คือเราเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดเล็กค่ะ ก็รับเหมาก่อสร้างและตกแต่งภายในวงเงินงานที่รับได้ด้วยทุนตัวเองไม่เกิน 7 ล้านบาท
ทำงานมาหลายปีแล้วค่ะ เวลาทำงานถ้าเราทำกับหน่วยงานราชการก็มีแบงค์การันตีกันตามปกติ
ส่วนงานเอกชนในรูปแบบบริษัทกับบริษัทด้วยกัน ก็อาจมีการวางประกันค่าความเสียหายพื้นที่หน้างานบ้าง เช่นวางประกันนิคมอุตสาหกรรม หรือวางเงินประกันผลงานอะไรประมาณนี้ค่ะ ที่ผ่านมาก็ทำงานมาแบบนี้ตลอด ไม่มีปัญหาอะไร ได้เงินคืนครบ
แต่ล่าสุดที่สงสัยมากๆเลยคือ เคสแบบนี้ไม่เคยเจอ มีลูกค้าสร้างบ้านเดี่ยวชั้นเดียวมาติดต่อ (ลูกค้าเป็นบุคคลธรรมดา) อยากให้งานราคาต่ำกว่าท้องตลาดนิดหน่อย เลยตกลงราคากันที่ราวๆ 1.1 ล้านบาทค่ะ ราคาค่าของ+ค่าแรงนะคะ แล้วจะเซ็นสัญญาก่อสร้างแบบทั่วไปคือใช้บุคคลธรรมดาเซ็นต์กัน ไม่ใช่รับในรูปแบบบริษัท เราก็ทำสัญญาแบ่งงวดงานและข้อแนบท้ายสัญญาไปให้ดู
เราแบ่งงวดงานตาม BOQ งานนี้เน้นโครงสร้าง แทบไม่มีงานสถาปัตย์ ดังนั้นเนื้องวดงานแรกๆจะหนัก หลังๆจ่าย% น้อย เพราะไม่มีงานตกแต่ง งานทาสีอะไรเลยตามแบบงานที่ลูกค้าส่งให้ค่ะ
ต่อมาลูกค้าแก้สัญญากลับมา มีข้อกำหนดจากทางลูกค้ามาว่า งวดแรกที่ลูกค้าแจ้งไว้ 10 % ของงาน ยอดราวๆ หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาท ในการทำสัญญาทางลูกค้าขอให้เราวางหลักทรัพย์ค้ำงานเป็นมูลค่า หนึ่งแสนบาท!!!!
เรางงตึบเลย!!! คือหลักทรัพย์หนึ่งแสนบาทวางกับบุคคลธรรมดานี่เค้าทำกันยังไงคะ?? ปกติเราทำงานรับงานลูกค้ามาหลายปี ลูกค้าบุคคลจ้างทำบ้านก็จ้างปกติ ไม่เคยมีใครขอหลักทรัพย์วาง
พอสอบถามไปทางลูกค้า เค้าก็บอกว่าเค้าจ้างคนมาดูแลงาน Consault ให้เรื่องเนื้องานและสัญญา เราเลยอธิบายไปว่าปกติงานรับจ้างสร้างบ้านให้ เราคงไม่ออกเงินให้ทางลูกค้าก่อน รับเงินคุณมาทำบ้านบนที่ดินคุณ ถ้าวางไปหนึ่งแสน เท่ากับเนื้องวดจริงเราจะได้เงินหนึ่งหมื่นบาทมาทำงานฐานราก มันไม่มีใครทำกันแบบนี้ หลังจากนั้นก็มีการแก้สัญญากันอีกครั้ง เราขอปรับงวดตามรายการ BOQ กับเอาข้อประกันงานออก
