เพราะความไม่กล้าของผม

ผมอยากจะเล่า ไม่สิเรียกว่าระบายดีกว่า เรื่องมีอยู่ว่า วันนึงผมได้มีโอกาสไปทีปากช่อง

ทีนี้ผมก็ได้ไปพักที่โรงแรมริมธารอินน์ คือที่นี้มีร้านอาหารชื่อว่าบ้านระเบียงน้ำ

ผมกับครอบครัวก็ได้ไปทานข้าวกัน แล้วทันใดนั้น ผมเห็นพนักงานเสิร์ฟคนนึง

เหมือนโลกทั้งใบมันหยุดหมุน ผมหลงรักพนักงานเสิร์ฟเข้าให้แล้ว

เธอหุ่นจัดว่าดี ผิวขาว แต่ที่ผมสะดุดตาที่สุดคือ รอยยิ้ม กับ แววตาของเธอ

ผมเป็นคนที่ขี้อายมาก เวลาผมมองเธอผมได้แต่ชำเลืองมอง ไม่กล้าแม้ที่จะสบตา

ตอนนั้นผมอยากรู้จักเธอมาก แต่คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ามองเธอคนนั้น

พอผมกับครอบครัวทานข้าวเสร็จ พ่อกับแม่ผมก็ขึ้นไปนอน แต่ตอนนั้น

ผมยังไม่อยากไปนอนพักผ่อนถึงแม้ว่าจะพึ่งเดินทางมาเหนื่อยๆ เพราะผมอยากมองเธอ

ผมจึงไปที่ล๊อบบี้หามุมนั่งอ่านหนังสือไป สายตาก็มองหาเธอไป ทันใดนั้น

ผมคาดว่าถึงเวลาเลิกงานเธอพอดี ผมก็เห็นเธอเดินมา คือมุมที่ผมนั่งอ่ะ

มันเป็นกระจกกั้น ตัวโรงแรมกับภายนอก ผมก็นั่งอ่านหนังสือไปสายตาก็แอบมองเธอ

แล้วเธอก็เคาะกระจก ตรงมุมที่ผมนั่ง ผมคิดในใจตอนนั้นเอ๊ะ  

เค้าเคาะเรียกผมหรือเปล่า (คือเค้าเคาะจากด้านนอก) ผมหันไปดูอ่าว เค้าเคาะกระจกแกล้งยามสะงั้น(ยามคงจะหลับ)

ผมก็คิดในใจโด่วหลงตัวเองนี้หว่าเรา พอเธอเลิกงานกลับบ้าน ผมก็ขึ้นไปนอน(ฮ่าๆ แค่ได้มองก็สุขแล้วเว้ย)

วันต่อมาครอบครับก็ไปทานข้าวที่เดิมแต่น่าเสียผมไม่เจอเธอ(เธอคงไม่เข้างาน) ก็Failไปวันนั้น

แต่ที่เล่ามาอ่ะ เนื้อหาสำคัญ อยู่ตรงนี้ครับ คือมันเป็นวันสุดท้ายแล้วที่ผมจะได้พักที่นี้ เพราะผมต้องกลับมาภูเก็ต

ผมได้บอกแม่(เลี้ยง)ผมแล้วว่าพนังงานเสิร์ฟคนนี้ผมปลื้มอยู่นะ ผมกับแม่(เลี้ยง)อายุ

เราห่างกันไม่มาก ปกติผมเรียกว่าพี่ ผมสามารถปรึกษากับแกได้ทุกเรื่อง คือผมขอเรียกพี่แทนแม่น่ะครับ

เพราะเราเหมือนพี่น้องมากกว่าแม่ลูก ผมจะใช้ชื่อแทนว่าพี่A น่ะครับ

มันเป็นคืนสุดท้ายที่ผมจะได้พักที่นี้ ผมคิดในใจเอาว่ะ ต้องขอเบอร์ให้ได้

ดินเนอร์คืนนี้มันเป็นคืนที่พิเศษเพราะมีครอบครัวพี่A มาทานข้าวด้วย บทสนทนาผมกับพี่A

