เป็นการรีวิว ครั้งแรกในชีวิต ช่วยสนับสนุนกันด้วยนะค่ะ ^^ เริ่มแรก พวกเราจองตั๋วเครื่องบินหางแดงโปรโมชั่นราคาถูกตั้งแต่เมษาปีที่แล้ว ได้ราคามาคนละ 3420 บาท เป็นการรอคอยที่นานมากกกสำหรับพวกเรา เกือบ 1 ปี กว่าจะได้เหินฟ้ากัน แต่ระหว่างนั้นพวกเราก็พยายามหาข้อมูลการรีวิวของเพื่อนๆท่านอื่นๆใน pantip หาที่พักมาเรื่อยๆ ช่วยกันรีวิว จนทุกคนได้ลงความเห็นกัน และได้จองเมื่อตอนปลายปี 56 ที่ Macau เราได้ราคามา 1020 บาทต่อคนต่อ 1 คืน และที่ Hongkong ย่าน Mongkok ราคา 1970 บาทต่อคนต่อ 2 คืน แต่ก็มีข่าวร้ายเกิดขึ้น เมื่อเพื่อน 2 คนแจ้งมาว่า ไปไม่ได้ เนื่องจากต้องไปเรียนภาษาที่ USA และติดงานจริงๆ สุดท้ายพวกเราเหลือกัน 8 ชีวิต ชาย 2 หญิง 6 ผจญภัยสู่ต่างประเทศอีกครั้ง เมื่อเริ่มใกล้ถึงวันเดินทาง ทุกคนเริ่มมโนกันต่างๆนานา จะไปซื้ออะไรบ้าง ต่อมมโนแบบว่าโตกันเต็มที่ แต่ก่อนพวกเราจะไปไม่กี่วัน Hongkok ฝนตกแรงลูกเห็บตก ทุกคนภาวนาว่าตอนไปอย่าได้เจอเลย และแล้วก็ถึงวันเดินทางที่พวกเรารอกันมานานมากกกก พวกเราทำ plan มากันแน่นมาก ท่านใดสนใจดู plan ของพวกเรา จะเอาไปปรับใช้บ้างบอกได้นะค่ะ
วันที่ 1  พวกเราจองตั๋วเครื่องบินไปลงที่ Macau FD 764 15.45 นัดเจอกัน 12.30 ขาไปกระเป๋าคนละใบ แต่ขากลับ??

ถึง Macau Internationl Airport โดยสวัสดิภาพ 19.05 ก่อนเวลา 10 นาที

ผ่าน ตม.มา แบบไม่มีปัญหา ทั้ง 8 ชีวิต ลากกระเป๋า ขึ้นรถบัส หาที่พัก เป็นอันดับแรก เดินออกมาเห็นป้ายต่างๆก็เป็นภาษาโปรตุเกส คนก็พูดแต่จีน แถบไม่พูดอังกฤษเลย TT TT เพื่อนในกลุ่มได้หาข้อมูลมาแล้วว่า ต้องนั่งรถบัส 2 ต่อ เพื่อไปลงSenado square และก็เดินต่ออีกหน่อย ก็จะถึงที่พักของเรามีชื่อว่า Towns Well Hotel รถบัสสายแรก คือ AP1 ระหว่างรอมีคุณลุงฝรั่งใจดี มาช่วยแนะนำให้พวกเรา แล้วพวกเราก็ขึ้นรถ จ่ายเงินไป 7.5 MOP (ค่ารถ 4.2 MOP ค่ากระเป๋าเดินทาง 3 MOP) ต้องจ่ายเกินตลอด เพราะเหรียญมาเก๊า ณ ตอนนั้นพวกเรายังไม่มี ต้องรวมกัน 8คนแล้วจ่ายทีเดียว เรานั่งสาย AP 1 ไปลง Ferry Terminal Macau เพื่อต่อสาย 3 เราลงรถปุ้ป ก็เห็นสาย 3 จอดอยู่ 8 ชีวิต รีบปรี่เดินไปขึ้นอย่างรวดเร็วประหนึ่งกลัวว่าใครจะมาแย่งขึ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงว๊ากจากคุณลุงที่นั่งรออยู่ เฮ้ยยยยย แบบว่าดังมาก พวกเราตกใจกันหมด คือเขายังไม่ให้ขึ้น แต่พวกเราสะเลอค่ะ สักพักคุณลุงขึ้นไป start รถ พร้อมออก ค่ารถ 3.2 MOP รอบนี้พวกเราไม่จ่ายค่ากระเป๋า เนื่องจากเพื่อนเคยอ่านรีวิวมาถ้าไม่จ่ายค่ากระเป๋า อาจจะถูกด่าได้ แต่ปรากฏว่าไม่มีรัยเกิดขึ้น ดังนั้นคันเมื่อกี้เราจ่ายเพื่อ??? และแล้วก็ถึงSenado square คนขับที่นี่เหมือนคนขัยสาย8 บ้านเราเป๊ะ ถ้าไม่เกาะหน้าทิ่มแน่ๆ พวกเรารู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก

รีบเดินหาที่พักกัน เดินตรงขึ้นไปเรื่อยๆจนสุดทางSenado square จากนั้นเลี้ยวขวา และเดินตรงไปเรื่อยๆต่อ จนเห็นร้าน Esprit Outlet แล้วเราก็เลี้ยวซ้าย เดินไปประมาณ 400 เมตร ก็เจอที่พักค่ะ พวกเราจองห้องสำหรับ 3 คน บรรยากาศภานในห้องโดยรวมถือว่าดีที่เดียว ไดร์สเป่าผม ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีให้หมด พร้อมน้ำดื่มอีก 3 ขวด  ที่สำคัญ Wifi ฟรี และเร็วมาก ซึ่งพวกเราขาดสิ่งนี้ไม่ได้เลย ที่พักหาไม่ยากอย่างที่คิดไว้ค้ะ เนื่องจากที่พักที่นี่ไม่ค่อยมีใครรีวิว ตอนแรกพวกเราก็กลัวจะหลงกัน

ห้องน้ำถือว่าสะอาด ไม่แคบและไม่กว้างจนเกินไป

พวกเรารีบล้างหน้าล้างตากัน เตรียมท่องเที่ยวยามราตรี แต่สิ่งแรกต้องหาร้านข้าวกินกันก่อน เพราะหิวมากกกก
พวกเราเลือก Wong Chi Kei ร้านบะหมี่และโจ๊กชื่อดัง อยู่ตรง Senado Square ใกล้ๆกับน้ำพุด้านหน้า ร้านจะเปิด 8.00-22.00

บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง กุ้งตัวเบ่อเร่อ แต่บะหมี่ บ้านเราอร่อยกว่า อิ่มแล้วพวกเราก็ถ่ายรูปเล่นกันบริเวณ Senado Square ได้  Bossini ติดไม้ติดมือมาบ้าง เป็นการเริ่ม shopping เบาๆ
St.Dominic's Church

ฝนเริ่มตกปรอยๆ บางทีก็เม็ดใหญ่เลย แต่พวกเราก็ บ่ หยั่น เพื่อเที่ยว ทำได้เสมอ เป้าหมายต่อไป Grand Lisboa  สวยงามอลังการจริง ค่าไฟจ่ายกันยังไงเนี่ย อยากรู้จัง แต่พวกเราไม่ได้เข้าไปลองเล่นกันนะค่ะ กลัวจะได้กัน จนไม่มีเงิน shopping ^^

และได้เห็นนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยถ่ายรูป หาซื้อที่ไหน เอามาขายไหนไทยบ้าง คิดว่าคนไทยน่าจะต้องการอยู่

จาก Lisbua เดินไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทอง ที่โปรตุเกสตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊า ซึ่งอยู่ติดทะเล ศึกษาจากแผนที่ ดูเหมือนไม่ไกล แล้วก็มุ่งหน้าเดินกันอย่างรวดเร็วเหมือนเล่นแรลลี่ตามหาอาร์ซี จนเพื่อนเท้าเป็นตะคริว ฝนก็ยังไม่หยุดตก แต่สุดท้ายก็ถึงจนได้ สวยงามมาก สีทองอร่าม  พวกเรายืนขอพรกันอยู่ด้านนอก  สถานที่แห่งนี้ เปิด 10.00 - 18.00 ปิดทุกวันศุกร์