เราแจ้งเค้าไปว่าถ้าต้องการหลักทรัพย์ประกันงานไม่มีปัญหาแต่คุณต้องหาบริษัทมาเซ้นต์สัญญากับทางเราและต่างคนต่างทำแบงค์การันตี ทำกันทั้ง 2 ฝั่ง (ซึ่งยุ่งยากมากและงานราคาไม่สูงมาก กำไรก็น้อย ถ้าวิธีนี้เราเลือกงานที่ได้กำไรดีและปลอดภัยในการเก็บงวดสุดท้ายดีว่า เงินเราอยู่ดีๆไปวางก็ต้องปลอดภัยสินะ) แต่ขอบวก vat 7% เข้าไปด้วยตามหลักเกณฑ์บริษัท ที่แจ้งไปก็ยังคิดดูก่อนนะว่ารับดีไหมงานนี้
ทางลูกค้าได้แก้ไขสัญญาตอบกลับมา ยังคงทำเป็นบุคลกับบุคคลเนื่องจากไม่อยากจ่าย Vat มีการเปลี่ยนงวดใหม่หมด จาก 7 งวดที่ขอไปเหลือ 5 งวด และงวดสุดท้ายจ่าย 25% (กำไรงานทั้งหมด ไม่เกิน 20% เองค่ะ) ให้งวดแรกมาเพิ่มขึ้นหน่อยคือ 15% ราวๆแสนหกหมื่นบาท แต่ก็ยังคงขอหลักทรัพย์ประกันจำนวนหนึ่งแสนบาทอยู่ดี **
รวมทั้งรายละเอียดในสัญญางานที่มีการบีบระยะเวลาการทำงานลงไปอีก บ้านชั้นเดียวมีดาษฟ้าให้เวลาทำในสัญญาเวลา 140 วันเท่านั้นเอง และมีค่าปรับวันละ 2000 บาท (ต่อมาแก้เป็น 1000 บาท) ทั้งๆที่อีกเดือนเดียวเข้าหน้าฝนแล้ว มีรายละเอียดยิปย่อยมากมายที่บีบบังคับ อธิบายไม่หมดค่ะ เหมือนไปก็อปสัญญางานสักร้อยล้านมาเป็นเงื่อนไขน่ะค่ะ ใครที่เคยทำงานโครงการใหญ่ๆคงพอรู้นะคะ
เราอ่านแล้วก็ไม่โอเคเลย ทางลูกค้าก็บอกไม่ทราบ ทาง Consault แนะนำมาแบบนี้ 555555 เราก็ เอ่มมมม.....นะ คือแนะนำทางลูกค้าบอก Consault ให้กลับไปดู BOQ งานนี้ก่อน การแบ่งงวดเราแบ่งไปตามที่ทำงานจริง สัญญาแบ่งงวดงานแบบนี้ผรม.ทั่วๆไปไม่สามารถทำงานได้เลยค่ะ ต้องออกเงินทำงานให้คุณก่อนไปล่วงหน้าในทุกๆงวด รวมทั้งไปลุ้นเอาในงวดสุดท้ายว่า 25 % จะเก็บได้หรือเปล่า
ลูกค้าก็น่ารักนะคะ เค้าเห็นข้อสัญญาก็ยังจะบอกว่าเราวางประกันมา 1 แสน เค้าก็จะวางให้เรา 1 แสนเหมือนกัน ***5555 มันมีประโยชน์ไหมนั่นอ่ะ แล้วหลักทรัพย์แสนนึงเอาอะไรวางคำ้กัน ถ้าเงินสดก็เหมือนเอาเงินมาแลกกัน งง อ่ะค่ะ เรามองไม่เห็นประโยชน์ใดๆของการค้ำในกรณีนี้จริงๆค่ะ ***
สุดท้ายงานนี้เราปฎิเสธเค้าไป ทั้งๆที่ดิวกันมาจะเตรียมคนเข้างานแล้วค่ะ เราให้เหตุผลว่า เงินประกันของเราอยู่ไนไซด์งานบริษัทอื่นๆ 3 ไซด์ กว่า 5 แสนบาท และยังไม่ได้รับคืนมาในตอนนี้ ต้องเดือนพค. ไปแล้ว ตอนนี้เต็มแม๊กซ์ รับงานที่มีประกันงานไม่ได้แล้ว (อันที่จริง เราเลี่ยงงานค่ะ เราก็เลือกรับงานเหมือนกัน ไม่ใช่ลูกค้าเป็นฝ่ายเลือกเราอย่างเดียว เราเก็บเงินแสนนึงนี่ ไปไว้เป็นเงินหมุนเวียนงานให้ลูกค้าปกติดีกว่าค่ะ)
