สวัสดีครับ วันนี้ผมได้ไปยื่นเอกสารขอวีซ่าไปประเทศไอซ์แลนด์ครับ สดๆร้อนๆเลย
การยื่นวีซ่าไอซ์แลนด์ ต้องยื่นผ่านตัวแทนเดนมาร์ก โดยสถานทูตเดนมาร์กมีหน้าที่ออกวีซ่าให้ครับ
การเดินทางไป VFS Global Denmark นั่งรถไฟฟ้าไปสถานีชิดลม เดินเข้าห้าง Central ลงบันไดมาชั้นหนึ่ง จากนั้นเดินออกซอยข้างๆ
จะเจอตึก Alma Link แล้วก็กดลิฟท์ขึ้นมาชั้น 12 จะเจอ VFS Sweden Denmark Norway
เอกสารที่ต้องยื่นคือ
1.ใบคำร้องขอวีซ่า
โหลดได้จากเว็บไซต์ vfs denmark
2.รูปถ่ายขนาด 3.5 4.5 พื้นหลังสีขาว ใช้ 2 รูป
ถ่ายได้แถวร้านใกล้บ้าน
3.หนังสือเดินทาง อายุเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันที่กลับถึงประเทศไทย
4.ถ่ายเอกสารหน้าวีซ่าที่เคยได้รับ ทั้งเล่มปัจจุบันและเล่มเก่า
โดยส่วนตัวคิดว่า เจ้าหน้าที่ดูเฉพาะวีซ่าเชงเก้นครับ
ผมเอา passport เล่มเก่าตัวจริงไปด้วยครับ เพราะมีวีซ่าเชงเก้น เจ้าหน้าที่ก็เก็บเล่มเก่าไปด้วย -_-
5.ถ่ายสำเนา passport หน้าแรก เล่มที่จะใช้ขอวีซ่า
6.ประกันสุขภาพสำหรับวีซ่าเชงเก้น
ในเอกสาร checklist ให้เตรียมสำเนาไปด้วย แต่พอไปยื่น เจ้าหน้าที่เอาแค่ชุดเดียว -_-
7.เอกสารยืนยันการเดินทาง เช่นตั๋วเครื่องบิน
อันนี้ผมซื้อไว้เรียบร้อยแล้วครับ
8.เอกสารยืนยันการจองที่พัก
อันนี้ผมจองผ่าน booking.com ครับ บางแห่งก็จองผ่าน youth hostel ตัดเงินไปแล้วด้วยครับ
เจ้าหน้าที่ถามด้วยครับว่าไปกับแม่เหรอ เพราะในนั้นมีชื่อแม่ไงครับ ผมเลยตอบว่าอ้อครับไปด้วยกัน แต่แม่ผมไปยื่นผ่านสถานทูตสวิต เพราะอยู่สวิตนานสุด (แม่ผมไม่ได้มาไอซ์แลนด์ด้วย กลับไทยก่อนครับ)
9.หมายกำหนดการเดินทาง
อันนี้ผมทำเป็นกิจกรรมประจำวันเลยครับ ว่าแต่ละวันทำอะไรบ้าง ไปเที่ยวประเทศไหนบ้าง แล้วก็แวะชมสถานที่ไหน
แล้วก็ใส่ชื่อโรงแรมไปว่าแต่ละวันพักโรงแรมไหน
*โดนเจ้าหน้าที่ให้เขียนเพิ่มครับ เพราะก่อนหน้าที่ผมจะไปเที่ยวไอซ์แลนด์ ผมอยู่สวิตเซอร์แลนด์ แล้วตั๋วเครื่องบินคือ Milan-Reykjavik เจ้าหน้าที่บอกว่าให้เขียนอธิบายไปว่าจากสวิตไปสนามบินที่อิตาลีได้อย่างไร สรุปเขียนว่านั่งรถไฟไป ใช้ swiss pass ซื้อตั๋วแค่ชายแดน ราคาถูก จากนั้นก็นั่งเครื่องบินจาก Milan ไป Reykjavik O_O* เดนมาร์กนี่ ละเอียดจริงๆครับ เยอรมันไม่มี ห้าห้า
10.เอกสารรับรองการทำงานที่รับรองวันหยุดงาน หรือเอกสารรับรองการเป็นนิสิตนักศึกษา
ข้อนี้ผมขอหนังสือรับรองการเป็นนิสิตจากมหาวิทยาลัยครับ (ในใบ checklist ให้เตรียมสำเนาไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่ก็เอาแค่ชุดเดียวครับ)
