มาแล้วจ้ากับครั้งแรกสำหรับ "มาเก๊า"
มีน้องคนหนึ่งบอกไว้ ปีหนึ่งเราต้องมีอย่างน้อย 4 ทริป เอิ่ม ถ้าเงินในกระเป๋ามันเยอะขนาดนั้นก็จะจัดตามนั้นนะ 555+++
ก่อนอื่นต้องขอบคุณก่อน เดี๋ยวลืม ไม่ได้แก่แต่แอบขี้ลืมนิดดดดดดดดนุง อิอิ
ขอบคุณ "การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย" ที่ให้ข้อมูลทั้งจากข้อมูลที่แชร์หน้าเฟส อินบ๊อคในเฟส และที่บูทในงานไทยเที่ยวไทยที่มาจัดที่ศูนย์สิริกิติ์
ข้อมูลของเพจลุงเด้งป้าไก่
พี่น้องชาวพันทิพ
อากู๋ที่แค่พิมพ์มาเก๊า ก็เจอข้อมูลมากมาย
Wow-HK ที่จำหน่ายบัตรราคาพิเศษ ให้ได้ขี้นมาเก๊าทาวเวอร์ นั่งเรือกอนโดร่าจนได้มโนว่าเป็นนางเอกนิยายของกิ่งฉัตร และกงล้อทองคำที่สตูดิโอซิตี้
หลานสาวที่ร่วมหลงทางไปด้วยกัน
สุดท้ายเจ้าของเพจลุงคิมไปเที่ยว ที่คอยดูแลลูกเพจแม้กระทั่งหลงทางเป็นกระเหรี่ยงอยู่ในมาเก๊า ถึงกะต้องส่งไลน์คอยบอกข้อมูลตลอดเวลา
https://www.facebook.com/LungKimPaiTiaw/
ครั้งนี้ปาเดินทางด้วยสายการบินมาเก๊า (Air Macau) ด้วยราคาโปรโมชั่นที่รู้มาจากเพจการท่องเที่ยวมาเก๊า
เวลาที่จองครั้งแรก
20Apr2017: 02.55 - 06.30 am
กลับด้วยเวลา
22Apr2017: 07.00 - 08.50 pm
อันนี้จองตั้งแต่เดือนตุลาคมละ จองผ่านทางเวป My Trip แต่พอมาเดือนกุมภาพันธ์ สายการบินมาหวังดีเปลี่ยนเที่ยวบิน แถมตอนที่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงของสายการบินที่โทรกลับมา พูดจายิ่งกว่ามนุษย์ป้าที่ปกติปาเป็นเลย
เวลาใหม่คือ
19Apr2017: 10.00 pm - 20Apr2017: 01.45 am - NX881
กลับคือ
22Apr2017: 07.00 - 09.00 pm - NX882
ปาไปพักที่ Rio Hotel ที่ได้ราคาโปรโมชั่นจากทางเวป Expedia ขอบอกว่า Bell Boy ที่นี่บริการดีมาก และหน้าตาน่ารักมาก ทำไมไม่ไปแสดงหนังนะเนี่ย ^^
เวลาที่โดนเปลี่ยนใหม่คือเร็วเกิน เลิกงานเลยต้องรีบเผ่นไปสุวรรณภูมิ ทำไงได้ ก็มอเตอร์ไซค์สิคะ
เลิกงานห้าโมงครึ่ง รีบไปแปลงร่างพร้อมกะแว๊นมอไซค์ ไปต่อแอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีมักกะสัน คนเยอะมาก
รอสามขบวน ประหนึ่งว่ารอรถด่วนขบวนสุดท้ายยยยย อิอิ มาแล้วยังกว่ามาช้า มาช้ายังดีกว่าไม่มา 555+++
พอได้ขึ้นรถไฟฟ้า หลานสาวที่มายืนรอตรง ร้าน Subway ชั้นใต้ดินของที่สุวรรณภูมิก็โทรมาเรื่อยๆ เพราะนางมายืนรอครึ่ง ชม ละ นั่นแหละคือความกดดันที่ฉันต้องทนต้องเจอ 555+++
ตัดมาที่สุวรรณภูมิ ณ เวลาก่อนเดินขึ้นเครื่องเลยละกัน ก็เปลี่ยน SIM2Fly ทั้งน้าหลาน และ activate SIM ไว้ก่อน ตามที่มีคนแนะนำกันในพันทิพ เพราะถ้าไป activate ที่นั่นจะมีปัญหา
