เนื่องจากเส้นที่ผมปั่นมีทางขรุขระเยอะมาก ตั้งแต่หน้าบ้านออกไปถนนก็เป็นถนนปูนขรุขระทั้งทางเลยครับ
แถมที่ปั่นวนประจำจะมีจุดที่ต้องโดนลูกระนาด 1 รอบ/ครั้งด้วย ก่อนหน้านี้ใช้คอนเวิร์สรุ่นนี้ครับ
เวลาเจอทางขรุขระปั่นไม่ได้เลยครับเพราะเท้าจะขยับเปลี่ยนจุดตลอดต้องคอยมาขยับเท้าให้เข้าที่
ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากสำหรับผม เลยตัดสินใจซื้อรองเท้าคลีทมาใช้ครับ
แต่ก็ติดที่ปัญหาเรื่องดีไซน์แบบที่ชอบ ราคาที่ไม่แพง ซึ่งจากตัวเลือกของผมจะเหลืออยู่ไม่กี่รุ่นเอง
ประจวบเหมาะมากที่รองเท้าของ NorthWave ของเข้ามาพอดีครับ เห็นแล้วปิ๊งเลยชอบดีไซน์มาก
ราคาตั้งของ NorthWave : Scorpius SRS อยู่ที่ 3,200 บาทเท่านั้นครับ (ราคาซื้อก็แล้วแต่ร้าน)
ผมโทรหาตามตัวแทนก็โป๊ะเจอร้านนึงแถวจรัญ เลิกงานปุ๊บก็บิดมอไซค์ไปเลยครับ บรืนนนน
แล้วก็ได้มาคู่นึงพร้อมบันไดคลีทและคลีทปลดไวของชิมาโน่ครับ ตอนที่ผมไปซื้อไอรองเท้ารุ่นนี้ขายออกไป
4 คู่ในเวลาไม่ถึง 1 ช.ม. ดีนะที่รีบไปไม่งั้นไซส์ที่ต้องการอาจจะหมดได้
ตอนแรกมองไว้ 2 สีคือขาว-ดำ กับ ดำ-เหลือง ปรากฏว่าที่ร้านของเข้าแต่ดำ-เหลืองเลยไม่ต้องเลือกครับ 55+
****** ก่อนจะรีวิวผมขอบอกก่อนเลยนะครับว่าผมไม่เคยใช้รองเท้าคลีทหรืออุปกรณ์พวกนี้เลย ******
****** เพราะฉะนั้นการรีวิวจะเป็นความเห็นส่วนตัวของ จขกท. ที่เป็นมือใหม่หัดปั่นเลยครับ ******
เปิดกล่องมาเจอรองเท้าคู่นึงกับใบคู่มือที่บอกรายละเอียดคร่าวๆ
ตัวรองเท้างานสวยโอเคเลยครับผมให้ 8.5/10 เลย ลองใส่เดินดูก็แข็งโป๊กเดินท่าแปลกๆแบบที่มีคนเคยบอกไว้
หน้าตาฝั่งด้านในครับ บริเวณตาข่ายที่ไม่ใช่สีดำทึบนั่นช่องระบายอากาศทั้งนั้นเลยครับ
หน้าตาฝั่งด้านนอกครับ ช่องระบายอากาศเยอะพอๆกับอีกด้าน ความคมชัดของรอยต่อหรือรอยตัดดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยครับ
หัวรองเท้าแข็งโป๊กน่าจะช่วยเซฟตอนล้มหรือตอนปั่นได้ดีเลย จากภาพจะเห็นรอยคราบขาวๆที่เป็นกาวติดพื้นรองเท้าครับ
จุดนี้ผมรับได้เพราะรองเท้าหนังใส่ทำงานผมคู่ละเกือบ 4,000 ก็มีคราบกาวตรงนี้เหมือนกัน
หน้าตาสายคาดทั้ง 3 ตัวครับ ซึ่งสองเส้นทางซ้ายจะเป็นแบบตีนตุ๊กแก
ส่วนอีกเส้นเป็นแบบกริ๊บล็อค วิธีใช้ก็เสียบเข้าไปเลยมันจะดังแกร๊กๆๆๆ
ใครใช้หมวกมอไซค์ที่มีสายรัดแบบควิ๊กรีลีสคงคุ้นตาเจ้านี่ดี
เจ้ากริ๊บล็อคนี่หน้าตาเหมือนไม่มีอะไรแต่แอบซ่อนความเจ๋งไว้ด้วย
ตรงจุดที่ผมเอาส้อมชี้ตรงปุ่มสี่เหลี่ยมที่มีลายขีดๆ ให้กดปุ่มนี้เมื่อต้องการดึงสายออกครับ
ถ้ารัดไว้แน่นๆกดปุ๊บสายจะคลายออกพรืดจนเกือบหลวมข้อเท้าครับ
ตอนแรกผมงงๆว่าจะทำให้มันยุ่งยากทำไมใช้แถบผ้าเล็กๆดึงเอาแบบหมวกมอไซค์ก็ได้...