*เจ้าหน้าที่ให้เขียนเพิ่มเติมไปด้วยว่า การไปเที่ยวครั้งนี้เป็นช่วงวันหยุดมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยจะเปิดเรียนวันไหน ให้เขียนอธิบายไป เขียนเป็นภาษาอังกฤษ*
ความคิดเห็นส่วนตัว เป็นสถานทูตที่ละเอียดมากครับ เพราะสถานทูตเยอรมัน ไม่ต้องเขียนอธิบายเลยครับ พูดกับเจ้าหน้าที่อย่างเดียว
11.เอกสารรับรองการเงิน เช่นสมุดบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน
อันนี้ผมใช้สมุดบัญชีของแม่ครับ เพราะผมยังไม่มีรายได้ แต่ก็เตรียมเอกสารอีกอันไปด้วย คือ bank certificate ครับ
*ข้อนี้เจ้าหน้าที่ให้เขียนเพิ่มเติมไปด้วยครับ ว่าแม่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ และเราใช้บัญชีของแม่มาสมัครวีซ่าของเรา เขียนเป็นภาษาอังกฤษ*
ความคิดเห็นส่วนตัว ตอนไปยื่นวีซ่าเยอรมันไม่โดนให้เขียนอะไรแบบนี้เลยครับ อาจจะเป็นเพราะไปสัมภาษณ์พร้อมกับพ่อ เจ้าหน้าที่เลยรู้ว่าพ่อน่าจะออกค่าใช้จ่ายให้ เพราะใช้สมุดบัญชีของพ่อ แต่สำหรับครั้งนี้ไปยื่นเอกสารคนเดียวเลยครับ ละเอียดจริงๆครับวีซ่าเดนมาร์ก O_o
12.ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า
แพงเหมือนกันนะครับ ค่าวีซ่า 2700 บาท ค่าบริการ 810 บาท ค่า sms 60 บาท ค่าส่งหนังสือเดินทางกลับทางไปรษณีย์ 200 บาท
รวมทั้งสิ้น 3770 บาท -_-
สมัยตอนไปยื่นวีซ่าเยอรมัน ราคา 2400 บาท(ตอนนั้นเงินไทยแข็งค่ามากๆ) ไม่ส่งไปรษณีย์ มารับเอง ไม่เสียค่าบริการ เพราะสถานทูตเยอรมันไม่ใช้บริการ outsource ภายนอก สรุปวีซ่าเยอรมันถูกสุดครับ เพราะยื่นโดยตรงผ่านสถานทูต
13.เอกสารที่เตรียมไปเกิน
เตรียมสำเนาทะเบียนพร้อมแปลไป จริงๆไม่ต้องใช้ก็ได้ครับ เพราะอายุเกิน 18 แล้ว แต่ที่ผมเตรียมไป เพราะจะยืนยันว่ามีแม่ชื่อนี้ เป็นชื่อเดียวกับสมุดบัญชีที่ออกค่าใช้จ่ายให้ แต่เจ้าหน้าที่ก็เก็บไปนะครับ
หลังจากที่เตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถมายื่นคำร้องขอวีซ่าได้เลย ในวันและเวลาทำการ โดยที่ไม่ต้องจองคิว
พอมาถึงศูนย์ยื่นคำร้อง ก็เซ็นต์ชื่อกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่พูดจาดีมากๆครับ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ รปภ จะกดบัตรคิวให้ ของผมรอคิวไม่นานเลยครับ แป๊บเดียวจริงๆ ไม่เกิน 15 นาที
แล้วพอโดนเรียกก็ยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจเอกสารทุกอย่างครับ ตรวจทีละข้อ ตรวจละเอียดมาก 555