และแนะนำให้ Consault ช่วยหาผรม.ที่รับเงื่อนไขการทำงานนี้ให้ที หรือทาง Consault เค้าหาได้ มีทีมตัวเองที่ทำงานได้ในเงื่อนไขแบบนี้หรือเปล่า แต่ก่อนไปให้ผรม.คนอื่นตีราคางาน หาคนกลางๆอ่านเงื่อนไขดูก่อนว่า เอาเปรียบกันหรือไม่อย่างไร จะลำบากที่ลูกค้านี่ล่ะ เอาสัญญากับแบบไปวิ่งหาผรม.มาทำงาน เราว่าหายากมากค่ะ คนที่จะรับเงื่อนไขได้ ถ้างั้นก็ไม่ได้สร้างสักที
อันนี้โทษ Consault คนนี้ได้ไหมนะ 55555 บริษัทเราเองไปเป็นที่ปรึกษาเป็น Consault ให้คนอื่นเหมือนกันค่ะ เราเน้นหลักตรงกลาง วินๆทั้ง 2 ฝ่าย ไม่กดหัวใครนะคะ งานจะได้ราบรื่น เข้าใจหลักการบริหารงบด้วยมันจะไปได้ค่ะ
เราก็เข้าใจทางลูกค้านะคะ ตอนนี้มีการโกง หรือทำงานไม่จบเยอะแยะ ของผรม. ที่ทิ้งงาน เงินหมุนไม่พอ งานไม่จบ ทำให้ลูกค้าไม่กล้าจ่ายงวดและมีเงื่อนไขเยอะแยะไปหมด
แต่อยากให้มองในแง่ของคนทำงานด้วย ผรม.ทั่วๆไป มีเงินไม่เยอะนัก เค้าจะเอาเงินที่ไหนมาทำงานสร้างบ้านให้คุณไปล่วงหน้าก่อนล่ะคะ ยิ่งงานราคาไม่แพง แล้วยังความเสี่ยงที่จะเก็บเงินไม่ได้อีก ถ้าเก็บไม่ได้ เราก็ไม่สามารถไปทุบรื้อ หรือเอาอะไรออกมาจากที่ดินคุณได้
เรื่องอย่างงี้อาศัยความเชื่อใจ และผลงานที่ผ่านมาเป็นตัวชี้วัด ประเมินกันน่าจะดีกว่า ถ้าเพิ่งรู้จักกันอันนี้ต้องพิจารณาเอาค่ะ
ส่วนทางเราเลือกงานที่ Play safe กับตัวเราเองค่ะ การแบ่งงวดที่คิดไปลูกค้าอาจมองว่างวดหนักหรือน้อย อันนี้เราคิดจากหน้างานในการทำงานจริง ประมาณว่าถ้าเกิดอะไรติดขัดขึ้นมาทั้ง 2 ฝ่าย จะเสมอตัว ทั้งลูกค้าและเราไม่มีใครเสียเปรียบใคร
เราค่อนข้างรอบคอบมากกับแผนการเงิน เคยโดนค่ะ เก็บเงินงวดสุดท้ายไม่ได้สาเหตุเพราะลูกค้าขอแถมงาน ไม่ทำให้ไม่จ่าย ก็ฟ้องกันไปตามระเบียบ เสียเวล่ำเวลา แต่ลูกค้าดีๆก็มีค่ะ เยอะแยะ ลูกค้าประจำก็ยังคงแวะเวียนมาใช้บริการบอกต่อ ถ้าเคยๆกันแล้วไม่มีปัญหาอะไร
แวะมาเล่าให้ฟัง งานนี้เราบายงานไปแล้วนะคะ เพื่อนๆผรม.ใครเคยมีประสบการณ์ วางค้ำประกันบุคคลกับบุคคลมาเล่าให้เราฟังทีนะคะ ว่าเจอยังไงกันมาบ้างค่ะ