แอ่นแอนแอ๊น ตัดมาที่เวลาสี่ทุ่มเลยดีกว่า สองน้าหลานก็ไปขึ้นเครื่อง เอิ่มมมม เหมือนประหนึ่งว่า เราเดินเข้าเครื่องแอร์เอเชียเลย ที่นั่งของ economy อย่างเราๆ คือด้านละ 3 คน ต่างกะแอร์เอเชียตรงที่ แอร์ที่นี่พูดจีนเหมือนประหนึ่งว่าอยู่เยาวราช <ก็คิดได้เนอะ 555+++>
อาหารบนเครื่องดีกว่าของ Hong Kong Airline ที่มีแค่ขนมปังไส้กรอก (เพราะเจ๊ปาไม่กินไส้กรอกง่ะ) น้ำให้แค่น้ำเปล่า คิดว่าไม่มีน้ำอย่างอื่นนะ เพราะไม่เห็นรถใส่น้ำเลย มีแต่รถเข็นอาหาร และแอร์คนหนึ่งเดินถือขวดน้ำกะแก้วเดินตาม
อาหารอร่อยใช้ได้ ข้าวกะไก่ แต่ไม่น่ามีผัดฟักทอง (เพราะกินไม่เป็น 555+++)
นั่งหลับๆตื่นๆสักพัก ก็ข้ามวันเป็นตีหนึ่งกว่า เวลาของมาเก๊าละ เครื่องก็ลงจอดพอดี
จากที่ทุกทีลงที่เช็คเล็บก๊อกของฮ่องกง เลยคิดว่าสนามบินมาเก๊าต้องดีเริ่ด แต่ไม่ใช่เลย ลงจากเครื่อง มาต่อรถเพื่อไปที่อาคารสายการบิน นี่เรานั่งเครื่องจากสุวรรณภูมิมาลงดอนเมืองเหรอ
พอผ่าน ตม และเดินออกมาด้านนอก แต่ก็ยังอยู่ในสนามบิน สองกระเหรี่ยงน้าหลาน ก็นั่งๆนอนๆ คืออารมณ์งก ไม่ได้จองโรงแรมเช้านี้เอาไว้ สลับกันนอนคนละครึ่ง ชม พอไปอีกด้าน มีปู้จายนอนเหมือนกัน แต่เขานอนเป็นเรื่องเป็นราวเลย แบบยึด ที่นั่ง 4 ตัวนอนเหยียดยาว อีน้าสาวเห็นละอยากทำตามมั่ง แต่ด้วยอายุปูนนี้ทำไปเกิดตกเก้าอี้ กระดูกกระเดี้ยวจะมาพังที่มาเก๊า คงไปคุยกะหมอไม่รู้เรื่องแน่เลย
พอฟ้าสว่าง สองน้าหลานก็สลับกันไปแต่งหน้า พร้อมที่จะเผชิญโลกกว้างกันละ แต่เอิ่มมมม ที่จดไว้คือ กะขึ้นรถ shutter bus ฟรีของ casio ซึ่งหกโมงไม่มีมาเลยสักคัน อย่างของ studio city ที่เห็นๆ มารู้ทีหลังว่ามาตอนเก้าโมงครึ่ง ของ Grand Lisbua ที่ฝั่งมาเก๊ามาตอนสิบโมง Venetian ก็มาสิบโมง ถ้าจำไม่ผิดนะ
และในเวลานั้น ไม่มีเศษด้วย มีแค่แบงก์ 100, 500, 1000 เอาละสิ จะขึ้นรถเมล์ก็ไม่ได้ โบกแท็กซี่เลยละกัน ไปฝากกระเป๋าที่โรงแรม ละค่อยไปท่องโลก ตอนโบกคิดว่าไม่กี่บาทหรอก เอิ่มมมมม สุดท้ายจากสนามบินไปที่โรงแรม Rio ค่าแท็กซี่ 71 MOQ + ค่ากระเป๋าหลังรถ โดนไป 80 MOQ เก๋เก๋เลยเรา
ฝากกระเป๋าละเราก็เริ่มเดินตามแผน ไปเวเนเชี่ยนตามที่เพจลุงคิมไปเที่ยวแนะนำไว้
ลุงคิมบอกไว้ว่า "วันแรก - เวเนเชียน ละบ่ายไปมาเก๊า เซนาโด้ วันที่สองไปมุดตัวในเกาะไทปา วันสุดท้ายค่อยเก็บตกในเกาะมาเก๊า"
อะตามนั้น อย่างที่เคยปรึกษาทางแอดของการท่องเที่ยวมาเก๊า บอกว่าจากแอร์พอร์ตมี shutter bus ฟรีของ Grand Lisbua ซึ่งจะอยู่ใกล้กับโรงแรม Rio เอาละ งั้นเราจะกลับไป Venetian ก็ควรไปขึ้น Shutter Bus ของ Grand Lisbua สองน้าหลานเลยชวนกันเดินจาก Rio ไป Grand Lisbua ผลคือหลงค่ะ ไม่ถึงสักที เลยโบกแท็กซี่ก็ได้ ขึ้นไปแค่ข้ามสะพานก็คือ Grand Lisbua หลอกกันเล่นหรือเปล่า 555+++ เสียค่าโง่ไปอีกรอบเก๋เก๋ค่ะ
