•••Review•••
American Dreams in China
By Bigtum
: แด่อาการบาดเจ็บด้วยความสำเร็จอันแสนเปราะบาง
นิวเจเนอเรชั่นยุคใหม่ของเลือดมังกรที่หลีกหนีจากความจำเจอันคุ้นเคยมาแล้ว ก็ต้องยอมรับด้วยแหละว่าหนังจีนที่บ้านเรานำเข้าส่วนใหญ่มักจะเป็นอะไรเดิมๆจำพวกหนังแฟนตาซีอวดคิวบู๊กำลังภายใน ขายดาราที่เริ่มโรยราไม่ฮิตเหมือนแต่ก่อน จากวันวานที่ตลาดเคยหลากหลาย ทั้งหนังรัก แอ็คชั่น ตลก ได้ถูกบีบให้แคบตกไปยุคสมัยตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง ขอชื่นชมค่ายหนังที่กล้านำหนังเรื่องนี้มาเข้าฉาย แม้จะแค่จำกัดโรงอาจเข้าไม่ถึงคนกลุ่มใหญ่ แต่ผู้เขียนที่เป็นหนึ่งในส่วนของคนกลุ่มเล็กๆนี้รู้สึกถูกใจหนังเรื่องนี้มากๆ ถ้ามีให้กดไลท์ได้หลายทีจะกดให้รัวๆเลย มันไม่ใช่หนังอาร์ตเฮ้าส์ดูยาก แต่เป็นความบันเทิงที่ดูง่าย คมคาย แสนฉลาดทีเดียว จนต้องบอกว่าปีเตอร์ ชาน ผู้เชี่ยวชาญการทำหนังได้ขับเขี้ยวรสชาติให้ออกมาเป็นสูตรสากลสนุกถูกปากอย่างลงตัว
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ American Dreams in China งดงามก็คือฉากหลังในช่วงเวลา 3 ทศวรรษที่เกิดความเปลี่ยนแปลง ทั้งฉากหลัง สังคม วัฒนธรรม รวมไปถึงเสื้อผ้า และทรงผมของตัวละครที่เก็บรายละเอียดได้ดีเหลือเชื่อโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวคนแสดงใดๆเลย งานนี้ต้องบอกว่าทรงผมเปลี่ยนทำให้หน้าคนเปลี่ยนได้จริงๆ ความภูมิฐานนี้ก็ต้องนับรวมไปถึงเครื่องแต่งกายและคำพูดที่พัฒนาขึ้นด้วย ดาราหลักทั้งสามคนนั้นเล่นได้ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ จากเด็กที่ไม่เอาไหนในเรื่องของภาษาอังกฤษ กลายเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ป๊อบที่สุดในปักกิ่ง และโด่งดังไปจนถึงอเมริกาพร้อมกับความอื้อฉาว
แต่ความสำเร็จที่ได้มาก็ต้องยอมแลกกับความเหน็ดเหนื่อยล้มลุกคลุกคลานอยู่นาน ถูกฟ้องร้องข้อหาขโมยลิขสิทธิ์ข้อสอบ TOEFL จากบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกา นอกจากจะถูกเหยียดหยามจากชาวต่างชาติทั้งก่อนจะประสบความสำเร็จ และหลังประสบความสำเร็จแล้ว ยังถูกชนชาติเดียวกันตราหน้าด่าอีกด้วย หนังเล่าเรื่องราวของสามเพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ในคลาสอังกฤษจนกลายมาเป็นนักธุรกิจ มีทั้งเรื่องราวของมิตรภาพ ความรัก ก่อเกิดเป็นความฝัน จนนำไปสู่จุดขัดเเย้งแตกหักแบบเดียวกับ The Social Network จนคำกล่าวที่ว่า 'เพื่อนซี้ไม่ควรทำธรุกิจร่วมกัน' ช่างเสียดแทงเหลือเกิน รวมๆแล้วเป็นความบันเทิงแฝงสาระที่ 'คุ้ม' ควรค่าแก่การชมมากๆ ทั้งฟีลกู๊ด ตลก ดราม่าปนเสียดสี (จีนเสียดสีอเมริกา)
เหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากรู้เคล็ดลับว่าจะขอวีซ่าไปอเมริกายังไงให้ผ่าน เหมาะสำหรับผู้ที่มีใจรักในภาษาอังกฤษ เรียนไม่เข้าหัว แต่มุมานะ เห็นเลยว่าคนจีนนั้นขยันมากๆ ดูแล้วน่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเค้าถึงเป็นชนชาติที่พัฒนาจนได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำจนหลายประเทศต้องเหลียวมองด้วยตาปริบๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความฝัน จะอเมริกันดรีมหรือไม่ดรีมก็เหอะ และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆในชีวิต เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาหนังจีนในรสชาติที่แตกต่างที่ไม่ได้มีแต่หนังพละกำลังภายใน หรือหนังหลิวเต๋อหัว