อันไหนติดขัด ก็จะให้เขียนอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ เหมือนที่ผมบอกไปด้านบน นอกนั้นก็ไม่มีอะไรครับ เจ้าหน้าที่พูดจาดีมากๆครับ
พอเอกสารทุกอย่างเสร็จ ก็จ่ายเงินค่าวีซ่าครับ ค่าวีซ่า 2700 บาท ค่าบริการ 810 บาท ค่า sms 60 บาท ค่าส่งหนังสือเดินทางกลับทางไปรษณีย์ 200 บาท
รวมทั้งสิ้น 3770 บาท -_-
จากนั้นรอคิวทำ biometrics ซึ่งนานมากๆ อาจจะเป็นวันซวยของผมมั้งครับ ที่ดันไปทำวีซ่าพร้อมกับกรุ๊ปทัวร์ Amway ห้าห้า กว่าจะรอลูกทัวร์มาทำ biometrics เสร็จนี่ หิวข้าวเลย ไม่กล้าไปกิน กลัวเขาเรียก
รอคิวนานมากๆ ผมได้รับบัตรคิว 11.23 จากนั้น 15 นาทีต่อมาส่งเอกสารทำวีซ่าเสร็จเรียบร้อย แต่ธุระทุกอย่างเสร็จสิ้น 13.30 -_-
การทำ biometrics จะประทับนิ้ว 10 นิ้ว ถ่ายรูป แล้วก็เซ็นต์ชื่อให้เหมือนใน passport ครับ
หลังจากนั้นจะได้ใบเสร็จพร้อมสำเนา passport คืนครับ เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการขอวีซ่าครับ รอวีซ่าทางไปรษณีย์อย่างเดียว
โดยรวมถือว่าประทับใจมากครับ แต่อาจจะเสียเวลาตรง biometrics นี่แหละครับ เพราะมีกรุ๊ปทัวร์พอดี
ผมลืมถามเจ้าหน้าที่ด้วยครับ ว่าจะได้วีซ่ากี่วัน ก็รอลุ้นกันครับว่าจะได้หรือไม่ 5555
[CR] รีวิวการขอวีซ่าเชงเก้นไอซ์แลนด์ ผ่าน vfs เดนมาร์ก
การยื่นวีซ่าไอซ์แลนด์ ต้องยื่นผ่านตัวแทนเดนมาร์ก โดยสถานทูตเดนมาร์กมีหน้าที่ออกวีซ่าให้ครับ
การเดินทางไป VFS Global Denmark นั่งรถไฟฟ้าไปสถานีชิดลม เดินเข้าห้าง Central ลงบันไดมาชั้นหนึ่ง จากนั้นเดินออกซอยข้างๆ
จะเจอตึก Alma Link แล้วก็กดลิฟท์ขึ้นมาชั้น 12 จะเจอ VFS Sweden Denmark Norway
เอกสารที่ต้องยื่นคือ
1.ใบคำร้องขอวีซ่า
โหลดได้จากเว็บไซต์ vfs denmark
2.รูปถ่ายขนาด 3.5 4.5 พื้นหลังสีขาว ใช้ 2 รูป
ถ่ายได้แถวร้านใกล้บ้าน
3.หนังสือเดินทาง อายุเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันที่กลับถึงประเทศไทย
4.ถ่ายเอกสารหน้าวีซ่าที่เคยได้รับ ทั้งเล่มปัจจุบันและเล่มเก่า
โดยส่วนตัวคิดว่า เจ้าหน้าที่ดูเฉพาะวีซ่าเชงเก้นครับ
ผมเอา passport เล่มเก่าตัวจริงไปด้วยครับ เพราะมีวีซ่าเชงเก้น เจ้าหน้าที่ก็เก็บเล่มเก่าไปด้วย -_-
5.ถ่ายสำเนา passport หน้าแรก เล่มที่จะใช้ขอวีซ่า
6.ประกันสุขภาพสำหรับวีซ่าเชงเก้น
ในเอกสาร checklist ให้เตรียมสำเนาไปด้วย แต่พอไปยื่น เจ้าหน้าที่เอาแค่ชุดเดียว -_-
7.เอกสารยืนยันการเดินทาง เช่นตั๋วเครื่องบิน
อันนี้ผมซื้อไว้เรียบร้อยแล้วครับ