ความเจ๋งมันยังไม่หยุดเท่านั้น ไอแบบนี้อาจจะมีมานานแล้วหรือมีในรองเท้ามานานแล้ว
แต่พอดีผมพึ่งจะเคยเห็นครั้งแรกครับทำเอาอึ้งไปพอสมควรว่าคนคิดก็ช่างคิด (มันเหมือนสายรัดของรถบรรทุกเลย)
หลังจากเราใส่สายจนสุดมันอาจจะยังไม่แน่นเท่าไหร่ เราสามารถดึงไอตัวนี้ขึ้นให้ดังกริ๊ก
แล้วผ่อนนิ้วให้มันลงไปเกือบสุดแล้วดึงขึ้นมาอีกทำวนไปเรื่อยๆจนกว่ารองเท้าจะกระชับครับ
ความเจ๋งของระบบนี้คือเวลาเราปั่นอยู่แล้วรู้สึกว่าคับไปหรือเท้าชาสามารถกดปุ่มให้มันคลายออก
แล้วใช้ไอตัวดึงกริ๊กๆนี่แหละในการทำให้มันแน่นขึ้น มีประโยชน์สุดๆตอนขี่ยาวๆไม่อยากหยุดครับ
สามารถขี่ไปปรับไปได้เลยแค่ฟรีขาให้เท้าข้างที่จะปรับอยู่ตำแหน่งสูงหน่อยแล้วใช้มือปรับเลยครับ
ไม่ต้องก้มลงไปมองก็สามารถปรับได้สะดวก (ผมใช้ถุงมือเต็มนิ้วสามารถปรับได้ไม่ต้องมองสบายๆ)
สำหรับคนที่ดึงสายจนสุดก็ยังไม่กระชับ สามารถปรับตีนตุ๊กแกตรงสายนี้ได้ครับ
ผมก็ปรับให้มันร่นขึ้นมานิดนึงไม่งั้นสายกริ๊บล็อคมันจะยาวเลยออกมาเยอะเกิน
เกิดเดินเฉี่ยวอะไรสายกริ๊บล็อคจะเสียหายได้
อันนี้ด้านหลังรองเท้าครับ
พื้นรองเท้าดึงออกมาตากได้ในกรณีที่เปียกหรืออับชื้นจากเหงื่อ
ซึ่งตามคู่มือเขาก็แนะนำว่าหลังจากปั่นมาควรเอามาตากสักหน่อย
พื้นรองเท้าครับ เวลาเดินตัวคลีทจะเสมอกับขอบพื้นรองเท้าเลย
ทำให้เวลาเดินบางจังหวะจะดังแกร่กๆ 55+ แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรครับ
ยังไม่ทันใส่ลองขี่ก็จับมาติดคลีทปลดไวของชิมาโน่เรียบร้อยครับ
หาประแจหกเหลี่ยมเบอร์ที่ใช้ขันปรับความแข็ง-อ่อนของคลีทไม่เจอ
เลยลองใส่รองเท้ากดใส่กับคลีทดูแล้วลองปลดออกปรากฏว่าปลดง่ายกำลังดี
เลยไม่ได้ปรับอะไรเพิ่มเติมครับ
อันนี้บันไดที่ซื้อมาด้วยครับ นี่เป็นด้านเรียบๆไว้ใช้รองเท้าธรรมดาปั่นแก้ขัดได้ครับ
ย้ำว่าแค่แก้ขัด ส่วนรองเท้าคลีทถ้าจะใช้ถีบด้านนี้ลืมไปได้เลยครับ...มันลื่นมาก!!
