"ในตอนแรกผมกะเอาคาแรกเตอร์พระเอกมาเฟียทัวไปยัดใส่หลานเซ่อตามคอนเซ็ปประชดของเราเอง แต่ไปๆมาๆ อาจะเพราะผมทนเขียนไม่ออกในคาแรกเตอร์พระเอกแบบจบสูงแต่โง่ เป็นถึงผู้บริหารที่ควบคุมคนได้ แต่ควบคุมอารมณ์หื่นตัวเองไม่เป็น เน้นใช้สมองส่วนล่างคิด หูเบา และหยาบคาย ไม่ให้เกียรติผญ. รังแกเพศแม่ ปากสุนัข มีแต่แค่หล่อกับรวย แต่สันดานห่วย เหมือนแค่อาเสี่ยพุงพลุ้ยในร่างชายหนุ่มสุดหล่อ"
ฉันยังจำคำพูดนี้ไม่เคยลืม แล้วพวกคุณที่เอาไปทำละคร พวกคุณเคยอ่านประโยคเหล่านี้บ้างรึป่าว เวลาคุณดูละครของคุณ คุณเคยถามตัวเองบ้างมั้ย ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่
มันยากมากนักเหรอกับการเขียนบทละครให้พระเอกดูมีมันสมอง มีความคิด มีความน่านับถือ น่าเกรงขามต่อคนรอบข้าง มันยากมากนักเหรอกับการที่เขียนบทให้นางเอกควบคุมอารมณ์ ควบคุมสีหน้าให้มากกว่านี้ ให้ดูฉลาดกว่านี้ การเขียนบทแสดงความฉลาดของนางเอกมันยากนักหรือไง คุณทำอะไรของคุณอ่ะ ตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้ายนาคกรี๊ดไม่หยุด หลานเซ่อไม่ได้รับความยำเกรงเลย เกิดม็อบในที่ประชุมบ่อยครั้ง
แม้กระทั่งการประกาศสละตำแหน่งของหลานเซ่อก็ยังมีม็อบ มีพักพวก จะให้คนโน้นขึ้นแทน คนนี้ขึ้นแทนโดยที่ไม่มีการเสียดายพระเอกเลย พอบอกว่าสละปุ๊บ ถามจะให้ใครขึ้นแทนปั๊บ แล้วก็เออะโวยวายแย่งชิงตำแหน่งกันยังกับไม่ใช่บริษัทฉายหงที่ยิ่งใหญ่ ต่อให้ไม่ใช่บริษัทฉายหงก็เถอะ แต่บริษัทในฮ่องกงเค้าเป็นแบบนี้เหรอ แต่ละครแก่ๆทั้งนั้นแต่ยังมาเถียงกันราวกับก่อม็อบ แล้วอะไรกับการตัดมาทำซึ้งบอกรักกันบนเวทีตั้งหลายนาทีทั้งที่ก่อนหน้านั้นเพิ่งจะเถียงกันลั่นห้องประชุม อะไรคือการบอกรักกันกลางเวที ถ้าบอกรักกันแล้ว ประโยคสารภาพรักที่ว่า
"ฉันไม่ขอเจียมตัวที่จะรักนายได้ไหม"ยังจำเป็นอยู่เหรอ
มันคืออะไรกับการที่คุณเปลี่ยนบทตึกถล่มในหนังสือให้หลานเซ่อเข้าไปติดอยู่บนตึกและเจรจากับหย่งเหวินแทนนาค แล้วให้นาครอดออกมา ทั้งๆที่บทนี้มันเป็นของฤทัยนาคผู้หญิงที่คุณย้ำเสมอตลอดทั้งเรื่องว่าเธอคือ"คิวบิก!!!" แล้วเลือกที่จะเขียนให้เธอวิ่งเข้าไปตะโกนเรียกหลินหลานเซ่อๆๆๆๆเหมือนคนไม่มีสมอง ไม่มีความคิดเลย เพื่ออะไรเหรอ?? เพื่อให้คนฟิน เพื่อแสดงความรักที่เธอมีต่อหลานเซ่องั้นเหรอ??