ไปถึงที่ Grand Lisbua ตั้งแต่แปดโมงเช้า
ถามพนักงาน Shutter Bus มีตอนเก้าโมงครึ่ง จะเสียเวลาที่นั่นทำไมคะ เลยชวนกันน้าหลานเดินหาซื้อ Macau Pass ที่เป็นบัตรคล้ายๆ Octopus ของฮ่องกง หรือ Ezlink ของสิงคโปร์ ในเวปบอกว่ามีขายที่ 7-11 หรือร้าน Circle K
เดินเข้าออกกัน 3 ร้านของ 7-11 มีแต่ตอบว่าไม่มีขาย ไปได้จากร้าน Circle K ราคาบัตร 130 MOP มัดจำ 30 เหลือใช้ได้อีก 100 ซึ่งสุดท้ายเงินในบัตรก็ไม่ค่อยได้ใช้กับการขึ้นรถเท่าไหร่นัก เอามาใช้ซื้อของใน 7-11 กะ Supermarket ในมาเก๊าแทน
จากหน้าร้าน Circle K มองตามป้ายละ เห็นว่ามีสาย 28A ที่นั่งไป Venetian ได้
ก็นั่งไปจนถามคนบนรถเมล์และคนขับรถเมล์ และลงแถวหน้าโรงเรียนอนุบาล เดินไปเรื่อยๆ ก็ไปถึง Venetian
คติเราเอามาใช้ได้จริงๆ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ที่นั่นเสมอ
ได้เวลากินแล้วสิ พอได้เข้าไปใน Venetian อันดับแรกหา Food Court เลย ให้ทนอะไรก็ทนได้ แต่อย่าให้ทนหิวข้าว เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ป้ายบอกว่า Food Court อยู่ชั้นสาม รออะไรหละคะ รีบขึ้นไปเลย เป็นชั้นเดียวกับที่จะนั่งเรือกอนโดร่าและจะได้มโนว่าตัวเองเป็นนางเอกนิยายด้วย
เรือกอนโดร่าเปิดให้บริการ 11.00 am - 09.45 pm
กินข้าวเสร็จยังไม่สิบเอ็ดโมง อยู่เฉยๆทำไมคะ เดินสำรวจไปเรื่อยๆ
จนได้ทาร์ตไข่ของ Lord Stow ที่มีขายใน Venetian มากินกันคนละชิ้นกะหลานสาว อันนี้ก็ได้คำแนะนำจากเพจลุงคิม ที่เจ้าของเพจตัวเล็กมาก ถ่ายรูปส่งมาให้ดูว่า ต้องกินทาร์ตไข่ให้ได้ มี 2 ร้านทั้งลอร์ดสโตว์ กะมากาเรต รสชาติอร่อยและไม่หวาน ซึ่งดีแล้วค่ะ ขนมหวานๆไม่ถูกโรคกะผู้หญิงผอมกว่าภูเขาอย่างเราๆ แต่จริงๆ อยากบอกว่า มาเก๊าเป็นเมืองแห่งทาร์ตไข่ มีทุกร้าน แต่ร้านอื่นๆนอกจาก 2 ร้านที่บอก ค่อนข้างหวานเกินไปค่ะ
ตามที่ถามพนักงาน ขายตอน 11 โมง ก็เดินเล่น Selfie ตามประสาจนได้เวลาสิคะ
พอได้กินแล้ว รสชาติสุดยอด อยากบอกว่า อร่อยกว่าร้าน Kanom ที่ซื้อในเซ็นทรัลพระรามเก้า หรือว่า The Circle อีก
พอใจกะการท่องอิตาลี่ในมโนเสร็จละ ก็กลับไปฝั่งมาเก๊าตามแพลน จะเสียเงินค่ารถทำไมคะ ในเมื่อกูรูบอกเอาไว้ก่อนเที่ยวว่ามีรถของตาม Casio เราขึ้นฟรีได้ ก็ไปขึ้นรถ Shutter Bus ของ Venetian กลับไปที่ Airport แล้วอาศัยรถของ Grand Lisbua ไปฝั่งมาเก๊า ละค่อยหารถเมล์ไปวัดอาม่าตามที่ตั้งเป้าไว้