ผู้รับเหมารายใดเคยโดนลูกค้าที่ว่าจ้างงานก่อสร้างขอให้วางสินทรัพย์ประกันงานบ้างคะ?? มาแชร์ประสบการณ์กันค่ะ
ทำงานมาหลายปีแล้วค่ะ เวลาทำงานถ้าเราทำกับหน่วยงานราชการก็มีแบงค์การันตีกันตามปกติ
ส่วนงานเอกชนในรูปแบบบริษัทกับบริษัทด้วยกัน ก็อาจมีการวางประกันค่าความเสียหายพื้นที่หน้างานบ้าง เช่นวางประกันนิคมอุตสาหกรรม หรือวางเงินประกันผลงานอะไรประมาณนี้ค่ะ ที่ผ่านมาก็ทำงานมาแบบนี้ตลอด ไม่มีปัญหาอะไร ได้เงินคืนครบ
แต่ล่าสุดที่สงสัยมากๆเลยคือ เคสแบบนี้ไม่เคยเจอ มีลูกค้าสร้างบ้านเดี่ยวชั้นเดียวมาติดต่อ (ลูกค้าเป็นบุคคลธรรมดา) อยากให้งานราคาต่ำกว่าท้องตลาดนิดหน่อย เลยตกลงราคากันที่ราวๆ 1.1 ล้านบาทค่ะ ราคาค่าของ+ค่าแรงนะคะ แล้วจะเซ็นสัญญาก่อสร้างแบบทั่วไปคือใช้บุคคลธรรมดาเซ็นต์กัน ไม่ใช่รับในรูปแบบบริษัท เราก็ทำสัญญาแบ่งงวดงานและข้อแนบท้ายสัญญาไปให้ดู
เราแบ่งงวดงานตาม BOQ งานนี้เน้นโครงสร้าง แทบไม่มีงานสถาปัตย์ ดังนั้นเนื้องวดงานแรกๆจะหนัก หลังๆจ่าย% น้อย เพราะไม่มีงานตกแต่ง งานทาสีอะไรเลยตามแบบงานที่ลูกค้าส่งให้ค่ะ
ต่อมาลูกค้าแก้สัญญากลับมา มีข้อกำหนดจากทางลูกค้ามาว่า งวดแรกที่ลูกค้าแจ้งไว้ 10 % ของงาน ยอดราวๆ หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาท ในการทำสัญญาทางลูกค้าขอให้เราวางหลักทรัพย์ค้ำงานเป็นมูลค่า หนึ่งแสนบาท!!!!
เรางงตึบเลย!!! คือหลักทรัพย์หนึ่งแสนบาทวางกับบุคคลธรรมดานี่เค้าทำกันยังไงคะ?? ปกติเราทำงานรับงานลูกค้ามาหลายปี ลูกค้าบุคคลจ้างทำบ้านก็จ้างปกติ ไม่เคยมีใครขอหลักทรัพย์วาง
พอสอบถามไปทางลูกค้า เค้าก็บอกว่าเค้าจ้างคนมาดูแลงาน Consault ให้เรื่องเนื้องานและสัญญา เราเลยอธิบายไปว่าปกติงานรับจ้างสร้างบ้านให้ เราคงไม่ออกเงินให้ทางลูกค้าก่อน รับเงินคุณมาทำบ้านบนที่ดินคุณ ถ้าวางไปหนึ่งแสน เท่ากับเนื้องวดจริงเราจะได้เงินหนึ่งหมื่นบาทมาทำงานฐานราก มันไม่มีใครทำกันแบบนี้ หลังจากนั้นก็มีการแก้สัญญากันอีกครั้ง เราขอปรับงวดตามรายการ BOQ กับเอาข้อประกันงานออก