ที่บอกในท้ายย่อหน้าแรกว่าเป็นสูตรสากล ก็คือการดำเดินเรื่องอันคุ้นเคยด้วยการเปิดเรื่องมาตัวละครก็ประสบความสำเร็จกันหมดเเล้ว และมานั่งถกเถียงสอบสวนกันไปมาเมื่อคราวถึงปัญหามาเยือน แบบเดียวกับใน The Social Network เด๊ะๆ แล้วก็เล่าย้อนกลับไปถึงชีวิตในวัยเรียนก่อนจะมาก่อตั้งสถานศึกษาจับมือทำธุรกิจร่วมกัน และกลับมาสะสางปมปิดฉากในตอนท้ายที่สะใจ เอาคืนชาติมหาอำนาจได้อย่างแสบสันต์จนไอ้กันถึงกับอึ้ง แต่ในความอึ้งก็แฝงไปด้วยบทเรียนราคาแพงของเพื่อนซี้ที่ร่วมหัวจมท้ายกันมา
ด้วยอุปนิสัยและความทะเยอทะยานที่แตกต่างกันนี้เอง สุดท้ายแล้วแม้ต่อให้เป็นเพื่อนก็ย่อมต้องมีวันเลิกลา ยอมจาก ยอมเดินถอยออกมาเพื่อเดินต่อไปในเส้นทางของใครของมัน เหลือไว้แต่ภาพสะท้อนของมิตรภาพในวัยเด็กที่เคยบริสุทธิ์ เคยโบกมือลาในยามแข่งขันแม้ว่าเพื่อนจะได้ดิบได้ดีกว่าตนก็ตาม ในยามเพื่อนบอบช้ำเจ็บตัวกลับมาก็พร้อมจะยินดียื่นมือเข้าช่วยเหลือ ภาพเหล่านั้นเป็นเพียงอดีตที่เคยอยู่ในใจสุดท้ายแล้วมันก็พรั่งพรูลงเอยออกมาเป็นหยดน้ำตา เป็นการคลี่คลายปมในใจที่ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
ระดับคะแนน "B+"
ติดตามความเห็น,รีวิวหนัง
https://www.facebook.com/McksMovie
รีวิว American Dreams in China -- แด่อาการบาดเจ็บด้วยความสำเร็จอันแสนเปราะบาง
American Dreams in China
By Bigtum
: แด่อาการบาดเจ็บด้วยความสำเร็จอันแสนเปราะบาง
นิวเจเนอเรชั่นยุคใหม่ของเลือดมังกรที่หลีกหนีจากความจำเจอันคุ้นเคยมาแล้ว ก็ต้องยอมรับด้วยแหละว่าหนังจีนที่บ้านเรานำเข้าส่วนใหญ่มักจะเป็นอะไรเดิมๆจำพวกหนังแฟนตาซีอวดคิวบู๊กำลังภายใน ขายดาราที่เริ่มโรยราไม่ฮิตเหมือนแต่ก่อน จากวันวานที่ตลาดเคยหลากหลาย ทั้งหนังรัก แอ็คชั่น ตลก ได้ถูกบีบให้แคบตกไปยุคสมัยตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง ขอชื่นชมค่ายหนังที่กล้านำหนังเรื่องนี้มาเข้าฉาย แม้จะแค่จำกัดโรงอาจเข้าไม่ถึงคนกลุ่มใหญ่ แต่ผู้เขียนที่เป็นหนึ่งในส่วนของคนกลุ่มเล็กๆนี้รู้สึกถูกใจหนังเรื่องนี้มากๆ ถ้ามีให้กดไลท์ได้หลายทีจะกดให้รัวๆเลย มันไม่ใช่หนังอาร์ตเฮ้าส์ดูยาก แต่เป็นความบันเทิงที่ดูง่าย คมคาย แสนฉลาดทีเดียว จนต้องบอกว่าปีเตอร์ ชาน ผู้เชี่ยวชาญการทำหนังได้ขับเขี้ยวรสชาติให้ออกมาเป็นสูตรสากลสนุกถูกปากอย่างลงตัว
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ American Dreams in China งดงามก็คือฉากหลังในช่วงเวลา 3 ทศวรรษที่เกิดความเปลี่ยนแปลง ทั้งฉากหลัง สังคม วัฒนธรรม รวมไปถึงเสื้อผ้า และทรงผมของตัวละครที่เก็บรายละเอียดได้ดีเหลือเชื่อโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวคนแสดงใดๆเลย งานนี้ต้องบอกว่าทรงผมเปลี่ยนทำให้หน้าคนเปลี่ยนได้จริงๆ ความภูมิฐานนี้ก็ต้องนับรวมไปถึงเครื่องแต่งกายและคำพูดที่พัฒนาขึ้นด้วย ดาราหลักทั้งสามคนนั้นเล่นได้ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ จากเด็กที่ไม่เอาไหนในเรื่องของภาษาอังกฤษ กลายเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ป๊อบที่สุดในปักกิ่ง และโด่งดังไปจนถึงอเมริกาพร้อมกับความอื้อฉาว
