เลี้ยงลูกจนเสียผัว

เป็นเรื่องจริงตามหัวข้อค่ะ

เลี้ยงลูกเองตลอด 24 ชม. จนลืมใส่ใจสามี ไม่มีเวลาไปเที่ยวด้วยกันสองคน
สุดท้าย สามีไปเจอผู้หญิงในที่เที่ยวกลางคืน เด็กกว่า ช่างเอาอกเอาใจกว่า กู่ไม่กลับจ้าาาาาา..

อยากประสปการณ์ของตัวเอง เป็นอุทาหรณ์ให้กับแม่ๆทุกคน ก่อนที่จะต้องเสีย ปั๋ว ไปแบบเดียวกัน

หน้าที่แม่ไม่ขาดตกบกพร่องก็จริง แต่ก็อย่าลืมหน้าที่เมียด้วย


ปล. ฝากถึงคุณผู้ชายด้วย อยากให้คุณเข้าใจว่า หน้าที่แม่ ไม่ใช่แค่อยู่บ้านเลี้ยงลูก ง่ายๆแบบที่คุณคิด
คุณยังได้ออกไปนอกบ้าน ทำงาน มีสังคม ได้เตะบอล สังสรรค์กับเพื่อน
แต่ผู้หญิงคนนึง ยอมทิ้งงานที่ตัวเองรัก ทิ้งชีวิตส่วนตัว เพื่อลูก เพื่อคุณ
อยากให้ลดความเห็นแก่ตัวลง และพยายามเข้าใจกันมากขึ้น

ขอให้ทุกครอบครัวมีแต่ความสุขจ้าาาา^^


....ขยายตวามเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ ที่ต้องเลี้ยงลูกเองตลอด24 ชม. เพราะ
1.ไม่มีปู่ย่าตายาย หรือพี่เลี้ยงค่ะ
2.สามีทำอาชีพที่เริ่มงานและเลิกงานไม่เป็นเวลาค่ะ ไปเช้ามาก บางวันกลับดึกมาก กลับมาก็เหนื่อยมาก ไม่ได้ช่วยเลี้ยงลูกเท่าไหร่ค่ะ
3.ลูกยังเล็กมาก ไม่สามารถขับรถไปไหนมาไหนสองคนม่ลูกได้เพราะกลัวอันตรายจากอุบัติเหตุค่ะ
4.ที่อยู่เป็นแฟลชห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่มีแม้กระทั่งเพื่อนบ้านค่ะ เหงามากกกกกกกกก
5.ระหว่างที่ลูกหลับต้องรีบทำงานบ้าน ทำอาหาร ทำความสะอาดบ้าน ทำงานด้วยค่ะ(ขายของออนไลน์ บางวันแพคของด้วยค่ะ)

ชีวิตมันไม่ง่ายเหมือนที่ใครๆ หรือแม้กระทั่งสามีของตัวเองคิดหรอกค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เป็นกำลังใจให้นะคะ เดี๋ยววันนึงสามีของคุณจะคิดได้ว่าใครดีกับเขาที่สุด จะเร็วจะช้าอยู่ที่จิตใต้สำนึกของคนค่ะ  ก็คิดซะว่าเสียคนเห็นแก่ตัวไป เพื่อแลกกับหนึ่งชีวิตที่เขารักเราที่สุด รักแบบไม่มีวันเลิกรักหรือนอกใจไปตลอดชีวิต  

สู้ๆค่ะ   เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
ทำไมผู้หญิงถึงต้องเก่งไปเสียทุกอย่าง
ลูกก็ต้องเลี้ยง ผัวก็ต้องเอาใจ

ทำไมผู้ชายหลายคนถึงพัฒนาการถดถอย
พอมีลูกเข้าหน่อย หน๊อย ทำตัวเป็นลูกคนโต อิจฉาน้อง

ประสบการณ์ตรงของตัวเองเช่นกัน
เพราะได้ผัวที่ไม่สามารถพัฒนาตัวเองเป็นผู้ให้ หรือผู้นำครอบครัวได้
ความคิดเห็นที่ 14
ไม่รู้สิคะ เรากลับคิดว่าผู้หญิงที่เอาแต่เลี้ยงลูกอย่างเดียวจนละเลยสามีเป็นผู้หญิงที่ไร้ความสามารถในการจัดการค่ะ

เข้าใจนะว่าต้องการทุ่มเทเพื่อลูก (เราเองก็กำลังท้อง จะคลอดเร็วๆนี้แหละ) แต่ถามว่าการที่ทุ่มเวลาทั้งหมดให้ลูก จนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ดูแลสามี มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้วเหรอ?

