ตามที่เจ้าของกระทู้ ได้โพสต์ เรื่องเกี่ยวกับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต ตามกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/31855144 จนเป็นกระทู้แนะนำอันดับหนึ่งอยู่เป็นสัปดาห์ จนวันนี้ (5/4/2557) ได้รับแจ้งจากทางพี่ชายว่าเรื่องยุติลงด้วยดีแล้วครับ
ต้องขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาช่วยโหวต และให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ มากมาย อย่างน้อยก็เกิดประโยชน์กับผู้ที่คิดจะทำประกัน หรือผู้ที่ทำประกันอยู่ จะได้นำแนวทางไปใช้ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นกับตัวเอง
ส่วนรายละเอียด ผมได้นำไปโพสต์ไว้ ในกระทู้เดิม ตามไปอ่านดูนะครับ แต่ผมได้นำบทสรุป มาแปะไว้ที่กระทู้นี้ด้วย เผื่อไม่อยากอ่านหนังชีวิต
เชิญติดตามชมครับ (ก๊อปมาจากเฟซบุ๊ก นายฉัตรชัย ชูแก้ว)
ความคืบหน้า กรณี บริษัท เมืองไทย ประกันชีวิต จำกัด
ตามที่ผมได้โพสข้อความ กรณี ข้อพิพาทระหว่าง ผม กับ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ผมขอรายงานความคืบหน้าให้ เพื่อนพ้องน้องพี่ ให้ได้รับทราบ ดังนี้ ครับ
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณ เพื่อนพ้องน้องพี่ทุกๆ ท่าน ที่ได้ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ ให้ความรู้ และรวมถึงการตำหนิติเตียน ต่างๆ และที่ขาดไม่ได้คือ เพื่อนพ้องน้องพี่ที่ได้ร่วมแชร์ ข้อความในการให้ความรู้กับท่านอื่นๆ ด้วย
ขอเริ่มนะครับ หลังจากที่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ได้บอกล้างยกเลิกกรมธรรม์ผม ผมได้ขอให้ทางบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ได้ทบทวนการบอกล้างกรมธรรม์ ดังกล่าวใหม่ หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด ผมจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด
ในการเสนอเรื่องทบทวนนั้น ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี จากฝ่ายบริหารเรื่องร้องเรียนลูกค้า ได้รับการติดตาม และนัดผมเข้าเจรจา ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทก่อนการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ด้วยการเจรจา ด้วยเหตุผล และข้อเท็จจริง ความสุจริต และข้อโต้เถียง ข้อโต้แย้งต่างๆ รวมถึงบริษัทฯ ประกันได้พิจารณาผลตรวจร่างกาย ในการใช้พิสูจน์ความจริงของผมจาก รพ.กรุงเทพ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2557 รวมถึงพินิจพิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ร่วมกัน จนนำไปสู่ข้อยุติ และเข้าใจกันกับผมด้วยดี คือ
บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ยินยอมที่จะคืนสิทธิตามกรมธรรม์ เดิมให้ผมคงมีสิทธิตามกรมธรรม์เดิมทุกประการ และชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีที่ผมสำรองจ่ายเงินที่ รพ.นนทเวช เป็นเงิน 63,600 บาท และรวมถึงจ่ายค่า ตรวจร่างกายที่ รพ.กรุงเทพ ในการใช้ประกอบการพิจารณา อีกส่วนหนึ่งตามที่ผมจ่ายจริงทุกบาททุกสตางค์
จากเรื่องราวเหล่านี้ ทำให้เราได้เห็นว่า การทำประกันชีวิตนั้น เราจะต้องมีความสุจริต ด้วยกันทุกฝ่าย ไม่ว่า ฝ่ายผู้รับประกัน (บริษัท ประกัน) และผู้เอาประกัน คือประชาชน ทั่วไป ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีความสุจริต ซื่อสัตย์ และนำเสนอความจริงซึ่งกันและกัน ทุกฝ่าย และหากเรื่องใดที่ ไม่เข้าใจกัน เห็นไม่ตรงกัน ก็จะใช้วิธีระงับข้อพิพาทด้วยวิธีการไกล่เกลี่ย ก่อนนำเรื่องไปสู่ภาคราชการ หรือศาล ซึ่งจำต้องทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ได้เป็นจำนวนมาก
