"ถ้ามันคือความคิดถึง ชั้นเองก็คงคิดถึง ถ้ามันคือความลึกซึ่ง ก็ลึกสุดๆหัวใจ"
เคยรู้สึกไหมครับว่า ช่วงที่ฟังเพลงเพราะ หรืออินที่สุดจะมีแค่สองช่วงเวลาหลักๆคือ
ช่วงสุข กับ ช่วงเศร้า
ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากฟังเพลงเพราะๆช่วงเศร้าหรอกครับ แต่ถ้าเราสดับฟังให้ดีๆมันก็คือ ความจริงอย่างหนึ่งของโลกใบนี้ เป็นความไพเราะชนิดหนึ่งที่ไม่กี่คนเท่านั้นจึงจะเข้าใจมัน
แต่เดี๋ยวก่อน การฟังเพลงมันเกี่ยวอะไรกับหัวข้อเรื่องความรักกับความจริงกัน
จุดที่เหมือนกันก็คือ ทั้งสองสิ่งนี้ต่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ตามอารมณ์ความรู้สึกของคน
ซึ่งจริงๆมันก็ทุกสิ่งนั่นแหละครับ เหมือนเพลง "Everybody Changing ของ Keane "
คราวนี้คุณเคยสงสัยไหมว่า อะไรทำให้คนที่ครั้งหนึ่งเคยพูดว่า รักเรามากๆเปลี่ยนไป
1. ตัวคุณเอง
2. ตัวเขา
3. สังคม
4. คนอื่นที่เข้ามา
ฯลฯ
ไม่ว่าคำคอบของคุณจะเป็นข้อไหนก็ตามมันก็ไม่สำคัญหรอกครับ เพราะไม่ว่าสิ่งไหนก็หลีกไม่พ้นสิ่งที่เรียกว่า 'ความจริง'
สมัยก่อนตอนที่คนยังเชื่อว่าโลกเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล และโลกเป็นเส้นตรง ก็ลองไปบอกสิครับว่า ไม่จริง โลกไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล และมันเป็นวงกลม ตอนนั้นถ้าไม่ถูกจับประหารคงต้องถูกหัวเราะหาว่าบ้าแน่ๆ
ความรักก็เหมือนกันครับ ถ้าครั้งหนึ่งคุณเคยมีความรู้สึกดีๆต่อกันกับใครสักคน มันก็คือความจริงในระยะเวลานั้น แต่เมื่อเหตุปัจจัยมันเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ ปัจจุบันมันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว มันคือความจริง ณ ตอนนี้
หลายคนอาจทำใจยอมรับไม่ได้ ก็ตอนนั้นเขารักเรามาก ตอนนั้นเราก็รักเขามาก แต่ทำไมละๆๆๆๆ
เฝ้านั่งคร่ำครวญ ทิ้งตัวลงคุกเข่า ประนบสองมือขึ้นกราบกราน ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอกครับ
' เพราะความจริงมันได้เปลี่ยนไปแล้ว คุณไม่ศูนย์กลางของจักรวาลอีกต่อไป
และตอนนี้โลกมันก็กลมแล้วด้วย และมันจะเป็นความจริงอย่างนี้ไปในระยะหนึ่ง
แล้วคุณจะยังกล้าบอกว่า โลกกลมได้อีกหรือครับ ?'
ซึ่งก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันจะนานเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นไม่ได้ ก็คงจะอยู่ยากนิดนึงครับ เว้นเสียแต่คุณจะเก่งมากๆจนค้นพบความจริงอะไรใหม่ๆได้ แต่ยังไงก็ตามโลกคงไม่มีทางกลับเป็นเส้นตรงอีกแล้ว
คุณมีทางเลือกอยู่ประมาณ 3 ทางคือ
1. เชื่อว่าโลกมันยังเป็นเส้นตรงต่อไป - ก็ดีนะครับ ความเชื่อมันเปลี่ยนโลกได้ แต่ความจริงลึกๆอาจเป็นแค่ว่า คุณไม่แกร่งพอที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นเองก็ได้
2. ยอมรับว่ามัน เป็นวงกลม และอยู่อย่างมีความสุข
3. ไม่ยอมแพ้ หาความจริงใหม่ - ซึ่งถึงตอนนั้นคุณคงไม่สนแล้วละ ว่าโลกมันจะเป็นเส้นตรงหรือวงกลม
แต่เชื่อเถอะครับว่า ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดมาทำร้ายคุณได้นอกจากตัวคุณเอง
เพราะในชีวิตนี้เราไม่มีสิทธิ์ หรืออำนาจมากพอที่จะควบคุม ขอร้องให้ใครไม่มาทำร้ายเราได้หรอกครับ
แต่ ! คุณสามารถเลือกที่จะไม่ทำร้ายตัวเองได้ เลือกที่จะสูดหายใจอย่างภาคภูมิที่ยังมีคนที่รักคุณอยู่อีกมากทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต
และมันมีค่ามากกว่าคนที่อ้างว่ารักคุณ แต่ก็ได้ทำร้ายให้คุณต้องเจ็บอยู่อย่างนี้
สุดท้ายขอให้คุณได้ก้าวผ่านทั้งความรัก และความจริงได้อย่างสวยงามนะครับ
