เมื่อคืน เปิดผ่านไปดู ช่อง ASIA UPDATE
เจอณัฐวุฒิ กำลังพูดบนเวที พอดี
ย้อนอดีต เล่าเรื่องเหตุการณ์ต่างๆ
เมื่อ วีระชนคนไทย เสียชีวิตมากมาย
พร้อมข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้ก่อการร้าย . . .
ณัฐวุฒิฯ เล่ามาเรื่อยๆ เราก็ฟังเฉยๆ
เพราะพอรู้เรื่องมาบ้างแล้ว ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร
แต่จุดที่สะเทือนใจที่สุด เห็นจะเป็น
ช่วงที่บอกว่า . . . . .
ตอนนั้นบรรยากาศเริ่มมืดแล้ว
แต่ยังมีเสียงปืนดังระงมไปทั่วที่สะพานผ่านฟ้า
เขาบอกให้แกนนำเสื้อแดงที่เหลือไปตามพี่น้องเสื้ือแดง
กลับมาให้หมดและเขาจะขอประกาศยุติการชุมนุม
เพราะเขาปล่อยให้พีน้องประชาชนเสียชีวิตอีกไม่ได้แล้ว
แต่เสียงกระสุนปืน ก็ไม่ได้เงียบลงเลย
ที่หลังเวที มีพี่น้องเสื้อแดงถูกหามมาด้วยอาการบาดเจ็บ
โดนยิง คนแล้วคนเล่า มีญาติพี่น้องร้องไห้กันระงมไปทั่ว
มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งอุ้มลูกเล็กออกมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใส่รองเท้า
เพราะรีบมาเมื่อได้ยินทางทีวีประกาศรายชื่อสามีเป็นหนึ่ง
ในผู้ที่เสียชีวิตไป . . .
ทั้งเลือด ทั้งน้ำตา ของพี่น้องประชาชน
เขาบอกว่า . . .น้ำตาเขาจะไหลออกมา
แต่เขาไม่สามารถปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาได้เลย
เพราะถ้าหากแกนนำของพวกเขายังร้องไห้
แล้วพี่น้องประชาชนที่กำลังร้องไห้
จะมีใครปลอบโยนและเป็นกำลังใจให้เขา
เพราะฉะนั้น เขาจะร้องไห้ไม่ได้เลย . .เขาต้องเข้มแข็ง
เขากลับมาบ้านในคืนนั้น
มันเป็นคืนที่หนักหนาสาหัสที่สุดสำหรับเขา
เขาทิ้งตัวลงบนที่นอนเหมือนกับร่างกายมันจะน็อคไปเลย . . .
คืนนั้น อภิสิทธิ์ ก็บอกว่าเขาร้องไห้เสียใจกับภรรยา
สุเทพ ก็ร้องไห้ เพราะเสียใจทีเห็นอภิสิทธิ์ร้องไห้
(จากคำบอกเล่าในการปราศรัยของเขา)
สุเทพ อาจจะเห็นอกเห็นใจตัวเองหรือ
เห็นใจอภิสิทธิ์ แต่เขาไม่รู้ว่าในใจสุเทพ
และอภิสิทธิ์ เคยสำนึกเสียใจ กับการสูญเสีย
หรือมีส่วนร่วมรับผิดชอบ และสั่งการ
สังหารประชาชนที่ล้มตายไปกว่า 100 ชีวิตใน
วันนั้นบ้างไหม
เราไม่เคยได้ยินคำว่า ขอโทษ ประชาชน
หรือเสียใจ จากปากของสองคนนี้เลย
ในการกระทำของเขา
วันที่ 10 เมษายน 2553
.............................................
เราเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจดีถึงความรู้สึกของคน
ที่อยากร้องไห้ แต่ต้องกล้ำกลืนน้ำตาไว้ภายใน
ไม่อาจร้องไห้ออกมาได้ ....
ผู้คนเช่นนี้ย่อมเข้มแข็งมาก
และความเศร้าและสะเทือนใจของเขา
มันต้องถูกเก็บกดอยู่ข้างใน ...
