เรื่องนี้แต่งขึ้น เป็นเรื่องสมมุติ ตามจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิงใดๆนะคะ
ขอขอบคุณ คุณโยโกะ คามิโอะ ผู้เขียน Hana Yori Dango ต้นฉบับแห่งแรงบันดาลใจ
นายหญิงแห่งเตมีย์กรุ๊ป
ทานตะวัน
เตชินท์ เตมีย์อภิทรัพย์วณิชย์
ณาวา กฤษจาวรนันท์ (Snowman)
คิรินท์ อินทราชัยพิศุทธิ์ หรือนายน้อยรินท์
หม่อมราชวงค์พศวีย์ สิริเมฑาวรกุล ชายวีย์แห่งวังสิริเมฑา
พี่แพร แพรธารา
เดียร์น่า ดิษยา
Fever 4 (F4 THAILAND) #1
http://ppantip.com/topic/30896810
Fever 4 (F4 THAILAND) #2
http://ppantip.com/topic/30922852
Fever 4 (F4 THAILAND) #3
http://ppantip.com/topic/30984872
Fever 4 (F4 THAILAND) #4
http://ppantip.com/topic/31008854
Fever 4 (F4 THAILAND) #5
http://ppantip.com/topic/31040591
Fever 4 (F4 THAILAND) #6
http://ppantip.com/topic/31084221
Fever 4 (F4 THAILAND) #7
http://ppantip.com/topic/31132233
Fever 4 (F4 THAILAND) #8
http://ppantip.com/topic/31162427
Fever 4 (F4 THAILAND) #9
ท่ามกลางความเคว้งคว้างในหัวสมองของทานตะวัน เธอไม่อาจรู้ได้ว่าตอนนี้เธออยู่ในที่แห่งใด สติของเธอที่ดับวูบไปเหมือนจะกลับคืนมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงกระซิบที่เหมือนกับผู้หญิงหลายคนแอบคุยกันอยู่ข้างๆตัวเธอ ที่กำลังนอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง
"หน้าเนียนมากเลย"
"ขนาดหน้าสด ยังใสได้ขนาดนี้"
"ลูกคุณหนูก็อย่างนี้แหละ"
"ไม่น่าจะใช่นะ จากการแต่งตัว มอมแมมมาก ของแบร์นเนมสักชิ้นก็ไม่มี"
"นี่ระวังปากหน่อย ถ้าคุณเตชินท์ได้ยิน ได้ออกจากงานก่อนที่จะได้อ้าปากอธิบายนะ สอนไม่รู้จักจำ"
"โดนไล่ออก ก่อนที่จะได้อ้าปากอธิบาย ....เตชินท์ " สติของทานตะวันค่อยๆคืนกลับมาหลังจากได้ยินชื่อนี้
ทานตะวันลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ เธอสะดุ้งตกใจไม่น้อยไปกว่า คนรับใช้ของเตชินท์ ที่กำลังรุมล้อมรอบๆตัวเธออยู่
"คุณเป็นใคร พวกคุณกำลังทำอะไร" ทานตะวัน ที่นอนอยู่เธอรีบเอามือมาปิดแนบอกเพื่อป้องกันตัวเอง
"อยู่เฉยก่อนนะคะคุณ ถ้าพวกเราทำงานไม่เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ พวกเราตกงานกันหมดแน่ ถือว่าขอร้องเถอะนะคะ" หนึ่งในคนแปลกหน้าขอร้องทานตะวันอย่างอ้อนวอน แม้จะสับสนบ้างเล็กน้อย แต่พอเธอได้ยินชื่อของเตชินท์ เธอก็พอที่เดาเรื่องราวทั้งหมดได้บ้าง
เวลาผ่านไป ทานตะวันยืนมองตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ เธอแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น นี่ตัวเธอ หรือ ใครกันนะ เครื่องสำอาง และเสื้อผ้า ทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวหรอ
เตชินท์ ที่กำลังแอบมองอยู่ เขาเผลอยิ้มอย่างภูมิใจอยู่ไม่น้อย ที่เขาเลือกคนไม่ผิด เขาไม่คิดเลยว่า ยัยคนอวดเก่ง ก็สวยและน่ารักมากทีเดียว ทานตะวันเริ่มรู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ข้างหลัง เธอจึงหันหลังกลับมา พอเห็นว่าเป็นเตชินท์ยืนอยู่ ก็ตกใจแต่แอบเขินเสียมากกว่าที่เขาเห็นเธอในสภาพแบบนี้ เพราะขนาดเธอก็ยังเขินตัวเองเมื่อได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของในกระจก
เตชินท์ เองก็ทำตัวไม่ถูก เขาละสายตาไปทางอื่น เพราะกลัวคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะรู้ตัวว่า
เขากำลังแอบชอบเธออยู่
ทานตะวันเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ ให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
"สิ่งที่นายทำ มันล้ำเส้นเกินไปแล้วนะ" ทานตะวันเริ่มเปิดศึกทันที
เตชินท์ยกมือห้ามให้หยุด
"วันนี้อารมณ์ดี ไม่อยากชวนทะเลาะ" เตชินท์บอกก่อนจะยักคิ้วส่งสัญญาณให้เธอเดินตามเขามา
ทานตะวันมองเขาอย่างไม่พอใจซึ่งเตชินท์เองก็รู้ดี ทานตะวันเดินตามเตชินท์มาที่ห้องโถงใหญ่ วิวด้านนอกที่เป็นสวนตกแต่งอย่างสวยงามทำให้เธออดที่จะมองอย่างชื่นชมไม่ได้
"สวยจัง" ทานตะวันอุธานออกมาอย่างลืมตัว
"ใช่... สวย" เตชินท์ออกความเห็นบ้างแต่สายตาเขาไม่ได้มองไปที่สวนสวยนั่นเลย
ทานตะวัน หันหน้ากลับมา สบสายตากับเตชินท์อย่างไม่รู้ตัว แต่ในครั้งนี้เธอยอมแพ้ให้กับสายตาของเขา เธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายหลบตาเขาแทน เตชินท์เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ยิ้มอย่างพอใจ ที่เขาพอจะปราบม้าพยศอย่างเธอได้บ้าง
"มาเป็นผู้หญิงของฉันนะ" เตชินท์รวบรวมความกล้า ถามทานตะวันตามตรง แต่เพราะเขาไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใคร ทำให้น้ำเสียงของเขาเหมือนเป็นคำสั่งเสียมากกว่าที่จะเป็นคำขอร้อง
"-------------------------------" ทานตะวันได้แต่ยืนอึ้งในสิ่งที่ตัวเองกำลังได้ยิน เตชินท์ก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน ก่อนจะตัดสินใจพูดต่อ
"บ้าน คอนโด ที่ดิน รถยนต์ และ บัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงิน แค่นี้คงทำให้เธอพอมีความสุข ที่ได้มาเป็นคนของฉันนะ"
"------------------------------" ทานตะวันยังคงยืนมองหน้าเตชินท์ และไม่พูดอะไร เห็นอย่างนั้น อีกฝ่ายยิ่งประหม่า ก่อนจะกลั้นใจพูดต่อ
"และ และเธอจะได้เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของเตมีย์กรุ๊ป ถ้าเธอยอมที่จะแต่ง........แต่งงานกับฉัน"
ทานตะวันได้แต่ถอนหายใจ ให้กับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เตชินท์เริ่มสูญเสียความมั่นใจขึ้นมาทันที
