดา แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาของอพาร์ทเม้นท์นี้ คือ ทุกๆ วันศุกร์ จะมีกลุ่มผู้หญิงญี่ปุ่นน่ารักผ่านหน้า อพาร์ทเม้นท์ พวกเขาพูดคุยกันด้วยภาษาไทย แถมยังชัดด้วย จึงทำให้แถวนี้มักจะมีพวกโรคจิตแอบตามมาตลอด และมักจะโดนผู้ชายที่อยู่ในอพาร์ทเม้นท์ ลากออกมาทำร้าย พร้อมส่งตำรวจ และอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้คือ ที่อยู่ของ รุจ จากวันที่ผมเจอเหตุการณ์ประหลาดนั้น ก็ผ่านมา 3 วันแล้วทุกๆ วัน ผมก็จะไปทำงานตามปกติ ทุกวันหลังเลิกงานผมมักจะไปหา เรียว ที่โรงพยาบาล แต่พอเข้าโรงพยาบาลที่ไหล ผมมักจะทำหน้าเศร้าแต่ไม่ร้องไห้ ผมไปเยี่ยม เรียว มันมักจะบอกผมให้ไปหา พิ้ง ซึ่งผมก็พยามหาชื่อจริงของเธอ แต่ก็ไม่รู้จะถามใครดี เพราะไม่ค่อยสนิทกับใครในบริษัท ผมเลยเอามือกุมขมับหัวเอาไว้ เอาแต่นั่งคิดว่าจะถามใคร ในตอนนั้นผมคิดถึงเรื่องผู้หญิงที่มาถามทางไปห้องน้ำวันนั้น ผมคิดไป น้ำลายไป
“เฮ้ย!! รุจ...แกเป็นไรวะ น้ำลายไหลเชียว” เรียวมันก็ผ้าเช็ดปากที่อยู่ข้างๆ เตียงมาให้ ผมก็เช็ดปาก
เฮ้ยนี่มันกลิ่นไรวะ ทำไมมันกลิ่นมันคราว ผมดมอีกรอบเพื่อความแน่ใจ คราวนี้กลิ่นมันเปรี้ยวๆ ผมเลยคาใจ หันไปหา เรียว จ้องมองด้วยสายตาดุจหมาป่า พร้อมที่จะขย้ำเหยื่อ
“อ๋อ!! ก็ผ้าเช็ดปากชุบน้ำมะนาวบวกน้ำปลาเข้าไป ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” เรียวหัวเราะเยาะเย้ยด้วยสีหน้าตลก แถมหัวเราะไม่หยุดด้วย ผมเลยลุกไปจับหัวเรียว แล้วมองหน้ามันให้รังสีอำมหิตแพร่กระจายไป
“เอาน่า!! แกล้งนิดเดียวเองอย่าโกรธไปเลยน้า ฮ่าๆๆๆ”
“นี่มันนิดเดียวของแกรึไง ฮะ ฮึ!~~” ผมบีบหัวเรียวด้วยแรงทั้งหมด จนทำให้เรียวตะโกนคำว่าเจ็บออกมา คราวนี้ มีชายหนุ่ม ตัวสูง ผิวขาว แขนล่ำๆ ใส่แว่น ผมทอง เสื้อคลุมลายสก๊อต กางเกงขาเดพ เดินมาสะกิดหลังผม แล้วถอดแว่นออก พร้อมสะบัดหน้าเล็กน้อย เพื่อให้ผมปลิวสลวยตามลม
อะเด้! นี่มันใครว้า มีธุระอะไรกับเรา หรือว่าเราไปส่งเสียงดังรบกวนเขา เรียว มันก็จับมือผมแล้วยกออกจากหัว มันก็มองชายหนุ่ม ผมทอง คนนั้นกับผม มันก็อึ้งสักพัก หรือว่าเป็นคนรู้จักของเรียว ไม่น่าใช่ อย่างเจ้าเรียวคงไม่มีวาสนามีคนอย่างนั้นหรอก
