ผู้พิพากษาอดีตเจ้าของสำนวนคดีอุ้มฆ่า "อัลรูไวลี่" แจงปมร้อน!! ถูกเปลี่ยนตัว-พักราชการ
เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายสมศักดิ์ ผลส่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักงานศาลยุติธรรม อดีตเจ้าของสำนวนผู้พิพากษา คดีอุ้มฆ่านายมูอัมหมัด อัลรูไวลี่ ที่มี พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจกับพวกรวม 5 คน เป็นจำเลย ได้กล่าวถึงกรณีที่ถูกสั่งพักราชการ เนื่องจากถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยการร้ายแรงในการสั่งประกันตัวคดีอื่นขณะดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลสระบุรีว่าเมื่อครั้งแรกได้ปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบกระบวนพิจารณาคดีนี้ ช่วงตลอด 3 ปี ตนได้ทำการสืบพยานทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ และได้มีการสั่งส่งประเด็นสืบพยานที่อยู่ในต่างประเทศ แต่ก็กลับถูกฝ่ายจำเลยร้องขอต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคัดค้านกรณีดังกล่าวและจะให้เปลี่ยนตนในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้แต่สุดท้ายเมื่ออธิบดีศาลอาญา พิจารณาแล้วเห็นว่าตนได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามอำนาจหน้าที่แล้วที่สั่งส่งประเด็นสืบพยานที่อยู่ในต่างประเทศ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีในส่วนที่ตนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยกล่าวหาว่าดำเนินการสั่งให้ประกันตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดไม่ชอบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสระบุรีนั้น รู้สึกแปลกใจเพราะที่ได้มีการตรวจสอบเรื่องตนดำเนินการมานาน 5 ปี มีความพยายามย้อนดูสำนวน 20 เรื่อง แต่จากการตรวจสอบจะพบว่า 17 คดีนั้นการสั่งประกันผู้ต้องหาก็ไม่ได้หลบหนี ขณะที่อีกเรื่องจะพบว่ามีผู้ต้องหาหลบหนีไป แต่ภายหลังนายประกันก็ได้พาตัวกลับมาดำเนินคดีได้ และอีกคดีผู้ต้องหานั้นถูกยิงเสียชีวิต คดีจึงเป็นอันยุติตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ซึ่งการสั่งประกันแม้บางคดีจะมีจำนวนยามากถึง 100 เม็ด แต่เคยไปค้นสำนวนศาลฎีกาพบว่า ผู้ต้องหาที่มียาจำนวนมาก 36,000 เม็ด ก็ยังได้รับการประกัน ขณะที่การสั่งประกันดังกล่าวก็ไม่มีโจทก์ – จำเลย นายประกัน ร้องเรียน หรือยื่นบัตรสนเท่ห์ว่าดำเนินการไม่ชอบ แต่เรื่องดังกล่าวมีบุคคลที่พยายามทำให้กระทบกับการทำหน้าที่ของตน ขณะที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องที่ได้ดำเนินการนั้นระยะเวลาผ่านล่วงเลยมาถึง 5 ปีแล้ว ซึ่งไม่มีหลักฐานว่าได้ทำการทุจริต กลับถูกนำมาตั้งเรื่องสอบสวนในช่วงนี้ เพื่อจะสบช่องพักราชการตนในช่วงทำคำพิพากษาหรือไม่
นายสมศักดิ์กล่าวว่าได้เตรียมรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งประกันดังกล่าว ชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงในวันพรุ่งนี้ ( 2 เม.ย.) โดยมั่นใจในสิ่งที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจที่มีโดยสุจริต อย่างไรก็ตามในส่วนที่เกี่ยวกับผู้บริหารศาลอาญา ขอยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งอะไรต่อกันในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้จะต่อสู้เรื่องการถูกสอบสวนวินัยต่อไป โดยยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่ถูกสั่งพักราชการ และถูกตรวจสอบจากการที่ตนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1396382678&grpid=00&catid=&subcatid=
เป็นคำถามที่ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ (ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย) ตั้งคำถามว่า ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม..................