แต่ความสำเร็จที่ได้มาก็ต้องยอมแลกกับความเหน็ดเหนื่อยล้มลุกคลุกคลานอยู่นาน ถูกฟ้องร้องข้อหาขโมยลิขสิทธิ์ข้อสอบ TOEFL จากบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกา นอกจากจะถูกเหยียดหยามจากชาวต่างชาติทั้งก่อนจะประสบความสำเร็จ และหลังประสบความสำเร็จแล้ว ยังถูกชนชาติเดียวกันตราหน้าด่าอีกด้วย หนังเล่าเรื่องราวของสามเพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ในคลาสอังกฤษจนกลายมาเป็นนักธุรกิจ มีทั้งเรื่องราวของมิตรภาพ ความรัก ก่อเกิดเป็นความฝัน จนนำไปสู่จุดขัดเเย้งแตกหักแบบเดียวกับ The Social Network จนคำกล่าวที่ว่า 'เพื่อนซี้ไม่ควรทำธรุกิจร่วมกัน' ช่างเสียดแทงเหลือเกิน รวมๆแล้วเป็นความบันเทิงแฝงสาระที่ 'คุ้ม' ควรค่าแก่การชมมากๆ ทั้งฟีลกู๊ด ตลก ดราม่าปนเสียดสี (จีนเสียดสีอเมริกา)
เหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากรู้เคล็ดลับว่าจะขอวีซ่าไปอเมริกายังไงให้ผ่าน เหมาะสำหรับผู้ที่มีใจรักในภาษาอังกฤษ เรียนไม่เข้าหัว แต่มุมานะ เห็นเลยว่าคนจีนนั้นขยันมากๆ ดูแล้วน่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเค้าถึงเป็นชนชาติที่พัฒนาจนได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำจนหลายประเทศต้องเหลียวมองด้วยตาปริบๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความฝัน จะอเมริกันดรีมหรือไม่ดรีมก็เหอะ และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆในชีวิต เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาหนังจีนในรสชาติที่แตกต่างที่ไม่ได้มีแต่หนังพละกำลังภายใน หรือหนังหลิวเต๋อหัว
ที่บอกในท้ายย่อหน้าแรกว่าเป็นสูตรสากล ก็คือการดำเดินเรื่องอันคุ้นเคยด้วยการเปิดเรื่องมาตัวละครก็ประสบความสำเร็จกันหมดเเล้ว และมานั่งถกเถียงสอบสวนกันไปมาเมื่อคราวถึงปัญหามาเยือน แบบเดียวกับใน The Social Network เด๊ะๆ แล้วก็เล่าย้อนกลับไปถึงชีวิตในวัยเรียนก่อนจะมาก่อตั้งสถานศึกษาจับมือทำธุรกิจร่วมกัน และกลับมาสะสางปมปิดฉากในตอนท้ายที่สะใจ เอาคืนชาติมหาอำนาจได้อย่างแสบสันต์จนไอ้กันถึงกับอึ้ง แต่ในความอึ้งก็แฝงไปด้วยบทเรียนราคาแพงของเพื่อนซี้ที่ร่วมหัวจมท้ายกันมา
ด้วยอุปนิสัยและความทะเยอทะยานที่แตกต่างกันนี้เอง สุดท้ายแล้วแม้ต่อให้เป็นเพื่อนก็ย่อมต้องมีวันเลิกลา ยอมจาก ยอมเดินถอยออกมาเพื่อเดินต่อไปในเส้นทางของใครของมัน เหลือไว้แต่ภาพสะท้อนของมิตรภาพในวัยเด็กที่เคยบริสุทธิ์ เคยโบกมือลาในยามแข่งขันแม้ว่าเพื่อนจะได้ดิบได้ดีกว่าตนก็ตาม ในยามเพื่อนบอบช้ำเจ็บตัวกลับมาก็พร้อมจะยินดียื่นมือเข้าช่วยเหลือ ภาพเหล่านั้นเป็นเพียงอดีตที่เคยอยู่ในใจสุดท้ายแล้วมันก็พรั่งพรูลงเอยออกมาเป็นหยดน้ำตา เป็นการคลี่คลายปมในใจที่ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
ติดตามความเห็น,รีวิวหนัง
https://www.facebook.com/McksMovie