นี่ด้านสำหรับรองเท้าคลีท ใช้แรกๆก็งมหาที่ล็อคไม่เจอครับ
ใช้ๆไปก็ชินกะได้เองในเวลาไม่ถึงช.ม. ไอพลาสติกยาวๆที่ไว้ปั่นแก้ขัดนั่นมีประโยชน์อีกอย่าง
คือตอนที่เราจะเอาเท้าเขี่ยให้ด้านคลีทขึ้นมาจะเขี่ยง่ายดีครับเพราะพลาสติกมันยาว
เอาเท้าตบลงไปด้านคลีทก็หันขึ้นมาอย่างว่าง่ายเลยครับ
ด้านข้างเขียนชิมาโน่ตัวบะเร่อเลยเสริมราศีให้รถได้อีกนิดนึง
สรุปการใช้งานสำหรับมือใหม่แบบผมนะครับ มันใช้ง่ายมากปลดก็ง่ายมากแบบไม่น่าเชื่อ
และผมจำลองสถานการณ์ไว้แล้วต่อให้ลืมปลดถ้ากระชากเท้าทันก็หลุดลงมายันพื้นทันครับ
คลีทปลดไวนี่เหมาะสำหรับมือใหม่มากๆ ยิ่งไม่ได้ยืนปั่นแบบผมถือว่ามันล็อคเท้าแน่นหนาเพียงพอแล้ว
การปั่นๆได้สนุกกว่าเดิมคนละโลกเลยครับเพราะระหว่างที่เท้าข้างนึงเหยียบลงอีกข้างมันดึงได้ด้วย
ทำรอบขาได้ดีกว่าเดิม +10 ความเร็ว +2 ครับ ยิ่งความต่อเนื่องของการปั่นเวลาเจอทางขรุขระนี่
ต่อเนื่องมากๆสามารถปั่นได้ตามปกติไม่ต้องฟรีขาทิ้งอีกต่อไปแล้วครับ
ก่อนหน้านี้ผมเห็นคนที่พึ่งซื้อรองเท้าคลีทมาใช้ชอบพูดว่า "รู้งี้ใช้นานแล้ว"
ผมยังแอบสงสัยเลยว่าพูดเอาเท่กันเปล่าวะ พอได้มาลองใช้รองเท้าคลีทเอง....
รู้งี้ผมใช้นานแล้วครับ 555+
ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ
[REVIEW] NW Scorpius SRS รองเท้าคลีทราคาประหยัด (ในที่สุดก็ซื้อมาจนได้ครับ)
แถมที่ปั่นวนประจำจะมีจุดที่ต้องโดนลูกระนาด 1 รอบ/ครั้งด้วย ก่อนหน้านี้ใช้คอนเวิร์สรุ่นนี้ครับ
เวลาเจอทางขรุขระปั่นไม่ได้เลยครับเพราะเท้าจะขยับเปลี่ยนจุดตลอดต้องคอยมาขยับเท้าให้เข้าที่
ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากสำหรับผม เลยตัดสินใจซื้อรองเท้าคลีทมาใช้ครับ
แต่ก็ติดที่ปัญหาเรื่องดีไซน์แบบที่ชอบ ราคาที่ไม่แพง ซึ่งจากตัวเลือกของผมจะเหลืออยู่ไม่กี่รุ่นเอง
ประจวบเหมาะมากที่รองเท้าของ NorthWave ของเข้ามาพอดีครับ เห็นแล้วปิ๊งเลยชอบดีไซน์มาก
ราคาตั้งของ NorthWave : Scorpius SRS อยู่ที่ 3,200 บาทเท่านั้นครับ (ราคาซื้อก็แล้วแต่ร้าน)
ผมโทรหาตามตัวแทนก็โป๊ะเจอร้านนึงแถวจรัญ เลิกงานปุ๊บก็บิดมอไซค์ไปเลยครับ บรืนนนน
แล้วก็ได้มาคู่นึงพร้อมบันไดคลีทและคลีทปลดไวของชิมาโน่ครับ ตอนที่ผมไปซื้อไอรองเท้ารุ่นนี้ขายออกไป
4 คู่ในเวลาไม่ถึง 1 ช.ม. ดีนะที่รีบไปไม่งั้นไซส์ที่ต้องการอาจจะหมดได้
