27 สถานที่มหัศจรรย์ สวยจนตะลึงไปทั่วโลก ต้องไปสักครั้งให้ได้ก่อนตาย!! (ตอนที่ 2)

มาแล้วจ้าาา ภาคที่ 2 มาแล้วจ้าาาาา ช่วงนี้ยุ่งๆกับงานเลยมาช้าไปหน่อย (แต่ยังดีกว่าไม่มาเนอะ อิอิ) ช่วงนี้ต้องทำวีซ่าให้ลูกค้าเยอะก็เลยไม่ค่อยว่าง วันนี้มีโอกาสเลยเอาภาค 2 มาให้ดูกันต่อ วันนี้จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่าาาาา

11. Victoria Falls bordering Zimbabwe and Zambia in Africa
เคยเล่นน้ำตกที่เสียวขนาดนี้ไหม? 355 ฟุตจากหน้าผา น้ำตกนี้ตั้งอยู่ที่ชายแดนของประเทศแซมเบีย และซิมบับเวเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในทวีปแอฟริกา นอกจากนี้ที่แซมเบียยังเรียกที่นี่ว่า “สระว่ายน้ำของซาตาน” ได้ยินเพียงแค่นี้นักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยก็อดที่จะไม่ไปสักครั้งหนึ่งไม่ได้แล้วล่ะ



12. Trolltunga in Hordaland, Norway
Trolltunga มีความหมายว่าลิ้นของโทรลล์ ด้วยความที่เป็นชะง่อนผาที่มีลักษณะคล้ายกับการแลบลิ้นออกมาจากภูเขาประมาณ 2,000 ฟุตลอยอยู่กลางอากาศแบบนี้นั่นเอง หากยอมปืนเขาที่สูงกว่า 700 เมตรนี้ได้ จะเห็นวิวที่คุ้มค่ากับที่ปืนขึ้นมาแน่นอน เพราะวิวของแม่น้ำ Ringedalsvatnet สวยอย่างกับภาพวาด แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินขึ้นเขาถึง 8-10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ถึงกลางเดือนกันยายน



13. Whitehaven Beach at Whitsunday Island in Australia
ความขาวของหาดไวท์ฮาเว่น ที่เป็นหนึ่งในหมู่เกาะวิธซันเดย์อันโด่งดังของออสเตรเลีย ชายหาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดโดยเม็ดทรายเป็นผลึกซิลิการะยิบระยับถึง 98% ซึ่งเชื่อกันว่าที่มีชายหาดสวยงามขนาดนี้ก็เพราะกระแสน้ำในบริเวณนี้ที่พัดพาให้ทรายจากทะเลพัดเข้าฝั่งเป็นเวลากว่าหลายล้านปี นอกจากนี้ทรายที่มีมีลักษณะเฉพาะนอกจากขาวละเอียดสวยงามแล้ว ยังเป็นทรายที่ไม่เก็บความร้อน ทำให้เราสามารถเดินชิลล์เท้าเปล่าริมหาดได้อย่างสบายๆ



14. The Grand Canyon in Arizona, United States
หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกก็คือที่นี่ “Grand Canyon” เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของรัฐอริโซน่า ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองคาสิโนชื่อดังอย่าง ลาสเวกัสประมาณ 3-4 ชั่วโมง แกรนด์แคนยอนเกิดขึ้นโดยอิทธิพลของแม่น้ำโคโลราโด ไหลผ่านที่ราบสูงทำให้เกิดการสึกกร่อน พังทลายของหินเป็นเวลา 225 ล้านปีมาแล้ว ในบริเวณซอกหลืบของหุบเขาน้อยใหญ่ยังมีการค้นพบร่องรอยอารยธรรม ของชาวอินเดียนแดงโบราณอีกด้วย



