หากเราเล่นหุ้นในแต่ละช่วงเวลา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจะพบตอนจบอย่างไรไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ
ในช่วงเวลานี้เราสามารถทำอะไรได้โดยไร้ที่ติก็ได้ ไม่ว่าจะเล่นหุ้นให้รัดกุมและก็มีทักษะความสามารถในการเข้าออกจากตลาดหุ้น มันก็เป็นเรื่องดีและก็ทำให้แต่ละช่วงเราก็รู้สึกว่าทำอะไรก็ง่ายไปหมด แต่ดูเหมือนจะเป็นความคิดสำหรับคนขี้แพ้มากกว่า ทำไมผมถึงพูดออกมาแบบนั้นล่ะ?
ผลกำไรขาดทุนมันก็จะเป็นสีเขียวสำหรับอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ
ในช่วงเวลาอื่นๆ พวกเราก็จะพบว่าตัวเองเดินเกมพลาดอย่างมหันต์ พวกเรามาถึงจุดตายแล้ว และทำให้เราเริ่มรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวเริ่มสวนทางกับความคิดของเรา ความสับสนก็จะเข้ามาครอบงำความเชื่อมั่นและเราก็สงสัยว่าจะต้องพยายามทำอะไรสักอย่างแล้ว พยายามที่จะหยุดห้ามเลือดของตัวเอง พวกเราจะต้องรู้ด้วยว่าพวกเราได้สร้างเงินในบัญชีเพิ่มขึ้นให้กับคนอื่นๆอยู่
เมื่อพวกเราทำดีที่สุดแล้ว เทรดเดอร์อย่างพวกเราก็อยากเห็นผลกำไรขาดทุนเป็นสีเขียว พวกเราไม่อยากจะเห็นผลกำไรลดน้อยลง แต่พวกเราก็ต้องพยายามยึดมั่นกับการทำกำไรให้เต็มเหนี่ยว
หากเราพวกเราได้รู้ตัวเองแล้วว่าผลที่ออกมาคือขาดทุน พวกเราจะทำยังไงให้ผลกำไรกลับมาเพิ่มขึ้นให้ได้สม่ำเสมอล่ะ?
5 แนวทางที่จะยืนหยัดต่อสู้
• จะต้องเลือกรองเท้าด้วยตัวเอง การเล่นหุ้นจะต้องเลือกรองเท้าคู่ใดคู่หนึ่งที่ทำให้เราสามารถเดินหน้าได้ จะต้องรู้ว่าความโลภกับความกลัวจะทำให้เรารู้จักตัวเองดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตามหรือช่วงที่เรามีความเชื่อมั่นมากขึ้น
• จะต้องรู้ว่าควรที่จะวางเงินเข้าไปเล่นตอนไหน เราเองก็อยากให้ทิศทางเป็นไปตามที่เราต้องการ และคนอื่นๆเขาก็หวังเหมือนกับพวกเรานั่นแหละ พวกเรารู้สึกเหมือนกับผู้คนส่วนใหญ่เป็นแต่โดยทั่วไปก็รู้สึกเดินเกมพลาดแล้ว เมื่อเราเห็นว่ายังไม่มีโอกาสเข้ามา ก็จะนั่งรอคอย
• จะต้องปรับตัวเองให้สูงกว่ามาตรฐาน ก็ได้เน้นย้ำไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ใครก็ตามที่ Overtrade ก็จะไม่สามารถที่จะทำกำไรได้มากหรอก เพราะพวกเขาไม่ได้สร้างเกราะป้องกันตอนที่ตัวเองเจอกับขาดทุน พูดง่ายๆก็คือจะต้องเล่นหุ้นแบบเรียบง่าย แบบแผนสบายๆและก็จัดระดับความเสี่ยงในการได้ผลกำไรขาดทุนให้ดีๆ
• ทำตัวเองให้ยืดหยุ่น พวกเราส่วนใหญ่มักจะมีอคติในการเล่นหุ้น ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติของพวกเราอยู่แล้ว แต่การเล่นหุ้นแบบนี้ก็ทำให้เราไม่สบายใจขึ้นมาในการทำกำไรให้ได้แน่นอน บางครั้งสถานการณ์มันก็เริ่มบิดเบี้ยว ผมอยากจะบอกว่าพวกเราจะต้องหาจุดที่ทำให้พวกเรารู้สึกสบายใจ จะต้องหาโอกาสที่จะเข้าไป Short หุ้นด้วย เพราะว่าหุ้นทุกๆตัวจะต้องมีการอ่อนตัวลงเสมอ (แม้ว่าตลาดจะเป็นภาวะกระทิงก็ตาม) และแม้ว่าจะเป็นตลาดภาวะหมี มันก็ยังมีหุ้นที่แข็งแกร่งให้เราเข้าไปเล่นอีกหลายตัว เราจะต้องจับตาดูจังหวะโอกาสทุกๆครั้ง
• อย่าลังเล เมื่อเราเห็นแล้วว่ามาผิดทาง จะต้องถอยหนีออกมาทันที การที่เราลังเลใจจะทำให้มีแต่ข้อสงสัยในการทำกำไรขาดทุนแต่ละครั้ง ไม่ว่าเราจะเล่นหุ้นได้ดีแย่แค่ไหน จะต้องรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ใจเย็นๆและก็ค่อยๆมองดูตัวเอง ความเร็วถือเป็นทุกอย่างของการเล่นหุ้น และแน่นอนรวมไปถึงการตัดสินใจด้วย
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net
ความอิจฉาริษยาของเทรดเดอร์แต่ละคน
ในช่วงเวลานี้เราสามารถทำอะไรได้โดยไร้ที่ติก็ได้ ไม่ว่าจะเล่นหุ้นให้รัดกุมและก็มีทักษะความสามารถในการเข้าออกจากตลาดหุ้น มันก็เป็นเรื่องดีและก็ทำให้แต่ละช่วงเราก็รู้สึกว่าทำอะไรก็ง่ายไปหมด แต่ดูเหมือนจะเป็นความคิดสำหรับคนขี้แพ้มากกว่า ทำไมผมถึงพูดออกมาแบบนั้นล่ะ?