เราแจ้งเค้าไปว่าถ้าต้องการหลักทรัพย์ประกันงานไม่มีปัญหาแต่คุณต้องหาบริษัทมาเซ้นต์สัญญากับทางเราและต่างคนต่างทำแบงค์การันตี ทำกันทั้ง 2 ฝั่ง (ซึ่งยุ่งยากมากและงานราคาไม่สูงมาก กำไรก็น้อย ถ้าวิธีนี้เราเลือกงานที่ได้กำไรดีและปลอดภัยในการเก็บงวดสุดท้ายดีว่า เงินเราอยู่ดีๆไปวางก็ต้องปลอดภัยสินะ) แต่ขอบวก vat 7% เข้าไปด้วยตามหลักเกณฑ์บริษัท ที่แจ้งไปก็ยังคิดดูก่อนนะว่ารับดีไหมงานนี้
ทางลูกค้าได้แก้ไขสัญญาตอบกลับมา ยังคงทำเป็นบุคลกับบุคคลเนื่องจากไม่อยากจ่าย Vat มีการเปลี่ยนงวดใหม่หมด จาก 7 งวดที่ขอไปเหลือ 5 งวด และงวดสุดท้ายจ่าย 25% (กำไรงานทั้งหมด ไม่เกิน 20% เองค่ะ) ให้งวดแรกมาเพิ่มขึ้นหน่อยคือ 15% ราวๆแสนหกหมื่นบาท แต่ก็ยังคงขอหลักทรัพย์ประกันจำนวนหนึ่งแสนบาทอยู่ดี **
รวมทั้งรายละเอียดในสัญญางานที่มีการบีบระยะเวลาการทำงานลงไปอีก บ้านชั้นเดียวมีดาษฟ้าให้เวลาทำในสัญญาเวลา 140 วันเท่านั้นเอง และมีค่าปรับวันละ 2000 บาท (ต่อมาแก้เป็น 1000 บาท) ทั้งๆที่อีกเดือนเดียวเข้าหน้าฝนแล้ว มีรายละเอียดยิปย่อยมากมายที่บีบบังคับ อธิบายไม่หมดค่ะ เหมือนไปก็อปสัญญางานสักร้อยล้านมาเป็นเงื่อนไขน่ะค่ะ ใครที่เคยทำงานโครงการใหญ่ๆคงพอรู้นะคะ
เราอ่านแล้วก็ไม่โอเคเลย ทางลูกค้าก็บอกไม่ทราบ ทาง Consault แนะนำมาแบบนี้ 555555 เราก็ เอ่มมมม.....นะ คือแนะนำทางลูกค้าบอก Consault ให้กลับไปดู BOQ งานนี้ก่อน การแบ่งงวดเราแบ่งไปตามที่ทำงานจริง สัญญาแบ่งงวดงานแบบนี้ผรม.ทั่วๆไปไม่สามารถทำงานได้เลยค่ะ ต้องออกเงินทำงานให้คุณก่อนไปล่วงหน้าในทุกๆงวด รวมทั้งไปลุ้นเอาในงวดสุดท้ายว่า 25 % จะเก็บได้หรือเปล่า
ลูกค้าก็น่ารักนะคะ เค้าเห็นข้อสัญญาก็ยังจะบอกว่าเราวางประกันมา 1 แสน เค้าก็จะวางให้เรา 1 แสนเหมือนกัน ***5555 มันมีประโยชน์ไหมนั่นอ่ะ แล้วหลักทรัพย์แสนนึงเอาอะไรวางคำ้กัน ถ้าเงินสดก็เหมือนเอาเงินมาแลกกัน งง อ่ะค่ะ เรามองไม่เห็นประโยชน์ใดๆของการค้ำในกรณีนี้จริงๆค่ะ ***
สุดท้ายงานนี้เราปฎิเสธเค้าไป ทั้งๆที่ดิวกันมาจะเตรียมคนเข้างานแล้วค่ะ เราให้เหตุผลว่า เงินประกันของเราอยู่ไนไซด์งานบริษัทอื่นๆ 3 ไซด์ กว่า 5 แสนบาท และยังไม่ได้รับคืนมาในตอนนี้ ต้องเดือนพค. ไปแล้ว ตอนนี้เต็มแม๊กซ์ รับงานที่มีประกันงานไม่ได้แล้ว (อันที่จริง เราเลี่ยงงานค่ะ เราก็เลือกรับงานเหมือนกัน ไม่ใช่ลูกค้าเป็นฝ่ายเลือกเราอย่างเดียว เราเก็บเงินแสนนึงนี่ ไปไว้เป็นเงินหมุนเวียนงานให้ลูกค้าปกติดีกว่าค่ะ)