พอไปถึงที่ Airport รถของ Grand Lisbua เพิ่งออกไป เลยถามคนแถวนั้นว่า อีกนานไหมกว่าคันต่อมาจะมา เขาบอกว่าของ Grand Lisbua มาทุกชั่วโมง แต่ถ้าขึ้นของ Wyuu ที่อยู่ใกล้ๆ กับ Grand Lisbua รถจะมาทุก 10 นาที อ้อ Wyuu มี 2 ที่คือที่มาเก๊ากับเกาะไทปา เวลารอรถ ยืนรอให้ถูกนะคะ ของ Wyuu มาเก๊า พนักงานจะใส่เสื้อสีแดงและรถสีแดงค่ะ แล้วเราจะรออะไรละคะ เราก็ไปยืนรอรถแบบเนียนๆกับเขาสิคะ
พอไปถึงที่ Wyuu ก็ข้ามถนนไปที่ Grand Lisbua เพื่อรอสาย 10A ไปวัดอาม่า หน้าออกจะคนรุ่นใหม่อย่างเรา ก็ควรไปไหว้พระขอพรก่อนสิคะ
ไปถึงวัด มีงิ้วให้ดูแต่เราไม่ดูสิ
ออกจากวัดอาม่า เดินเล่นในซอยข้างๆวัด เห็นขายทาร์ตไข่ ลองซื้อมาชิมก็ เอิ่มมมม หวานเกินไปอีก ร้านนี้ไม่ผ่าน
และเดินเล่นต่อไปจนถึงป้ายรถเมล์ จุดหมายต่อไปคือมาเก๊าทาวเวอร์ แต่ก่อนจะไปมาเก๊าทาวเวอร์ เกือบบ่ายสองละ ใน vc ที่ปริ้นมา เขาให้เช็คอินได้บ่ายสาม ไปถึงโรงแรมน่าจะได้เวลาพอดี เลยกลับไปที่โรงแรมกันก่อน โดยขึ้นรถเมล์สาย 10 กลับมาที่โรงแรม พอถึงเจ้าหน้าที่บอกว่า ยังเช็คอินไม่ได้ ห้องไม่เสร็จ ต้องรอ 1 ชม หลานสาวเลยบอกกับพนักงานว่าไม่รอ แต่ให้เลื่อนเวลาเช็คเอาท์ จากเที่ยงเป็นบ่ายโมง พนักงานก็รับปาก
สองคนน้าหลานเลยไปมาเก๊าทาวเวอร์ต่อตามแผน โดยขึ้นรถเมล์สาย 32 ที่ฝั่งตรงข้ามโรงแรม Rio
จากข้อมูลที่ซื้อ vc มา สามารถขึ้นไปได้ทั้งชั้น 58 กับ 61 หลังจากไปแลกตั๋วตามที่แนะนำก็ขึ้นไปเลยค่ะ คนกลัวความสูงอย่างเราจะกลัวอะไร ขึ้นลิฟท์ไปไม่เท่าไหร่ แต่ตรงพื้นกระจกที่อยู่ขอบๆสิคะ เหยียบกันไม่ได้เลย ขาสั่นกันทีเดียว เป็นโรคกลัวความสูง แต่ชอบหาเรื่องขึ้นที่สูง รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง 555+++
เสร็จจากที่นี่ ไปต่อกันที่ซากโบสถ์ ST Paul ที่ดังมากมาย อยู่ใน Senado Square จัดเลยค่ะ นั่งสาย 32 จากหน้ามาเก๊าทาวเวอร์ไปประมาณ 2 ป้ายค่ะ และเดินๆไป จะมีป้ายบอกทางเขียนทางไปโบสถ์อยู่นะคะ
ที่ซากโบสถ์คนเยอะมาก มาถ่ายใหม่พรุ่งนี้ก็ได้ เห็นที่เขารีวิวกัน ควรมาก่อนหกโมงครึ่ง งั้นพรุ่งนี้ไม่พลาด วันนี้กับไปนอนเอาแรงก่อน ง่วงกันมากมายทั้งน้าหลาน เลยนั่งรถเมล์สาย 10 จากหน้าเซนาโด้กลับมาที่โรงแรม Rio
และแล้วก็ได้เช็คอินสักที ที่นี่ต้องมัดจำ 500 MOP เราสามารถมัดจำด้วยบัตรเครดิตได้ค่ะ สภาพห้องพักสวยและกว้าง แต่ตามที่คุยกะพนักงาน ห้องพักส่วนใหญ่เป็นเตียงใหญ่ ไม่ค่อยมีเตียงคู่ และห้องน้ำสวยและกว้างมาก มีทั้งอ่างอาบน้ำกับฝักบัวให้เลือกใช้
ถ้าใครยังหาที่พักในมาเก๊า ขอแนะนำค่ะ ที่พักสวย กว้าง ไวไฟสัญญาณดีค่ะ พนักงานบริการดีโดยเฉพาะน้อง Bell รอบบ่ายนะคะ เพราะเจอน้องคนนี้ตอนบ่าย อุ๊ปส์ รู้หมดเลย
ผ่านไปอีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้มาใหม่นะคะ