"นี่ มันน้อยไปหรือยังไง งั้นบอกฉันมา เธอต้องการมากแค่ไหน เพื่อแลกกับการ .....เดินตามฉัน คอยอยู่ข้างหลังฉัน" เตชินท์ยังไม่ลดความเอาแต่ใจ
"เดินตามฉัน.........อยู่ข้างหลังฉัน นี่นายกำลังเล่นตลกอะไร รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา ที่ฉันทุ่มนายวันนั้นเลยทำให้สมองนายเป็นแบบนี้ใช่มั้ย" ทานตะวันบอกกับเตชินท์อย่างเหลืออด เตชินท์ได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มที่จะโมโหเหมือนเด็กโดนขัดใจ
"เรื่องตลกงั้นหรอ เธอคิดว่าเรื่องจริงจังของฉัน เป็นเรื่องตลกอย่างนั้นหรอทานตะวัน" เตชินท์ถามอย่างโมโห
"
จริงจัง...ผู้หญิงของฉัน...แต่งงาน นายอย่าพูดคำพวกนี้ออกมาถ้านายไม่รู้สึกอะไร และไอ้คำว่าจริงจังของนายคงใช่ได้ผลกับของเล่นที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่ฉัน" ทานตะวันบอกอย่างโมโหไม่แพ้กัน
"ฉันไม่ใช่คนอย่างที่เธอคิดนะ" เตชินท์อยากจะเถียงแต่เขาไม่รู้จะพูดอย่างไร ให้คนตรงหน้าเชื่อว่าเขาไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน
"ฉันไม่เคยคิดว่าเข้าใจนายผิด ฉันเข้าใจนายถูกมาตลอดว่านายเป็นคนยังไง ยิ่งสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันยิ่งทำให้ฉันมั่นใจ" ทานตะวันเถียงอย่างไม่ลดละ ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร คราวนี้เตชินท์เป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจเสียเอง
"การมาเป็นผู้หญิงของฉันมันทำให้เธออายคนอื่นมากเลยใช่มั้ย เธอถึงไม่ยอมท่าเดียวแบบนี้" เตชินท์ถามตามตรงอย่างหวั่นใจ
"ใช่" ทานตะวันตอบอย่างไม่คิด แค่คำพูดสั้นๆกับทำให้เตชินท์เจ็บจนพูดไม่ออก
"ฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยหรือไง" น้ำเสียงและท่าทีของเตชินท์เริ่มที่จะเบาลง
"ใช่" ทานตะวันตอบอย่างไม่ต้องคิดอีกเช่นกัน เตชินท์มองหน้าทานตะวันอย่างน้อยใจ สีหน้าของเขาเริ่มสลด ทานตะวันเริ่มรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
"นายก็แค่อยากเอาชนะ" ทานตะวันพูดในสิ่งที่เธอรู้สึก
"ทำไมถึงคิดแบบนั้น" เสียงของเตชินท์อ่อนลงเหมือนกับความมั่นใจของเขา
"นายยังไม่รู้จักฉันดีพอด้วยซ้ำ" ทานตะวันอธิบาย
"รู้" เตชินท์เถียง ก่อนจะมองหน้าทานตะวันอย่างจริงจัง ทานตะวันก็มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
"เธออยู่กับพ่อ แม่ และ น้องชาย ในบ้านหลังเล็กชั้นเดียว เธอต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวอยู่หลายที่นอกเหนือจากร้านเบเกอรี่ เธอเป็นคนขยัน เข้มแข็งและไม่ยอมใคร และที่เธอมาเรียนที่เตมีย์ยู เพราะเธอต้องการทำงานกับบริษัทของฉันทันทีหลังจากที่เธอเรียนจบ"