ชายผมทองเอามือมาแนบลำตัวของ รุจ ใบหน้าเริ่มใกล้เข้า สะโพกแอ่นไปข้างหลัง มือข้างขวาเริ่มไต่ขึ้นมาที่ละน้อย ข้างซ้ายก็โอบผมเบาๆ ตอนนั้นผมขยับตัวไม่ได้เลย เหมือนโดนเวทย์มนเข้าให้ เมื่อมือข้างขวาของเขาเริ่มใกล้ถึง ไอ้นั้นของผม เขาก็ดึงมือออกมาทันทีข้างซ้ายก็รูดก้นของผม ชายคนนั้นแสยะยิ้มแบบน่ากลัว เรียว มันก็มองผมแล้วกลั้นหัวเราะเอาไว้ คราวนี้ ชายผมทองคนนั้น เดินมาหาเรียว นั่งบนเตียง ขาทั้งสองข้างแกว่งลงกับพื้น ลำตัวเอียงไปทางเรียว มือข้างขวาจับคางเรียวยกขึ้น ข้างซ้ายดันกับเตียงเอาไว้ ใบหน้าเข้าใกล้ เรียว ผมมองแล้วก็อึ้ง พยามตั้งสติ
เฮ้ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย เขาเป็นใคร ทำอะไรกับพวกเรา แล้วทำไมเราขยับตัวไม่ได้ หวังว่าคงไม่ใช่พวกวิญญาณอะไรนั้นหรอกนะ
ชายหนุ่มผมทองใบหน้าห่างกับหน้าเรียวแค่ 5 เซ็นเท่านั้น ผมเห็นแล้วก็กลั้นขำเอาไว้ สักพักประตูห้องคนไข้ก็เปิดลง มีผู้หญิงร่างเล็กผมสั้น ผิวขาวสดใส ผมดำ ใส่แว่น ใส่เสื้อนักเรียนม.ปลาย กระโปรงธรรมดา ถุงเท้าสีขาว ร้องเท้านักเรียนธรรมดา เดินเข้ามา ผ่านหน้าผมไป แล้วไปจับมือกับชายผมทองคนนั้น
เฮ้ย!! อะไรกันอีกล่ะเนี่ย คราวนี้สาวน่ารักคนนี้หรอ ถ้าคนนี้ผมยอมทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นชายคนนั้นผมขอฆ่าตัวตายดีกว่า
“นี่! พี่ เลิกแกล้งคนอื่นได้แล้ว”
ไม่จริงน้า!!~ เป็นพี่น้องกันหรอเนี่ย ทำไมแตกต่างกันจัง
“คุณตรงนั้นนะ! คิดว่าเราเป็นพี่น้องกันจริงรึเปล่าสินะ” ผู้หญิงคนนั้นชี้นิ้วมาทางผม แล้วสายตาก็เตรียมตัวรบ
รู้ได้ไงวะ! มีพลังจิตรึไงกัน
“อะ..เอ่อ ป่าวครับ ผมไม่ได้คิดเลยครับ”
เราต้องกลบเกลื่อนเอาไว้ก่อน ไม่งั้นเราได้ตายแน่ ถ้าเด็กคนนั้นทำเราก็ยอม แต่ถ้าเป็นพี่คนนั้น เราไม่ยอมหรอก
“อะ..รุจ ช่วยด้วย” เรียวพยามลุกออกจากเตียง แต่ลุกไม่ได้ ผมเห็นท่าไม่ดีเลยเดินไปช่วยพยุง เรียว
“นี่! พี่ กลับบ้านได้แล้ว เดี่ยวก็โดนแม่ดุหรอก”
“เฮ้อ...ยังไม่สนุกเลย ก็ได้จ้า กลับก็กลับ”
ชายคนนั้นมองมาที่พวกผมแล้วขมิบตาข้างหนึ่ง พร้อมแสยะยิ้ม ผมกับเรียวได้แต่ยืนตัวสั่นอยู่แบบนั้น จนชายหนุ่ม กับ ผู้หญิงคนนั้นก็ออกไป ผมก็เลยพาเรียวไปนอนที่เตียง