มาเก๊า...เก๊าไม่ไปหรอก...แค่ครั้งเดียว
มีน้องคนหนึ่งบอกไว้ ปีหนึ่งเราต้องมีอย่างน้อย 4 ทริป เอิ่ม ถ้าเงินในกระเป๋ามันเยอะขนาดนั้นก็จะจัดตามนั้นนะ 555+++
ก่อนอื่นต้องขอบคุณก่อน เดี๋ยวลืม ไม่ได้แก่แต่แอบขี้ลืมนิดดดดดดดดนุง อิอิ
ขอบคุณ "การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย" ที่ให้ข้อมูลทั้งจากข้อมูลที่แชร์หน้าเฟส อินบ๊อคในเฟส และที่บูทในงานไทยเที่ยวไทยที่มาจัดที่ศูนย์สิริกิติ์
ข้อมูลของเพจลุงเด้งป้าไก่
พี่น้องชาวพันทิพ
อากู๋ที่แค่พิมพ์มาเก๊า ก็เจอข้อมูลมากมาย
Wow-HK ที่จำหน่ายบัตรราคาพิเศษ ให้ได้ขี้นมาเก๊าทาวเวอร์ นั่งเรือกอนโดร่าจนได้มโนว่าเป็นนางเอกนิยายของกิ่งฉัตร และกงล้อทองคำที่สตูดิโอซิตี้
หลานสาวที่ร่วมหลงทางไปด้วยกัน
สุดท้ายเจ้าของเพจลุงคิมไปเที่ยว ที่คอยดูแลลูกเพจแม้กระทั่งหลงทางเป็นกระเหรี่ยงอยู่ในมาเก๊า ถึงกะต้องส่งไลน์คอยบอกข้อมูลตลอดเวลา
https://www.facebook.com/LungKimPaiTiaw/
ครั้งนี้ปาเดินทางด้วยสายการบินมาเก๊า (Air Macau) ด้วยราคาโปรโมชั่นที่รู้มาจากเพจการท่องเที่ยวมาเก๊า
เวลาที่จองครั้งแรก
20Apr2017: 02.55 - 06.30 am
กลับด้วยเวลา
22Apr2017: 07.00 - 08.50 pm
อันนี้จองตั้งแต่เดือนตุลาคมละ จองผ่านทางเวป My Trip แต่พอมาเดือนกุมภาพันธ์ สายการบินมาหวังดีเปลี่ยนเที่ยวบิน แถมตอนที่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงของสายการบินที่โทรกลับมา พูดจายิ่งกว่ามนุษย์ป้าที่ปกติปาเป็นเลย
เวลาใหม่คือ
19Apr2017: 10.00 pm - 20Apr2017: 01.45 am - NX881
กลับคือ
22Apr2017: 07.00 - 09.00 pm - NX882
ปาไปพักที่ Rio Hotel ที่ได้ราคาโปรโมชั่นจากทางเวป Expedia ขอบอกว่า Bell Boy ที่นี่บริการดีมาก และหน้าตาน่ารักมาก ทำไมไม่ไปแสดงหนังนะเนี่ย ^^
เวลาที่โดนเปลี่ยนใหม่คือเร็วเกิน เลิกงานเลยต้องรีบเผ่นไปสุวรรณภูมิ ทำไงได้ ก็มอเตอร์ไซค์สิคะ
เลิกงานห้าโมงครึ่ง รีบไปแปลงร่างพร้อมกะแว๊นมอไซค์ ไปต่อแอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีมักกะสัน คนเยอะมาก
รอสามขบวน ประหนึ่งว่ารอรถด่วนขบวนสุดท้ายยยยย อิอิ มาแล้วยังกว่ามาช้า มาช้ายังดีกว่าไม่มา 555+++
พอได้ขึ้นรถไฟฟ้า หลานสาวที่มายืนรอตรง ร้าน Subway ชั้นใต้ดินของที่สุวรรณภูมิก็โทรมาเรื่อยๆ เพราะนางมายืนรอครึ่ง ชม ละ นั่นแหละคือความกดดันที่ฉันต้องทนต้องเจอ 555+++
ตัดมาที่สุวรรณภูมิ ณ เวลาก่อนเดินขึ้นเครื่องเลยละกัน ก็เปลี่ยน SIM2Fly ทั้งน้าหลาน และ activate SIM ไว้ก่อน ตามที่มีคนแนะนำกันในพันทิพ เพราะถ้าไป activate ที่นั่นจะมีปัญหา