เตชินท์พูดจบก็มองหน้าอีกฝ่ายอย่างสื่อความหมาย ทานตะวันรู้สึกแปลกๆที่เข้ารู้เรื่องส่วนตัวของเธอ
"มันไม่พอหรอกเตชินท์ การที่คนสองคนจะรักหรือชอบกัน รู้จักกันแค่นี้ มันไม่พอหรอกนะ" ทานตะวันพยายามให้เหตุผล
"ก็มาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นสิ ฉันให้เธอได้มากกว่าที่เธอคิดนะ" เตชินท์เริ่มที่จะขอร้อง
"ต่อให้มากกว่านี้ ฉันก็ไม่ต้องการ เพราะสิ่งที่ฉันต้องการ นายคงให้ไม่ได้" ทานตะวันบอกอย่างจริงจัง
"อะไร" เตชินท์ถามอย่างสนใจ
"ความรู้สึก...ความรู้สึกที่อยากจะชอบหรือว่ารัก ทุกครั้งที่ฉันมองหน้านาย คือมันไม่มี" ทานตะวันตัดสินใจบอกตามตรง
"หรอ ขนาดนั้นเลยหรอ" เตชินท์เริ่มหมดความมั่นใจ มองหน้าทานตะวันอีกครั้ง ก่อนจะบอกกับเธออย่างอ่อนใจและยอมแพ้ว่า
"รถที่จอดไว้ข้างหน้า ฉันตั้งใจว่าจะให้เธอ ก็ถือซะว่าเป็นค่าเสียหายที่ฉันพาเธอมาที่นี่ ส่วนชุดเครื่องเพชรและเสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่ฉันก็ให้นะ เอาไปได้เลย"
ทานตะวันเริ่มจะรู้สึกดีกับเตชินท์ขึ้นมาบ้างก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้เขาทำให้เธอเหมือนโดนตบเข้าที่หน้า ทานตะวันมองเตชินท์อย่างอ่อนใจเช่นกัน เธอเดินเข้าไปหาเตชินท์ใกล้ๆ ก่อนจะถอดเครื่องประดับที่เธอมีทั้งหมดต่อหน้าเขาและส่งคืน
"ฉันไม่ต้องการอะไรจากนาย ไม่ว่าสิ่งของ หรือว่า ความรู้สึก" ทานตะวันมองเตชินท์อย่างจริงจัง
เตชินท์ได้แต่ยืนมองอย่างสับสนและเจ็บที่หัวใจ การที่จะมีใครสักคนอยู่ข้างกายเขา ทำไมมันถึงได้ยากเย็นนัก ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งได้แต่น้อยใจทานตะวันขึ้นมากทุกทีที่เขาไม่อาจครอบครองเธอได้
ทานตะวันเดินออกมาจากห้อง เธอเดินไปตามทางเพื่อต้องการหาทางออก แต่ยิ่งเดินเธอก็เหมือนเธอยิ่งหลงทาง
"ขอโทษนะคะ มีใครอยู่แถวนี้บ้าง" ทานตะวันตะโกนหาคนช่วย และเดินตามทางไปเรื่อยๆ จนได้เจอกับใครคนหนึ่งเข้า ซึ่งเป็นคนที่เธอจำเขาได้ดี
"คุณณาวา" ทานตะวันเรียกชื่อคนที่เธอเห็น คนที่ถูกเรียกชื่อรู้สึกแปลกตาไม่น้อยที่เห็นเธอแต่งตัวสวยต่างไปจากทุกที
"ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ทานตะวัน" ณาวาถามอย่างแปลกใจ เพราะการที่เขามาที่นี่คือเรื่องปกติ แต่สำหรับทานตะวันมันตรงข้ามกัน
"เรื่องมันยาวค่ะ แต่จะเป็นการรบกวนคุณเกินไปมั้ย ถ้าฉันจะขอร้องคุณให้พาฉันออกไปจากที่นี่" ทานตะวันมองณาวาอย่างอ้อนวอน
ณาวาทำหน้างง แต่พอจะเดาได้ว่า คงเป็นฝีมือของเพื่อนเขาแน่