“นั้นมันอะไรกันวะ!!!~”
“แล้วกระผมจะไปรู้ไงได้ไงละไอ้โง่”
ผมนั่งลงบนเกาอี้ เอามือกอดอกขาข้างขวายกขึ้นมาวางทับข้าซ้าย
“แกยังดีแค่โดนรูดบัตรเครดิต...ฉันนี่เกือบโดนจูบแล้วไหมละ”
เอ่อก็ยังดีกว่าจริงๆ นั้นแหละ
“แต่จะว่าไปผู้หญิงคนนั้น ใครกันน้า น่ารักจัง kawaii สุดๆ @_@” ผมเอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ล แล้วก็มากิน
ผมลุกไปเปิดหน้าต่าง มีสายลมพัดเข้ามาเบา ผมมองวิวของเมือง เห็นแต่ตึกตระการฟ้า มีระเบียงให้ไปรับลมด้วย ผมเลยเดินออกไป มองไปข้างล่าง มองเห็นแต่ผู้คน หันไปทางขวาก็ไม่มีอะไร มองไปทางซ้ายเห็นผู้หญิง เอามือสองข้างพาดไว้ตรงราวเหล็ก ใบหน้าซุกกับแขนทั้งสอง ผมไม่เห็นใบหน้าเขาเพราะผมยาวสลวยปลิวไปมา ผมก็ไม่สนใจอะไร พอลมหยุดพัด ผมก็มองไปยังผู้หญิงอีกทีคราวนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่อยู่แล้วผมเลยเอะใจอะไร
เขาหายไปไหนกันน้า หรือว่าเขาจะเข้าห้องไปแล้ว หรือไม่ก็เขาโดดลงไปจากตึกนี่ ผมมองลงไปข้างล่าง ไม่มีเหตุการณ์อะไร ผมถอนหายใจแล้วเข้ามาในห้อง เห็น เรียว ซัดแอปเปิ้ลไป 2 ลูกแล้ว เหลือแอปเปิ้ลแค่ 1 ลูก ผมก็ต้องจำใจลงไปซื่อมาเพิ่มก่อนผมจะลงผมหันไปมองเรียว
“เฮ้ยเมื่อไหร่! แกจะหายวะ”
“หมอบอกว่า...คง.สัก 1 เดือน”
เฮ้อ...ให้ตายสิ...แล้วงานที่บริษัทจะว่าไงละเนี่ย คงไม่ได้โดนไล่ออกหรอกนะ ทั้งสองคนเลย ชักจะเป็นห่วงแล้วสิ พรุ่งนี้ก่อนกลับไปเช็คดูรายชื่อดีกว่า ผมก็เดินออกมาจากห้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โปรดติดตามตอนต่อไป
พนักงานใหม่สุดซึน!!~ กับ นายไร้มิตร ตอนที่ 5
“เฮ้ย!! รุจ...แกเป็นไรวะ น้ำลายไหลเชียว” เรียวมันก็ผ้าเช็ดปากที่อยู่ข้างๆ เตียงมาให้ ผมก็เช็ดปาก
เฮ้ยนี่มันกลิ่นไรวะ ทำไมมันกลิ่นมันคราว ผมดมอีกรอบเพื่อความแน่ใจ คราวนี้กลิ่นมันเปรี้ยวๆ ผมเลยคาใจ หันไปหา เรียว จ้องมองด้วยสายตาดุจหมาป่า พร้อมที่จะขย้ำเหยื่อ
“อ๋อ!! ก็ผ้าเช็ดปากชุบน้ำมะนาวบวกน้ำปลาเข้าไป ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” เรียวหัวเราะเยาะเย้ยด้วยสีหน้าตลก แถมหัวเราะไม่หยุดด้วย ผมเลยลุกไปจับหัวเรียว แล้วมองหน้ามันให้รังสีอำมหิตแพร่กระจายไป