ตอนแรกมองไว้ 2 สีคือขาว-ดำ กับ ดำ-เหลือง ปรากฏว่าที่ร้านของเข้าแต่ดำ-เหลืองเลยไม่ต้องเลือกครับ 55+
****** ก่อนจะรีวิวผมขอบอกก่อนเลยนะครับว่าผมไม่เคยใช้รองเท้าคลีทหรืออุปกรณ์พวกนี้เลย ******
****** เพราะฉะนั้นการรีวิวจะเป็นความเห็นส่วนตัวของ จขกท. ที่เป็นมือใหม่หัดปั่นเลยครับ ******
เปิดกล่องมาเจอรองเท้าคู่นึงกับใบคู่มือที่บอกรายละเอียดคร่าวๆ
ตัวรองเท้างานสวยโอเคเลยครับผมให้ 8.5/10 เลย ลองใส่เดินดูก็แข็งโป๊กเดินท่าแปลกๆแบบที่มีคนเคยบอกไว้
หน้าตาฝั่งด้านในครับ บริเวณตาข่ายที่ไม่ใช่สีดำทึบนั่นช่องระบายอากาศทั้งนั้นเลยครับ
หน้าตาฝั่งด้านนอกครับ ช่องระบายอากาศเยอะพอๆกับอีกด้าน ความคมชัดของรอยต่อหรือรอยตัดดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยครับ
หัวรองเท้าแข็งโป๊กน่าจะช่วยเซฟตอนล้มหรือตอนปั่นได้ดีเลย จากภาพจะเห็นรอยคราบขาวๆที่เป็นกาวติดพื้นรองเท้าครับ
จุดนี้ผมรับได้เพราะรองเท้าหนังใส่ทำงานผมคู่ละเกือบ 4,000 ก็มีคราบกาวตรงนี้เหมือนกัน
หน้าตาสายคาดทั้ง 3 ตัวครับ ซึ่งสองเส้นทางซ้ายจะเป็นแบบตีนตุ๊กแก
ส่วนอีกเส้นเป็นแบบกริ๊บล็อค วิธีใช้ก็เสียบเข้าไปเลยมันจะดังแกร๊กๆๆๆ
ใครใช้หมวกมอไซค์ที่มีสายรัดแบบควิ๊กรีลีสคงคุ้นตาเจ้านี่ดี
เจ้ากริ๊บล็อคนี่หน้าตาเหมือนไม่มีอะไรแต่แอบซ่อนความเจ๋งไว้ด้วย
ตรงจุดที่ผมเอาส้อมชี้ตรงปุ่มสี่เหลี่ยมที่มีลายขีดๆ ให้กดปุ่มนี้เมื่อต้องการดึงสายออกครับ
ถ้ารัดไว้แน่นๆกดปุ๊บสายจะคลายออกพรืดจนเกือบหลวมข้อเท้าครับ
ตอนแรกผมงงๆว่าจะทำให้มันยุ่งยากทำไมใช้แถบผ้าเล็กๆดึงเอาแบบหมวกมอไซค์ก็ได้...
ความเจ๋งมันยังไม่หยุดเท่านั้น ไอแบบนี้อาจจะมีมานานแล้วหรือมีในรองเท้ามานานแล้ว
แต่พอดีผมพึ่งจะเคยเห็นครั้งแรกครับทำเอาอึ้งไปพอสมควรว่าคนคิดก็ช่างคิด (มันเหมือนสายรัดของรถบรรทุกเลย)
หลังจากเราใส่สายจนสุดมันอาจจะยังไม่แน่นเท่าไหร่ เราสามารถดึงไอตัวนี้ขึ้นให้ดังกริ๊ก
แล้วผ่อนนิ้วให้มันลงไปเกือบสุดแล้วดึงขึ้นมาอีกทำวนไปเรื่อยๆจนกว่ารองเท้าจะกระชับครับ
ความเจ๋งของระบบนี้คือเวลาเราปั่นอยู่แล้วรู้สึกว่าคับไปหรือเท้าชาสามารถกดปุ่มให้มันคลายออก
แล้วใช้ไอตัวดึงกริ๊กๆนี่แหละในการทำให้มันแน่นขึ้น มีประโยชน์สุดๆตอนขี่ยาวๆไม่อยากหยุดครับ
สามารถขี่ไปปรับไปได้เลยแค่ฟรีขาให้เท้าข้างที่จะปรับอยู่ตำแหน่งสูงหน่อยแล้วใช้มือปรับเลยครับ
ไม่ต้องก้มลงไปมองก็สามารถปรับได้สะดวก (ผมใช้ถุงมือเต็มนิ้วสามารถปรับได้ไม่ต้องมองสบายๆ)