"ตามฉันมา" ณาวาบอกก่อนที่จะเดินนำออกไป ทานตะวันเดินตามไปอย่างช้าๆ มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นกับเธอในวันนี้ ทั้งดีใจ เสียใจ หรือ ประหลาดใจ จนบางที่เธอก็อดคิดไม่ได้ว่า มันคงไม่ใช่โลกแห่งความจริง ไม่ใช่ที่ที่เธอควรจะอยู่ เธอคิดผิดหรือเปล่าทีทุ่มเทและเลือกที่จะเรียนที่เตมีย์ยู
Fever 4 (F4 THAILAND) โดย Na Patchara #9
Fever 4 (F4 THAILAND) #1 http://ppantip.com/topic/30896810
Fever 4 (F4 THAILAND) #2 http://ppantip.com/topic/30922852
Fever 4 (F4 THAILAND) #3 http://ppantip.com/topic/30984872
Fever 4 (F4 THAILAND) #4 http://ppantip.com/topic/31008854
Fever 4 (F4 THAILAND) #5 http://ppantip.com/topic/31040591
Fever 4 (F4 THAILAND) #6 http://ppantip.com/topic/31084221
Fever 4 (F4 THAILAND) #7 http://ppantip.com/topic/31132233
Fever 4 (F4 THAILAND) #8 http://ppantip.com/topic/31162427
Fever 4 (F4 THAILAND) #9
ท่ามกลางความเคว้งคว้างในหัวสมองของทานตะวัน เธอไม่อาจรู้ได้ว่าตอนนี้เธออยู่ในที่แห่งใด สติของเธอที่ดับวูบไปเหมือนจะกลับคืนมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงกระซิบที่เหมือนกับผู้หญิงหลายคนแอบคุยกันอยู่ข้างๆตัวเธอ ที่กำลังนอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง
"หน้าเนียนมากเลย"
"ขนาดหน้าสด ยังใสได้ขนาดนี้"
"ลูกคุณหนูก็อย่างนี้แหละ"
"ไม่น่าจะใช่นะ จากการแต่งตัว มอมแมมมาก ของแบร์นเนมสักชิ้นก็ไม่มี"
"นี่ระวังปากหน่อย ถ้าคุณเตชินท์ได้ยิน ได้ออกจากงานก่อนที่จะได้อ้าปากอธิบายนะ สอนไม่รู้จักจำ"
"โดนไล่ออก ก่อนที่จะได้อ้าปากอธิบาย ....เตชินท์ " สติของทานตะวันค่อยๆคืนกลับมาหลังจากได้ยินชื่อนี้
ทานตะวันลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ เธอสะดุ้งตกใจไม่น้อยไปกว่า คนรับใช้ของเตชินท์ ที่กำลังรุมล้อมรอบๆตัวเธออยู่
"คุณเป็นใคร พวกคุณกำลังทำอะไร" ทานตะวัน ที่นอนอยู่เธอรีบเอามือมาปิดแนบอกเพื่อป้องกันตัวเอง
"อยู่เฉยก่อนนะคะคุณ ถ้าพวกเราทำงานไม่เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ พวกเราตกงานกันหมดแน่ ถือว่าขอร้องเถอะนะคะ" หนึ่งในคนแปลกหน้าขอร้องทานตะวันอย่างอ้อนวอน แม้จะสับสนบ้างเล็กน้อย แต่พอเธอได้ยินชื่อของเตชินท์ เธอก็พอที่เดาเรื่องราวทั้งหมดได้บ้าง
เวลาผ่านไป ทานตะวันยืนมองตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ เธอแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น นี่ตัวเธอ หรือ ใครกันนะ เครื่องสำอาง และเสื้อผ้า ทำให้เธอเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวหรอ
เตชินท์ ที่กำลังแอบมองอยู่ เขาเผลอยิ้มอย่างภูมิใจอยู่ไม่น้อย ที่เขาเลือกคนไม่ผิด เขาไม่คิดเลยว่า ยัยคนอวดเก่ง ก็สวยและน่ารักมากทีเดียว ทานตะวันเริ่มรู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ข้างหลัง เธอจึงหันหลังกลับมา พอเห็นว่าเป็นเตชินท์ยืนอยู่ ก็ตกใจแต่แอบเขินเสียมากกว่าที่เขาเห็นเธอในสภาพแบบนี้ เพราะขนาดเธอก็ยังเขินตัวเองเมื่อได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของในกระจก
เตชินท์ เองก็ทำตัวไม่ถูก เขาละสายตาไปทางอื่น เพราะกลัวคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะรู้ตัวว่า เขากำลังแอบชอบเธออยู่
ทานตะวันเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ ให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
"สิ่งที่นายทำ มันล้ำเส้นเกินไปแล้วนะ" ทานตะวันเริ่มเปิดศึกทันที
เตชินท์ยกมือห้ามให้หยุด
"วันนี้อารมณ์ดี ไม่อยากชวนทะเลาะ" เตชินท์บอกก่อนจะยักคิ้วส่งสัญญาณให้เธอเดินตามเขามา
ทานตะวันมองเขาอย่างไม่พอใจซึ่งเตชินท์เองก็รู้ดี ทานตะวันเดินตามเตชินท์มาที่ห้องโถงใหญ่ วิวด้านนอกที่เป็นสวนตกแต่งอย่างสวยงามทำให้เธออดที่จะมองอย่างชื่นชมไม่ได้
"สวยจัง" ทานตะวันอุธานออกมาอย่างลืมตัว
"ใช่... สวย" เตชินท์ออกความเห็นบ้างแต่สายตาเขาไม่ได้มองไปที่สวนสวยนั่นเลย
ทานตะวัน หันหน้ากลับมา สบสายตากับเตชินท์อย่างไม่รู้ตัว แต่ในครั้งนี้เธอยอมแพ้ให้กับสายตาของเขา เธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายหลบตาเขาแทน เตชินท์เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ยิ้มอย่างพอใจ ที่เขาพอจะปราบม้าพยศอย่างเธอได้บ้าง
"มาเป็นผู้หญิงของฉันนะ" เตชินท์รวบรวมความกล้า ถามทานตะวันตามตรง แต่เพราะเขาไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใคร ทำให้น้ำเสียงของเขาเหมือนเป็นคำสั่งเสียมากกว่าที่จะเป็นคำขอร้อง
"-------------------------------" ทานตะวันได้แต่ยืนอึ้งในสิ่งที่ตัวเองกำลังได้ยิน เตชินท์ก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน ก่อนจะตัดสินใจพูดต่อ
"บ้าน คอนโด ที่ดิน รถยนต์ และ บัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงิน แค่นี้คงทำให้เธอพอมีความสุข ที่ได้มาเป็นคนของฉันนะ"
"------------------------------" ทานตะวันยังคงยืนมองหน้าเตชินท์ และไม่พูดอะไร เห็นอย่างนั้น อีกฝ่ายยิ่งประหม่า ก่อนจะกลั้นใจพูดต่อ
"และ และเธอจะได้เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของเตมีย์กรุ๊ป ถ้าเธอยอมที่จะแต่ง........แต่งงานกับฉัน"
ทานตะวันได้แต่ถอนหายใจ ให้กับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เตชินท์เริ่มสูญเสียความมั่นใจขึ้นมาทันที
"นี่ มันน้อยไปหรือยังไง งั้นบอกฉันมา เธอต้องการมากแค่ไหน เพื่อแลกกับการ .....เดินตามฉัน คอยอยู่ข้างหลังฉัน" เตชินท์ยังไม่ลดความเอาแต่ใจ
