ด้วยความที่ผมเป็นคริสเตียน ไปโบสถ์แทบทุกอาทิตย์ ทำงานรับใช้ออกประกาศศาสนาบ้าง
ก็เลยจำเป็นที่จะต้องไปดูโนอาห์ เผื่อมีใครมาถาม ก็จะได้ตอบเขาบ้างได้ว่า เวลามีคนไปดูหนังมาแล้วสงสัย

เริ่มจากยักษ์หิน ที่ในหนังมันโม้ว่าเป็นฑูตสวรรค์ ลงมาเพื่อช่วยมนุษย์ แล้วถูกโลกกลืนกินจนกลับสวรรค์ไม่ได้
นี่ถ้าเด็กๆได้มาดูหนัง คงจำติดตาไปตลอด แล้วแบบนี้ผมคงจะเล่าเรื่องโนอาห์กับเด็กๆได้ยากขึ้นหนะสิคับ เพราะความจริงมันไม่มี
ความจริงคือ โนอาห์ต่อเรือประมาณ 100 กว่าปี โดยใช้แรงานคนในครอบครัวเท่านั้น ไม่มีใครช่วย
แถมยังโดนชาวบ้านชาวเมืองหัวเราะเยาะเอาซะอีก ว่าไอ้นี่มันบ้า น้ำจะท่วมโลกได้ไง ต่อเรือมาเป็นร้อยปียังไม่ถอดใจอีก

อีกเรื่องที่บิดเบือนอย่างแรง คือแนวความคิดของโนอาห์ที่คิดว่ามนุษย์เราทุกคนต้องสูญพันธุ์ โลกใหม่ที่พระเจ้าจัดเตรียมจะต้องไม่มีคนอยู่
ในพระคัมภีร์โนอาห์ไม่มีแนวความคิดนี้เลย มีแต่อยากที่จะช่วยเหลือคนอื่น แต่ไม่มีใครเชื่อ
หลักศาสนาตรงนี้สอนเราว่า ในยุคของโนอาห์ โลกจะถูกชำระด้วยน้ำ วันใดเวลาใดไม่มีใครรู้ ขอให้เราเตรียมพร้อมและรอสัญญาณเตือน
เช่นเดียวกับยุคปัจจุบัน คือยุคของพระเยซู โลกจะถูกชำระด้วยไฟ วันใดเวลาใดไม่มีใครรู้ ขอให้เราเตรียมพร้อมและรอสัญญาณเตือน

ผมว่า 2 เรื่องนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ยากเกินจะยอมรับได้ในการเอาพระคัมภีร์มาทำเป็นภาพยนต์
แต่ถ้าให้มองในศาสตร์ของการทำหนังทั่วๆไป ถ้าโนอาห์เป็นแบบในพระคัมภีร์ ก็จะเป็นตัวละครที่มีมิติน้อยเกินไป คือเป็นคนที่ดีแสนดีในการเชื่อฟังพระเจ้า
และการเอายักษ์หินเป็นตัวละครแฟนตาซี ทำให้มีน้ำหนักในการสร้างเรือและสู้รบกับกองทัพได้

แล้วถ้าถามต่อว่า เราได้ข้อคิดอะไรจากโนอาห์ในภาพยนต์ ตอบคือเราเห็นด้านดีในการเชื่อฟังพระเจ้า
และการยอมเราว่า ตัวเราเองก็เป็นคนบาปกันทุกคน แม้เราจะถูกเลือกให้สร้างเรือ แต่เราก็ไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่เพราะเราก็มีบาปเหมือนคนอื่น
ส่วนด้านร้ายของโนอาห์ที่จะฆ่าหลานของตัวเอง โดยให้เหตุผลว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง
ทั้งๆที่พระเจ้าได้สำแดงการอัศจรรย์ให้เห็นแล้วว่า ลูกที่เป็นหมัน ทำไมจึงตั้งท้องได้ ?
ถ้าคุณมีความรักในจิตใจ คุณก็จะมองออกได้ง่ายๆว่า พระเจ้ากำลังตอบคุณว่า ให้มนุษย์ได้สืบเชื้อสายต่อไปเถอะ
แต่โนอาห์กลับดื้อ ยังมั่นใจในความคิดตนเองว่า มนุษย์ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ต่อไป
เหมือนกับนักศาสนาบางคน บางทีได้ทำพันธกิจของพระเจ้า ก็ทำไปโดยไม่สนใจคนรอบข้างว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ทั้งๆที่เสียงคนอื่นอาจจะมาจากพระเจ้าก็ได้

สุดท้ายนี้ ผมขอเพิ่มเกร็ดเล็กๆน้อย ให้อ่านเล่นและกัน สำหรับคนที่ไปดูมาแล้ว
- สายรุ้งในตอนจบ ในไบเบิ้ลสายรุ้งจะมาตอนเจอแผ่นดิน นี่คือการเกิดสายรุ้งครั้งแรกของโลก ซึ่งพระเจ้าสร้างให้เป็นพันธสัญญาว่าน้ำจะไม่ท่วมโลกอีก
- ในไบเบิ้ล เชม กับ ฮาม มีครอบครัวมีลูกแล้วทั้งคู่นะ คือช่วยโนอาห์ต่อเรือนั่นแหละ
- โนอาห์ อายุประมาณ 800 ปีได้ สมัยก่อนคนเรายังอายุเยอะ แต่พระเจ้าค่อยๆลดอายุคนให้เหมาะสมขึ้นเรื่อยๆ การต่อเรือ 100 ปี จึงเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งในชีวิต
- ฉากโนอาห์กินเหล้าองุ่นแล้วโป๊ มีในไบเบิ้ลด้วยนะ ความจริงคือฮามมาเห็นก่อน จึงเรียกพี่น้องมาดู พี่น้องมาเห็นก็เอาเสื้อมาคลุม
พอโนอาห์ตื่นก็เลยแช่งฮาม ให้เชื้อสายของฮามอยู่ใต้เชม เพราะไม่พอใจที่ฮามเห็นพ่อโป๊แล้วไม่เอาเสื้อมาปิดทันที แต่กลับไปเรียกพี่น้องมาดูด้วย - -"
- ไม่มี คุณปู่ทวด กองทัพ ปลอกแขนงูลอกคราบ เมล็ดต้นไม้ ในพระคัมภีร์นะครับ แต่งใหม่หมดเล้ยยยย พวกนี้
- พระเจ้าปกติแล้วจะตรัสหรือพูดผ่านโนอาห์ตรงๆครับ ไม่อ้อมๆเหมือนในหนัง ตรงขนาดบอกว่าเรือต้องมีขนาดเท่าไหร่
- ตอนน้ำท่วม โนอาห์อยากจะช่วยคนอื่นด้วยนะ แต่พระเจ้าทรงปิดประตูเรือไม่ให้คนอื่นเข้ามาได้ แต่ในหนังโนอาห์กีดกันสุดชีวิต