เมื่อสักครู่ตั้งกระทู้เรื่องลิฟต์คนพิการและความปากสุนัขของคนบางกลุ่มแล้ว ก็มาต่อเรื่งอที่จอดรถคนพิการเลยแล้วกัน เพราะรู้สึกว่ามันคือประเด็นเกี่ยวกับคนพิการที่กำลังดังพอควรในตอนนี้
เหตุสืบเนื่องมาจาก สิ่งนี้
http://fail.in.th/2011/08/handicap-car/#comments
มันใจว่า 2 ใน 3 ของคนที่ไป comment ในนั้น (โดยเฉพาะประเภท รวยไม่พอ ต้อง..ด้วย) คือพวกที่หงุดหงิดจากเรื่องอื่นแล้วหาที่ระบายไม่ได้ มาด่าเอามันส์ แลัวอาจจะเป็นพวกหมั่นไส้คนขับรถแพงๆ ขอมอบนิ้วกลางงามๆให้เลยครับคนพวกนี้เลยครับ
บางคนก็ให้การแย้งที่ดูดีมีเหตุผล เพราะดูๆแล้ว ป้ายที่จอดรถนั่น มันเคลื่อนที่ได้ แล้วที่จอกรถ handicap ตามก้างฯ มันต้องอยุ่ใกล้ประตูทางเข้าห้างฯ เพื่อความสะดวกของคนพิการจริงๆ...เกิดมีไอ้พวกขี้แกล้งคนไหนยกป้ายไปวางแล้วถ่ายรูปมาลงหล่ะ
แล้วถ้าเกิดเขาพิการจริงหล่ะ แต่ยังมีความสามารถที่จะขับรถได้โดยไม่ผิดกฎหมาย และบังเอิญดันรวยด้วย เช่น คนพิการใส่ขาเทียม
หรือคนขับอาจจะไม่พิการ แต่ พาคนพิการมาด้วย
บางคนอาจจะแย้งว่า รถแบบนี้คนพิการไม่น่านั่งสบายนะ แล้วคนพิการไม่มีสิทธิ์ที่จะมีรสนิยมชอบรถสปอร์ตแบบคนปกติอย่างเราหรือไง ถ้าเขามีเงินซ์้อ และมีเงินจ้างคนมาขับ
แล้วอีกอย่างพอพูดถึงเรื่องพวกนี้ ทำไมภาพที่เอามาลงมักเลือกแต่ รถแพงๆ ถ้าเป็นรถเก่ง/กระบะญี่ปุ่นธรรมดาๆก็เลือกรถพวกรุ่นท็อป(สังเกตจากสีรถที่มักจะเป้นขาวมุข) รถแต่ง ไม่ก็มอเตอร์ไซต์จำพวกบิ๊คไบค์ หรือไม่ก็รถหน่วยงานราชการหรือบริษัทห้างร้าน...แต่ที่ผมเจอพวกไม่พิการแต่ชอบจอดช่องคนพิการ ทำไมมีแต่พวกขับรถะรรมดาๆทั่วไปแบบพวกรถเก๋งsub-compact ไม่ก็รถกระบะตอนครึ่งซะส่วนมาก (แบบภาพที่ผมเคยเอามาลง ซึ่งยืนยันได่วาไม่ได้ใส่ร้ายเจ้าของรถพวกนั้นแน่ๆ เพราะผมเห้นตั้งแต่เริ่มเข้าจอดจนรถออกไป ไม่มีคนพิการสักคน) มัรนดูเหมือนเลือกปฏิบัติยังไงเลยนะ แถมดูสองมาตรฐานยังไงก้ไม่รู้ (เหมือนคนรวยซ์้อรถหนีภาษีรุมด่ากระจาย แต่พอคนธรรมดาใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์หรือซ์้อของหนีภาษีอื่นๆ กลับบอกว่า ใครๆก็ทำกัน)