ผู้หญิงอย่างฤทัยนาคแสดงความรักต่อชายที่เธอรักแบบนี้เหรอ คุณบอกว่าเด็กคนนี้ไอคิว153 นี่นะเหรอที่คนไอคิว153 เค้าทำกัน
คุณทำแบบนี้ได้ยังไง คุณคิดอะไรอยู่ ประสบการณ์การเขียนบทละครการทำละครมาสิบๆปีทำให้คุณตีความตัวละครและฉากแต่ละฉากได้แค่นี้เหรอ ตั้งแต่ตอนแรกยังตอนสุดท้าย นี่จะตอนสุดท้ายแล้วนะ คุณจะเซฟนางเอกไปถึงไหน
-นันทกา ถึงเธอจะน่ารำคาญ ดูอ่อนแอ แต่เธอเลือกโดดสะพานลอยลงหลังรถเพื่อหนีการตามล่าของลูกน้องหลานเซ่อ
-มีนา เธอทำทุกอย่างเพื่อหนีจากเพ่ยอิง ปีนกำแพง วิ่งหนีด้วยตัวเองโดยที่ไม่รู้จะพึ่งใครหรือไปที่ไหนต่อแต่เธอเลือกที่จะหนีด้วยความกล้า
-แล้วนาคล่ะ เธอทำอะไรบ้าง เด็กส่งของเหรอ? ปั่นจักรยานไปทั่วเมือง ทำงานก่อสร้างเหรอ? ไปทำได้ซักกี่วัน ขับรถให้หลานเซ่อก็สบายแล้ว หนีฝ่าดงกระสุนเป็นร้อยๆนัดยังไม่เป็นอะไรซักแอะ มีแต่ทำผมลอนไปโรงเรียน ปัดแก้มสีแดงแป๊ดไม่ซูมยังรู้เลย นี่นะเหรอคนที่อึด ถึกที่สุดในเรื่องอ่ะ ตอนไหนเหรอที่เธอฉลาด คนๆนี้คือคนที่แบกรับน้ำหนักที่สุดของเรื่องนะ ถ้าคุณจะเซฟเธอขนาดนั้นทำไมไม่เซฟให้ถึงที่สุดล่ะ ทำร้ายเธอด้วยฉากตึกถล่มทำไม ให้เธอวิ่งเข้าไปตะโกนอย่างคนบ้าทำไม!!!!!
คุณรู้มั้ยว่าประโยคไหนที่เราอ่านแล้วชอบที่สุด มันอยู่ในเล่ม3ที่คุณได้รับแรงเชียร์ให้ทำภาค2ต่อไง
ในยามที่หลานเซ่อยกหยางไป๋ซิงผู้แสนสวยราวกับตุ๊กตาขึ้นมาเป็นผู้หญิงของเค้าและขนาดต้าห่ายพูดทำลายความเชื่อมั่นของนาคที่มีต่อหลานเซ่อแต่เธอกลับถามต้าห่ายว่า "นายเชื่อใจคนที่นายรักมากแค่ไหน"
"ฉันไม่ได้แค่รักหลานเซ่อ แต่ฉันศรัทธาด้วย"
นั่นเป็นการแสดงความรัก ความศรัทธา และความเชื่อมั่นที่สุดที่นาคมีให้คนที่เธอรัก
แล้วตอนนี้ความศรัทธา ความน่านับถือของหลานเซ่อหายไปไหนหมด
โปรดพิจารณาด้วยเถอะ ถึงคุณจะเพิ่มฉากฟินบอมมิ้นต์มากแค่ไหน แต่เราไม่ไหวแล้ว คุณทำลายคิวบิกแม้กระทั่งฉากตึกถล่มที่เป็นของนาคคุณยังเอาไปให้หลานเซ่อ คุณทำมันให้กลายเป็นแค่ฉากแย่งตำแหน่งกันและหลานเซ่อยอมสละตำแหน่งให้หย่งเหวินง่ายๆ