ผลกำไรขาดทุนมันก็จะเป็นสีเขียวสำหรับอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ
ในช่วงเวลาอื่นๆ พวกเราก็จะพบว่าตัวเองเดินเกมพลาดอย่างมหันต์ พวกเรามาถึงจุดตายแล้ว และทำให้เราเริ่มรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวเริ่มสวนทางกับความคิดของเรา ความสับสนก็จะเข้ามาครอบงำความเชื่อมั่นและเราก็สงสัยว่าจะต้องพยายามทำอะไรสักอย่างแล้ว พยายามที่จะหยุดห้ามเลือดของตัวเอง พวกเราจะต้องรู้ด้วยว่าพวกเราได้สร้างเงินในบัญชีเพิ่มขึ้นให้กับคนอื่นๆอยู่
เมื่อพวกเราทำดีที่สุดแล้ว เทรดเดอร์อย่างพวกเราก็อยากเห็นผลกำไรขาดทุนเป็นสีเขียว พวกเราไม่อยากจะเห็นผลกำไรลดน้อยลง แต่พวกเราก็ต้องพยายามยึดมั่นกับการทำกำไรให้เต็มเหนี่ยว
หากเราพวกเราได้รู้ตัวเองแล้วว่าผลที่ออกมาคือขาดทุน พวกเราจะทำยังไงให้ผลกำไรกลับมาเพิ่มขึ้นให้ได้สม่ำเสมอล่ะ?
5 แนวทางที่จะยืนหยัดต่อสู้
• จะต้องเลือกรองเท้าด้วยตัวเอง การเล่นหุ้นจะต้องเลือกรองเท้าคู่ใดคู่หนึ่งที่ทำให้เราสามารถเดินหน้าได้ จะต้องรู้ว่าความโลภกับความกลัวจะทำให้เรารู้จักตัวเองดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตามหรือช่วงที่เรามีความเชื่อมั่นมากขึ้น
• จะต้องรู้ว่าควรที่จะวางเงินเข้าไปเล่นตอนไหน เราเองก็อยากให้ทิศทางเป็นไปตามที่เราต้องการ และคนอื่นๆเขาก็หวังเหมือนกับพวกเรานั่นแหละ พวกเรารู้สึกเหมือนกับผู้คนส่วนใหญ่เป็นแต่โดยทั่วไปก็รู้สึกเดินเกมพลาดแล้ว เมื่อเราเห็นว่ายังไม่มีโอกาสเข้ามา ก็จะนั่งรอคอย
• จะต้องปรับตัวเองให้สูงกว่ามาตรฐาน ก็ได้เน้นย้ำไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ใครก็ตามที่ Overtrade ก็จะไม่สามารถที่จะทำกำไรได้มากหรอก เพราะพวกเขาไม่ได้สร้างเกราะป้องกันตอนที่ตัวเองเจอกับขาดทุน พูดง่ายๆก็คือจะต้องเล่นหุ้นแบบเรียบง่าย แบบแผนสบายๆและก็จัดระดับความเสี่ยงในการได้ผลกำไรขาดทุนให้ดีๆ
• ทำตัวเองให้ยืดหยุ่น พวกเราส่วนใหญ่มักจะมีอคติในการเล่นหุ้น ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติของพวกเราอยู่แล้ว แต่การเล่นหุ้นแบบนี้ก็ทำให้เราไม่สบายใจขึ้นมาในการทำกำไรให้ได้แน่นอน บางครั้งสถานการณ์มันก็เริ่มบิดเบี้ยว ผมอยากจะบอกว่าพวกเราจะต้องหาจุดที่ทำให้พวกเรารู้สึกสบายใจ จะต้องหาโอกาสที่จะเข้าไป Short หุ้นด้วย เพราะว่าหุ้นทุกๆตัวจะต้องมีการอ่อนตัวลงเสมอ (แม้ว่าตลาดจะเป็นภาวะกระทิงก็ตาม) และแม้ว่าจะเป็นตลาดภาวะหมี มันก็ยังมีหุ้นที่แข็งแกร่งให้เราเข้าไปเล่นอีกหลายตัว เราจะต้องจับตาดูจังหวะโอกาสทุกๆครั้ง
• อย่าลังเล เมื่อเราเห็นแล้วว่ามาผิดทาง จะต้องถอยหนีออกมาทันที การที่เราลังเลใจจะทำให้มีแต่ข้อสงสัยในการทำกำไรขาดทุนแต่ละครั้ง ไม่ว่าเราจะเล่นหุ้นได้ดีแย่แค่ไหน จะต้องรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ใจเย็นๆและก็ค่อยๆมองดูตัวเอง ความเร็วถือเป็นทุกอย่างของการเล่นหุ้น และแน่นอนรวมไปถึงการตัดสินใจด้วย
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net