“เอาน่า!! แกล้งนิดเดียวเองอย่าโกรธไปเลยน้า ฮ่าๆๆๆ”
“นี่มันนิดเดียวของแกรึไง ฮะ ฮึ!~~” ผมบีบหัวเรียวด้วยแรงทั้งหมด จนทำให้เรียวตะโกนคำว่าเจ็บออกมา คราวนี้ มีชายหนุ่ม ตัวสูง ผิวขาว แขนล่ำๆ ใส่แว่น ผมทอง เสื้อคลุมลายสก๊อต กางเกงขาเดพ เดินมาสะกิดหลังผม แล้วถอดแว่นออก พร้อมสะบัดหน้าเล็กน้อย เพื่อให้ผมปลิวสลวยตามลม
อะเด้! นี่มันใครว้า มีธุระอะไรกับเรา หรือว่าเราไปส่งเสียงดังรบกวนเขา เรียว มันก็จับมือผมแล้วยกออกจากหัว มันก็มองชายหนุ่ม ผมทอง คนนั้นกับผม มันก็อึ้งสักพัก หรือว่าเป็นคนรู้จักของเรียว ไม่น่าใช่ อย่างเจ้าเรียวคงไม่มีวาสนามีคนอย่างนั้นหรอก
ชายผมทองเอามือมาแนบลำตัวของ รุจ ใบหน้าเริ่มใกล้เข้า สะโพกแอ่นไปข้างหลัง มือข้างขวาเริ่มไต่ขึ้นมาที่ละน้อย ข้างซ้ายก็โอบผมเบาๆ ตอนนั้นผมขยับตัวไม่ได้เลย เหมือนโดนเวทย์มนเข้าให้ เมื่อมือข้างขวาของเขาเริ่มใกล้ถึง ไอ้นั้นของผม เขาก็ดึงมือออกมาทันทีข้างซ้ายก็รูดก้นของผม ชายคนนั้นแสยะยิ้มแบบน่ากลัว เรียว มันก็มองผมแล้วกลั้นหัวเราะเอาไว้ คราวนี้ ชายผมทองคนนั้น เดินมาหาเรียว นั่งบนเตียง ขาทั้งสองข้างแกว่งลงกับพื้น ลำตัวเอียงไปทางเรียว มือข้างขวาจับคางเรียวยกขึ้น ข้างซ้ายดันกับเตียงเอาไว้ ใบหน้าเข้าใกล้ เรียว ผมมองแล้วก็อึ้ง พยามตั้งสติ
เฮ้ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย เขาเป็นใคร ทำอะไรกับพวกเรา แล้วทำไมเราขยับตัวไม่ได้ หวังว่าคงไม่ใช่พวกวิญญาณอะไรนั้นหรอกนะ
ชายหนุ่มผมทองใบหน้าห่างกับหน้าเรียวแค่ 5 เซ็นเท่านั้น ผมเห็นแล้วก็กลั้นขำเอาไว้ สักพักประตูห้องคนไข้ก็เปิดลง มีผู้หญิงร่างเล็กผมสั้น ผิวขาวสดใส ผมดำ ใส่แว่น ใส่เสื้อนักเรียนม.ปลาย กระโปรงธรรมดา ถุงเท้าสีขาว ร้องเท้านักเรียนธรรมดา เดินเข้ามา ผ่านหน้าผมไป แล้วไปจับมือกับชายผมทองคนนั้น
เฮ้ย!! อะไรกันอีกล่ะเนี่ย คราวนี้สาวน่ารักคนนี้หรอ ถ้าคนนี้ผมยอมทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นชายคนนั้นผมขอฆ่าตัวตายดีกว่า
“นี่! พี่ เลิกแกล้งคนอื่นได้แล้ว”
ไม่จริงน้า!!~ เป็นพี่น้องกันหรอเนี่ย ทำไมแตกต่างกันจัง
“คุณตรงนั้นนะ! คิดว่าเราเป็นพี่น้องกันจริงรึเปล่าสินะ” ผู้หญิงคนนั้นชี้นิ้วมาทางผม แล้วสายตาก็เตรียมตัวรบ