รูปนี้สำหรับคำพูดที่ว่าชีวิตของนาคสำคัญกว่าชีวิตของตนเอง เพราะนั่นเท่ากับว่านาคสำคัญกว่าฉายหงกรุ๊ป ถึงมันจะเป็นแค่แผนหลอกหย่งเหวินแต่ไม่น่าเลือกใช้ประโยคนี้เลย
ขอพูดความในใจ ถึงมาเฟียผู้แสนสง่างามและเงาผู้อยู่เบื้องหลังของมาเฟียใหญ่
ฉันยังจำคำพูดนี้ไม่เคยลืม แล้วพวกคุณที่เอาไปทำละคร พวกคุณเคยอ่านประโยคเหล่านี้บ้างรึป่าว เวลาคุณดูละครของคุณ คุณเคยถามตัวเองบ้างมั้ย ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่
มันยากมากนักเหรอกับการเขียนบทละครให้พระเอกดูมีมันสมอง มีความคิด มีความน่านับถือ น่าเกรงขามต่อคนรอบข้าง มันยากมากนักเหรอกับการที่เขียนบทให้นางเอกควบคุมอารมณ์ ควบคุมสีหน้าให้มากกว่านี้ ให้ดูฉลาดกว่านี้ การเขียนบทแสดงความฉลาดของนางเอกมันยากนักหรือไง คุณทำอะไรของคุณอ่ะ ตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้ายนาคกรี๊ดไม่หยุด หลานเซ่อไม่ได้รับความยำเกรงเลย เกิดม็อบในที่ประชุมบ่อยครั้ง
แม้กระทั่งการประกาศสละตำแหน่งของหลานเซ่อก็ยังมีม็อบ มีพักพวก จะให้คนโน้นขึ้นแทน คนนี้ขึ้นแทนโดยที่ไม่มีการเสียดายพระเอกเลย พอบอกว่าสละปุ๊บ ถามจะให้ใครขึ้นแทนปั๊บ แล้วก็เออะโวยวายแย่งชิงตำแหน่งกันยังกับไม่ใช่บริษัทฉายหงที่ยิ่งใหญ่ ต่อให้ไม่ใช่บริษัทฉายหงก็เถอะ แต่บริษัทในฮ่องกงเค้าเป็นแบบนี้เหรอ แต่ละครแก่ๆทั้งนั้นแต่ยังมาเถียงกันราวกับก่อม็อบ แล้วอะไรกับการตัดมาทำซึ้งบอกรักกันบนเวทีตั้งหลายนาทีทั้งที่ก่อนหน้านั้นเพิ่งจะเถียงกันลั่นห้องประชุม อะไรคือการบอกรักกันกลางเวที ถ้าบอกรักกันแล้ว ประโยคสารภาพรักที่ว่า"ฉันไม่ขอเจียมตัวที่จะรักนายได้ไหม"ยังจำเป็นอยู่เหรอ
มันคืออะไรกับการที่คุณเปลี่ยนบทตึกถล่มในหนังสือให้หลานเซ่อเข้าไปติดอยู่บนตึกและเจรจากับหย่งเหวินแทนนาค แล้วให้นาครอดออกมา ทั้งๆที่บทนี้มันเป็นของฤทัยนาคผู้หญิงที่คุณย้ำเสมอตลอดทั้งเรื่องว่าเธอคือ"คิวบิก!!!" แล้วเลือกที่จะเขียนให้เธอวิ่งเข้าไปตะโกนเรียกหลินหลานเซ่อๆๆๆๆเหมือนคนไม่มีสมอง ไม่มีความคิดเลย เพื่ออะไรเหรอ?? เพื่อให้คนฟิน เพื่อแสดงความรักที่เธอมีต่อหลานเซ่องั้นเหรอ?? ผู้หญิงอย่างฤทัยนาคแสดงความรักต่อชายที่เธอรักแบบนี้เหรอ คุณบอกว่าเด็กคนนี้ไอคิว153 นี่นะเหรอที่คนไอคิว153 เค้าทำกัน