คนเราแต่งงานกันเพื่ออะไร ไม่ใช่เพื่อความรักและเพื่อดูแลกันและกันเหรอ? เราแต่งงานกับสามี โลกของเราถูกแบ่งเป็นโลกส่วนตัวของเราเองกับโลกที่เราใช้เวลาร่วมกับสามี และคิดว่าเมื่อลูกคลอด เราจะแบ่งเวลาให้เป็น 3 ส่วน คือ โลกส่วนตัว โลกของเรากับสามี และโลกของลูก  ทำไมหลายๆคนถึงเลือกใช้เวลาทั้งหมดไปกับลูกแทนล่ะ?

คนเราแต่งงานกัน เป็นสามีภรรยากัน และไหงพอมีลูกจะทำหน้าที่แม่แค่อย่างเดียวล่ะ หน้าที่ภรรยาไปไหน? ถ้าคุณไม่ทำหน้าที่ภรรยา จะไปโทษว่าสามีไม่ทำหน้าที่สามี ...มันไม่แปลกไปหน่อยหรือคะ?

คำก็ว่าผู้ชายเลว ผู้ชายไม่ดี แต่ลองมองมุมกลับดูหรือยังว่าผู้ชายก็ยังคงต้องการ "ภรรยา" แต่ภรรยากลับไม่สามารถตอบสนองได้ ยังเรียกว่าเป็นภรรยาได้อีกเหรอ? (ไม่นับผู้ชายที่เจ้าชู้เป็นสันดานนะคะ)
ความคิดเห็นที่ 41
อ่านจบแล้วเราว่าแยกเป็น 2 กรณีนะคะ
กรณีแรกคือเลี้ยงลูกคนเดียว สามีไม่ช่วย(เลย) อันนี้ไม่แปลกหรอกค่ะ ที่จะไม่มีเวลาให้คุณสามี เพราะกระทั่งเวลาให้กับตัวเอง ก็แทบจะไม่เหลือแล้วค่ะ
และในเมื่อคุณสามียังไม่มาช่วยดูแลลูกเลย เราว่าจะมาเรียกร้องให้ภรรยาสนใจตัวเองบ้างก็ไม่ถูกนะคะ

ส่วนกรณีที่สอง สามีผลัดเปลี่ยนช่วยเลี้ยง ไม่ว่าจะช่วยกันเลี้ยงด้วยกันทั้งวัน หรือช่วยผลัดเปลี่ยนหลังกลับมาจากทำงาน
กรณีนี้ถ้าภรรยาไม่มีเวลาเอาใจใส่สามีเลยก็น่าน้อยใจค่ะ ไม่ควรอ้างว่าไม่มีเวลานะคะ เรียกว่าจัดสรรเวลาเองไม่เป็นมากกว่า

บางคนบอกว่าเลี้ยงลูกคนเดียว ไม่เห็นต้องเฝ้า 24 ชั่วโมงก็ได้
เวลาลูกหลับก็ไปทำเรื่องส่วนตัว
จริงค่ะ ว่าเวลาลูกหลับเป็นนาทีทองที่จะให้คุณแม่เลี้ยงคนเดียวได้ทำธุระหลายสิ่งที่กองอยู่
แต่เชื่อมั้ยคะ ว่าเราปล่อยเด็กให้นอนแบบวางใจไม่ได้จริงๆ
ไปทำธุระส่วนตัวก็พะวงว่าลูกจะตื่นมั้ย หรือตอนเด็กมากก็กังวลว่าลูกจะพลิกตัวมั้ย เดี๋ยวหายใจไม่ออก
ยิ่งเห็นข่าวเด็กพลิกหัวเอง หายใจไม่ออกเสียชีวิตยิ่งจิตตกค่ะ กังวลไปหมด
หลายครั้งที่คิดว่าลูกหลับจะซักผ้า จะล้างขวดนม จะไปทำกับข้าว และอื่นๆๆๆที่ยังไม่เสร็จ
ถึงเวลาจริงๆ บางทีแค่ล้างขวดนม ยังไม่ทันจะเสร็จลูกก็ร้องแล้วค่ะ