15. Marble Caves at General Carrera Lake in Patagonia (Argentina and Chile)
ถ้ำหินอ่อนนี้อยู่ในเขตพื้นที่ของทะเลสาบการ์เรรา (General Carrera) ทะเลสาบขนาดใหญ่ในเขตภูมิภาคปาตาโกเนีย (Patagonia) ภูมิภาคที่ตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ โดยทะเลสาบนั้นระหว่างชายแดนของอาร์เจนตินา และชิลี เป็นถ้ำที่เกิดจากกระแสน้ำได้กัดเซาะเป็นระยะเวลานับล้านปี จนภูเขาหินอ่อนเกิดเป็นถ้ำหินอ่อนอันงดงามไม่เหมือนถ้ำแห่งใดในโลก



16. Tunnel of Love in Klevan, Ukraine
อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel of Love) คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศยูเครน เป็นอุโมงค์รถไฟที่สร้างขึ้นจากต้นไม้อย่างสวยงามตั้งอยู่ในเขตเมืองเคลเว่น (Klevan) เมืองเล็กๆ ในจังหวัดริฟเน (Rivne region) จังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกของประเทศยูเครนนั่นเอง เห็นแบบนี้โรแมนติกอย่าบอกใคร แนะนำให้เก็บเงินแล้วเตรียมไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่เลย



17. Salar De Uyuni in the Potosí and Oruro departments of southwest Bolivia
Salar de Uyuni เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ได้ชื่อว่าเป็น กระจกเงาที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เป็นพื้นที่ราบที่ประกอบด้วยเกลือจำนวนมหาศาลบนเนื้อที่ 10,582 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลเกลือใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ติดเขตระหว่างสองจังหวัดคือ Potosi และ Oruro ทางตอนใต้ของประเทศโบลิเวีย ลองมาตอนหน้าฝน จะเหมือนได้ยืนอยู่ท่ามกลางทะเลที่สะท้อนกับท้องฟ้าราวกับกระจก



18. Enchanted Well at Chapada Diamantina in Bahia, Brazil
ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Chapada Diamantina ในบราซิล น้ำในบ่อนี้ใสราวกับกระจก ถึงแม้จะลึกถึง 120 ฟุตแต่ก็สามารถมองเห็นโขดหินที่อยู่เบื้องล่างได้อย่างเห็นชัด



19. Antelope Canyon in Arizona, United States
หุบเขาแอนทีโลพ เป็น 1 ในสถานที่ยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยว อยู่ที่เมืองเพจ รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยภูมิประเทศที่เป็นร่องหินทรายที่ถูกน้ำกัดเซาะและได้ทิ้งร่องรอยการกัดเซาะที่คล้ายกลับหินผา เกิดจากการพังทลายของชั้นหิน Navajo Sandstone ซึ่งถูกกัดเซาะอย่างฉับพลันจากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน ผสานความแรงจากกระแสลม พายุฝน ผ่านฤดูกาลต่างๆ ที่นี่กลายเป็น หุบเขาที่อันตรายที่สุด เนื่องจากบริเวณนั้นอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ตลอดเวลา และระดับน้ำสามารถสูงถึง 10 เมตรทีเดียว อีกทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งดึงดูดใจช่างภาพทั่วโลก เพราะสีสันจากธรรมชาติซึ่งเกิดจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านช่องแคบ สะท้อนกับสีของชั้นหิน Navajo Sandstone เกิดเป็นความสวยงามสุดประทับใจแก่ทุกสายตา



20. Fingal’s Cave on the island of Staffa in Scotland
แม้ว่า ถ้ำฟิงกอล ที่ประเทศสกอตแลนด์ นี้มันอาจจะดูเหมือนเป็นโครงสร้างบล็อกๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น  แต่ความจริงแล้วเสาหินหกเหลี่ยมนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจำนวนมาก ด้วยสภาพถ้ำที่เป็นโพรงแนวยาว ทำให้ภายในถ้ำเกิดเป็นเสียงสะท้อน คล้ายเสียงดนตรีได้ด้วย บางทีคนก็เรียกถ้ำนี้ว่า “Cave of melody”



วันนี้เอาแค่นี้ก่อนเนอะ อิอิ เดี๋ยวมาต่อภาค 3 กันคราวหน้าเนอะ
ขอบคุณข้อมูล Travel.Truelife
Artplanet

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่