สวัสดีครับ
วันนี้ได้พบบทความที่น่าสนใจ จึงนำมาแบ่งปันกันอ่านครับ
บทความนี้นำมาจาก
http://www.thaichristians.net/today/index.php?option=com_content&view=article&id=546:2012-06-16-05-27-30&catid=79:2012-05-22-16-32-34&Itemid=308
----------------------
ที่มาของคำว่า คริสเตียน
แสดงว่าผู้เชื่อในพระเยซูในสมัยที่ชุมชนของ พระเจ้าเกิดขึ้นใหม่ๆนั้นไม่เคยเรียกตัวเองว่า “คริสเตียน” เลย
ผู้ที่เรียกเขาว่าคริสเตียนเป็นคนที่ไม่เชื่อในพระเยซู
และเรียกเป็นครั้งแรกในเมืองอันทิโอก (กจ 11:26) ทั้งนี้เพราะว่าความประพฤติ การกระทำ และ คำพูด ของพวกเขาเหมือนพระคริสต์
และผู้ที่เรียกเขานั้น ก็เรียก แบบดูถูก เหยียดหยาม ล้อเลียน เรียกเสมือนว่าคริสเตียน เป็นตัวตลก เป็นพวกนอกคอก
ต่อมา พวกผู้เชื่อพระเยซูจึงได้เรียกตนเองว่า “คริสเตียน
โดยมีความหมายว่า “เป็นหนึ่งในคณะของพระคริสต์” หรือเป็น“ผู้ติดตามหรือสาวกของพระคริสต์”
ซึ่งก็คือ
ความหมายตามคำจำกัดความในพจนานุกรมฉบับเวบสเตอร์นั่นเอง
-------------
ความหมายของคำว่าคริสเตียนเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อเวลาผ่านไป ความหมายของคำว่า “คริสเตียน” ก็เปลี่ยนไป
เพราะคนที่เรียกตัวเองว่า เป็นคริสเตียนนั้น เป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากคริสเตียนที่กลับใจเกิดใหม่เชื่อในพระเจ้า
แต่ลูกๆหลานๆที่สืบต่อมา ไม่ได้กลับใจใหม่ ไม่ได้เชื่อในพระเจ้า
แต่ก็เป็น คริสเตียน โดยที่ไม่ได้กลับใจใหม่ ไม่ได้เกิดใหม่ ไม่ได้เชื่อในพระเยซู
เพียงแต่
นับถือศาสนาที่เป็นเปลือกนอกของบรรพบุรุษเท่านั้น
ทุกสัปดาห์ก็ไปโบสถ์ ทำกิจกรรมทางศาสนาโดยปราศจากความเข้าใจ
ในที่สุดก็ถือศาสนาคริสต์ ที่สอนว่า จะต้องทำดี จะต้องประพฤติเพื่อจะได้ความหลุดพ้นจากพระเจ้า
ดังนั้น คำว่า คริสเตียนจึงหมายถึงคนทั่วไปที่นับถือศาสนาคริสต์ อันได้แก่
รูปแบบ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของคริสตจักรตะวันตก
คนเหล่านี้จะไปโบสถ์เป็นประจำทุกสัปดาห์ และเป็นคนดี ทำการช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส
นับถือศาสนาอันเป็นรูปแบบ ขนบธรรมเนียมประเพณีของตะวันตกอย่างเคร่งครัด
การกระทำเช่นนั้นเป็นการดี
แต่ไม่ได้ไม่ได้ทำให้คนที่ทำนั้นหลุดพ้นได้ และคนเหล่านั้นก็เป็นคริสเตียนที่ไม่ได้เชื่อในพระเยซู ไม่ได้กลับใจใหม่ ไม่ได้เกิดใหม่
ความหมายของคริสเตียนจึงเปลี่ยนไป
แทนที่จะหมายหมายถึงคนที่กลับใจเกิดใหม่เชื่อในพระเจ้า
ก็มีความหมายเพียงว่า คนที่นับถือศาสนาคริสต์เท่านั้น
ดังนั้นการเป็นคริสเตียนไปโบสถ์ทุกสัปดาห์ ไม่ได้ทำให้ใครคนใดคนหนึ่งหลุดพ้นได้
คล้ายๆกันกับการไปโรงรถ ไม่ได้ทำให้คนๆ นั้นเป็นรถได้
การไปฟังคำเทศนาเป็นประจำ และการร่วมกิจกรรมของคริสตจักรเป็นการดี
แต่ไม่สามารถทำให้หลุดพ้นได้เลย
ผู้ที่จะหลุดพ้นได้คือผู้กลับใจใหม่ เกิดใหม่เชื่อพึ่งอาศัยในพระเยซูคริสต์
ไม่ใช่ผู้ที่เพียงแต่เป็นคริสเตียน หรือนับถือศาสนาคริสต์ที่เป็นรูปแบบ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของตะวันตกเท่านั้น