เลี้ยงลูกมันไม่ได้ง่ายเหมือนกันทุกคู่นะคะ ถ้าลูกใครเลี้ยงง่ายเราขอยินดีด้วยจากใจจริงเลยค่ะ คุณโชคดีมากค่ะ

ถ้าคุณสามีบอกว่าทำงานมันเหนื่อย เลี้ยงลูกสบายกว่าเยอะ นี่บอกตรงๆค่ะ
ถ้าคุณไม่ได้ทำอาชีพแบกหิน ขนทรายกลางแดดแล้วล่ะก็ คุณคิดผิดแล้วค่ะ เพราะถ้าลูกคุณเลี้ยงยากนี่ยิ่งเหนื่อยมากกกกกกนะคะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าครอบครัวคุณจะพร้อมหรือไม่พร้อมในการมีลูก แต่เมื่อลูกเกิดออกมาแล้ว มันเป็นหน้าที่ที่ต้องช่วยกันเลี้ยงค่ะ ไม่ใช่หน้าที่ภรรยา หรือหน้าที่สามี
แต่มันเป็นสำนึกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ค่ะ
สัญชาตญาณของความเป็นพ่อเป็นแม่จะบอกเองว่าสุดท้ายแล้วความสุข ความปลอดภัยของลูกมาก่อนความสุข ความบรรเทิงของตัวเองแน่นอนค่ะ

ปล. เรายังไม่มีลูกนะคะ แต่เราเข้าใจความรู้สึกดี เพราะเราเลี้ยงหลานคนเดียวมาตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล คุณพ่อคุณแม่น้องต้องกลับไปทำงาน เราเลี้ยงคนเดียว ทั้งวันทั้งคืนนอนด้วยกัน เหมือนเป็นลูกตัวเองนี่แหละค่ะ
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นกำลังใจให้นะคะ เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องออกจากงานมาเพื่อเลี้ยงลูก มันเป็นงานที่เรารักมาก ทำมา 6 ปี นอนร้องไห้เกือบ 2 เดือน ไม่ใช่ว่าไม่อยากดูแลลูกนะคะ แต่มันก็อดใจหายไม่ได้คิดถึงงานที่วางระบบอะไรทั้งหมดมากับมือ คิดถึงเพื่อนร่วมงาน สังคมที่เคยมีต้องยอมเสียมันไปเพราะลูก แต่สามีเรากลับไม่มีเวลาให้ต่างกับ จขกท นิดหน่อยตรงนี้แหล่ะค่ะ นัดเจอเพื่อบ้างเป็นครั้งคราว แต่เข้าใจมั้ยคะว่าคนทำงานกับคนที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกมันคุยกันคนละเรื่องความทรงจำในชีวิตการทำงานของเรามันหยุดตรงวันที่เราลาออกมา ในขณะที่ของพวกเค้ายังดำเนินต่อไปมีเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ เข้ามา และเวลามันก็ทำให้เราห่างหายกันไปในที่สุด แต่สามีไม่เข้าใจในข้อนี้ เค้าคิดเสมอว่าการเลี้ยงลูกสบายกว่าการทำงาน เพราะได้อยู่บ้าน แต่ถ้าหากการเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านอย่างเราสามารถตีออกมาเป็นมูลค่าของเงินได้เค้าคงเข้าใจเรามากกว่านี้ ยาวหน่อยนะคะ เพราะอยากระบายเหมือนกัน ....
ความคิดเห็นที่ 3
สู้ๆนะคะ

เราแต่งมาเมื่อ ตุลา ปีที่แล้วค่ะ เรายังไม่มีลูก อ่านให้สามีฟัง

สามีบอกว่า ขึ้นอยู่กับผู้ชายแล้วล่ะ ตัวเขาเอง ถ้ามีลูก เค้าก็จะไม่ไปไหนกะเรา 2 คนหรอก ไปไหนต้องเอาลูกไปด้วยสิ เพราะเค้าคือคนที่เราสร้างกันมา ลูกคือสิ่งเติมเต็ม ไม่ใช่ส่วนเกิน และที่สำคัญ ผู้ชายต้องช่วยเลี้ยง ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้หญิงเลี้ยงคนเดียว

ได้แต่รอดู ว่าพ่อคุณจะทำตามนี้มั๊ย 555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่