ถูกผู้ชายฝรั่งเศสทิ้งไปอย่างไร้วี่แวว ( ขอกำลังใจหน่อยค่ะ )

กระทู้สนทนา
อยากจะเล่าเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ทุกคนฟังค่ะและอยากได้กำลังใจมากๆในตอนนี้ ถึงใจจะยอมรับได้ว่าเขาจากไปแล้วเขาทำไม่ดีกับเราแต่คำว่ารักมันยากที่จะหาเหตุผลมาลบล้างกันได้ในเวลาสั้นๆ .....

                      ในเดือนเมษาปี 2556 เรามีโอกาสได้คุยกับผู้ชายฝรั่งเศสคนนึงทางเว็ปไซต์แห่งหนึ่งและเราก็ได้มีโอกาสได้คุยกันทางอีเมล์ เขาอายุ 51 ค่ะ ส่วนเรา 25 ปีในตอนนั้นพึ่งอกหักจากแฟนเก่าคะและบอกกับตัวเองอีกครั้งว่าจะต้องหาแฟนเป็นฝรั่งไปเลยไม่สนแล้วคนไทย ไม่สนแล้วความรักแบบวัยรุ่น
ที่เลือกคุยกับคนแก่เพราะคิดว่าเขาคงจะตามใจเราและพร้อมที่จะหยุดที่เรา และแน่นอนเราจะต้องสบายคะและชีวิตต้องดีมีความสุขมากกว่าอยู่กับคนเก่าแน่นอน ( ในความคิดเราตอนนั้น ) เราจึงตัดสินใจเลือกคุยกับฝรั่งคนนั้นและติดต่อกันทางอีเมล์ทุกวันวันละ 1-2 ข้อความ ตอนนั้นจากไม่คิดอะไรก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นมาด้วยแล้วคะเริ่มรู้สึกว่าต่างคนต่างสนใจกัน เขาบอกเราในตอนนั้นว่าพึ่งหย่ากับภรรยามาได้ 3 ปีแล้วและเขาอยากจะหยุดอยู่ที่ใครสักคนในช่วงสุดท้ายของเขา ส่วนตัวเราก็บอกเขาไปว่าเราอยากมีครอบครัวอยากได้ผู้ชายที่รักเราจริงและจะรักเราตลอดไป เราผิดหวังมาจากรักของคนหนุ่มสาวและเราอยากได้รักที่มั่นคงที่จะดูแลเราตลอดไปไม่อยากเปลี่ยนคนรักอีกแล้ว และดูเหมือนความต้องการในอนาคตของเราจะตรงกันก็เลยตัดสินใจคุยกันมาเรื่อยๆถามถึงรายระเอียดเพิ่มเติมกันใช้เวลาศึกษากันแค่ทางข้อความผ่านอีเมล์และเริ่มมีมากขึ้นคือคุยโทรศัพท์ ( แต่นานๆทีจะคุยกันผ่านโทรศัพท์ ) เราเองก็เริ่มรู้สึกดีมากขึ้นทุกวันๆ รู้สึกอบอุ่น รู้สึกเขาเข้ามาเติมเต็มส่วนที่เราหายไปส่วนที่เราไม่เคยได้รับจากแฟนคนเก่ารู้สึกเหมือนถูกตามใจและคิดไปว่าเขาเองก็รู้สึกรักเราเช่นกัน เขาติดต่อเรามาเสมอต้นเสมอปลายทุกวัน เวลานี้เราจะต้องเห็นข้อความของเขาแล้วและเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆทีละนิดๆเริ่มมีเมจเสจกุ๊กกิ๊กกันในระหว่างวัน ก็เลยตกลงปลงใจคบหากันและเขาก็บอกจะลงมาหาเราในเดือน พฤษภาคม แต่จะลงมาแค่3-4วัน เราพอจะไปหาเขาได้มั้ย? เราในตอนนั้นก็คิดว่ามันเร็วเกินไปและภาษาอังกฤษก็งูๆปลาๆมากก็เลยไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่ที่ชอบคือเค้าไม่เซ้าซี้อะไรเราเลยเค้าไม่ทำเหมือนต้องการเรามากจนเกินไป ไม่ได้ทำเหมือนอยากแค่มามีเซกซ์ เค้ายังคงเสมอต้นเสมอปลายข้อความ เมจเสจ โทรมา ทุกๆวัน เวลาเดิมและมีอัดคลิปวีดีโอเล็กๆน้อยๆมาให้ดูด้วย ทำให้เรามั่นใจและเริ่มชอบเค้ามากขึ้นๆ และเค้าตัดสินใจอย่างแน่นอนว่าจะมาประเทศไทยในเดือน กรกฏาคม 2556 และเราจะลงใต้ไปด้วยกันเป็นเวลา 1 อาทิตย์สำหรับ Holidays (แต่ตอนแรกเขาบอกเราไว้ว่าจะมาหาเรา2อาทิตย์และหลังจากลงใต้เราจะไปเชียงใหม่กันต่อ แต่หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนแปลงบอกว่า