สำหรับคนที่ดึงสายจนสุดก็ยังไม่กระชับ สามารถปรับตีนตุ๊กแกตรงสายนี้ได้ครับ
ผมก็ปรับให้มันร่นขึ้นมานิดนึงไม่งั้นสายกริ๊บล็อคมันจะยาวเลยออกมาเยอะเกิน
เกิดเดินเฉี่ยวอะไรสายกริ๊บล็อคจะเสียหายได้
อันนี้ด้านหลังรองเท้าครับ
พื้นรองเท้าดึงออกมาตากได้ในกรณีที่เปียกหรืออับชื้นจากเหงื่อ
ซึ่งตามคู่มือเขาก็แนะนำว่าหลังจากปั่นมาควรเอามาตากสักหน่อย
พื้นรองเท้าครับ เวลาเดินตัวคลีทจะเสมอกับขอบพื้นรองเท้าเลย
ทำให้เวลาเดินบางจังหวะจะดังแกร่กๆ 55+ แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรครับ
ยังไม่ทันใส่ลองขี่ก็จับมาติดคลีทปลดไวของชิมาโน่เรียบร้อยครับ
หาประแจหกเหลี่ยมเบอร์ที่ใช้ขันปรับความแข็ง-อ่อนของคลีทไม่เจอ
เลยลองใส่รองเท้ากดใส่กับคลีทดูแล้วลองปลดออกปรากฏว่าปลดง่ายกำลังดี
เลยไม่ได้ปรับอะไรเพิ่มเติมครับ
อันนี้บันไดที่ซื้อมาด้วยครับ นี่เป็นด้านเรียบๆไว้ใช้รองเท้าธรรมดาปั่นแก้ขัดได้ครับ
ย้ำว่าแค่แก้ขัด ส่วนรองเท้าคลีทถ้าจะใช้ถีบด้านนี้ลืมไปได้เลยครับ...มันลื่นมาก!!
นี่ด้านสำหรับรองเท้าคลีท ใช้แรกๆก็งมหาที่ล็อคไม่เจอครับ
ใช้ๆไปก็ชินกะได้เองในเวลาไม่ถึงช.ม. ไอพลาสติกยาวๆที่ไว้ปั่นแก้ขัดนั่นมีประโยชน์อีกอย่าง
คือตอนที่เราจะเอาเท้าเขี่ยให้ด้านคลีทขึ้นมาจะเขี่ยง่ายดีครับเพราะพลาสติกมันยาว
เอาเท้าตบลงไปด้านคลีทก็หันขึ้นมาอย่างว่าง่ายเลยครับ
ด้านข้างเขียนชิมาโน่ตัวบะเร่อเลยเสริมราศีให้รถได้อีกนิดนึง
สรุปการใช้งานสำหรับมือใหม่แบบผมนะครับ มันใช้ง่ายมากปลดก็ง่ายมากแบบไม่น่าเชื่อ
และผมจำลองสถานการณ์ไว้แล้วต่อให้ลืมปลดถ้ากระชากเท้าทันก็หลุดลงมายันพื้นทันครับ
คลีทปลดไวนี่เหมาะสำหรับมือใหม่มากๆ ยิ่งไม่ได้ยืนปั่นแบบผมถือว่ามันล็อคเท้าแน่นหนาเพียงพอแล้ว
การปั่นๆได้สนุกกว่าเดิมคนละโลกเลยครับเพราะระหว่างที่เท้าข้างนึงเหยียบลงอีกข้างมันดึงได้ด้วย
ทำรอบขาได้ดีกว่าเดิม +10 ความเร็ว +2 ครับ ยิ่งความต่อเนื่องของการปั่นเวลาเจอทางขรุขระนี่
ต่อเนื่องมากๆสามารถปั่นได้ตามปกติไม่ต้องฟรีขาทิ้งอีกต่อไปแล้วครับ
ก่อนหน้านี้ผมเห็นคนที่พึ่งซื้อรองเท้าคลีทมาใช้ชอบพูดว่า "รู้งี้ใช้นานแล้ว"
ผมยังแอบสงสัยเลยว่าพูดเอาเท่กันเปล่าวะ พอได้มาลองใช้รองเท้าคลีทเอง....
รู้งี้ผมใช้นานแล้วครับ 555+
ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