"เดินตามฉัน.........อยู่ข้างหลังฉัน นี่นายกำลังเล่นตลกอะไร รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา ที่ฉันทุ่มนายวันนั้นเลยทำให้สมองนายเป็นแบบนี้ใช่มั้ย" ทานตะวันบอกกับเตชินท์อย่างเหลืออด เตชินท์ได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มที่จะโมโหเหมือนเด็กโดนขัดใจ
"เรื่องตลกงั้นหรอ เธอคิดว่าเรื่องจริงจังของฉัน เป็นเรื่องตลกอย่างนั้นหรอทานตะวัน" เตชินท์ถามอย่างโมโห
"จริงจัง...ผู้หญิงของฉัน...แต่งงาน นายอย่าพูดคำพวกนี้ออกมาถ้านายไม่รู้สึกอะไร และไอ้คำว่าจริงจังของนายคงใช่ได้ผลกับของเล่นที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่ฉัน" ทานตะวันบอกอย่างโมโหไม่แพ้กัน
"ฉันไม่ใช่คนอย่างที่เธอคิดนะ" เตชินท์อยากจะเถียงแต่เขาไม่รู้จะพูดอย่างไร ให้คนตรงหน้าเชื่อว่าเขาไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน
"ฉันไม่เคยคิดว่าเข้าใจนายผิด ฉันเข้าใจนายถูกมาตลอดว่านายเป็นคนยังไง ยิ่งสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันยิ่งทำให้ฉันมั่นใจ" ทานตะวันเถียงอย่างไม่ลดละ ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร คราวนี้เตชินท์เป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจเสียเอง
"การมาเป็นผู้หญิงของฉันมันทำให้เธออายคนอื่นมากเลยใช่มั้ย เธอถึงไม่ยอมท่าเดียวแบบนี้" เตชินท์ถามตามตรงอย่างหวั่นใจ
"ใช่" ทานตะวันตอบอย่างไม่คิด แค่คำพูดสั้นๆกับทำให้เตชินท์เจ็บจนพูดไม่ออก
"ฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยหรือไง" น้ำเสียงและท่าทีของเตชินท์เริ่มที่จะเบาลง
"ใช่" ทานตะวันตอบอย่างไม่ต้องคิดอีกเช่นกัน เตชินท์มองหน้าทานตะวันอย่างน้อยใจ สีหน้าของเขาเริ่มสลด ทานตะวันเริ่มรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
"นายก็แค่อยากเอาชนะ" ทานตะวันพูดในสิ่งที่เธอรู้สึก
"ทำไมถึงคิดแบบนั้น" เสียงของเตชินท์อ่อนลงเหมือนกับความมั่นใจของเขา
"นายยังไม่รู้จักฉันดีพอด้วยซ้ำ" ทานตะวันอธิบาย
"รู้" เตชินท์เถียง ก่อนจะมองหน้าทานตะวันอย่างจริงจัง ทานตะวันก็มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
"เธออยู่กับพ่อ แม่ และ น้องชาย ในบ้านหลังเล็กชั้นเดียว เธอต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวอยู่หลายที่นอกเหนือจากร้านเบเกอรี่ เธอเป็นคนขยัน เข้มแข็งและไม่ยอมใคร และที่เธอมาเรียนที่เตมีย์ยู เพราะเธอต้องการทำงานกับบริษัทของฉันทันทีหลังจากที่เธอเรียนจบ"
เตชินท์พูดจบก็มองหน้าอีกฝ่ายอย่างสื่อความหมาย ทานตะวันรู้สึกแปลกๆที่เข้ารู้เรื่องส่วนตัวของเธอ