_______________________________
ความรักกับความจริง
เคยรู้สึกไหมครับว่า ช่วงที่ฟังเพลงเพราะ หรืออินที่สุดจะมีแค่สองช่วงเวลาหลักๆคือ
ช่วงสุข กับ ช่วงเศร้า
ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากฟังเพลงเพราะๆช่วงเศร้าหรอกครับ แต่ถ้าเราสดับฟังให้ดีๆมันก็คือ ความจริงอย่างหนึ่งของโลกใบนี้ เป็นความไพเราะชนิดหนึ่งที่ไม่กี่คนเท่านั้นจึงจะเข้าใจมัน
แต่เดี๋ยวก่อน การฟังเพลงมันเกี่ยวอะไรกับหัวข้อเรื่องความรักกับความจริงกัน
จุดที่เหมือนกันก็คือ ทั้งสองสิ่งนี้ต่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ตามอารมณ์ความรู้สึกของคน
ซึ่งจริงๆมันก็ทุกสิ่งนั่นแหละครับ เหมือนเพลง "Everybody Changing ของ Keane "
คราวนี้คุณเคยสงสัยไหมว่า อะไรทำให้คนที่ครั้งหนึ่งเคยพูดว่า รักเรามากๆเปลี่ยนไป
1. ตัวคุณเอง
2. ตัวเขา
3. สังคม
4. คนอื่นที่เข้ามา
ฯลฯ
ไม่ว่าคำคอบของคุณจะเป็นข้อไหนก็ตามมันก็ไม่สำคัญหรอกครับ เพราะไม่ว่าสิ่งไหนก็หลีกไม่พ้นสิ่งที่เรียกว่า 'ความจริง'
สมัยก่อนตอนที่คนยังเชื่อว่าโลกเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล และโลกเป็นเส้นตรง ก็ลองไปบอกสิครับว่า ไม่จริง โลกไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล และมันเป็นวงกลม ตอนนั้นถ้าไม่ถูกจับประหารคงต้องถูกหัวเราะหาว่าบ้าแน่ๆ
ความรักก็เหมือนกันครับ ถ้าครั้งหนึ่งคุณเคยมีความรู้สึกดีๆต่อกันกับใครสักคน มันก็คือความจริงในระยะเวลานั้น แต่เมื่อเหตุปัจจัยมันเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ ปัจจุบันมันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว มันคือความจริง ณ ตอนนี้
หลายคนอาจทำใจยอมรับไม่ได้ ก็ตอนนั้นเขารักเรามาก ตอนนั้นเราก็รักเขามาก แต่ทำไมละๆๆๆๆ
เฝ้านั่งคร่ำครวญ ทิ้งตัวลงคุกเข่า ประนบสองมือขึ้นกราบกราน ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอกครับ
' เพราะความจริงมันได้เปลี่ยนไปแล้ว คุณไม่ศูนย์กลางของจักรวาลอีกต่อไป
และตอนนี้โลกมันก็กลมแล้วด้วย และมันจะเป็นความจริงอย่างนี้ไปในระยะหนึ่ง
แล้วคุณจะยังกล้าบอกว่า โลกกลมได้อีกหรือครับ ?'
ซึ่งก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันจะนานเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นไม่ได้ ก็คงจะอยู่ยากนิดนึงครับ เว้นเสียแต่คุณจะเก่งมากๆจนค้นพบความจริงอะไรใหม่ๆได้ แต่ยังไงก็ตามโลกคงไม่มีทางกลับเป็นเส้นตรงอีกแล้ว
คุณมีทางเลือกอยู่ประมาณ 3 ทางคือ
1. เชื่อว่าโลกมันยังเป็นเส้นตรงต่อไป - ก็ดีนะครับ ความเชื่อมันเปลี่ยนโลกได้ แต่ความจริงลึกๆอาจเป็นแค่ว่า คุณไม่แกร่งพอที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นเองก็ได้
2. ยอมรับว่ามัน เป็นวงกลม และอยู่อย่างมีความสุข
3. ไม่ยอมแพ้ หาความจริงใหม่ - ซึ่งถึงตอนนั้นคุณคงไม่สนแล้วละ ว่าโลกมันจะเป็นเส้นตรงหรือวงกลม
แต่เชื่อเถอะครับว่า ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดมาทำร้ายคุณได้นอกจากตัวคุณเอง
เพราะในชีวิตนี้เราไม่มีสิทธิ์ หรืออำนาจมากพอที่จะควบคุม ขอร้องให้ใครไม่มาทำร้ายเราได้หรอกครับ
แต่ ! คุณสามารถเลือกที่จะไม่ทำร้ายตัวเองได้ เลือกที่จะสูดหายใจอย่างภาคภูมิที่ยังมีคนที่รักคุณอยู่อีกมากทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต
และมันมีค่ามากกว่าคนที่อ้างว่ารักคุณ แต่ก็ได้ทำร้ายให้คุณต้องเจ็บอยู่อย่างนี้
สุดท้ายขอให้คุณได้ก้าวผ่านทั้งความรัก และความจริงได้อย่างสวยงามนะครับ
_______________________________