ผม:น้องคนนั้นอะน่ารักจักอยากได้เบอร์ๆๆๆ

พี่A:ไปขอเบอร์เค้าดิ ด้านได้อายอด

ผม:ทำไงได้อ่ะก็คนมันไม่กล้า

หลังจากนั้นผมก็โดนพี่Aถล่มแซวผมสะ แทบอยากจะมุดโต๊ะ

พี่A เรียกน้องคนนั้นมาแล้วบอกว่าผมชอบอยู่นะ มีแฟนรึยัง

น้องเค้าตอบว่ามีแล้วค่ะแฟนหลายตัวอยู่ที่บ้านเลย (์แหนะๆมีอารมณ์เล่นมุข ผมนิ๊อายแทบแย่)

ผมกับน้องพนักงานเสิร์ฟคนนั้นคงจะเขิลพอๆ กับผมเลย

โดนแซวสะ

คือจังหวะนั้นผมอยากจะถามชื่อเค้า +กับขอเบอร์เธอมากเพราะ พรุ้งนี้ผมจะกลับภูเก็ตแล้ว

แต่ผมไม่กล้า สุดท้ายผมก็ไม่ได้ขอไว้ พอทานข้าวเสร็จ ผมกับพ่อและพี่A ก็ร่ำลาครอบครัวของพี่A

เสร็จพ่อผมกับพี่A ก็ไปนอนเพราะพรุ้งนี้ต้องตื่นแต่เช้ากลับภูเก็ต

ผมยังไม่อยากนอนเพราะผมอยากจะรู้จักเธอให้ได้ ผมก็เล่นมานั่งอ่านหนังสือ ที่มุมเดิม

ผมก็อ่านหนังสือไปจนเธอเลิกงาน ผมเห็นเธอเดินมา

ตอนนั้นในใจผมมันบอกว่า เอาเลยเข้าไปซิว่ะถามชื่อแล้วขอเบอร์มาด้วยน่ะ กล้าๆหน่อย

ทันใดนั้น แก๊ก เธอเคาะกระจก ผมสะดุ้งผมหันไปมองแต่เธอไม่ได้มองผมนะเธอยืนคุยกับเพื่อนเธอ

ผมไม่รู้เธอเคาะทำไม ผมคิดในใจเคาะเรียกเราปล่าวว๊า ในวินาทีนั้นผมอยากจะเข้าไปถามชื่อเธอ+ขอเบอร์เธอมาก

แต่ผมไม่กล้า ผมได้แต่ชำเลืองมอง ไม่กล้าแม้ที่จะสบตาเค้า และในที่สุด มันก็ฝั่งใจผม จนทุกวันนี้ เพราะผมได้

ปล่อยให้เธอกลับไปโดยที่ผมไม่รู้จักเธอเลย เพราะความไม่กล้าของผมแท้ๆ

ผมกลับมาภูเก็ตพร้อมกับภาพที่เธอยิ้มให้ ผมคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเดียวปีหน้าก็ได้ไปปากช่องอีกคงจะเจอเธออีกน่ะ

แต่ถึงตอนนี้ผ่านมาเกือบ2ปีผมไม่ได้กลับไปที่นั้นอีกเลย  

ผมอยากบอกว่าชอบเธอมาก อยากรู้จักเธอมาก อยากคุยกับเธอมาก แต่เพราะผมไม่กล้า

มันเลยค้างคาใจมาถึงทกวันนี้เพราะผมไม่ได้ที่จะพูดตามเสียงหัวใจของผม

ผมอยากจะให้ข้อคิดกลับหลายๆคน ที่แอบชอบใคร รักใคร แต่ไม่กล้าบอก

ว่าพูดไปเถอะครับ บอกไปตามเสียงหัวใจของคุณเลยครับ

ดีกว่าเก็บไว้ให้มันค้างคาใจแบบผม

ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเธอมาเห็นกระทู้นี้เข้า ผมก็อยากจะบอกว่าผมยังชอบคุณอยู่นะ ถึงจะผ่านมาหลายปี

แต่ผมยังไม่ลืมคุณ เอ่อผมมีภาพถ่ายคู่ด้วยผมนิ๊เขิลๆ(พี่Aเล่นผม บอกให้น้องเค้ามาถ่ายคู่

ผมหน่อย เขิลๆก็เขิล อายก็อาย)  หัวเราะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่