และเรื่องนี้ก็ได้ทำให้ บริษัท ประกันภัย ทั้งหลายได้พึงตระหนักและใส่ใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งเวลาซื้อประกัน และเวลาเคลมประกัน รวมถึงการบริการหลังการขาย และการบริหารความพึงพอใจและรักษาความสัมพันธ์ลูกค้า CRM ซึ่งผู้บริหารของ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง ได้รับปากผมว่าจะบริหาร ความพึงพอใจลูกค้า หลังการขายให้ดีที่สุด
บนพื้นฐานความจริงใจ ความจริงที่ลูกค้าและบริษัทฯ ได้นำเสนอต่อกัน ความสุจริต ที่มีให้กันทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึง ทัศนคติที่ดีต่อกันระหว่างบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด กับผู้เอาประกัน
ผมดีใจที่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เลือกใช้วิธีระงับข้อพิพาท ด้วยสันติวิธี ด้วยการเจรจา ก่อนนำคดีไปสู่ศาล หรือ คปภ. อันเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน และ ทำให้ยุติข้อพิพาทอย่างรวดเร็ว ไม่เสียเวลาทุกๆ ฝ่าย และรวมถึง ได้นำวิธีการต่างๆ ในการทำงาน ทั้งระบบ และรวมถึงข้อบกพร่องต่างๆ สู่การแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น
ถือว่า บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ชอบแก้ไขครับ ไม่ใช่คนชอบแก้ตัว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด จะได้ดูแลลูกค้าท่านอื่น ๆ ได้ดี และดียิ่งขึ้นนะครับ และที่สำคัญที่สุดครับคือ ต้องนำเสนอ ความจริง มีความซื่อสัตย์ และความสุจริต ของทุกฝ่ายครับ และท่านใดไม่ทราบหรือไม่มั่นใจในการทำประกัน ผมแนะนำให้ตรวจสุขภาพ ก่อนทำประกัน ฝากเพื่อนพ้องน้องพี่ ช่วยแชร์ ด้วยนะครับ
ขอขอบคุณและแสดงความนับถือ
นายฉัตรชัย ชูแก้ว 5 เมษายน
//////////////
กรณีเมืองไทยประกันชีวิต ได้ข้อยุติด้วยดี (ขอบคุณทุกๆ ท่านที่อ่านและเป็นกำลังใจ รวมถึงบริษัทที่แก้ไขปัญหาด้วยใจ)
ต้องขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาช่วยโหวต และให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ มากมาย อย่างน้อยก็เกิดประโยชน์กับผู้ที่คิดจะทำประกัน หรือผู้ที่ทำประกันอยู่ จะได้นำแนวทางไปใช้ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นกับตัวเอง
ส่วนรายละเอียด ผมได้นำไปโพสต์ไว้ ในกระทู้เดิม ตามไปอ่านดูนะครับ แต่ผมได้นำบทสรุป มาแปะไว้ที่กระทู้นี้ด้วย เผื่อไม่อยากอ่านหนังชีวิต
เชิญติดตามชมครับ (ก๊อปมาจากเฟซบุ๊ก นายฉัตรชัย ชูแก้ว)
ความคืบหน้า กรณี บริษัท เมืองไทย ประกันชีวิต จำกัด
ตามที่ผมได้โพสข้อความ กรณี ข้อพิพาทระหว่าง ผม กับ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ผมขอรายงานความคืบหน้าให้ เพื่อนพ้องน้องพี่ ให้ได้รับทราบ ดังนี้ ครับ
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณ เพื่อนพ้องน้องพี่ทุกๆ ท่าน ที่ได้ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ ให้ความรู้ และรวมถึงการตำหนิติเตียน ต่างๆ และที่ขาดไม่ได้คือ เพื่อนพ้องน้องพี่ที่ได้ร่วมแชร์ ข้อความในการให้ความรู้กับท่านอื่นๆ ด้วย
ขอเริ่มนะครับ หลังจากที่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ได้บอกล้างยกเลิกกรมธรรม์ผม ผมได้ขอให้ทางบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ได้ทบทวนการบอกล้างกรมธรรม์ ดังกล่าวใหม่ หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด ผมจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด
ในการเสนอเรื่องทบทวนนั้น ก็ได้รับการตอบรับอย่างดี จากฝ่ายบริหารเรื่องร้องเรียนลูกค้า ได้รับการติดตาม และนัดผมเข้าเจรจา ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทก่อนการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ด้วยการเจรจา ด้วยเหตุผล และข้อเท็จจริง ความสุจริต และข้อโต้เถียง ข้อโต้แย้งต่างๆ รวมถึงบริษัทฯ ประกันได้พิจารณาผลตรวจร่างกาย ในการใช้พิสูจน์ความจริงของผมจาก รพ.กรุงเทพ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2557 รวมถึงพินิจพิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ร่วมกัน จนนำไปสู่ข้อยุติ และเข้าใจกันกับผมด้วยดี คือ
บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ยินยอมที่จะคืนสิทธิตามกรมธรรม์ เดิมให้ผมคงมีสิทธิตามกรมธรรม์เดิมทุกประการ และชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีที่ผมสำรองจ่ายเงินที่ รพ.นนทเวช เป็นเงิน 63,600 บาท และรวมถึงจ่ายค่า ตรวจร่างกายที่ รพ.กรุงเทพ ในการใช้ประกอบการพิจารณา อีกส่วนหนึ่งตามที่ผมจ่ายจริงทุกบาททุกสตางค์
จากเรื่องราวเหล่านี้ ทำให้เราได้เห็นว่า การทำประกันชีวิตนั้น เราจะต้องมีความสุจริต ด้วยกันทุกฝ่าย ไม่ว่า ฝ่ายผู้รับประกัน (บริษัท ประกัน) และผู้เอาประกัน คือประชาชน ทั่วไป ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีความสุจริต ซื่อสัตย์ และนำเสนอความจริงซึ่งกันและกัน ทุกฝ่าย และหากเรื่องใดที่ ไม่เข้าใจกัน เห็นไม่ตรงกัน ก็จะใช้วิธีระงับข้อพิพาทด้วยวิธีการไกล่เกลี่ย ก่อนนำเรื่องไปสู่ภาคราชการ หรือศาล ซึ่งจำต้องทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ได้เป็นจำนวนมาก
และเรื่องนี้ก็ได้ทำให้ บริษัท ประกันภัย ทั้งหลายได้พึงตระหนักและใส่ใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งเวลาซื้อประกัน และเวลาเคลมประกัน รวมถึงการบริการหลังการขาย และการบริหารความพึงพอใจและรักษาความสัมพันธ์ลูกค้า CRM ซึ่งผู้บริหารของ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง ได้รับปากผมว่าจะบริหาร ความพึงพอใจลูกค้า หลังการขายให้ดีที่สุด
บนพื้นฐานความจริงใจ ความจริงที่ลูกค้าและบริษัทฯ ได้นำเสนอต่อกัน ความสุจริต ที่มีให้กันทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึง ทัศนคติที่ดีต่อกันระหว่างบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด กับผู้เอาประกัน
ผมดีใจที่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เลือกใช้วิธีระงับข้อพิพาท ด้วยสันติวิธี ด้วยการเจรจา ก่อนนำคดีไปสู่ศาล หรือ คปภ. อันเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน และ ทำให้ยุติข้อพิพาทอย่างรวดเร็ว ไม่เสียเวลาทุกๆ ฝ่าย และรวมถึง ได้นำวิธีการต่างๆ ในการทำงาน ทั้งระบบ และรวมถึงข้อบกพร่องต่างๆ สู่การแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น
ถือว่า บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ชอบแก้ไขครับ ไม่ใช่คนชอบแก้ตัว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด จะได้ดูแลลูกค้าท่านอื่น ๆ ได้ดี และดียิ่งขึ้นนะครับ และที่สำคัญที่สุดครับคือ ต้องนำเสนอ ความจริง มีความซื่อสัตย์ และความสุจริต ของทุกฝ่ายครับ และท่านใดไม่ทราบหรือไม่มั่นใจในการทำประกัน ผมแนะนำให้ตรวจสุขภาพ ก่อนทำประกัน ฝากเพื่อนพ้องน้องพี่ ช่วยแชร์ ด้วยนะครับ
ขอขอบคุณและแสดงความนับถือ
นายฉัตรชัย ชูแก้ว 5 เมษายน
//////////////