คุณทำแบบนี้ได้ยังไง คุณคิดอะไรอยู่ ประสบการณ์การเขียนบทละครการทำละครมาสิบๆปีทำให้คุณตีความตัวละครและฉากแต่ละฉากได้แค่นี้เหรอ ตั้งแต่ตอนแรกยังตอนสุดท้าย นี่จะตอนสุดท้ายแล้วนะ คุณจะเซฟนางเอกไปถึงไหน
-นันทกา ถึงเธอจะน่ารำคาญ ดูอ่อนแอ แต่เธอเลือกโดดสะพานลอยลงหลังรถเพื่อหนีการตามล่าของลูกน้องหลานเซ่อ
-มีนา เธอทำทุกอย่างเพื่อหนีจากเพ่ยอิง ปีนกำแพง วิ่งหนีด้วยตัวเองโดยที่ไม่รู้จะพึ่งใครหรือไปที่ไหนต่อแต่เธอเลือกที่จะหนีด้วยความกล้า
-แล้วนาคล่ะ เธอทำอะไรบ้าง เด็กส่งของเหรอ? ปั่นจักรยานไปทั่วเมือง ทำงานก่อสร้างเหรอ? ไปทำได้ซักกี่วัน ขับรถให้หลานเซ่อก็สบายแล้ว หนีฝ่าดงกระสุนเป็นร้อยๆนัดยังไม่เป็นอะไรซักแอะ มีแต่ทำผมลอนไปโรงเรียน ปัดแก้มสีแดงแป๊ดไม่ซูมยังรู้เลย นี่นะเหรอคนที่อึด ถึกที่สุดในเรื่องอ่ะ ตอนไหนเหรอที่เธอฉลาด คนๆนี้คือคนที่แบกรับน้ำหนักที่สุดของเรื่องนะ ถ้าคุณจะเซฟเธอขนาดนั้นทำไมไม่เซฟให้ถึงที่สุดล่ะ ทำร้ายเธอด้วยฉากตึกถล่มทำไม ให้เธอวิ่งเข้าไปตะโกนอย่างคนบ้าทำไม!!!!!
คุณรู้มั้ยว่าประโยคไหนที่เราอ่านแล้วชอบที่สุด มันอยู่ในเล่ม3ที่คุณได้รับแรงเชียร์ให้ทำภาค2ต่อไง
ในยามที่หลานเซ่อยกหยางไป๋ซิงผู้แสนสวยราวกับตุ๊กตาขึ้นมาเป็นผู้หญิงของเค้าและขนาดต้าห่ายพูดทำลายความเชื่อมั่นของนาคที่มีต่อหลานเซ่อแต่เธอกลับถามต้าห่ายว่า "นายเชื่อใจคนที่นายรักมากแค่ไหน"
"ฉันไม่ได้แค่รักหลานเซ่อ แต่ฉันศรัทธาด้วย"
นั่นเป็นการแสดงความรัก ความศรัทธา และความเชื่อมั่นที่สุดที่นาคมีให้คนที่เธอรัก
แล้วตอนนี้ความศรัทธา ความน่านับถือของหลานเซ่อหายไปไหนหมด
โปรดพิจารณาด้วยเถอะ ถึงคุณจะเพิ่มฉากฟินบอมมิ้นต์มากแค่ไหน แต่เราไม่ไหวแล้ว คุณทำลายคิวบิกแม้กระทั่งฉากตึกถล่มที่เป็นของนาคคุณยังเอาไปให้หลานเซ่อ คุณทำมันให้กลายเป็นแค่ฉากแย่งตำแหน่งกันและหลานเซ่อยอมสละตำแหน่งให้หย่งเหวินง่ายๆ
รูปนี้สำหรับคำพูดที่ว่าชีวิตของนาคสำคัญกว่าชีวิตของตนเอง เพราะนั่นเท่ากับว่านาคสำคัญกว่าฉายหงกรุ๊ป ถึงมันจะเป็นแค่แผนหลอกหย่งเหวินแต่ไม่น่าเลือกใช้ประโยคนี้เลย