และแนะนำให้ Consault ช่วยหาผรม.ที่รับเงื่อนไขการทำงานนี้ให้ที หรือทาง Consault เค้าหาได้ มีทีมตัวเองที่ทำงานได้ในเงื่อนไขแบบนี้หรือเปล่า แต่ก่อนไปให้ผรม.คนอื่นตีราคางาน หาคนกลางๆอ่านเงื่อนไขดูก่อนว่า เอาเปรียบกันหรือไม่อย่างไร จะลำบากที่ลูกค้านี่ล่ะ เอาสัญญากับแบบไปวิ่งหาผรม.มาทำงาน เราว่าหายากมากค่ะ คนที่จะรับเงื่อนไขได้ ถ้างั้นก็ไม่ได้สร้างสักที
อันนี้โทษ Consault คนนี้ได้ไหมนะ 55555 บริษัทเราเองไปเป็นที่ปรึกษาเป็น Consault ให้คนอื่นเหมือนกันค่ะ เราเน้นหลักตรงกลาง วินๆทั้ง 2 ฝ่าย ไม่กดหัวใครนะคะ งานจะได้ราบรื่น เข้าใจหลักการบริหารงบด้วยมันจะไปได้ค่ะ
เราก็เข้าใจทางลูกค้านะคะ ตอนนี้มีการโกง หรือทำงานไม่จบเยอะแยะ ของผรม. ที่ทิ้งงาน เงินหมุนไม่พอ งานไม่จบ ทำให้ลูกค้าไม่กล้าจ่ายงวดและมีเงื่อนไขเยอะแยะไปหมด
แต่อยากให้มองในแง่ของคนทำงานด้วย ผรม.ทั่วๆไป มีเงินไม่เยอะนัก เค้าจะเอาเงินที่ไหนมาทำงานสร้างบ้านให้คุณไปล่วงหน้าก่อนล่ะคะ ยิ่งงานราคาไม่แพง แล้วยังความเสี่ยงที่จะเก็บเงินไม่ได้อีก ถ้าเก็บไม่ได้ เราก็ไม่สามารถไปทุบรื้อ หรือเอาอะไรออกมาจากที่ดินคุณได้
เรื่องอย่างงี้อาศัยความเชื่อใจ และผลงานที่ผ่านมาเป็นตัวชี้วัด ประเมินกันน่าจะดีกว่า ถ้าเพิ่งรู้จักกันอันนี้ต้องพิจารณาเอาค่ะ
ส่วนทางเราเลือกงานที่ Play safe กับตัวเราเองค่ะ การแบ่งงวดที่คิดไปลูกค้าอาจมองว่างวดหนักหรือน้อย อันนี้เราคิดจากหน้างานในการทำงานจริง ประมาณว่าถ้าเกิดอะไรติดขัดขึ้นมาทั้ง 2 ฝ่าย จะเสมอตัว ทั้งลูกค้าและเราไม่มีใครเสียเปรียบใคร
เราค่อนข้างรอบคอบมากกับแผนการเงิน เคยโดนค่ะ เก็บเงินงวดสุดท้ายไม่ได้สาเหตุเพราะลูกค้าขอแถมงาน ไม่ทำให้ไม่จ่าย ก็ฟ้องกันไปตามระเบียบ เสียเวล่ำเวลา แต่ลูกค้าดีๆก็มีค่ะ เยอะแยะ ลูกค้าประจำก็ยังคงแวะเวียนมาใช้บริการบอกต่อ ถ้าเคยๆกันแล้วไม่มีปัญหาอะไร
แวะมาเล่าให้ฟัง งานนี้เราบายงานไปแล้วนะคะ เพื่อนๆผรม.ใครเคยมีประสบการณ์ วางค้ำประกันบุคคลกับบุคคลมาเล่าให้เราฟังทีนะคะ ว่าเจอยังไงกันมาบ้างค่ะ