แอ่นแอนแอ๊น ตัดมาที่เวลาสี่ทุ่มเลยดีกว่า สองน้าหลานก็ไปขึ้นเครื่อง เอิ่มมมม เหมือนประหนึ่งว่า เราเดินเข้าเครื่องแอร์เอเชียเลย ที่นั่งของ economy อย่างเราๆ คือด้านละ 3 คน ต่างกะแอร์เอเชียตรงที่ แอร์ที่นี่พูดจีนเหมือนประหนึ่งว่าอยู่เยาวราช <ก็คิดได้เนอะ 555+++>
อาหารบนเครื่องดีกว่าของ Hong Kong Airline ที่มีแค่ขนมปังไส้กรอก (เพราะเจ๊ปาไม่กินไส้กรอกง่ะ) น้ำให้แค่น้ำเปล่า คิดว่าไม่มีน้ำอย่างอื่นนะ เพราะไม่เห็นรถใส่น้ำเลย มีแต่รถเข็นอาหาร และแอร์คนหนึ่งเดินถือขวดน้ำกะแก้วเดินตาม
อาหารอร่อยใช้ได้ ข้าวกะไก่ แต่ไม่น่ามีผัดฟักทอง (เพราะกินไม่เป็น 555+++)
นั่งหลับๆตื่นๆสักพัก ก็ข้ามวันเป็นตีหนึ่งกว่า เวลาของมาเก๊าละ เครื่องก็ลงจอดพอดี
จากที่ทุกทีลงที่เช็คเล็บก๊อกของฮ่องกง เลยคิดว่าสนามบินมาเก๊าต้องดีเริ่ด แต่ไม่ใช่เลย ลงจากเครื่อง มาต่อรถเพื่อไปที่อาคารสายการบิน นี่เรานั่งเครื่องจากสุวรรณภูมิมาลงดอนเมืองเหรอ
พอผ่าน ตม และเดินออกมาด้านนอก แต่ก็ยังอยู่ในสนามบิน สองกระเหรี่ยงน้าหลาน ก็นั่งๆนอนๆ คืออารมณ์งก ไม่ได้จองโรงแรมเช้านี้เอาไว้ สลับกันนอนคนละครึ่ง ชม พอไปอีกด้าน มีปู้จายนอนเหมือนกัน แต่เขานอนเป็นเรื่องเป็นราวเลย แบบยึด ที่นั่ง 4 ตัวนอนเหยียดยาว อีน้าสาวเห็นละอยากทำตามมั่ง แต่ด้วยอายุปูนนี้ทำไปเกิดตกเก้าอี้ กระดูกกระเดี้ยวจะมาพังที่มาเก๊า คงไปคุยกะหมอไม่รู้เรื่องแน่เลย
พอฟ้าสว่าง สองน้าหลานก็สลับกันไปแต่งหน้า พร้อมที่จะเผชิญโลกกว้างกันละ แต่เอิ่มมมม ที่จดไว้คือ กะขึ้นรถ shutter bus ฟรีของ casio ซึ่งหกโมงไม่มีมาเลยสักคัน อย่างของ studio city ที่เห็นๆ มารู้ทีหลังว่ามาตอนเก้าโมงครึ่ง ของ Grand Lisbua ที่ฝั่งมาเก๊ามาตอนสิบโมง Venetian ก็มาสิบโมง ถ้าจำไม่ผิดนะ
และในเวลานั้น ไม่มีเศษด้วย มีแค่แบงก์ 100, 500, 1000 เอาละสิ จะขึ้นรถเมล์ก็ไม่ได้ โบกแท็กซี่เลยละกัน ไปฝากกระเป๋าที่โรงแรม ละค่อยไปท่องโลก ตอนโบกคิดว่าไม่กี่บาทหรอก เอิ่มมมมม สุดท้ายจากสนามบินไปที่โรงแรม Rio ค่าแท็กซี่ 71 MOQ + ค่ากระเป๋าหลังรถ โดนไป 80 MOQ เก๋เก๋เลยเรา
ฝากกระเป๋าละเราก็เริ่มเดินตามแผน ไปเวเนเชี่ยนตามที่เพจลุงคิมไปเที่ยวแนะนำไว้
ลุงคิมบอกไว้ว่า "วันแรก - เวเนเชียน ละบ่ายไปมาเก๊า เซนาโด้ วันที่สองไปมุดตัวในเกาะไทปา วันสุดท้ายค่อยเก็บตกในเกาะมาเก๊า"
อะตามนั้น อย่างที่เคยปรึกษาทางแอดของการท่องเที่ยวมาเก๊า บอกว่าจากแอร์พอร์ตมี shutter bus ฟรีของ Grand Lisbua ซึ่งจะอยู่ใกล้กับโรงแรม Rio เอาละ งั้นเราจะกลับไป Venetian ก็ควรไปขึ้น Shutter Bus ของ Grand Lisbua สองน้าหลานเลยชวนกันเดินจาก Rio ไป Grand Lisbua ผลคือหลงค่ะ ไม่ถึงสักที เลยโบกแท็กซี่ก็ได้ ขึ้นไปแค่ข้ามสะพานก็คือ Grand Lisbua หลอกกันเล่นหรือเปล่า 555+++ เสียค่าโง่ไปอีกรอบเก๋เก๋ค่ะ