8.เอกสารยืนยันการจองที่พัก
อันนี้ผมจองผ่าน booking.com ครับ บางแห่งก็จองผ่าน youth hostel ตัดเงินไปแล้วด้วยครับ
เจ้าหน้าที่ถามด้วยครับว่าไปกับแม่เหรอ เพราะในนั้นมีชื่อแม่ไงครับ ผมเลยตอบว่าอ้อครับไปด้วยกัน แต่แม่ผมไปยื่นผ่านสถานทูตสวิต เพราะอยู่สวิตนานสุด (แม่ผมไม่ได้มาไอซ์แลนด์ด้วย กลับไทยก่อนครับ)
9.หมายกำหนดการเดินทาง
อันนี้ผมทำเป็นกิจกรรมประจำวันเลยครับ ว่าแต่ละวันทำอะไรบ้าง ไปเที่ยวประเทศไหนบ้าง แล้วก็แวะชมสถานที่ไหน
แล้วก็ใส่ชื่อโรงแรมไปว่าแต่ละวันพักโรงแรมไหน
*โดนเจ้าหน้าที่ให้เขียนเพิ่มครับ เพราะก่อนหน้าที่ผมจะไปเที่ยวไอซ์แลนด์ ผมอยู่สวิตเซอร์แลนด์ แล้วตั๋วเครื่องบินคือ Milan-Reykjavik เจ้าหน้าที่บอกว่าให้เขียนอธิบายไปว่าจากสวิตไปสนามบินที่อิตาลีได้อย่างไร สรุปเขียนว่านั่งรถไฟไป ใช้ swiss pass ซื้อตั๋วแค่ชายแดน ราคาถูก จากนั้นก็นั่งเครื่องบินจาก Milan ไป Reykjavik O_O* เดนมาร์กนี่ ละเอียดจริงๆครับ เยอรมันไม่มี ห้าห้า
10.เอกสารรับรองการทำงานที่รับรองวันหยุดงาน หรือเอกสารรับรองการเป็นนิสิตนักศึกษา
ข้อนี้ผมขอหนังสือรับรองการเป็นนิสิตจากมหาวิทยาลัยครับ (ในใบ checklist ให้เตรียมสำเนาไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่ก็เอาแค่ชุดเดียวครับ)
*เจ้าหน้าที่ให้เขียนเพิ่มเติมไปด้วยว่า การไปเที่ยวครั้งนี้เป็นช่วงวันหยุดมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยจะเปิดเรียนวันไหน ให้เขียนอธิบายไป เขียนเป็นภาษาอังกฤษ*
ความคิดเห็นส่วนตัว เป็นสถานทูตที่ละเอียดมากครับ เพราะสถานทูตเยอรมัน ไม่ต้องเขียนอธิบายเลยครับ พูดกับเจ้าหน้าที่อย่างเดียว
11.เอกสารรับรองการเงิน เช่นสมุดบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน
อันนี้ผมใช้สมุดบัญชีของแม่ครับ เพราะผมยังไม่มีรายได้ แต่ก็เตรียมเอกสารอีกอันไปด้วย คือ bank certificate ครับ
*ข้อนี้เจ้าหน้าที่ให้เขียนเพิ่มเติมไปด้วยครับ ว่าแม่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ และเราใช้บัญชีของแม่มาสมัครวีซ่าของเรา เขียนเป็นภาษาอังกฤษ*
ความคิดเห็นส่วนตัว ตอนไปยื่นวีซ่าเยอรมันไม่โดนให้เขียนอะไรแบบนี้เลยครับ อาจจะเป็นเพราะไปสัมภาษณ์พร้อมกับพ่อ เจ้าหน้าที่เลยรู้ว่าพ่อน่าจะออกค่าใช้จ่ายให้ เพราะใช้สมุดบัญชีของพ่อ แต่สำหรับครั้งนี้ไปยื่นเอกสารคนเดียวเลยครับ ละเอียดจริงๆครับวีซ่าเดนมาร์ก O_o
12.ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า