รู้ได้ไงวะ! มีพลังจิตรึไงกัน
“อะ..เอ่อ ป่าวครับ ผมไม่ได้คิดเลยครับ”
เราต้องกลบเกลื่อนเอาไว้ก่อน ไม่งั้นเราได้ตายแน่ ถ้าเด็กคนนั้นทำเราก็ยอม แต่ถ้าเป็นพี่คนนั้น เราไม่ยอมหรอก
“อะ..รุจ ช่วยด้วย” เรียวพยามลุกออกจากเตียง แต่ลุกไม่ได้ ผมเห็นท่าไม่ดีเลยเดินไปช่วยพยุง เรียว
“นี่! พี่ กลับบ้านได้แล้ว เดี่ยวก็โดนแม่ดุหรอก”
“เฮ้อ...ยังไม่สนุกเลย ก็ได้จ้า กลับก็กลับ”
ชายคนนั้นมองมาที่พวกผมแล้วขมิบตาข้างหนึ่ง พร้อมแสยะยิ้ม ผมกับเรียวได้แต่ยืนตัวสั่นอยู่แบบนั้น จนชายหนุ่ม กับ ผู้หญิงคนนั้นก็ออกไป ผมก็เลยพาเรียวไปนอนที่เตียง
“นั้นมันอะไรกันวะ!!!~”
“แล้วกระผมจะไปรู้ไงได้ไงละไอ้โง่”
ผมนั่งลงบนเกาอี้ เอามือกอดอกขาข้างขวายกขึ้นมาวางทับข้าซ้าย
“แกยังดีแค่โดนรูดบัตรเครดิต...ฉันนี่เกือบโดนจูบแล้วไหมละ”
เอ่อก็ยังดีกว่าจริงๆ นั้นแหละ
“แต่จะว่าไปผู้หญิงคนนั้น ใครกันน้า น่ารักจัง kawaii สุดๆ @_@” ผมเอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ล แล้วก็มากิน
ผมลุกไปเปิดหน้าต่าง มีสายลมพัดเข้ามาเบา ผมมองวิวของเมือง เห็นแต่ตึกตระการฟ้า มีระเบียงให้ไปรับลมด้วย ผมเลยเดินออกไป มองไปข้างล่าง มองเห็นแต่ผู้คน หันไปทางขวาก็ไม่มีอะไร มองไปทางซ้ายเห็นผู้หญิง เอามือสองข้างพาดไว้ตรงราวเหล็ก ใบหน้าซุกกับแขนทั้งสอง ผมไม่เห็นใบหน้าเขาเพราะผมยาวสลวยปลิวไปมา ผมก็ไม่สนใจอะไร พอลมหยุดพัด ผมก็มองไปยังผู้หญิงอีกทีคราวนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่อยู่แล้วผมเลยเอะใจอะไร
เขาหายไปไหนกันน้า หรือว่าเขาจะเข้าห้องไปแล้ว หรือไม่ก็เขาโดดลงไปจากตึกนี่ ผมมองลงไปข้างล่าง ไม่มีเหตุการณ์อะไร ผมถอนหายใจแล้วเข้ามาในห้อง เห็น เรียว ซัดแอปเปิ้ลไป 2 ลูกแล้ว เหลือแอปเปิ้ลแค่ 1 ลูก ผมก็ต้องจำใจลงไปซื่อมาเพิ่มก่อนผมจะลงผมหันไปมองเรียว
“เฮ้ยเมื่อไหร่! แกจะหายวะ”
“หมอบอกว่า...คง.สัก 1 เดือน”
เฮ้อ...ให้ตายสิ...แล้วงานที่บริษัทจะว่าไงละเนี่ย คงไม่ได้โดนไล่ออกหรอกนะ ทั้งสองคนเลย ชักจะเป็นห่วงแล้วสิ พรุ่งนี้ก่อนกลับไปเช็คดูรายชื่อดีกว่า ผมก็เดินออกมาจากห้อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้