= นับถือศาสนาแค่เปลือกนอก =
วันนี้ได้พบบทความที่น่าสนใจ จึงนำมาแบ่งปันกันอ่านครับ
บทความนี้นำมาจาก
http://www.thaichristians.net/today/index.php?option=com_content&view=article&id=546:2012-06-16-05-27-30&catid=79:2012-05-22-16-32-34&Itemid=308
----------------------
ที่มาของคำว่า คริสเตียน
แสดงว่าผู้เชื่อในพระเยซูในสมัยที่ชุมชนของ พระเจ้าเกิดขึ้นใหม่ๆนั้นไม่เคยเรียกตัวเองว่า “คริสเตียน” เลย
ผู้ที่เรียกเขาว่าคริสเตียนเป็นคนที่ไม่เชื่อในพระเยซู
และเรียกเป็นครั้งแรกในเมืองอันทิโอก (กจ 11:26) ทั้งนี้เพราะว่าความประพฤติ การกระทำ และ คำพูด ของพวกเขาเหมือนพระคริสต์
และผู้ที่เรียกเขานั้น ก็เรียก แบบดูถูก เหยียดหยาม ล้อเลียน เรียกเสมือนว่าคริสเตียน เป็นตัวตลก เป็นพวกนอกคอก
ต่อมา พวกผู้เชื่อพระเยซูจึงได้เรียกตนเองว่า “คริสเตียน
โดยมีความหมายว่า “เป็นหนึ่งในคณะของพระคริสต์” หรือเป็น“ผู้ติดตามหรือสาวกของพระคริสต์”
ซึ่งก็คือความหมายตามคำจำกัดความในพจนานุกรมฉบับเวบสเตอร์นั่นเอง
-------------
ความหมายของคำว่าคริสเตียนเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อเวลาผ่านไป ความหมายของคำว่า “คริสเตียน” ก็เปลี่ยนไป
เพราะคนที่เรียกตัวเองว่า เป็นคริสเตียนนั้น เป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากคริสเตียนที่กลับใจเกิดใหม่เชื่อในพระเจ้า
แต่ลูกๆหลานๆที่สืบต่อมา ไม่ได้กลับใจใหม่ ไม่ได้เชื่อในพระเจ้า
แต่ก็เป็น คริสเตียน โดยที่ไม่ได้กลับใจใหม่ ไม่ได้เกิดใหม่ ไม่ได้เชื่อในพระเยซู
เพียงแต่นับถือศาสนาที่เป็นเปลือกนอกของบรรพบุรุษเท่านั้น
ทุกสัปดาห์ก็ไปโบสถ์ ทำกิจกรรมทางศาสนาโดยปราศจากความเข้าใจ
ในที่สุดก็ถือศาสนาคริสต์ ที่สอนว่า จะต้องทำดี จะต้องประพฤติเพื่อจะได้ความหลุดพ้นจากพระเจ้า
ดังนั้น คำว่า คริสเตียนจึงหมายถึงคนทั่วไปที่นับถือศาสนาคริสต์ อันได้แก่
รูปแบบ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของคริสตจักรตะวันตก
คนเหล่านี้จะไปโบสถ์เป็นประจำทุกสัปดาห์ และเป็นคนดี ทำการช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส
นับถือศาสนาอันเป็นรูปแบบ ขนบธรรมเนียมประเพณีของตะวันตกอย่างเคร่งครัด
การกระทำเช่นนั้นเป็นการดี
แต่ไม่ได้ไม่ได้ทำให้คนที่ทำนั้นหลุดพ้นได้ และคนเหล่านั้นก็เป็นคริสเตียนที่ไม่ได้เชื่อในพระเยซู ไม่ได้กลับใจใหม่ ไม่ได้เกิดใหม่
ความหมายของคริสเตียนจึงเปลี่ยนไป
แทนที่จะหมายหมายถึงคนที่กลับใจเกิดใหม่เชื่อในพระเจ้า
ก็มีความหมายเพียงว่า คนที่นับถือศาสนาคริสต์เท่านั้น
ดังนั้นการเป็นคริสเตียนไปโบสถ์ทุกสัปดาห์ ไม่ได้ทำให้ใครคนใดคนหนึ่งหลุดพ้นได้
คล้ายๆกันกับการไปโรงรถ ไม่ได้ทำให้คนๆ นั้นเป็นรถได้
การไปฟังคำเทศนาเป็นประจำ และการร่วมกิจกรรมของคริสตจักรเป็นการดี
แต่ไม่สามารถทำให้หลุดพ้นได้เลย
ผู้ที่จะหลุดพ้นได้คือผู้กลับใจใหม่ เกิดใหม่เชื่อพึ่งอาศัยในพระเยซูคริสต์
ไม่ใช่ผู้ที่เพียงแต่เป็นคริสเตียน หรือนับถือศาสนาคริสต์ที่เป็นรูปแบบ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของตะวันตกเท่านั้น