วันนี้ขอรีวิว Noah นะครับ จากความชอบส่วนตัวเลย แต่เสียงตอบรับจากคนดูค่อนข้างแตกพอสมควร บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ ... บางคนหลับคาจอ แต่บางคน สนุกตั้งแต่ต้นจนจบ ... จขกท.อยู่ในกลุ่ม 'ชอบ' นะครับ แต่เท่าที่คุยๆกับหลายๆคนนี่ ก็ออกแนวส่ายหน้ากันเยอะเหมือนกัน ... เรื่องแบบนี้ต้องลองไปพิสูจน์กันดูครับ ^^
ผลงานที่สร้างขึ้นจากการตีความในคัมภีร์ไบเบิ้ล ของผู้กำกับดาร์เรน อะโรนอฟสกี้ ที่เป็นมากกว่าหนังเอพิคทุนสร้างสูง ลึกซึ้งลงในคำพิพากษาและความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความบันเทิง และขึ้นจอด้วยทุกองค์ประกอบอันยอดเยี่ยม
หนังเล่าเรื่องของโนอาห์ ผู้สืบเชื้อสายจากอดัมและอีฟ ซึ่งต้องรับหน้าที่สำคัญในภารกิจวันล้างโลกของพระเจ้าผู้สร้างโลก ที่ทรงผิดหวังต่อบาปและความเสียหายที่มนุษย์กระทำต่อโลก โนอาห์และครอบครัว ประกอบด้วยภรรยา นาอาเมห์, ลูกชายสามคน (เชม, ฮาม และจาเฟธ) และอีล่า เด็กสาวที่เค้าช่วยเหลือและรับมาดูแลเอาไว้ .... ได้ความช่วยเหลือจากผู้พิทักษ์ที่เป็นเหมือนเทพตกสวรรค์ จนกลายร่างเป็นยักษ์หิน ในการสร้าง 'นาวา' สำหรับรักษาเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายเอาไว้ ระหว่างการชำระล้างของพระผู้เป็นเจ้า
ควบคู่ไปกับปฏิบัติการเพื่อพระองค์ โนอาห์ก็ต้องพบกับการจัดการปัญหาภายในครอบครัว ที่เกิดจากความมุ่งมั่นต่อภารกิจ และความทุกข์ใจของโนอาห์จากมองเห็นหายนะที่มนุษย์ก่อขึ้น
Noah หยิบเอาเรื่องราวส่วนหนึ่งของไบเบิ้ล ดังนั้นตรงจุดนี้ จขกท.ขอไม่แตะลึก เพราะไม่ได้มีความเข้าใจในพระคัมภีร์อย่างลึกซึ้ง ... แต่ที่พอจะบอกได้ คือ อะโรนอฟสกี้ สามารถนำเรื่องที่ดูเคร่งเครียด มาบอกเล่าได้อย่างเข้าใจง่าย เมื่อบวกกับงานเทคนิคต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝีมือการแสดงของทีมนักแสดงนำ ... ช่วยส่งให้หนังที่มีความยาวสองชั่วโมงกว่า ดำเนินไปด้วยความน่าติดตาม และไม่มีวินาทีไหนที่เป็นความน่าเบื่อเลย ... (แต่ถ้าใครคาดหวังว่า จะได้เห็นหนังภัยพิบัติ เน้นฉากแอคชั่นมันส์ๆ Noah จะเป็นงานที่ชวนหลับได้เหมือนกันครับ)
รัสเซล โควร์ ยอดเยี่ยมในบทโนอาห์ เป็นตัวละครที่ไม่ได้ดีเลิศกว่ามนุษย์คนอื่นๆ ออกจะดูคลุ้มคลั่งในบางช่วง แต่ก็มีความศรัทธาต่อคุณความดีและพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งน่าจะเป็นการขึ้นจอที่ดีที่สุดของเค้าในระยะหลังๆ, เจนนิเฟอร์ คอลเนลลี่ ใส่ความเข้มแข็งลงไปในบทบาทที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ให้กลายเป็นผู้หญิงผู้มีบทบาทสำคัญในการประคับประคองครอบครัวที่เริ่มแตกร้าว จากความกดดันของภารกิจอันยิ่งใหญ่
