ผมเป็นคนนึงที่ปั่นจักรยานมารวม 3 ปีกว่า และขับรถยนย์ส่วนตัวด้วยหลังจากได้ปั่นจักรยานเมื่อ3ปีผ่าน
ได้ตระหนักรู้ว่า เมื่อขับรถ ไฟเลี้ยว คือสิ่งสำคัญมาก พอๆกับสัญญาณมือของจักรยาน จากการณ์สังเกตุมารวมปี
จึงขอสถาปนาบุคคลจำพวกนึงให้โลกได้รู้ว่าพวกเค้าคือ
"มนุษย์ไร้ไฟเลี้ยว"
ในการปั่นออกจากบ้านมาต้องพึ่งระวังหลายอย่าง มีทั่งสิ่งที่ระวังแบบตายตัว และระวังแบบวัดใจ
ประเภทแรกระวังแบบตายตัว ก็พวก ฝาท่อ ตะแกรงท่อ หลุมดำบนถนน ไฟนูนบอกเลนส์รถ
ประเภทที่สองระวังแบบวัดใจ คนข้ามถนน หมา แมว และอย่างสุดท้ายคือพวก มนุษย์ไร้ไฟเลี้ยว
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า พวกนี้นั่งอยู่ในรถเย็นๆสบายๆแค่สั่งสมองไปบังคับนิ้วไปสัมผัสก้านไฟเลี้ยวมันลำบากมากไหม
ทำไมตอนซื้อรถไม่บอกเซลล์ไปเลยว่าไม่เอาไฟเลี้ยว ถอดไฟเลี้ยวขอเป็นส่วนลดหรือของแถมตัวอื่นไปเลย
หรือตอนสอบใบขับขี่ไปช่วยคนคุมสอบล้างห้องน้ำที่บ้านมาไง ถึงได้สอบผ่านแล้วออกมาโลดแล่นบนถนนได้
ส่วนพวก รถแท็กซี่ รถตู้ รถเมล์(บางส่วนแต่อาจจะส่วนมาก) ขอเดาว่า พี่ๆเค้าเรียนขับรถรับจ้างจากสถาบันเดียวกันมา
"ปาด ซิ่ง นิ่ง แช่" คือพวกเค้าแน่นอนอยู่แล้ว
ประสพการณ์ที่เคยเจอมาแบบเกือบเนื้อแนบเนื้อ เอามาเล่าสู่กันฟัง เหมือนส่งการบ้านตามร้านแก้เมื่อยต่างๆ
ผมขี่จักรยานไปทำงานตามเส้นทาง บางกะปิ มุ่งหน้า ลาดพร้าว เข้าเลียบด่วน มุ่งหน้ารามอินทรา ขากลับ ย้อนตามทางเดิม
สไตล์การขี่ เป็นแบบ กินลม ชมธรรมชาติ(สาวๆข้างทาง) ถ้าขึ้นถนนใหญ่ก็จะปั่นตามสถานะการณ์ของรถที่เคลื่อนตัวไป เพราะจะให้ปั่นแบบพี่ๆสายโหดน่องเหล็กคงไม่ไหว
ขณะขี่เรียบซ้ายจัด จักรยานแทบจะได้เสียเป็นผัวเมียกับริมฟุตบาท เกือบจะถึงหน้าปากซอย ลาดพร้าว 87 ผมเหลือบมองหลัง
ตามระเบียบเพื่อเช็คว่ามีรถจะยื่นความจำนงประสงค์จะเปิดไฟเลี้ยวเข้าซอยไหม ปรากฎว่ามีรถตามหลังมาห่างไม่มากแต่ไม่เปิดไฟเลี้ยว พอแค่หันหน้ากลับมาชั่วหมากแหลก
ทันใดนั้นเอง ก็เกิดเหตุประหลาดคล้ายความมืดปกคลุมมากจากต้านหลัง อัง......กอร์
เฮ้ยไม่ใช่แล้ว!!! สิ่งที่เห็นคือกระจกข้างเกือบจะมาถึงแฮนด์จักรยานห่างไม่ถึงคืบ
แถมมาด้วยความเร็วสูง ประนึงพึ่งดู Fast & Furious หักเลี้ยวแบบ DK(มานึกที่หลังว่าดูภาค 3 มาแน่เลย)
ผมตัดสินใจด้วยสมองอันน้อยนิด ประกอบกับหมดหนทาง หักหลบเข้าซอยไปพร้อม พี่ฮาน แบบเป็นไงเป็นกัน
หักแฮนด์สุดตัวพร้อมเอียงตัวแบบเข่าติดพื้นแบบ moto GP(เวอร์ไปนิดขออภัยด้วย) พอหักหลบ ใจคิดว่าพ้น สั่งมือกำเบรค
เงยหน้าขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือ พี่มอไซด์วินที่วิ่งสวนทางมาในซอยจะขึ้นฟุตบาท อ่านจากสีหน้า ไม่น่าจะเป็นห่วงเรา อารมแบบ -ึงจะมาขว้างทางกรูทำไม
เอ้า!!!!!ผิดหมด วันนี้ชีวิตตูผิดหมด แว่บเหลือบไปหาพี่ฮานอีกทีก็เห็นแต่ป้ายทะเบียนสีแดงฉานหายลับไปกับตา กลับบ้านมาด้วยความงุนงงสงกายิ่งนัก
พร้อมตั้งคำถามขึ้นมาในเบื้องลึกของหัวใจว่า จะมีไฟเลี้ยวไว้ทำไมถ้าไม่ใช้ ไอ้พวก......มนุษย์ไร้ไฟเลี้ยว
เอวัง......ก็มีด้วยประการฉะนี้
"ขอได้รับความขอบคุณจาก CVD International มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ"