ไปถึงที่ Grand Lisbua ตั้งแต่แปดโมงเช้า
ถามพนักงาน Shutter Bus มีตอนเก้าโมงครึ่ง จะเสียเวลาที่นั่นทำไมคะ เลยชวนกันน้าหลานเดินหาซื้อ Macau Pass ที่เป็นบัตรคล้ายๆ Octopus ของฮ่องกง หรือ Ezlink ของสิงคโปร์ ในเวปบอกว่ามีขายที่ 7-11 หรือร้าน Circle K
เดินเข้าออกกัน 3 ร้านของ 7-11 มีแต่ตอบว่าไม่มีขาย ไปได้จากร้าน Circle K ราคาบัตร 130 MOP มัดจำ 30 เหลือใช้ได้อีก 100 ซึ่งสุดท้ายเงินในบัตรก็ไม่ค่อยได้ใช้กับการขึ้นรถเท่าไหร่นัก เอามาใช้ซื้อของใน 7-11 กะ Supermarket ในมาเก๊าแทน
จากหน้าร้าน Circle K มองตามป้ายละ เห็นว่ามีสาย 28A ที่นั่งไป Venetian ได้
ก็นั่งไปจนถามคนบนรถเมล์และคนขับรถเมล์ และลงแถวหน้าโรงเรียนอนุบาล เดินไปเรื่อยๆ ก็ไปถึง Venetian
คติเราเอามาใช้ได้จริงๆ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ที่นั่นเสมอ
ได้เวลากินแล้วสิ พอได้เข้าไปใน Venetian อันดับแรกหา Food Court เลย ให้ทนอะไรก็ทนได้ แต่อย่าให้ทนหิวข้าว เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ป้ายบอกว่า Food Court อยู่ชั้นสาม รออะไรหละคะ รีบขึ้นไปเลย เป็นชั้นเดียวกับที่จะนั่งเรือกอนโดร่าและจะได้มโนว่าตัวเองเป็นนางเอกนิยายด้วย
เรือกอนโดร่าเปิดให้บริการ 11.00 am - 09.45 pm
กินข้าวเสร็จยังไม่สิบเอ็ดโมง อยู่เฉยๆทำไมคะ เดินสำรวจไปเรื่อยๆ
จนได้ทาร์ตไข่ของ Lord Stow ที่มีขายใน Venetian มากินกันคนละชิ้นกะหลานสาว อันนี้ก็ได้คำแนะนำจากเพจลุงคิม ที่เจ้าของเพจตัวเล็กมาก ถ่ายรูปส่งมาให้ดูว่า ต้องกินทาร์ตไข่ให้ได้ มี 2 ร้านทั้งลอร์ดสโตว์ กะมากาเรต รสชาติอร่อยและไม่หวาน ซึ่งดีแล้วค่ะ ขนมหวานๆไม่ถูกโรคกะผู้หญิงผอมกว่าภูเขาอย่างเราๆ แต่จริงๆ อยากบอกว่า มาเก๊าเป็นเมืองแห่งทาร์ตไข่ มีทุกร้าน แต่ร้านอื่นๆนอกจาก 2 ร้านที่บอก ค่อนข้างหวานเกินไปค่ะ
ตามที่ถามพนักงาน ขายตอน 11 โมง ก็เดินเล่น Selfie ตามประสาจนได้เวลาสิคะ
พอได้กินแล้ว รสชาติสุดยอด อยากบอกว่า อร่อยกว่าร้าน Kanom ที่ซื้อในเซ็นทรัลพระรามเก้า หรือว่า The Circle อีก
พอใจกะการท่องอิตาลี่ในมโนเสร็จละ ก็กลับไปฝั่งมาเก๊าตามแพลน จะเสียเงินค่ารถทำไมคะ ในเมื่อกูรูบอกเอาไว้ก่อนเที่ยวว่ามีรถของตาม Casio เราขึ้นฟรีได้ ก็ไปขึ้นรถ Shutter Bus ของ Venetian กลับไปที่ Airport แล้วอาศัยรถของ Grand Lisbua ไปฝั่งมาเก๊า ละค่อยหารถเมล์ไปวัดอาม่าตามที่ตั้งเป้าไว้