โลแกน เลอห์แมน โดดเด่นในบท ฮาม บุตรของโนอาห์ที่ถูกกำหนดให้ไร้คู่ ซึ่งเป็นตัวแทนของมนุษย์ที่มีแรงขับจากตัณหาและกามา ส่งผลให้เค้า เป็นตัวแปรสำคัญของความบาดหมาง, เอ็มม่า วัตวัน สลัดภาพแม่มดสาวแบบไม่ทิ้งภาพเดิม และยืนยันอีกครั้งว่า ฝีมือการแสดงของเธอไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คๆ .. ในขณะที่ แอนโธนี่ ฮ้อปกิ้นส์ ควรค่าแก่การจดจำ ในการขึ้นจอแค่ช่วงสั้นๆ เช่นเดียวกับเรย์ วินสโตนในบท ทูบอล-อาคิน ผู้ร้ายของเรื่อง ที่เต็มไปด้วยความกระหายในอำนาจ และความชั่วช้า
อะโรนอฟสกี้ ใช้ตัวละครแต่ละตัวเป็นเสมือนตัวแทนของบาปในตัวมนุษย์ ที่กลายเป็นเครื่องมืออันนำไปสู่หายนะของเผ่าพันธุ์ ซึ่งอาจจะเริ่มต้นตั้งแต่เมื่ออดัมกับอีฟฝ่าฝืนขโมยกินผลไม้ต้องห้าม
ถึงแม้จะไม่ได้เข้าใจในประเด็นเชิงลึกทางศาสนาสักเท่าไหร่ แต่ประเด็นหลักๆ Noah ก็ถ่ายทอดออกมาให้เข้าใจได้ไม่ยาก โดยไม่ต้องมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิ้ล ก็ไม่ทำให้รู้สึกงงในความเป็นมาของหลายๆอย่างในเรื่องครับ
โดยสรุปแล้ว Noah น่าจะเป็นหนังที่เล่าเรื่องลึกซึ้งทางความเชื่อ และบาปของมนุษย์มากกว่าจะเน้นไปที่ความบันเทิงในแบบงานแอคชั่นรับเทศกาลซัมเมอร์ แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ ซ้ำยังสนุก น่าติดตาม งานด้านภาพก็สวยงามมาก งานเทคนิคก็ทำได้สมจริง ... และยังได้ทีมนักแสดงที่ขึ้นจอแบบปล่อยพลังกันสุดฤทธิ์มาเป็นทัพหลัก
สำหรับ จขกท. Noah จึงเป็นงานแนะนำ และได้คุณภาพที่สุดในบรรดาหนังปี 2014 ที่เข้าฉายมาในระยะเวลาเกือบสี่เดือนครับ ^^
***
ที่มา จากเพจ จขกท.เอง
https://www.facebook.com/CinemaParadiso.by.Golffy
[CR] Noah ว่าด้วยการพิพากษาของพระเป็นเจ้า
ผลงานที่สร้างขึ้นจากการตีความในคัมภีร์ไบเบิ้ล ของผู้กำกับดาร์เรน อะโรนอฟสกี้ ที่เป็นมากกว่าหนังเอพิคทุนสร้างสูง ลึกซึ้งลงในคำพิพากษาและความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความบันเทิง และขึ้นจอด้วยทุกองค์ประกอบอันยอดเยี่ยม
หนังเล่าเรื่องของโนอาห์ ผู้สืบเชื้อสายจากอดัมและอีฟ ซึ่งต้องรับหน้าที่สำคัญในภารกิจวันล้างโลกของพระเจ้าผู้สร้างโลก ที่ทรงผิดหวังต่อบาปและความเสียหายที่มนุษย์กระทำต่อโลก โนอาห์และครอบครัว ประกอบด้วยภรรยา นาอาเมห์, ลูกชายสามคน (เชม, ฮาม และจาเฟธ) และอีล่า เด็กสาวที่เค้าช่วยเหลือและรับมาดูแลเอาไว้ .... ได้ความช่วยเหลือจากผู้พิทักษ์ที่เป็นเหมือนเทพตกสวรรค์ จนกลายร่างเป็นยักษ์หิน ในการสร้าง 'นาวา' สำหรับรักษาเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายเอาไว้ ระหว่างการชำระล้างของพระผู้เป็นเจ้า
ควบคู่ไปกับปฏิบัติการเพื่อพระองค์ โนอาห์ก็ต้องพบกับการจัดการปัญหาภายในครอบครัว ที่เกิดจากความมุ่งมั่นต่อภารกิจ และความทุกข์ใจของโนอาห์จากมองเห็นหายนะที่มนุษย์ก่อขึ้น
