เมื่อแม่กลายเป็นผู้ต้องสงสัย ควรจะทำอย่างไรดี?

ขอคำปรึกษาครับ เรื่องอาจจะปรับออกไปบ้างเพื่อไม่ให้เชื่อมโยงถึงคดี แต่จะพยายามเล่าให้ละเอียดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ

ก่อนอื่นเลย คือ แม่ของผม ได้ไปทำงานเป็นแม่บ้านให้กับเพื่อนของแม่ที่รู้จักกันมานาน ผมขอเรียกว่า ป้า ละกันครับ โดยใน 1 สัปดาห์จะไปทำงานประมาณ 4 วัน ซึ่งบ้านของป้าจะมีธุรกิจ ทำให้มีคนเข้าออกบ้านประจำ โดยที่บ้านของป้าจะมีคนอยู่คือ ป้า สามีป้า ลูก เป็นประจำ ส่วนคนที่จะเข้าออกบ้านก็จะมี แม่ของผม ที่ทำหน้าที่แม่บ้าน แม่ของป้าที่มาเยี่ยม และ คนงานหนึ่งคนที่เข้าออกประจำ

ทีนี้เรื่องราวเริ่มจากว่า ในวันศุกร์แม่ได้ไปทำงานตามปกติ โดยหน้าที่หนึ่ง คือ การทำความสะอาดห้องต่างๆ และได้เข้าไปทำความสะอาดในห้องๆ หนึ่งที่ทำเป็นประจำ หลังจากนั้นในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ก็ไม่ได้ไปทำงาน จนกระทั่งคืนวันอาทิตย์ ป้าได้โทรศัพท์สอบถามว่าเห็นกุญแจของห้องนั้นไหม เนื่องจากห้องนั้นถูกล็อคและไม่พบกุญแก แม่ก็ไม่รู้เรื่องว่าหายไปยังไง เลยไปใช้อีกดอกหนึ่งไขเข้าไปในห้อง และพบว่า ตู้ๆ หนึ่งที่ปิดใส่กุญแจไว้ถูกเปิดออก และในตู้เก็บทรัพย์สินไว้จำนวนหลายแสนบาท ซึ่งของได้หายไป

เนื่องจากทรัพย์สินไม่ได้มีแต่ของป้าเท่านั้น แต่ยังมีน้องของสามี ที่นำมาฝากไว้ ทำให้ต้องดำเนินการแจ้งความ และเมื่อตำรวจมาตรวจสอบก็ไม่พบร่องรอยการงัดแงะใดๆ อีกทั้งไม่พบลายนิ้วมือบนตู้นั้นเลย (ไม่มีลายนิ้วมือแม่ของผมด้วยครับ เพราะไม่เคยจับ ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไร) ซึ่งคนที่รู้ว่าในตู้มีทรัพย์สินใส่อยู่มีเพียง ป้า สามีป้า และน้องของสามี

ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบและให้ความเห็นว่า เป็นฝีมือของคนในแน่นอน เนื่องจากไม่มีร่องรอยการงัดแงะ

ทางตำรวจจึงได้นัดให้เข้าสู่เครื่องจับเท็จ โดยมีผู้ต้องสงสัย คือ ป้า แม่ของผม และคนงาน และเนื่องจากสามีของป้าได้เล่าว่า วันเสาร์ก็พบว่าประตูห้องนั้นถูกล็อคอยู่แล้วแต่ไม่เอะใจอะไร จนกระทั่งเย็นวันอาทิตย์ถึงได้สอบถาม และเข้าไปดูจึงรู้ ทำให้แม่ของผมอยู่ในฐานะ บุคคลที่เข้าห้องนั้นคนสุดท้ายกลายเป็น ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งไป ส่งผลให้แม่ของผมเครียดมาก

ทีนี้ตำรวจที่ได้นัดหมายการเข้าเครื่องจับเท็จ ได้แยกให้มาวันละคน โดยในตอนแรกตำรวจได้นัดหมายแม่ผมไว้ในวันนี้ แต่ได้ทำการเลื่อนออกไป (ทราบเหตุผลว่า จะเป็นการหยั่งใจคนร้าย ถ้าหากเอาไปจะมีพิรุธขึ้นมา)

ในตอนนี้ได้ส่งผลให้แม่ของผม และครอบครัวมีความเครียดเป็นอย่างมาก เนื่องจากในทุกสัปดาห์แม่จะมีนัดกับหมอเป็นประจำ หากไม่ได้ทำงานจะกลายเป็นการส่อพิรุธขึ้นมาหรือไม่ (ในตอนแรกเมื่อวันอาทิตย์เราไปต่างจังหวัดเนื่องจากเทศกาลเช้งเม้ง ตอนแรกก็คิดจะลาหยุด แต่ดีที่ไปทำงานไม่งั้นคงยิ่งกลายเป็นผู้ต้องสงสัยมากกว่าเดิม) โดยที่ป้าและสามีของป้า ก็ไม่เชื่อว่าแม่ของผมจะเป็นคนร้ายไปได้ เนื่องจากรู้จักกันมานานมาก ทำงานด้วยกันก็นานและไม่มีการทุจริต ลักเล็กใดใด

ทีนี้ก็เข้าสู่คำถามของผมครับ
1. ถ้าหากกลายเป็นผู้ต้องสงสัย และจับตัวคนร้ายไม่ได้ มีสิทธิไหมครับที่จะกลายเป็น "จำเลย" และค่อยให้ไปต่อสู้ในชั้นศาล
2. ควรจะทำตัวอย่างไรในขณะนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการกระทำที่ถูกมองว่าเป็นการส่อพิรุธ อย่างเช่นการลาหยุด การทำงาน
3. ประจวบกับคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของผม มีอาการเสีย ถ้าหากผมไปซื้อจะถูกโยงเกี่ยวกับการใช้เงินที่จู่ๆ มีได้อย่างไร ได้ไหมครับ
4. ทุกวันนี้แม่ก็ยังคงไปทำงานเพื่อไม่ให้ถูกมองว่าหนี แต่ใจผมก็ไม่อยากให้แม่ไปทำงานแล้ว เพราะถึงอย่างไรก็เจอความรู้สึกที่เป็นผู้ต้องสงสัย อยากทราบว่าจะต่อเนื่องไปถึงเมื่อไรครับ

ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่