มันมากยิ่งกว่าคนที่พร้อมที่จะหลั่งน้ำตา
เป็นทำนบ เรียกน้ำตาหรือความสงสารจากประชาชน
โดยที่การกระทำของเขาไม่ได้แสดงให้เห็น
ถึง ความรู้สึกสำนึกผิด หรือสงสารประชาชนด้วยใจจริงเลย
>>> เมือคืนฟังณัฐวุฒิพูด . . คืนวันที่ 10 เมษายน 53 เขาร้องไห้ไม่ได้ >>>
เจอณัฐวุฒิ กำลังพูดบนเวที พอดี
ย้อนอดีต เล่าเรื่องเหตุการณ์ต่างๆ
เมื่อ วีระชนคนไทย เสียชีวิตมากมาย
พร้อมข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้ก่อการร้าย . . .
ณัฐวุฒิฯ เล่ามาเรื่อยๆ เราก็ฟังเฉยๆ
เพราะพอรู้เรื่องมาบ้างแล้ว ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร
แต่จุดที่สะเทือนใจที่สุด เห็นจะเป็น
ช่วงที่บอกว่า . . . . .
ตอนนั้นบรรยากาศเริ่มมืดแล้ว
แต่ยังมีเสียงปืนดังระงมไปทั่วที่สะพานผ่านฟ้า
เขาบอกให้แกนนำเสื้อแดงที่เหลือไปตามพี่น้องเสื้ือแดง
กลับมาให้หมดและเขาจะขอประกาศยุติการชุมนุม
เพราะเขาปล่อยให้พีน้องประชาชนเสียชีวิตอีกไม่ได้แล้ว
แต่เสียงกระสุนปืน ก็ไม่ได้เงียบลงเลย
ที่หลังเวที มีพี่น้องเสื้อแดงถูกหามมาด้วยอาการบาดเจ็บ
โดนยิง คนแล้วคนเล่า มีญาติพี่น้องร้องไห้กันระงมไปทั่ว
มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งอุ้มลูกเล็กออกมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใส่รองเท้า
เพราะรีบมาเมื่อได้ยินทางทีวีประกาศรายชื่อสามีเป็นหนึ่ง
ในผู้ที่เสียชีวิตไป . . .
ทั้งเลือด ทั้งน้ำตา ของพี่น้องประชาชน
เขาบอกว่า . . .น้ำตาเขาจะไหลออกมา
แต่เขาไม่สามารถปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาได้เลย
เพราะถ้าหากแกนนำของพวกเขายังร้องไห้
แล้วพี่น้องประชาชนที่กำลังร้องไห้
จะมีใครปลอบโยนและเป็นกำลังใจให้เขา
เพราะฉะนั้น เขาจะร้องไห้ไม่ได้เลย . .เขาต้องเข้มแข็ง
เขากลับมาบ้านในคืนนั้น
มันเป็นคืนที่หนักหนาสาหัสที่สุดสำหรับเขา
เขาทิ้งตัวลงบนที่นอนเหมือนกับร่างกายมันจะน็อคไปเลย . . .
คืนนั้น อภิสิทธิ์ ก็บอกว่าเขาร้องไห้เสียใจกับภรรยา
สุเทพ ก็ร้องไห้ เพราะเสียใจทีเห็นอภิสิทธิ์ร้องไห้
(จากคำบอกเล่าในการปราศรัยของเขา)
สุเทพ อาจจะเห็นอกเห็นใจตัวเองหรือ
เห็นใจอภิสิทธิ์ แต่เขาไม่รู้ว่าในใจสุเทพ
และอภิสิทธิ์ เคยสำนึกเสียใจ กับการสูญเสีย
หรือมีส่วนร่วมรับผิดชอบ และสั่งการ
สังหารประชาชนที่ล้มตายไปกว่า 100 ชีวิตใน
วันนั้นบ้างไหม
เราไม่เคยได้ยินคำว่า ขอโทษ ประชาชน
หรือเสียใจ จากปากของสองคนนี้เลย
ในการกระทำของเขา
วันที่ 10 เมษายน 2553
.............................................
เราเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจดีถึงความรู้สึกของคน
ที่อยากร้องไห้ แต่ต้องกล้ำกลืนน้ำตาไว้ภายใน
ไม่อาจร้องไห้ออกมาได้ ....
ผู้คนเช่นนี้ย่อมเข้มแข็งมาก
และความเศร้าและสะเทือนใจของเขา
มันต้องถูกเก็บกดอยู่ข้างใน ...
มันมากยิ่งกว่าคนที่พร้อมที่จะหลั่งน้ำตา
เป็นทำนบ เรียกน้ำตาหรือความสงสารจากประชาชน
โดยที่การกระทำของเขาไม่ได้แสดงให้เห็น
ถึง ความรู้สึกสำนึกผิด หรือสงสารประชาชนด้วยใจจริงเลย