ถึงเวลาเดินกลับ เริ่มมีส่งเสียง นั่งรถเถอะ แต่พวกเราก็เดิน แถมคราวนี้ ทำตัวกันเหมือนเจ้าถิ่นอีก ไม่เดินกับทางเดิม  แถวบ้านเรียกอวดเก่งค่ะ ^^ พวกเราอาศัย Lisbua เป็นตัวสังเกต เพราะใหญ่มากมองไปทางไหนก็เห็น จนเพื่อนพูดว่า เราเดินวนรอบ Lisbua กันหรือป่าว 555 ฝนเริ่มหยุดแล้ว  ทุกคนเริ่มเหนื่อย แต่สปีดในการเดินก็ยังไม่ลดลง 555+ ในที่สุดก็เดินทางถึง Senado Square แล้วทุกคนก็พูดกันว่า ไกลมากกก เดินไปได้ยังไง แถมเดินไปกับอีกต่างหาก แข็งแรงกันซะจิงๆ ขนาดนั้นเวลาเกือนเที่ยงคืนแล้วที่มาเก๊า คนแถบไม่มีแล้ว  แต่พวกเราก็ยังไม่หยุดเอาให้สุด ยังเหลืออีก 1 ที่ Ruins of St. Paul's ดูจากแผนที่ไม่ไกลเท่าไหร่จากที่เรายืนกันอยู่ หันมองหน้าแต่ละคนเหนื่อยหมด แถมโดนฝนกันอีก หมดสภาพ แต่ก็เดินต่อ ใจสู้นะค่ะ แต่เท้าไม่สู้เลยค่ะ แนะนำเลยมาเที่ยวแบบนี้หารองเท้าที่เดินแล้วสบายเท้าให้มากที่สุด มีนั่งพักบ้าง พอไปถึง หายเหนื่อยเลยค่ะ สวยงามมาก แถมไม่มีคนเลย มีแต่พวกเรา OMG วิเศษจิงๆ ปกติดู รีวิว เห็นรูปจะมีคนเยอะมากๆ แต่พวกเราเลือกมุมได้ตามสบายเลยค่ะ สวรรค์ชัดๆ ไม่เสียทีที่ปีนขึ้นมา

ถ่ายรูปจนหนำใจ พวกเราก็กับที่พักอาบน้ำกินยากัน  ก่อนนอนขอ upload รูปกันนิดหน่อยตามภาษาคนบร้าค่ะ  จะได้นอนหลับฝันดี 555+
วันที่ 2 โปรแกรมวันนี้ นั่งเรือข้ามไปฮ่องกงค่ะ พวกเราตื่นแต่เช้าตามเวลาที่นัดกันไว้ 7.30 ออกหาของกินรอบๆ Senado Square ปรากฏว่า แถบจะไม่มีร้านไหนเปิดเลย พวกเราเลยเดินไปถ่ายรูปเล่นไป สุดท้ายก็กับมากิน แมคโดนัล ตรง Senado Square เหมือนเดิม หาเรื่องเมื่อยกันตลอด ราคาก็เบาๆกันไปแล้วแต่พวกเราจะเลือกเมนู พูดอังกฤษสำเนียงไม่ชัดเจนก็อาจจะโดนพนักงานว๊ากใส่ได้เช่นกัน แถมทำหน้าเหวียงใส่ด้วย เพื่อนในกลุ่มโดนมาแล้ว

อิ่มหนำสำราญกันไป เดินถ่ายรูปเล่นอีกสักหน่อย



แล้วก็กับโรงแรม เก็บกระเป๋า ออกเดินทางไป FerryMacau นั่งสาย3 ที่เดิมแต่ฝั่งตรงข้าม  ฝนตั้งเค้ามาอีกแล้ว แล้วก็ตกแรงมากกก รถมาพอดี รีบขึ้นอย่างไว คนเต็มรถแถมพวกเรามีกระเป๋าเดินทางอีก เพลียค่ะ จ่ายค่ารถ 3.2 MOP ไม่โดนด่าแต่อย่างใด

ถึง Ferry Terminal Macau อย่างปลอดภัย ฝนก็เบาพอดี  รีบเดินเข้าด้านในหาซื้อตั๋วเรือรอบที่ออกเร็วที่สุด เราได้ตั๋วมาในราคา 147 MOP บริษัท Turbo jet  รอบ 11.30 จะจ่ายเงินฮ่องกงหรือมาเก๊าก็ได้ แล้วแต่นะค่ะ ใช้เวลาเดินทางถึงฮ่องกงประมาณ 1 ชม. พวกเรานัดเจ้าของ Apartment ที่จองผ่าน Airbnb ไว้ 13.30 ที่Mongkok Sta.ดังนั้นพวกเราก็จะได้ไม่ต้องรีบมาก เดินแบบสบายๆได้ ได้เวลาขึ้นเรือ ทุกคนหลับกันหมด เพื่อเอาแรงเก็บไว้สำหรับเที่ยว เนื่องจาก plan แน่นและใช้เท้าค่อนข้างเยอะ