ฮอลิเดย์ได้แค่อาทิตย์เดียวต้องขอโทษเราจริงๆนะ ) เราก็โอเคไม่เป็นไรคิดว่าครั้งแรกที่ได้เจอกันแค่อาทิตย์เดียวก็ถือว่ามาศึกษากันมากขึ้นว่าเราจะชอบกันมั้ยเมื่อเจอตัวจริง ในตอนนั้นพอจะใกล้วันที่เขาจะบินมาเมืองไทยก็กลัวนะคะ รู้สึกเสียใจและคิดถึงแฟนเก่ารู้สึกสับสนว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ รู้สึกกลัวไปหมดไม่รู้ว่าไปเจอเค้าไปเที่ยวกับเค้าจะเป็นยังไงบ้าง ร้องไห้ฟูมฟายเลยในตอนนั้นหนึ่งอาทิตย์ก่อนจะเจอเค้า และเมื่อถึงกำหนดวันที่จะได้เจอเค้าก็รู้สึกตื่นเต้นนิดๆ เขานัดเราไว้ที่สตาร์บัคคอฟฟี่ในสนามบิน ตอนนั้นตื่นเต้นมากๆเดินไปที่สตาร์บัคคอฟฟี่แต่ก็ไม่เจอก็เลยเมจเสจถามว่าเค้าอยู่ที่ไหน เค้าก็บอกอยู่ที่สตาร์บัคคอฟฟี่เราก็เห็นผู้ชายฝรั่งอ้วนคนนึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ตอนนั้นตกใจมาก แต่สุดท้ายก็โล่งใจเพราะเขาหยิบโทรศัพท์มาคุยไม่ใช่อ่านเมจเสจเรา เราก็เลยเเดินออกมาหน้าร้านสตาร์บัคคอฟฟี่ ก็เจอเค้ายืนอยู่กับกระเป๋าเดินทางและกำลังกวาดสายตามองรอบๆ ในตอนนั้นที่เจอเราทั้งดีใจและตื่นเต้นมากเพราะเขาดูดีมากๆดูดีกว่าในรูปในคลิปที่เราได้เห็นทุกๆวัน เราจึงเดินไปทักทายและเขาก็กอดเรา แต่เราไม่กล้ามองหน้าเค้าเพราะตื่นเต้นเค้าก็ถามเราว่าเราอายเค้าหรอ ในตอนนั้นภาษาก็ไม่ได้เขินก็เขินก็เลยไปสั่งกาแฟมานั่งกินกันรอไฟล์บินไปใต้ช่วงเวลา 17.30 น.  เราเจอเค้าเวลา 10.00 น. หลังจากกินกาแฟเสร็จก็ไปฝากกระเป๋าและไปช๊อปปิ้งห้างกันต่อเพื่อจะซื้อชุดว่ายน้ำ  ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกสบายๆแล้วคะรู้สึกอบอุ่นว่านี่แหละแฟนเรา คนนี้คือแฟนเราเค้ามาหาเราและเค้าก็ดูดีมากรู้สึกตัวเองโชคดีมากในตอนนั้นที่ได้เจอผู้ชายที่ดีผ่านเข้ามาให้ความสุขให้เราาผ่านเรื่องร้ายๆไปได้  ในตอนนั้นไปไหนก็มีแต่คนมองคะไม่ทราบเหมือนกันว่าในสายตาคนอื่นเขาคิดอย่างไรกันบ้างคนไทยก็มอง ฝรั่งก็มองยันขึ้นเครื่องเลยคะ แต่ในสายตาเราตอนนั้นเราไม่แคร์ใครทั้งนั้นถึงเค้าจะแก่หรือยังไงก็ตามขอแค่เค้ารักเรา เราก็จะรักเค้าเช่นกัน พอบินมาถึงที่หมายก็ประมาณ1ทุ่มกว่าๆ เห็นจะได้ก็เหมารถไปพักรีสอร์ทที่เค้าจองไว้ รู้สึกโรแมนติกมากเลยคะ ได้ไปในที่ไม่เคยไปเดินจับมือกับคนรักในตอนกลางคืนไปนั่งดริ้งแอลกอฮอลเบาๆ ตอนนั้นรู้สึกมีความสุขนิดๆแล้วคะเป็นชีวิตที่แตกต่างจากเดิมแต่เราก็แอบเห็นว่าเค้ามีเสื้อผ้าที่ใช้ไปแล้วอยู่ในกระเป๋าเดินทางกับกล่องของขวัญอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรมาก  เราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน 5 คืน 6 วัน เขาดูตามใจและรักเรามากไม่เคยชายตามองหญิงไหนเลย และเค้าบอกกับเราว่าเมื่อเค้ากลับไปแล้วอยากจะส่งให้เราได้เรียนภาษาเพิ่มเติม ส่วนค่าใช้จ่ายเท่าไรก็บอกเค้าจะจัดการเอง เราก็ยิ่งรู้สึกดีเพิ่มมากขึ้นและมั่นใจในตัวเค้ามากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่