จากเหตุการณ์เรื่องราวของวงโยธวาทิตชื่อดัง โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่ไปขอยืมเงินคุณตัน จำนวน 3 ล้าน 1 แสนบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายไปแข่งระดับโลกนั้น จากการที่เหล่านักสืบ Pantip ช่วยกันตีแผ่ความจริง รวมกับคลิปเสียงที่ถูกอ้างว่าเป็นการหารือ/วางแผนกันระหว่างวงโยธวาทิตกับผู้อำนวยการโรงเรียน ทำให้ความจริงได้ปรากฏออกมาว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงการกดดันคุณตันฯ อย่างที่เราเคยเข้าใจกันในตอนแรกเสียแล้ว
ปรากฏการณ์นี้ มีผู้แสดงความเห็นและตั้งข้อสงสัยกันมากมายว่า กรณีเช่นนี้ จะสามารถดำเนินการทางกฎหมายใดต่อวงโยธวาทิตหรือผู้อำนวยการได้หรือไม่ ในฐานะคนอยู่ในวงการหมอความ ขอวิเคราะห์เหตุการณ์ดังกล่าวกับข้อกฎหมายเพื่อให้สังคมได้เรียนรู้เรื่องกฎหมายจากเหตุการณ์จริงที่น่าสนใจ ดังนี้ครับ
คดีอาญา
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
องค์ประกอบที่สำคัญของการกระทำผิดฐานฉ้อโกงนั้น ประกอบไปด้วย
1. ผู้ใดโดยทุจริต
2. หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง
3. การหลอกลวงทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม
สำหรับพฤติกรรมของวงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2 เป็นความผิดฐานฉ้อโกงหรือไม่นั้น เดี๋ยวผมจะกลับมาวิเคราะห์ให้ฟังกันต่อครับ......
ระหว่างนี้ขอเชิญร่วมแสดงความเห็นกันได้เต็มที่ครับ
หมอความ เรื่องที่ 1: ขอยืมเงินบุคคลอื่นโดยใช้กลอุบาย ผิดกฎหมายหรือไม่? กรณีศึกษาวงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2
ปรากฏการณ์นี้ มีผู้แสดงความเห็นและตั้งข้อสงสัยกันมากมายว่า กรณีเช่นนี้ จะสามารถดำเนินการทางกฎหมายใดต่อวงโยธวาทิตหรือผู้อำนวยการได้หรือไม่ ในฐานะคนอยู่ในวงการหมอความ ขอวิเคราะห์เหตุการณ์ดังกล่าวกับข้อกฎหมายเพื่อให้สังคมได้เรียนรู้เรื่องกฎหมายจากเหตุการณ์จริงที่น่าสนใจ ดังนี้ครับ
คดีอาญา
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
องค์ประกอบที่สำคัญของการกระทำผิดฐานฉ้อโกงนั้น ประกอบไปด้วย
1. ผู้ใดโดยทุจริต
2. หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง
3. การหลอกลวงทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม
สำหรับพฤติกรรมของวงโยธวาทิต โรงเรียนสตรีวิทยา 2 เป็นความผิดฐานฉ้อโกงหรือไม่นั้น เดี๋ยวผมจะกลับมาวิเคราะห์ให้ฟังกันต่อครับ......
ระหว่างนี้ขอเชิญร่วมแสดงความเห็นกันได้เต็มที่ครับ