เที่ยงครึ่งถึงฮ่องกง ต่อแถวเตรียมผ่าน ตม. ของฮ่องกง และแล้วสิ่งที่พวกเราพูดกันก่อนไปก็เกิดขึ้นกับ พวกเรา ญ ไทย ทั้ง 6 โดน ตม. ฮ่องกง กักตัวจร้า ชาย 2 เดินออกไปได้ชิวๆ ใครจะคิดว่าหน้าตาอย่างพวกเรา โดน ตม. กักตัว แถมใน ญ 6 นี้มีทอมรวมมา 1 เล่าให้ใครฟังก็ขำกันหมด ก่อนหน้านี้เราเคยอ่านรีวิวกันมาก่อนแล้วว่า ญ ไทย โดน ตม. กักตัวกันเยอะ เราเลยบอกเพื่อนๆให้เตรียมเอกสารที่แสดงว่าพวกเรามีงานทำแล้วมาด้วย แต่ ตม.ที่นี่ใจดี เขาอาจจะทำตามหน้าที่ หรือไม่ก็ ญ ไทยมาทำเสียชื่อไว้เยอะหรือป่าว??? ตม. ก็มาถามว่าเรากับเมื่อไหร่ มี plan เที่ยว? พักที่ไหน? อาชีพ? ตอบพร้อมกันหมด Engineer ไม่ค่อยอวดกันเลย^^บัตรพนักงาน? เงิน? บัตรเครดิต? เหล่านี้ตม.ขอดูหมด ดังนั้นควรเตรียมไปให้พร้อมนะค่ะ เพื่อแสดงให้เขามั่นใจค่ะ รออยู่สักพักพวกเราก็ผ่านตม.มาได้เรียบร้อย ตื่นเต้นกันมากๆได้ประสบการณ์แปลกๆกันไป
ณ ตอนนั้นบ่ายโมงกว่าแล้วเอาแล้วสิใกล้เวลานัด เท้าพวกเราติดเทอร์โบเลยค่ะเดินเหมือนควายหาย  เดินออกมาจากท่าเรือซึ่งอยู่ในตึก Shun Tak งงทั้งทีม อยู่มุมไหนของตึก เป้าหมายคือ ต้องรีบหา MTR Tsim Sha Tsui Station ให้เจอ สรุป หลงนิดหน่อยค่ะ กว่าจะหาเจอ หนำซ้ำฝนดันตกอีก เดินหาทางถ้ำกลางสายฝน ระยะทางไกลพอสมควร ศึกษาแผนที่กันดีๆนะค่ะ ทางลง MTR ไม่มีบันไดเลื่อนเอาแล้วงัยงานเข้าพวกเรามีกระเป๋าเดินทาง แบกกันมันเลยจร้าแถมต้องรีบทำเวลาอีก เพราะใกล้เวลานัดแล้ว

พวกเราซื้อบัตร Octopus 150 HKD เพราะซื้อของ เดินทางได้หมด

ถึง Mongkokแล้ว เท้าพวกเรายังติดเทอร์โบเหมือนเดิม  สถานีนี้ไม่มีบันได้เลื่อนอีกแล้ว แบกกระเป๋าเดินขึ้นกันต่อไป มันส์มาก ขนาดนั้นเวลา 13.45 เลยเวลานัดมา 15 นาที ฝนก็ตกอยู่ รอสักพักก็เจอ K.Mark เป็นเพื่อนเจ้าของ Apartment มารับพวกเราไปที่พัก ภาษาอังกฤษของเขาและพวกเราอยู่ในเกณฑ์พอกัน เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องเลย555+ ถามว่าที่พักอยู่ชั้น? เขาก็เงียบ เอิ่มม!!!  ขอจบการรีวิวตอนที่ 1 เท่านี้ก่อนนะค่ะยังมีเรื่องราวอีกมากมายมาติดตามตอนที่ 2 กันต่อนะค่ะ

ขอบคุณนะค่ะ

ตอนที่ 2 มาแล้วนะค่ะ  มาติดตามกันต่อได้เลยนะค่ะ http://ppantip.com/topic/31908607