ยิ่งลักษณ์กับประเด็นเรื่องเอกสาร

กระทู้สนทนา
ผมลองไล่ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ ปปช.ออกหนังสือเรียกในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ให้ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น.

http://thaipublica.org/2014/02/nacc-to-charge-pm-yingluck-shinawatra/



แล้วเมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายกฯ ได้ทำหนังสือ ขอให้ทนายผู้รับมอบอำนาจ เข้าไปตรวจหลักฐาน ซึ่ง ปปช.ก็ได้อนุญาตตามนั้น



ซึ่งเป็นที่มาของการได้เอกสาร 49 แผ่น ที่เป็นข่าว

จริง ๆ ประเด็นเรื่องนี้ ควรเริ่มต้นจากการพิจารณาว่า ข้อกล่าวหาที่นายกฯได้รับมีประเด็นอะไรอย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้ว ปปช.ก็อธิบายอยู่แล้วว่า การแจ้งข้อกล่าวหานั้น ใช้หลักฐานอะไรในการพิจารณาอยู่แล้ว





http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1394968066

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1395035501




ดังนั้นในการจะแก้ข้อกล่าวหา ก็มองในเอกสารเหล่านี้เป็นหลักก่อน น่าจะเป็นแนวทางสู้คดีทีเหมาะสม แล้วค่อยขยายหาเอกสารที่เกี่ยวข้อง มาหักล้างประเด็นที่ ปปช.อาจจะยกมากล่าวหา ที่มีอยู่ในเอกสารต่าง ๆ ที่อ้างถึง น่าจะทำให้การดำเนินการมีแนวทางที่ชัดเจน

ไม่ใช่หาเรื่องติว่า เอกสารมีน้อย ต้องมีเยอะ ๆ เพื่อเป็นข้ออ้างในลำดับต่อไป ในการขอยืดเวลาออกไปเรื่อย ๆ เท่านั้น

เพราะเมื่อได้เอกสารล็อตแรกมาแล้ว ก็ติว่ามีไม่ครบ ก็มีการขอเพิ่มเติมไป และก็เป็นที่มาของเอกสารจำนวน 280 แผ่น ที่ได้มาในตอนหลัง

http://m.posttoday.com/articlestory.php?id=285851



ซึ่งดูจากรายการเอกสารที่ได้มา ก็ต้องเข้าใจว่า มันเป็นเอกสารที่นายกฯ ต้องเคยอ่าน เคยฟังอยู่แล้ว

และเมื่อบอกว่า ไม่ตรงกับที่ขอไป น่าจะมีการแถลงข่าวให้ชัดเจนเลยว่า ที่ขอเอกสาร 19 รายการนั้นคืออะไร เพื่อให้สาธารณชน ช่วยตรวจสอบความโปร่งใส ของปปช.ไปด้วยกัน

ไม่ใช่เอาแต่พูดลอย ๆ เหมือนว่า ปปช.กั๊กข้อมูล หรือไม่มีข้อมูลนั้นจริง

เพราะทางปปช.ก็ยังไม่รู้เลยว่า เอกสารที่ขอ 19 รายการนั้นคืออะไร





ถึงตอนนี้ ก็คงต้องรอดูว่า พรุ่งนี้ นายกฯ ยิ่งลักษณ์จะเข้าชี้แจงกับ ปปช.เอง หรือ ส่งเป็นเอกสารไป หรือไม่ชี้แจงใด ๆ เลย ด้วยข้ออ้างว่าเอกสารไม่ครบ

แต่เรื่องนี้จริง ๆ การแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ เป็นการกล่าวหาว่า นายกฯ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหายกับรัฐ ซึ่งตรงนี้ ถ้ามองกันตรงไปตรงมา รัฐเกิดความเสียหายจริง และนายกฯ ก็ไม่ได้ยับยั้งจริง

ดังนั้น ข้อหานี้ เป็นข้อหาที่แก้ตัวได้ลำบาก ถึงมีหลักฐานมากมายขนาดไหน ก็คงแก้ข้อกล่าวหาได้ยาก

ก็คงเหลือทางรอดเพียงทางเดียว ก็คือการกล่าวหา ปปช.ว่า ไม่ยุติธรรม เร่งรัดคดี จ้องหาเรื่อง

เพื่อสร้างความชอบธรรม ในการไม่ไปชี้แจงข้อกล่าวหา และสามารถใช้ได้ต่อเนื่อง เมื่อมีการตัดสินออกมาแล้ว ยังบอกได้ว่า เพราะไม่มีโอกาสไปชี้แจง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่