พอไปถึงที่ Airport รถของ Grand Lisbua เพิ่งออกไป เลยถามคนแถวนั้นว่า อีกนานไหมกว่าคันต่อมาจะมา เขาบอกว่าของ Grand Lisbua มาทุกชั่วโมง แต่ถ้าขึ้นของ Wyuu ที่อยู่ใกล้ๆ กับ Grand Lisbua รถจะมาทุก 10 นาที อ้อ Wyuu มี 2 ที่คือที่มาเก๊ากับเกาะไทปา เวลารอรถ ยืนรอให้ถูกนะคะ ของ Wyuu มาเก๊า พนักงานจะใส่เสื้อสีแดงและรถสีแดงค่ะ แล้วเราจะรออะไรละคะ เราก็ไปยืนรอรถแบบเนียนๆกับเขาสิคะ
พอไปถึงที่ Wyuu ก็ข้ามถนนไปที่ Grand Lisbua เพื่อรอสาย 10A ไปวัดอาม่า หน้าออกจะคนรุ่นใหม่อย่างเรา ก็ควรไปไหว้พระขอพรก่อนสิคะ
ไปถึงวัด มีงิ้วให้ดูแต่เราไม่ดูสิ
ออกจากวัดอาม่า เดินเล่นในซอยข้างๆวัด เห็นขายทาร์ตไข่ ลองซื้อมาชิมก็ เอิ่มมมม หวานเกินไปอีก ร้านนี้ไม่ผ่าน
และเดินเล่นต่อไปจนถึงป้ายรถเมล์ จุดหมายต่อไปคือมาเก๊าทาวเวอร์ แต่ก่อนจะไปมาเก๊าทาวเวอร์ เกือบบ่ายสองละ ใน vc ที่ปริ้นมา เขาให้เช็คอินได้บ่ายสาม ไปถึงโรงแรมน่าจะได้เวลาพอดี เลยกลับไปที่โรงแรมกันก่อน โดยขึ้นรถเมล์สาย 10 กลับมาที่โรงแรม พอถึงเจ้าหน้าที่บอกว่า ยังเช็คอินไม่ได้ ห้องไม่เสร็จ ต้องรอ 1 ชม หลานสาวเลยบอกกับพนักงานว่าไม่รอ แต่ให้เลื่อนเวลาเช็คเอาท์ จากเที่ยงเป็นบ่ายโมง พนักงานก็รับปาก
สองคนน้าหลานเลยไปมาเก๊าทาวเวอร์ต่อตามแผน โดยขึ้นรถเมล์สาย 32 ที่ฝั่งตรงข้ามโรงแรม Rio
จากข้อมูลที่ซื้อ vc มา สามารถขึ้นไปได้ทั้งชั้น 58 กับ 61 หลังจากไปแลกตั๋วตามที่แนะนำก็ขึ้นไปเลยค่ะ คนกลัวความสูงอย่างเราจะกลัวอะไร ขึ้นลิฟท์ไปไม่เท่าไหร่ แต่ตรงพื้นกระจกที่อยู่ขอบๆสิคะ เหยียบกันไม่ได้เลย ขาสั่นกันทีเดียว เป็นโรคกลัวความสูง แต่ชอบหาเรื่องขึ้นที่สูง รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง 555+++
เสร็จจากที่นี่ ไปต่อกันที่ซากโบสถ์ ST Paul ที่ดังมากมาย อยู่ใน Senado Square จัดเลยค่ะ นั่งสาย 32 จากหน้ามาเก๊าทาวเวอร์ไปประมาณ 2 ป้ายค่ะ และเดินๆไป จะมีป้ายบอกทางเขียนทางไปโบสถ์อยู่นะคะ
ที่ซากโบสถ์คนเยอะมาก มาถ่ายใหม่พรุ่งนี้ก็ได้ เห็นที่เขารีวิวกัน ควรมาก่อนหกโมงครึ่ง งั้นพรุ่งนี้ไม่พลาด วันนี้กับไปนอนเอาแรงก่อน ง่วงกันมากมายทั้งน้าหลาน เลยนั่งรถเมล์สาย 10 จากหน้าเซนาโด้กลับมาที่โรงแรม Rio
และแล้วก็ได้เช็คอินสักที ที่นี่ต้องมัดจำ 500 MOP เราสามารถมัดจำด้วยบัตรเครดิตได้ค่ะ สภาพห้องพักสวยและกว้าง แต่ตามที่คุยกะพนักงาน ห้องพักส่วนใหญ่เป็นเตียงใหญ่ ไม่ค่อยมีเตียงคู่ และห้องน้ำสวยและกว้างมาก มีทั้งอ่างอาบน้ำกับฝักบัวให้เลือกใช้
ถ้าใครยังหาที่พักในมาเก๊า ขอแนะนำค่ะ ที่พักสวย กว้าง ไวไฟสัญญาณดีค่ะ พนักงานบริการดีโดยเฉพาะน้อง Bell รอบบ่ายนะคะ เพราะเจอน้องคนนี้ตอนบ่าย อุ๊ปส์ รู้หมดเลย
ผ่านไปอีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้มาใหม่นะคะ