วันนี้ JapanSalaryman จะมาสาธยายคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่ใช้บ๊อยบ่อย บ่อยเหลือเกินในชีวิตการทำงาน
เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ทำงานร่วมกับคนญี่ปุ่นอยู่
และแน่นอน..เราจะไม่เขียนเพื่อคนไทยที่ทำงานกับคนญี่ปุ่นอย่างเดียว
ผมจะแทรกเกร็ดต่างๆแนะนำว่าทำไมต้องพูดอย่างนู้นอย่างนี้ เพื่อที่เพื่อนๆพี่ๆน้องๆคนไหน
คิดว่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับที่ทำงานตัวเองได้ (ไม่จำเป็นต้องกับคนญี่ปุ่นก็ได้ ) ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งคร้าบบบ..!
คำแรก
"Ohayo Gozaimas" หรือ "โอไฮโย โกไซมัส"
คำนี้เป็นคำที่แสนจะคุ้นเคย ถูกมั้ยครับ? เรียกได้ว่าเป็นคำแรกของผมตอนเรียนภาษาญี่ปุ่น เปิดหนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่นมาหน้าแรก
ก็จะเจอคำนี้ เพราะว่า คำนี้แปลว่า
"สวัสดีตอนเช้า" ทุกภาษาก็ต้องเริ่มจากคำทักทายก่อน หรือบางคนอาจเคยคุ้นเคยกับโฆษณาตัวนึง
ที่เป็นหนอนชาเขียว ชินเม่โจได!! มีชุดผีญี่ปุ่นอยู่ด้วยยย ที่นอกจากคีย์เวิร์ดสำคัญว่า ชินเม่โจได (ส่งยอดชาเขียวมาซะดีๆนะ!!)
จะได้ยินคำว่า โอไฮโย บ่อยมาก นั่นเอง
http://www.youtube.com/watch?v=oTu5iyaivk0
คำนี้เป็นคำที่ใช้บ่อย และทุกวันครับ
เมื่อคุณก้าวเท้าเข้าไปในออฟฟิศ นี่คือคำแรกที่คุณต้องพูดครับ !!
"" โอไฮโย โกไซมัส "" ก็เหมือนกับที่คุณเข้าออฟฟิศแล้วก็สวัสดีเพื่อนร่วมงานนี่แหละ
แต่ละบริษัท แต่ละแผนก บรรยากาศการทำงานไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการปลูกฝัง
แต่แผนกผมเวลาเข้ามาในที่ทำงานเราต้องตะโกน ย้ำ! ตะโกน 555 อย่างหนักแน่นและเข้มๆ
โดยเฉพาะเด็กใหม่ป้ายแดงอย่างผม
เมื่อเราตะโกนไปแล้ว ทุกคนที่ถึงที่ทำงานก่อนเราก็จะหันมาโต้ตอบว่า "โอไฮโย" หรือ "โอไฮโยโกไซมัส"
แน่นอนครับ..ปกติเช้าๆ เราๆจะไม่ค่อยมีพลังกันเท่าไหร่ คนไทยต้องฝ่าฟันรถติดตอนเช้าซึ่งคงทำให้หมดพลังกันแล้ว
แต่อย่าลืมนะครับว่า คนญี่ปุ่นเค้าก็ฝ่าฟันกองทัพซาลารี่แมนเหมือนกัน แค่ต้องเบียดกันบนรถไฟตอนเช้า..ก็โดนดูดพลังไปเยอะแล้วเหมือนกัน
จริงมั้ยครับ.. ดังนั้นไม่ว่าประเทศไหนตอนเช้าก็เหนื่อยเหมือนกัน..