ทำไมความยุติธรรมเมืองไทยเป็นอย่างนี้
ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน อัลรูไวลี่ แจงมา สงสัยทำไมจึงถูกเปลี่ยนตัวกระทันหัน
เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายสมศักดิ์ ผลส่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักงานศาลยุติธรรม อดีตเจ้าของสำนวนผู้พิพากษา คดีอุ้มฆ่านายมูอัมหมัด อัลรูไวลี่ ที่มี พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจกับพวกรวม 5 คน เป็นจำเลย ได้กล่าวถึงกรณีที่ถูกสั่งพักราชการ เนื่องจากถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยการร้ายแรงในการสั่งประกันตัวคดีอื่นขณะดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลสระบุรีว่าเมื่อครั้งแรกได้ปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบกระบวนพิจารณาคดีนี้ ช่วงตลอด 3 ปี ตนได้ทำการสืบพยานทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ และได้มีการสั่งส่งประเด็นสืบพยานที่อยู่ในต่างประเทศ แต่ก็กลับถูกฝ่ายจำเลยร้องขอต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคัดค้านกรณีดังกล่าวและจะให้เปลี่ยนตนในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้แต่สุดท้ายเมื่ออธิบดีศาลอาญา พิจารณาแล้วเห็นว่าตนได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามอำนาจหน้าที่แล้วที่สั่งส่งประเด็นสืบพยานที่อยู่ในต่างประเทศ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีในส่วนที่ตนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยกล่าวหาว่าดำเนินการสั่งให้ประกันตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดไม่ชอบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสระบุรีนั้น รู้สึกแปลกใจเพราะที่ได้มีการตรวจสอบเรื่องตนดำเนินการมานาน 5 ปี มีความพยายามย้อนดูสำนวน 20 เรื่อง แต่จากการตรวจสอบจะพบว่า 17 คดีนั้นการสั่งประกันผู้ต้องหาก็ไม่ได้หลบหนี ขณะที่อีกเรื่องจะพบว่ามีผู้ต้องหาหลบหนีไป แต่ภายหลังนายประกันก็ได้พาตัวกลับมาดำเนินคดีได้ และอีกคดีผู้ต้องหานั้นถูกยิงเสียชีวิต คดีจึงเป็นอันยุติตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ซึ่งการสั่งประกันแม้บางคดีจะมีจำนวนยามากถึง 100 เม็ด แต่เคยไปค้นสำนวนศาลฎีกาพบว่า ผู้ต้องหาที่มียาจำนวนมาก 36,000 เม็ด ก็ยังได้รับการประกัน ขณะที่การสั่งประกันดังกล่าวก็ไม่มีโจทก์ – จำเลย นายประกัน ร้องเรียน หรือยื่นบัตรสนเท่ห์ว่าดำเนินการไม่ชอบ แต่เรื่องดังกล่าวมีบุคคลที่พยายามทำให้กระทบกับการทำหน้าที่ของตน ขณะที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องที่ได้ดำเนินการนั้นระยะเวลาผ่านล่วงเลยมาถึง 5 ปีแล้ว ซึ่งไม่มีหลักฐานว่าได้ทำการทุจริต กลับถูกนำมาตั้งเรื่องสอบสวนในช่วงนี้ เพื่อจะสบช่องพักราชการตนในช่วงทำคำพิพากษาหรือไม่
นายสมศักดิ์กล่าวว่าได้เตรียมรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งประกันดังกล่าว ชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงในวันพรุ่งนี้ ( 2 เม.ย.) โดยมั่นใจในสิ่งที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจที่มีโดยสุจริต อย่างไรก็ตามในส่วนที่เกี่ยวกับผู้บริหารศาลอาญา ขอยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งอะไรต่อกันในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้จะต่อสู้เรื่องการถูกสอบสวนวินัยต่อไป โดยยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่ถูกสั่งพักราชการ และถูกตรวจสอบจากการที่ตนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1396382678&grpid=00&catid=&subcatid=
เป็นคำถามที่ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกนี้ (ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย) ตั้งคำถามว่า ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม..................
ทำไมความยุติธรรมเมืองไทยเป็นอย่างนี้