จากมติชนออนไลน์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ว่า ญี่ปุ่นได้ปล่อยตัวนักโทษประหารรายหนึ่งซึ่งเป็นอดีตนักมวยอาชีพ ภายหลังผลพิสูจน์จากดีเอ็นเอพบว่า เขาบริสุทธิ์ ไม่มีความผิดในข้อหาฆาตกรรม และเขาถือเป็นนักโทษประหารที่ติดคุกนานที่สุดของโลกด้วย
รายงานระบุว่า นายไอวาโอะ ฮากามาดะ อดีตนักมวยอาชีพญี่ปุ่น ซึ่งกลายเป็นนักโทษประหาร และต้องติดคุกกว่า 48 ปี ได้รับการพิสูจน์ดีเอ็นเอจากคราบเลือดบนเสื้อผ้าของเหยื่อเสียชีวิตที่พบว่า เลือดดังกล่าวไม่เป็นของเขา โดยศาลกล่าวว่า จำเลยไม่อาจเผชิญการจองจำอันยาวนาน จากความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อได้อีกต่อไป โดยเขาได้รับการยืนยันแล้วว่าบริสุทธิ์จริง
ที่ผ่านมา นายฮากามาดะ ถูกตัดสินประหารชีวิต หลังจากพบว่าผิดจริงในข้อหาแทงสมาชิกครอบครัว 4 ราย และจุดไฟไหม้บ้านครอบครัวนี้ในเมืองชิซูโอกะ ในปี 1966 โดยเจ้าตัวได้ยอมรับว่าทำความผิดจริงหลังถูกสอบปากคำ 20 วัน แต่ระหว่างให้การ เขาบอกศาลว่าถูกตำรวจทรมานและขู่จนเขาต้องยอมรับว่าทำความผิดจริง และเขาต้องรอคอยเวลากว่า 27 ปี ก่อนที่ศาลสูงจะปฏิเสธการอุทธรณ์ของเขา และต้องรอการอุทธรณ์เป็นครั้งที่สอง นับตั้งแต่ปี 2008 ขณะที่สุขภาพเจ้าตัวก็ทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็วในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
ทางด้านองค์การนิรโทษกรรมสากลได้โจมตีเหตุการณ์นี้ว่า ญี่ปุ่นยังคงมีการบังคับให้ผู้ต้องหารับสารภาพทั้งที่ไม่ได้กระทำความเป็นจริงอย่างกว้างขวาง และเหตุการณ์เกือบจะทำให้นายฮากามาดะถูกประหารไปแล้ว และเขาต้องทนทุกข์จากการทรมานทางกายและจิตใจ จากการถุกลงโทษอย่างไร้มนุษยธรรม และเป็นนักโทษประหารรายที่ 6 เท่านั้นที่ได้รับการไต่สวนใหม่ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ นายฮากามาดะ ยังถือเป็นนักโทษประหารที่ติดคุกนานที่สุดของโลกด้วย
ปล่อยแล้ว! นักโทษประหาร"เหยื่อแพะตร."ติดคุกนานสุดของโลก ดีเอ็นเอชี้ไร้ผิด ติดฟรี 48 ปี!?
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ว่า ญี่ปุ่นได้ปล่อยตัวนักโทษประหารรายหนึ่งซึ่งเป็นอดีตนักมวยอาชีพ ภายหลังผลพิสูจน์จากดีเอ็นเอพบว่า เขาบริสุทธิ์ ไม่มีความผิดในข้อหาฆาตกรรม และเขาถือเป็นนักโทษประหารที่ติดคุกนานที่สุดของโลกด้วย
รายงานระบุว่า นายไอวาโอะ ฮากามาดะ อดีตนักมวยอาชีพญี่ปุ่น ซึ่งกลายเป็นนักโทษประหาร และต้องติดคุกกว่า 48 ปี ได้รับการพิสูจน์ดีเอ็นเอจากคราบเลือดบนเสื้อผ้าของเหยื่อเสียชีวิตที่พบว่า เลือดดังกล่าวไม่เป็นของเขา โดยศาลกล่าวว่า จำเลยไม่อาจเผชิญการจองจำอันยาวนาน จากความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อได้อีกต่อไป โดยเขาได้รับการยืนยันแล้วว่าบริสุทธิ์จริง
ที่ผ่านมา นายฮากามาดะ ถูกตัดสินประหารชีวิต หลังจากพบว่าผิดจริงในข้อหาแทงสมาชิกครอบครัว 4 ราย และจุดไฟไหม้บ้านครอบครัวนี้ในเมืองชิซูโอกะ ในปี 1966 โดยเจ้าตัวได้ยอมรับว่าทำความผิดจริงหลังถูกสอบปากคำ 20 วัน แต่ระหว่างให้การ เขาบอกศาลว่าถูกตำรวจทรมานและขู่จนเขาต้องยอมรับว่าทำความผิดจริง และเขาต้องรอคอยเวลากว่า 27 ปี ก่อนที่ศาลสูงจะปฏิเสธการอุทธรณ์ของเขา และต้องรอการอุทธรณ์เป็นครั้งที่สอง นับตั้งแต่ปี 2008 ขณะที่สุขภาพเจ้าตัวก็ทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็วในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
ทางด้านองค์การนิรโทษกรรมสากลได้โจมตีเหตุการณ์นี้ว่า ญี่ปุ่นยังคงมีการบังคับให้ผู้ต้องหารับสารภาพทั้งที่ไม่ได้กระทำความเป็นจริงอย่างกว้างขวาง และเหตุการณ์เกือบจะทำให้นายฮากามาดะถูกประหารไปแล้ว และเขาต้องทนทุกข์จากการทรมานทางกายและจิตใจ จากการถุกลงโทษอย่างไร้มนุษยธรรม และเป็นนักโทษประหารรายที่ 6 เท่านั้นที่ได้รับการไต่สวนใหม่ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ นายฮากามาดะ ยังถือเป็นนักโทษประหารที่ติดคุกนานที่สุดของโลกด้วย