อยากให้คนเป็นลูกได้ฟังไว้นะครับ

เมื่อต้นเดือนผมได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพราะเพื่อนบ้านโทรมาบอกว่า แม่บุญธรรมของผม ขาบวมเพราะตกบันได ด้วยความเป็นห่วงแล้วงง ว่าทำไมแม่ไม่โทรมาบอกผมเองหรืออย่างไร ผมเลยตัดสินใจกลับบ้านไปให้เร็วที่สุดหลังจากที่รู้ข่าว เมื่อผมไปถึงบ้านเห็นแม่ขาบวมมาก ผมก็ตกใจ ส่วนตจัวแม่เองแม่ก็ตกใจ ว่าทำไมผมมาเร็วกว่าที่เคยบอกไว้ (คือผมต้องไปทำเรื่องผ่อนผันทหารด้วยครับ แต่ไม่ได้คิดจะไปเร็ว เพราะทำงานพาร์ทไทม์อยุ่แถว มหาลัยครับ) ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรแค่แกเห็นผมมองขาของแม่ แม่ผมก็รีบบอกก่อนเลยว่า "มองทำไม ไม่เป็นไรมากหรอก แค่บวมช้ำๆ เดี๋ยวก็หาย" แม่ผมเป็นคนพูดจาห้าวๆ หน่อย ตรงๆ ตามสไตล์ ญ แกร่งนะครับ ผมด้วยความเพลีย เลยขอตัวนอนก่อนไปโดยตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะพาแม่ไปหาหมอที่สาธารณสุข ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือตังอยู่ 4 500 ก็คงพออยู่

พอตื่นเช้ามาอีกวัน ผมก็แต่งตัว แต่มองหาแม่ก็มองไม่เห็นไม่รู้หายไปไหน ก็เลยได้ข่าวว่าไปนั่งคุยอยู่ที่บ้านป้าข้างๆ
ผมเลยตามไป เพื่อจะไปบอกแม่ว่าจะพาไปสาธารณสุข
ผม : แม่ไปหาหมอให้เค้าตรวจหน่อย เดี๋ยวยืมรถน้าไป
แม่ : ไม่ไป จะไปทำไมไม่ได้จะตายซักหน่อย
ผม : ไปเถอะ ให้หมอเขาดูหน่อย ทิ้งไว้เป็นไรมาไม่ดีนะ
แม่ : เออ ไอนี่ก็กูไม่ไป เปลืองเงินเปลืองทองบอกกินยาเดี๋ยวเดียวก็หาย จะมาเซ้าซี้ทำไม

แล้วแกก็กะเผลกๆ เดินกลับมาบ้าน
ผม : แม่ไปแต่งตัวดิ เดี๋ยวไปเอารถน้าแปบนึงนะ
แม่ : ก็กูบอกไม่ไปไง แม่ไม่เป็นไร ก็นี่ยังเดินได้ เองเก็บตังไว้เถอะ
ผม : ก็นี่ก็อยากให้ไปไงเกิดเป็นไรมากใครจะอยู่ดูแลละ เดี๋ยวก็กลับกรุงเทพแล้ว

แล้วแม่ก็เรียกผมไปนั่งข้างๆ แก
แม่ : เองรู้ไหม แค่เองกลับมาบ้าน แม่ก็ดีใจแล้ว เงินเองอะเก็บไว้เถอะ ตัวแม่เองรู้ตัวเองน่าว่ามันไม่เป็นไร แม่รู้เองเรียนเองไปลำบาก ปิดเทอมทำงานก็เก็บเงินไว้เรียนนะ แม่ไม่มีปัญญาส่งเองหรอก ไม่มีเงินก็อดมื้อกินมื้อไปนะลูก
ผม : แล้วถ้าแม่มันเป็นอะไรไป แม่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะแม่ (คือขาแกบวมช้ำๆ ตรงช่วงหัวเข่ามาก แล้วแม่ผม อายุ54 แล้วด้วย)
แม่ : เองจำคำแม่ไว้ให้ดีนะ "ถ้าเกิดวันนี้พรุ่งนี้แม่เป็นอะไรไป เอ็งก็ต้องอยู่ให้ได้ เรียนให้ได้มากที่สุดสิ่งเดียวที่เอ็งจะมีได้คือความรู้ แม่ไม่มีปัญญาส่ง แต่แม่รู้ว่าเองหาเรียนเองได้ ใจแม่ก็อยากเห็นลูกอยู่ดีกินสบายนะ แต่แม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงแหละลูกเอ้ย ที่แม่ไม่อยากโทรบอกก็เพราะงี้ ไม่อยากให้ลูกเป็นห่วง ไม่ว่าแม่จะมีเรื่องทุกข์ใจขนาดไหนก็ขอเก็บไว้คนเดียวดีกว่า แล้วนี่เองยังต้องมาแบ่งเงินมารักษาแม่อีก ไม่ต้องหรอกนะ 3-400 ก็ตังนะลูก เองอยู่ซื้อกินในกรุงเทพได้ ตั้งหลายมื้อ อย่าเอาเงินมาทิ้งเลย อนาคตมันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกนะ เราต้องก้าวไปข้างหน้า เอาตัวเองให้รอด อย่าคิดถึงแม่ให้มากนักเลยนะ"
พอถึงตรงนี้ผมก็ร้องไห้เป็นวักเป็นเวง ผมก็รักเขาเหมือนแม่คนนึงเลย เพราะผมไม่เคยมีแม่มาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็ได้แต่คิดอยากให้แม่ไปหาหมอ แต่แม่ยืนกรานขนาดนี้ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง คำที่แม่พูดมาก็ยิ่งตอกย้ำให้เราต้องตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดอย่างที่แม่คาดหวัง นี่อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่ผมพอจะให้กับแม่ได้
ก็อยากจะฝากถึงคนที่มีโอกาสได้เรียนสบายๆ ผลาญเงินพ่อเงินแม่ไปวันๆ บางคนก็เที่ยวเล่นไปวันๆ(เพื่อนผมนี่ตัวดีเลย) ช่วยตั้งใจเรียนเถอะครับ ถือว่าเรียนเผื่อคนที่เขาไม่มีโอกาส หรือคนที่เขามีโอกาสแต่ขาดการสนับสนุนเถอะครับ ถ้าคุณมาเจอชะตาชีวิตแบบผม คุณจะรู้เลยว่าโอกาสในมือคุณมันมากขนาดไหน ไม่อยากให้ต้องมาเสียใจภายหลัง ที่สำคัญรักพ่อรักแม่ให้มากๆนะครับ อย่างที่แม่ผมบอก สิ่งที่ลูกๆควรทำคือทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองอยู่รอด ในวันที่ไม่มีพ่อแม่แล้ว

อุย ขึ้นกระทู้แนะนำด้วย ก็อยากจะขอบคุณทุกความเป็นห่วงนะครับ วันนี้ลองโทรไปถามป้าเพื่อนบ้าน เขาก็บอกว่า ขาที่ไม่ได้บวมมมากขึ้น ผมก็วางใจไปเปราะหนึ่ง ส่วนตัวผมกลับมา กทม มาทำงานตั้งแต่วันที่โพสข้อความนี่แล้ว ยังไงก็ขอบคุณทุกความเป็นห่วงครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่