เอาเป็นว่า..รวบรวมพลังครับ ก่อนก้าวเข้าไป สูดหายใจลึกๆ ยิ้มกว้างๆ (ทำให้เป็นนิสัย)
พอก้าวเข้าไปเพียงพูดแน่นๆ ดังๆ ว่า " โอไฮโย โกไซมัส"
เชื่อเลยว่า ถ้าอย่างน้อยๆเราเริ่มต้นทำงานด้วยสภาวะจิตแบบนี้ "เราจะมีความสุขในการทำงานตลอดวัน"
เอาแบบนี้เลยนะครับ
คำที่สอง
Ima-Yoroshii-deshoka หรือ "อิม่า โยโรชี่ เดโช ก๋ะ"
คำนี้จะใช้เมื่อเราจะเสียมารยาทหรือเข้าไปรบกวนเจ้านายเราที่กำลังทำงานอยู่
ซึ่งคำนี้แปลว่า
"ตอนนี้ สะดวกมั้ยครับ"
Ima = ตอนนี้, Yoroshii = ดีหรือ Ok, Deshoka คือคำที่ใช้เพื่อเป็นประโยคเชิงคำถาม
แน่นอนครับ เวลาคนเราทำงาน ก็จะเพ่งสมาธิไปที่งานที่อยู่ข้างหน้า แล้วยิ่งเป็นคนญี่ปุ่นที่รักงานยิ่งชีพ เค้ายิ่งเพ่งแล้วเพ่งอีก
ใช้สมาธิเยอะ ถ้าเป็นญี่ปุ่นที่มาประจำที่ไทยเราเค้าอาจจะกำลังเขียนเมลล์รายงานความเคลื่อนไหวไปให้กับบริษัทแม่ก็ได้
ซึ่งบริษัทแม่ปกติไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของบริษัทลูกเท่าไหร่ แบบนี้ยิ่งต้องการสมาธิมากเป็นพิเศษ ถ้าเราพรวดเข้าไปไม่ดูตาม้าตาเรือ
เจ้านายอาจจะสมาธิหลุด และเสียความรู้สึกก็เป็นได้ ...ดังนั้น คนญี่ปุ่นด้วยกันเองเรามีระเบียบที่ว่า ...
จะเข้าไปรบกวนอะไร ก็ต้องถามความสะดวกของคู่สนทนาก่อนว่า "อิม่า โยโรชี่ เดโช ก๋ะ"
คำนี้จึงเป็นคำสำคัญที่ใช้แสดงความใส่ใจต่อความรู้สึกของคู่สนทนาได้อย่างดีมากเลยทีเดียวครับ
คำที่สาม
O-tsu-kare-sama-desu (โอซึคาเระ ซามะเดส)
คำนี้เป็นคำยอดฮิตที่พูดยากที่สุดสำหรับผม ตอนแรกที่ฝึกๆพูดช้าๆมันก็ได้อยู่หรอก แต่การนำคำนี้ไปใช้ในสถานการณ์จริง
คนญี่ปุ่นเค้าพูดเร็วกันมากกกกกก ไฮสปีดกันจริงๆ
แต่ถ้าจะพูดในที่ทำงานหรือกับเจ้านายเรา ก็ต้องพูดฉบับเต็มยศครับ " โอ ซึ คา เระ ซา มะ เดส (เดชิตะ) "
คำนี้จะให้แปลตรงๆคือ "ขอบคุณสำหรับความเหน็ดเหนื่อย"
คนญี่ปุ่นเจอหน้ากันในที่ทำงาน ถ้าไม่มีบทสนทนาอะไรพูดมากมายก็มักจะพ่นใส่กันด้วยคำคำนี้แหละครับ ผมเองเหมือนกัน คนรู้จัก คนไม่รู้จักในบริษัทเดียวกัน ผมใส่หมดเลย!!555 เรียกได้ว่า ไม่รู้จะคุยอะไร ก็คำนี้แหละ ช่วยชีวิต จะได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนในบริษัทบ้าง ห้าๆๆ
คำที่สี่
O-ne-gai-shimas หรือ โอเนงไง ชิมัส
แปลว่า รบกวนด้วยนะ หรือกรุณาด้วยนะ
O-ne-gai(คำนาม) = การขอร้อง, ชิมัส(คำกริยา) = การทำ
คำนี้มักจะถูกนำมาใช้เมื่อจะไหว้วานให้ผู้อื่นทำอะไรให้เรา และติดเป็นคำยอดฮิตมากๆเช่นเดียวกัน
การลงท้ายอีเมลล์แทบทุกอีเมลล์ที่ส่งหาคนญี่ปุ่น ผมได้ใช้คำนี้มาตลอด..เรียกได้ว่า ผมกับคำนี้เราขาดกันไม่ได้เลยทีเดียว
แต่อาจจะเพิ่มให้สุภาพมากขึ้นด้วยการพิมพ์ว่า よろしくおねがいします (Yo-ro-shi-ku O-ne-gai-shi-mas : โยโรชิขุ โอเนงไงชิมัส)
อย่าลืมนะครับ จะไหว้วานเค้าให้ช่วยอะไร เราต้องขอด้วยความนอบน้อม คนญี่ปุ่นเช่นกัน เมื่อใดที่เค้าเลือกใช้คำนี้
หลังเค้าจะอ่อนมาก ต้องก้มโค้งสวยๆพร้อมพูดว่า "โอเนงไง ชิมัส"
ความสามารถพิเศษคนญี่ปุ่น
งั้นผมขอจบท้ายเลยนะครับว่า ถ้าบทความนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณ ขอให้กด Like
"โอเนงไงชิมัส" และโค้งงามๆแก่ผู้อ่านทุกท่าน
ขอบคุณครับ
by
www.facebook.com/JapanSalaryman
ภาษาญี่ปุ่น (พื้นฐาน) แต่โคตรฮิต!!ในที่ทำงาน
เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ทำงานร่วมกับคนญี่ปุ่นอยู่
และแน่นอน..เราจะไม่เขียนเพื่อคนไทยที่ทำงานกับคนญี่ปุ่นอย่างเดียว
ผมจะแทรกเกร็ดต่างๆแนะนำว่าทำไมต้องพูดอย่างนู้นอย่างนี้ เพื่อที่เพื่อนๆพี่ๆน้องๆคนไหน
คิดว่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับที่ทำงานตัวเองได้ (ไม่จำเป็นต้องกับคนญี่ปุ่นก็ได้ ) ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งคร้าบบบ..!
