ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ย่องเงียบเข้าทำงานที่ สพฐ. แล้ว ปฏิเสธไม่พูดมากขอทำงานตามที่มอบหมายให้ดีที่สุด ด้าน รองเลขาธิการ กพฐ. ระบุต้องรอผลสอบจาก สพม.2 คาด 1-2 เดือนจะสรุปผลสอบและเรื่องที่เกิดทั้งหมดได้
วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีคำสั่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 2 กทม. ให้นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 มาปฏิบัติราชการชั่วคราวที่ สพม.2 ต่อมาคำสั่งจากสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้มาปฏิบัติราชการชั่วคราวที่สำนักบริหารงานมัธยมศึกษาตอนปลาย ของ สพฐ. เพื่อเปิดทางให้การดำเนินการของคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีคลิปเสียงการขอเงินจากภาคเอกชนเพื่อเดินทางไปแข่งขันวงโยธวาทิตโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ สะดวกขึ้น ล่าสุด นายพชรพงศ์ ได้เดินทางเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของ นายอภิชาติ จรีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) แล้ว
โดยนายพชรพงศ์ กล่าวว่า ตนได้เดินทางมารายงานตัวต่อนายอภิชาติ แล้วช่วงบ่ายของวันที่ 17 เม.ย. โดยตนยังไม่สามารถตอบอะไรได้ เนื่องจากผู้ใหญ่ยังไม่อนุญาตให้พูด เบื้องต้น ขณะนี้ได้ให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงที่ตนได้ตั้งขึ้น ให้ไปรวบรวมข้อมูลกรณีวงโยธวาทิตที่เดินทางไปแข่งขันที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ พร้อมข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อเสนอให้คณะกรรมการสืบข้อเท็จจจริงของ สพม.กทม.2 ไปพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามเมื่อมีคำสั่งให้มาปฏิบัติราชการที่ สพฐ. แล้วตนก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อผู้ใหญ่มอบหมายงานอะไรมาก็จะทำอย่างเต็มที่
ผู้สือข่าวถามถึงกรณีที่นักธุรกิจน้ำดื่มชาหวานให้เงินสนับสนุนวงโยธวาทิตของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ว่ามีผลประโยชน์แอบแฝงเพื่อเปิดธุรกิจขายน้ำภายในโรงเรียน นายพชรพงศ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ตนยังไม่ขอออกความเห็นในเรื่องนี้ และไม่อยากจะพูดอะไรมาก ขอให้รอผลจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดีกว่า
ด้าน นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า นายพชรพงศ์ มารายงานตัวที่ สพฐ. แล้วตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. และได้มาปฏิบัติราชการที่ สมป. ของ สพฐ. ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ไปจะต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของ สพม. 2 ว่า ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 มีความผิดหรือไม่ หากผลการสอบอสวนสรุปออกมาว่านายพชรพงศ์ไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ก็จะให้กลับไปปฎิบัติงานที่โรงเรียนเดิมต่อไป แต่หากประชาคมในโรงเรียนและชุมชนไม่ยอมรับก็ต้องหาวิธีการใหม่ อย่างไรก็ตามต้องให้โอกาสนายพชรพงศ์ได้ชี้แจงข้อเท็จริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 เดือนนี้จะได้ข้อสรุปและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ขอบคุณแหล่งที่มา
http://www.kruthai.info/view.php?article_id=7676
หน้าด้านมั๊ย ผอ.สตรีวิทยา 2 แอบย่องเข้าทำงาน สพฐ.แล้ว
วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีคำสั่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 2 กทม. ให้นายพชรพงศ์ ตรีเทพา ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 มาปฏิบัติราชการชั่วคราวที่ สพม.2 ต่อมาคำสั่งจากสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้มาปฏิบัติราชการชั่วคราวที่สำนักบริหารงานมัธยมศึกษาตอนปลาย ของ สพฐ. เพื่อเปิดทางให้การดำเนินการของคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีคลิปเสียงการขอเงินจากภาคเอกชนเพื่อเดินทางไปแข่งขันวงโยธวาทิตโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ สะดวกขึ้น ล่าสุด นายพชรพงศ์ ได้เดินทางเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของ นายอภิชาติ จรีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) แล้ว
โดยนายพชรพงศ์ กล่าวว่า ตนได้เดินทางมารายงานตัวต่อนายอภิชาติ แล้วช่วงบ่ายของวันที่ 17 เม.ย. โดยตนยังไม่สามารถตอบอะไรได้ เนื่องจากผู้ใหญ่ยังไม่อนุญาตให้พูด เบื้องต้น ขณะนี้ได้ให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงที่ตนได้ตั้งขึ้น ให้ไปรวบรวมข้อมูลกรณีวงโยธวาทิตที่เดินทางไปแข่งขันที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ พร้อมข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อเสนอให้คณะกรรมการสืบข้อเท็จจจริงของ สพม.กทม.2 ไปพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามเมื่อมีคำสั่งให้มาปฏิบัติราชการที่ สพฐ. แล้วตนก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อผู้ใหญ่มอบหมายงานอะไรมาก็จะทำอย่างเต็มที่
ผู้สือข่าวถามถึงกรณีที่นักธุรกิจน้ำดื่มชาหวานให้เงินสนับสนุนวงโยธวาทิตของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ว่ามีผลประโยชน์แอบแฝงเพื่อเปิดธุรกิจขายน้ำภายในโรงเรียน นายพชรพงศ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ตนยังไม่ขอออกความเห็นในเรื่องนี้ และไม่อยากจะพูดอะไรมาก ขอให้รอผลจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดีกว่า
ด้าน นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า นายพชรพงศ์ มารายงานตัวที่ สพฐ. แล้วตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. และได้มาปฏิบัติราชการที่ สมป. ของ สพฐ. ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ไปจะต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของ สพม. 2 ว่า ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 มีความผิดหรือไม่ หากผลการสอบอสวนสรุปออกมาว่านายพชรพงศ์ไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ก็จะให้กลับไปปฎิบัติงานที่โรงเรียนเดิมต่อไป แต่หากประชาคมในโรงเรียนและชุมชนไม่ยอมรับก็ต้องหาวิธีการใหม่ อย่างไรก็ตามต้องให้โอกาสนายพชรพงศ์ได้ชี้แจงข้อเท็จริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 เดือนนี้จะได้ข้อสรุปและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ขอบคุณแหล่งที่มา http://www.kruthai.info/view.php?article_id=7676