Noah หยิบเอาเรื่องราวส่วนหนึ่งของไบเบิ้ล ดังนั้นตรงจุดนี้ จขกท.ขอไม่แตะลึก เพราะไม่ได้มีความเข้าใจในพระคัมภีร์อย่างลึกซึ้ง ... แต่ที่พอจะบอกได้ คือ อะโรนอฟสกี้ สามารถนำเรื่องที่ดูเคร่งเครียด มาบอกเล่าได้อย่างเข้าใจง่าย เมื่อบวกกับงานเทคนิคต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝีมือการแสดงของทีมนักแสดงนำ ... ช่วยส่งให้หนังที่มีความยาวสองชั่วโมงกว่า ดำเนินไปด้วยความน่าติดตาม และไม่มีวินาทีไหนที่เป็นความน่าเบื่อเลย ... (แต่ถ้าใครคาดหวังว่า จะได้เห็นหนังภัยพิบัติ เน้นฉากแอคชั่นมันส์ๆ Noah จะเป็นงานที่ชวนหลับได้เหมือนกันครับ)
รัสเซล โควร์ ยอดเยี่ยมในบทโนอาห์ เป็นตัวละครที่ไม่ได้ดีเลิศกว่ามนุษย์คนอื่นๆ ออกจะดูคลุ้มคลั่งในบางช่วง แต่ก็มีความศรัทธาต่อคุณความดีและพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งน่าจะเป็นการขึ้นจอที่ดีที่สุดของเค้าในระยะหลังๆ, เจนนิเฟอร์ คอลเนลลี่ ใส่ความเข้มแข็งลงไปในบทบาทที่ดูเหมือนไม่มีอะไร ให้กลายเป็นผู้หญิงผู้มีบทบาทสำคัญในการประคับประคองครอบครัวที่เริ่มแตกร้าว จากความกดดันของภารกิจอันยิ่งใหญ่
โลแกน เลอห์แมน โดดเด่นในบท ฮาม บุตรของโนอาห์ที่ถูกกำหนดให้ไร้คู่ ซึ่งเป็นตัวแทนของมนุษย์ที่มีแรงขับจากตัณหาและกามา ส่งผลให้เค้า เป็นตัวแปรสำคัญของความบาดหมาง, เอ็มม่า วัตวัน สลัดภาพแม่มดสาวแบบไม่ทิ้งภาพเดิม และยืนยันอีกครั้งว่า ฝีมือการแสดงของเธอไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คๆ .. ในขณะที่ แอนโธนี่ ฮ้อปกิ้นส์ ควรค่าแก่การจดจำ ในการขึ้นจอแค่ช่วงสั้นๆ เช่นเดียวกับเรย์ วินสโตนในบท ทูบอล-อาคิน ผู้ร้ายของเรื่อง ที่เต็มไปด้วยความกระหายในอำนาจ และความชั่วช้า
อะโรนอฟสกี้ ใช้ตัวละครแต่ละตัวเป็นเสมือนตัวแทนของบาปในตัวมนุษย์ ที่กลายเป็นเครื่องมืออันนำไปสู่หายนะของเผ่าพันธุ์ ซึ่งอาจจะเริ่มต้นตั้งแต่เมื่ออดัมกับอีฟฝ่าฝืนขโมยกินผลไม้ต้องห้าม
ถึงแม้จะไม่ได้เข้าใจในประเด็นเชิงลึกทางศาสนาสักเท่าไหร่ แต่ประเด็นหลักๆ Noah ก็ถ่ายทอดออกมาให้เข้าใจได้ไม่ยาก โดยไม่ต้องมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิ้ล ก็ไม่ทำให้รู้สึกงงในความเป็นมาของหลายๆอย่างในเรื่องครับ
โดยสรุปแล้ว Noah น่าจะเป็นหนังที่เล่าเรื่องลึกซึ้งทางความเชื่อ และบาปของมนุษย์มากกว่าจะเน้นไปที่ความบันเทิงในแบบงานแอคชั่นรับเทศกาลซัมเมอร์ แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อ ซ้ำยังสนุก น่าติดตาม งานด้านภาพก็สวยงามมาก งานเทคนิคก็ทำได้สมจริง ... และยังได้ทีมนักแสดงที่ขึ้นจอแบบปล่อยพลังกันสุดฤทธิ์มาเป็นทัพหลัก
สำหรับ จขกท. Noah จึงเป็นงานแนะนำ และได้คุณภาพที่สุดในบรรดาหนังปี 2014 ที่เข้าฉายมาในระยะเวลาเกือบสี่เดือนครับ ^^
***
ที่มา จากเพจ จขกท.เอง
https://www.facebook.com/CinemaParadiso.by.Golffy