คำแรก
"Ohayo Gozaimas" หรือ "โอไฮโย โกไซมัส"
คำนี้เป็นคำที่แสนจะคุ้นเคย ถูกมั้ยครับ? เรียกได้ว่าเป็นคำแรกของผมตอนเรียนภาษาญี่ปุ่น เปิดหนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่นมาหน้าแรก
ก็จะเจอคำนี้ เพราะว่า คำนี้แปลว่า "สวัสดีตอนเช้า" ทุกภาษาก็ต้องเริ่มจากคำทักทายก่อน หรือบางคนอาจเคยคุ้นเคยกับโฆษณาตัวนึง
ที่เป็นหนอนชาเขียว ชินเม่โจได!! มีชุดผีญี่ปุ่นอยู่ด้วยยย ที่นอกจากคีย์เวิร์ดสำคัญว่า ชินเม่โจได (ส่งยอดชาเขียวมาซะดีๆนะ!!)
จะได้ยินคำว่า โอไฮโย บ่อยมาก นั่นเอง
http://www.youtube.com/watch?v=oTu5iyaivk0
คำนี้เป็นคำที่ใช้บ่อย และทุกวันครับ
เมื่อคุณก้าวเท้าเข้าไปในออฟฟิศ นี่คือคำแรกที่คุณต้องพูดครับ !!
"" โอไฮโย โกไซมัส "" ก็เหมือนกับที่คุณเข้าออฟฟิศแล้วก็สวัสดีเพื่อนร่วมงานนี่แหละ
แต่ละบริษัท แต่ละแผนก บรรยากาศการทำงานไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการปลูกฝัง
แต่แผนกผมเวลาเข้ามาในที่ทำงานเราต้องตะโกน ย้ำ! ตะโกน 555 อย่างหนักแน่นและเข้มๆ
โดยเฉพาะเด็กใหม่ป้ายแดงอย่างผม
เมื่อเราตะโกนไปแล้ว ทุกคนที่ถึงที่ทำงานก่อนเราก็จะหันมาโต้ตอบว่า "โอไฮโย" หรือ "โอไฮโยโกไซมัส"
แน่นอนครับ..ปกติเช้าๆ เราๆจะไม่ค่อยมีพลังกันเท่าไหร่ คนไทยต้องฝ่าฟันรถติดตอนเช้าซึ่งคงทำให้หมดพลังกันแล้ว
แต่อย่าลืมนะครับว่า คนญี่ปุ่นเค้าก็ฝ่าฟันกองทัพซาลารี่แมนเหมือนกัน แค่ต้องเบียดกันบนรถไฟตอนเช้า..ก็โดนดูดพลังไปเยอะแล้วเหมือนกัน
จริงมั้ยครับ.. ดังนั้นไม่ว่าประเทศไหนตอนเช้าก็เหนื่อยเหมือนกัน..