"มันไม่พอหรอกเตชินท์ การที่คนสองคนจะรักหรือชอบกัน รู้จักกันแค่นี้ มันไม่พอหรอกนะ" ทานตะวันพยายามให้เหตุผล
"ก็มาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นสิ ฉันให้เธอได้มากกว่าที่เธอคิดนะ" เตชินท์เริ่มที่จะขอร้อง
"ต่อให้มากกว่านี้ ฉันก็ไม่ต้องการ เพราะสิ่งที่ฉันต้องการ นายคงให้ไม่ได้" ทานตะวันบอกอย่างจริงจัง
"อะไร" เตชินท์ถามอย่างสนใจ
"ความรู้สึก...ความรู้สึกที่อยากจะชอบหรือว่ารัก ทุกครั้งที่ฉันมองหน้านาย คือมันไม่มี" ทานตะวันตัดสินใจบอกตามตรง
"หรอ ขนาดนั้นเลยหรอ" เตชินท์เริ่มหมดความมั่นใจ มองหน้าทานตะวันอีกครั้ง ก่อนจะบอกกับเธออย่างอ่อนใจและยอมแพ้ว่า
"รถที่จอดไว้ข้างหน้า ฉันตั้งใจว่าจะให้เธอ ก็ถือซะว่าเป็นค่าเสียหายที่ฉันพาเธอมาที่นี่ ส่วนชุดเครื่องเพชรและเสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่ฉันก็ให้นะ เอาไปได้เลย"
ทานตะวันเริ่มจะรู้สึกดีกับเตชินท์ขึ้นมาบ้างก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้เขาทำให้เธอเหมือนโดนตบเข้าที่หน้า ทานตะวันมองเตชินท์อย่างอ่อนใจเช่นกัน เธอเดินเข้าไปหาเตชินท์ใกล้ๆ ก่อนจะถอดเครื่องประดับที่เธอมีทั้งหมดต่อหน้าเขาและส่งคืน
"ฉันไม่ต้องการอะไรจากนาย ไม่ว่าสิ่งของ หรือว่า ความรู้สึก" ทานตะวันมองเตชินท์อย่างจริงจัง
เตชินท์ได้แต่ยืนมองอย่างสับสนและเจ็บที่หัวใจ การที่จะมีใครสักคนอยู่ข้างกายเขา ทำไมมันถึงได้ยากเย็นนัก ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งได้แต่น้อยใจทานตะวันขึ้นมากทุกทีที่เขาไม่อาจครอบครองเธอได้
ทานตะวันเดินออกมาจากห้อง เธอเดินไปตามทางเพื่อต้องการหาทางออก แต่ยิ่งเดินเธอก็เหมือนเธอยิ่งหลงทาง
"ขอโทษนะคะ มีใครอยู่แถวนี้บ้าง" ทานตะวันตะโกนหาคนช่วย และเดินตามทางไปเรื่อยๆ จนได้เจอกับใครคนหนึ่งเข้า ซึ่งเป็นคนที่เธอจำเขาได้ดี
"คุณณาวา" ทานตะวันเรียกชื่อคนที่เธอเห็น คนที่ถูกเรียกชื่อรู้สึกแปลกตาไม่น้อยที่เห็นเธอแต่งตัวสวยต่างไปจากทุกที
"ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ทานตะวัน" ณาวาถามอย่างแปลกใจ เพราะการที่เขามาที่นี่คือเรื่องปกติ แต่สำหรับทานตะวันมันตรงข้ามกัน
"เรื่องมันยาวค่ะ แต่จะเป็นการรบกวนคุณเกินไปมั้ย ถ้าฉันจะขอร้องคุณให้พาฉันออกไปจากที่นี่" ทานตะวันมองณาวาอย่างอ้อนวอน
ณาวาทำหน้างง แต่พอจะเดาได้ว่า คงเป็นฝีมือของเพื่อนเขาแน่
"ตามฉันมา" ณาวาบอกก่อนที่จะเดินนำออกไป ทานตะวันเดินตามไปอย่างช้าๆ มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นกับเธอในวันนี้ ทั้งดีใจ เสียใจ หรือ ประหลาดใจ จนบางที่เธอก็อดคิดไม่ได้ว่า มันคงไม่ใช่โลกแห่งความจริง ไม่ใช่ที่ที่เธอควรจะอยู่ เธอคิดผิดหรือเปล่าทีทุ่มเทและเลือกที่จะเรียนที่เตมีย์ยู