ท่านใดอยากรับชมรูปปลากรอบ กดเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กำเนิด "มนุษย์ไร้ไฟเลี้ยว" VS จักรยาน
ได้ตระหนักรู้ว่า เมื่อขับรถ ไฟเลี้ยว คือสิ่งสำคัญมาก พอๆกับสัญญาณมือของจักรยาน จากการณ์สังเกตุมารวมปี
จึงขอสถาปนาบุคคลจำพวกนึงให้โลกได้รู้ว่าพวกเค้าคือ
"มนุษย์ไร้ไฟเลี้ยว"
ในการปั่นออกจากบ้านมาต้องพึ่งระวังหลายอย่าง มีทั่งสิ่งที่ระวังแบบตายตัว และระวังแบบวัดใจ
ประเภทแรกระวังแบบตายตัว ก็พวก ฝาท่อ ตะแกรงท่อ หลุมดำบนถนน ไฟนูนบอกเลนส์รถ
ประเภทที่สองระวังแบบวัดใจ คนข้ามถนน หมา แมว และอย่างสุดท้ายคือพวก มนุษย์ไร้ไฟเลี้ยว
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า พวกนี้นั่งอยู่ในรถเย็นๆสบายๆแค่สั่งสมองไปบังคับนิ้วไปสัมผัสก้านไฟเลี้ยวมันลำบากมากไหม
ทำไมตอนซื้อรถไม่บอกเซลล์ไปเลยว่าไม่เอาไฟเลี้ยว ถอดไฟเลี้ยวขอเป็นส่วนลดหรือของแถมตัวอื่นไปเลย
หรือตอนสอบใบขับขี่ไปช่วยคนคุมสอบล้างห้องน้ำที่บ้านมาไง ถึงได้สอบผ่านแล้วออกมาโลดแล่นบนถนนได้
ส่วนพวก รถแท็กซี่ รถตู้ รถเมล์(บางส่วนแต่อาจจะส่วนมาก) ขอเดาว่า พี่ๆเค้าเรียนขับรถรับจ้างจากสถาบันเดียวกันมา
"ปาด ซิ่ง นิ่ง แช่" คือพวกเค้าแน่นอนอยู่แล้ว
ประสพการณ์ที่เคยเจอมาแบบเกือบเนื้อแนบเนื้อ เอามาเล่าสู่กันฟัง เหมือนส่งการบ้านตามร้านแก้เมื่อยต่างๆ
ผมขี่จักรยานไปทำงานตามเส้นทาง บางกะปิ มุ่งหน้า ลาดพร้าว เข้าเลียบด่วน มุ่งหน้ารามอินทรา ขากลับ ย้อนตามทางเดิม
สไตล์การขี่ เป็นแบบ กินลม ชมธรรมชาติ(สาวๆข้างทาง) ถ้าขึ้นถนนใหญ่ก็จะปั่นตามสถานะการณ์ของรถที่เคลื่อนตัวไป เพราะจะให้ปั่นแบบพี่ๆสายโหดน่องเหล็กคงไม่ไหว
ขณะขี่เรียบซ้ายจัด จักรยานแทบจะได้เสียเป็นผัวเมียกับริมฟุตบาท เกือบจะถึงหน้าปากซอย ลาดพร้าว 87 ผมเหลือบมองหลัง
ตามระเบียบเพื่อเช็คว่ามีรถจะยื่นความจำนงประสงค์จะเปิดไฟเลี้ยวเข้าซอยไหม ปรากฎว่ามีรถตามหลังมาห่างไม่มากแต่ไม่เปิดไฟเลี้ยว พอแค่หันหน้ากลับมาชั่วหมากแหลก
ทันใดนั้นเอง ก็เกิดเหตุประหลาดคล้ายความมืดปกคลุมมากจากต้านหลัง อัง......กอร์
เฮ้ยไม่ใช่แล้ว!!! สิ่งที่เห็นคือกระจกข้างเกือบจะมาถึงแฮนด์จักรยานห่างไม่ถึงคืบ
แถมมาด้วยความเร็วสูง ประนึงพึ่งดู Fast & Furious หักเลี้ยวแบบ DK(มานึกที่หลังว่าดูภาค 3 มาแน่เลย)
ผมตัดสินใจด้วยสมองอันน้อยนิด ประกอบกับหมดหนทาง หักหลบเข้าซอยไปพร้อม พี่ฮาน แบบเป็นไงเป็นกัน
หักแฮนด์สุดตัวพร้อมเอียงตัวแบบเข่าติดพื้นแบบ moto GP(เวอร์ไปนิดขออภัยด้วย) พอหักหลบ ใจคิดว่าพ้น สั่งมือกำเบรค
เงยหน้าขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือ พี่มอไซด์วินที่วิ่งสวนทางมาในซอยจะขึ้นฟุตบาท อ่านจากสีหน้า ไม่น่าจะเป็นห่วงเรา อารมแบบ -ึงจะมาขว้างทางกรูทำไม
เอ้า!!!!!ผิดหมด วันนี้ชีวิตตูผิดหมด แว่บเหลือบไปหาพี่ฮานอีกทีก็เห็นแต่ป้ายทะเบียนสีแดงฉานหายลับไปกับตา กลับบ้านมาด้วยความงุนงงสงกายิ่งนัก
พร้อมตั้งคำถามขึ้นมาในเบื้องลึกของหัวใจว่า จะมีไฟเลี้ยวไว้ทำไมถ้าไม่ใช้ ไอ้พวก......มนุษย์ไร้ไฟเลี้ยว
เอวัง......ก็มีด้วยประการฉะนี้
"ขอได้รับความขอบคุณจาก CVD International มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ"
ท่านใดอยากรับชมรูปปลากรอบ กดเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้