แพงเหมือนกันนะครับ ค่าวีซ่า 2700 บาท ค่าบริการ 810 บาท ค่า sms 60 บาท ค่าส่งหนังสือเดินทางกลับทางไปรษณีย์ 200 บาท
รวมทั้งสิ้น 3770 บาท -_-
สมัยตอนไปยื่นวีซ่าเยอรมัน ราคา 2400 บาท(ตอนนั้นเงินไทยแข็งค่ามากๆ) ไม่ส่งไปรษณีย์ มารับเอง ไม่เสียค่าบริการ เพราะสถานทูตเยอรมันไม่ใช้บริการ outsource ภายนอก สรุปวีซ่าเยอรมันถูกสุดครับ เพราะยื่นโดยตรงผ่านสถานทูต
13.เอกสารที่เตรียมไปเกิน
เตรียมสำเนาทะเบียนพร้อมแปลไป จริงๆไม่ต้องใช้ก็ได้ครับ เพราะอายุเกิน 18 แล้ว แต่ที่ผมเตรียมไป เพราะจะยืนยันว่ามีแม่ชื่อนี้ เป็นชื่อเดียวกับสมุดบัญชีที่ออกค่าใช้จ่ายให้ แต่เจ้าหน้าที่ก็เก็บไปนะครับ
หลังจากที่เตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถมายื่นคำร้องขอวีซ่าได้เลย ในวันและเวลาทำการ โดยที่ไม่ต้องจองคิว
พอมาถึงศูนย์ยื่นคำร้อง ก็เซ็นต์ชื่อกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่พูดจาดีมากๆครับ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ รปภ จะกดบัตรคิวให้ ของผมรอคิวไม่นานเลยครับ แป๊บเดียวจริงๆ ไม่เกิน 15 นาที
แล้วพอโดนเรียกก็ยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจเอกสารทุกอย่างครับ ตรวจทีละข้อ ตรวจละเอียดมาก 555
อันไหนติดขัด ก็จะให้เขียนอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ เหมือนที่ผมบอกไปด้านบน นอกนั้นก็ไม่มีอะไรครับ เจ้าหน้าที่พูดจาดีมากๆครับ
พอเอกสารทุกอย่างเสร็จ ก็จ่ายเงินค่าวีซ่าครับ ค่าวีซ่า 2700 บาท ค่าบริการ 810 บาท ค่า sms 60 บาท ค่าส่งหนังสือเดินทางกลับทางไปรษณีย์ 200 บาท
รวมทั้งสิ้น 3770 บาท -_-
จากนั้นรอคิวทำ biometrics ซึ่งนานมากๆ อาจจะเป็นวันซวยของผมมั้งครับ ที่ดันไปทำวีซ่าพร้อมกับกรุ๊ปทัวร์ Amway ห้าห้า กว่าจะรอลูกทัวร์มาทำ biometrics เสร็จนี่ หิวข้าวเลย ไม่กล้าไปกิน กลัวเขาเรียก
รอคิวนานมากๆ ผมได้รับบัตรคิว 11.23 จากนั้น 15 นาทีต่อมาส่งเอกสารทำวีซ่าเสร็จเรียบร้อย แต่ธุระทุกอย่างเสร็จสิ้น 13.30 -_-
การทำ biometrics จะประทับนิ้ว 10 นิ้ว ถ่ายรูป แล้วก็เซ็นต์ชื่อให้เหมือนใน passport ครับ
หลังจากนั้นจะได้ใบเสร็จพร้อมสำเนา passport คืนครับ เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการขอวีซ่าครับ รอวีซ่าทางไปรษณีย์อย่างเดียว
โดยรวมถือว่าประทับใจมากครับ แต่อาจจะเสียเวลาตรง biometrics นี่แหละครับ เพราะมีกรุ๊ปทัวร์พอดี
ผมลืมถามเจ้าหน้าที่ด้วยครับ ว่าจะได้วีซ่ากี่วัน ก็รอลุ้นกันครับว่าจะได้หรือไม่ 5555