เอาเป็นว่า..รวบรวมพลังครับ ก่อนก้าวเข้าไป สูดหายใจลึกๆ ยิ้มกว้างๆ (ทำให้เป็นนิสัย)
พอก้าวเข้าไปเพียงพูดแน่นๆ ดังๆ ว่า " โอไฮโย โกไซมัส"
เชื่อเลยว่า ถ้าอย่างน้อยๆเราเริ่มต้นทำงานด้วยสภาวะจิตแบบนี้ "เราจะมีความสุขในการทำงานตลอดวัน"
เอาแบบนี้เลยนะครับ
คำที่สอง
Ima-Yoroshii-deshoka หรือ "อิม่า โยโรชี่ เดโช ก๋ะ"
คำนี้จะใช้เมื่อเราจะเสียมารยาทหรือเข้าไปรบกวนเจ้านายเราที่กำลังทำงานอยู่
ซึ่งคำนี้แปลว่า "ตอนนี้ สะดวกมั้ยครับ"
Ima = ตอนนี้, Yoroshii = ดีหรือ Ok, Deshoka คือคำที่ใช้เพื่อเป็นประโยคเชิงคำถาม
แน่นอนครับ เวลาคนเราทำงาน ก็จะเพ่งสมาธิไปที่งานที่อยู่ข้างหน้า แล้วยิ่งเป็นคนญี่ปุ่นที่รักงานยิ่งชีพ เค้ายิ่งเพ่งแล้วเพ่งอีก
ใช้สมาธิเยอะ ถ้าเป็นญี่ปุ่นที่มาประจำที่ไทยเราเค้าอาจจะกำลังเขียนเมลล์รายงานความเคลื่อนไหวไปให้กับบริษัทแม่ก็ได้
ซึ่งบริษัทแม่ปกติไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของบริษัทลูกเท่าไหร่ แบบนี้ยิ่งต้องการสมาธิมากเป็นพิเศษ ถ้าเราพรวดเข้าไปไม่ดูตาม้าตาเรือ
เจ้านายอาจจะสมาธิหลุด และเสียความรู้สึกก็เป็นได้ ...ดังนั้น คนญี่ปุ่นด้วยกันเองเรามีระเบียบที่ว่า ...
จะเข้าไปรบกวนอะไร ก็ต้องถามความสะดวกของคู่สนทนาก่อนว่า "อิม่า โยโรชี่ เดโช ก๋ะ"
คำนี้จึงเป็นคำสำคัญที่ใช้แสดงความใส่ใจต่อความรู้สึกของคู่สนทนาได้อย่างดีมากเลยทีเดียวครับ
คำที่สาม
O-tsu-kare-sama-desu (โอซึคาเระ ซามะเดส)
คำนี้เป็นคำยอดฮิตที่พูดยากที่สุดสำหรับผม ตอนแรกที่ฝึกๆพูดช้าๆมันก็ได้อยู่หรอก แต่การนำคำนี้ไปใช้ในสถานการณ์จริง
คนญี่ปุ่นเค้าพูดเร็วกันมากกกกกก ไฮสปีดกันจริงๆ
แต่ถ้าจะพูดในที่ทำงานหรือกับเจ้านายเรา ก็ต้องพูดฉบับเต็มยศครับ " โอ ซึ คา เระ ซา มะ เดส (เดชิตะ) "
คำนี้จะให้แปลตรงๆคือ "ขอบคุณสำหรับความเหน็ดเหนื่อย"
คนญี่ปุ่นเจอหน้ากันในที่ทำงาน ถ้าไม่มีบทสนทนาอะไรพูดมากมายก็มักจะพ่นใส่กันด้วยคำคำนี้แหละครับ ผมเองเหมือนกัน คนรู้จัก คนไม่รู้จักในบริษัทเดียวกัน ผมใส่หมดเลย!!555 เรียกได้ว่า ไม่รู้จะคุยอะไร ก็คำนี้แหละ ช่วยชีวิต จะได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนในบริษัทบ้าง ห้าๆๆ
คำที่สี่
O-ne-gai-shimas หรือ โอเนงไง ชิมัส
แปลว่า รบกวนด้วยนะ หรือกรุณาด้วยนะ
O-ne-gai(คำนาม) = การขอร้อง, ชิมัส(คำกริยา) = การทำ
คำนี้มักจะถูกนำมาใช้เมื่อจะไหว้วานให้ผู้อื่นทำอะไรให้เรา และติดเป็นคำยอดฮิตมากๆเช่นเดียวกัน
การลงท้ายอีเมลล์แทบทุกอีเมลล์ที่ส่งหาคนญี่ปุ่น ผมได้ใช้คำนี้มาตลอด..เรียกได้ว่า ผมกับคำนี้เราขาดกันไม่ได้เลยทีเดียว
แต่อาจจะเพิ่มให้สุภาพมากขึ้นด้วยการพิมพ์ว่า よろしくおねがいします (Yo-ro-shi-ku O-ne-gai-shi-mas : โยโรชิขุ โอเนงไงชิมัส)
อย่าลืมนะครับ จะไหว้วานเค้าให้ช่วยอะไร เราต้องขอด้วยความนอบน้อม คนญี่ปุ่นเช่นกัน เมื่อใดที่เค้าเลือกใช้คำนี้
หลังเค้าจะอ่อนมาก ต้องก้มโค้งสวยๆพร้อมพูดว่า "โอเนงไง ชิมัส"
ความสามารถพิเศษคนญี่ปุ่น
งั้นผมขอจบท้ายเลยนะครับว่า ถ้าบทความนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณ ขอให้กด Like
"โอเนงไงชิมัส" และโค้งงามๆแก่ผู้อ่านทุกท่าน
ขอบคุณครับ
by www.facebook.com/JapanSalaryman