แล้วบางทีก็ไม่รู้นะว่าเจ้าของรถมันไร้จิตสำนึกจริงหรือเปล่าจากภาพที่เอามาลง ที่มีแค่คำบอกของคนถ่ายภาพ ถ้าอยากให้น่าเชื่อถือจริงๆ ต้องแบบนี้ ต้องเห้นตั้งแต่รถเริ่มเข้ามาขอดและจนกระทั่งรถออกไปว่าไม่มีคนพิการจริงๆ เห็นแค่ตอนรถออกไปแล้วไม่มีคนพิการไปด้วยก้ยังไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจจะเอาคนพิการมาส่งไว้ทำธุระอะไรสักอย่างที่อาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน แล้วคนพิการนั่นอาจจะให้คนที่ขับรถมากลับไปก่อนหรือไปทำธุระอย่างอื่นก่อนแล้วค่อยกลับบมาทีหลัง และนอกจากจะถ่ายภาพตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งรถออกแล้ว อย่าลืมตั้งค่ากล้องให้บันทึกเวลาและวันที่ลงไปด้วยแล้วกัน ยิ่งแสดงในภาพได้ยิ่งดีใหญ่ เพื่อหลักฐานความน่าเชื่อถือ // ใครเรียนกฎหมายมาหรือมีความรู้พอก้น่าจะคิดได้ไม่ยากว่า ต้องมีหลักฐานหรือการยืนยันที่แน่นหนาพอถึงจะระบุได้ว่าผิดจริง โดยเฉพาะหลักฐานทางกายภาพ...หรือไม่ก็น่าจะคืดถึงเรื่องหลักาลมสูตรได้บ้าง (อย่าเชื่อแค่เพราะเขาเล่าเขาลือ อย่าเชื่อเพราะแค่คนบอกกล่าวเป็นคนดุน่าเชื่อถือ อย่าเชื่อแคต่รูปภาพภาพเดียว+แค่คำบอกเล่าของคนเอาภาพมาลง)
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว มันชวนให้นึกถึงนึกถึงฉากๆหนึ่งในหนังเรื่อง Me,Myself & Irine ที่แสดงนำโดย Jim Carrey ฉากที่พระเอกเกิดปรี๊ดแตก เมื่อเห็นผู้ชายวัยรุ่น
วๆคนหนึ่ง ขับรถเปิดประทุนถอยเข้าไปจอดในช่องจอดรถคนพิการ ที่มีป้ายบอกไว้ชัดเจน พระเอกของเราก็ขึ้นไปกระหน่ำรถคันนั้นอย่างบ้าคลั่ง เอาถังขยะมาเทใส่ที่นั่งในรถ...แต่สักพัคนขับรถคนนั้นกลับมาจากร้านสะดวกซ์้อในบริเวณนั้น พร้อมกับจูงมือชายชราที่เป้นคนพิการ สภาพความพิการนั้นแทบไม่เป็นผู้เป็นคนเลยครับ คนขับรถคนนั้นแค่แว็บเอารถไปเติมน้ำมันแล้วแวะมารับชายชราพิการคนนี้กลับขึ้นรถ...นี่แหล่ะหนอ ตัดสินคนเพียงแค่ผิวเผิน เหมือนที่นักปกป้องสิทธิคนพิการในดลกออนไลนืบางคนกำลังทำอยู่
แล้วก้สงสัยเหมือนกันว่า ปัญหานี้ไม่ได้เพิ่งมามี แต่ทำไมเพิ่งมาตระหนักกันในตอนนี้ เพิ่งมาทำตัวเป็นนักเรียกร้องสิทธิคนพิการผ่านทางโลกออนไลน์ เหมือนพวกที่ชอบอ้างช้างไทยมาด่าหมีแพนด้า ทั้งที่ปัญหาช้างไทยมันมีมาเนิ่นนานก่อนหลิ่นฮุ่ยกับช่วงช่วงจะลืมตาขึ้นมาดูโลกซะอีก
ก่อนจากฝากภาพนี้ไว้ด้วย เป็นภาพจากประเทศสิงค์โปร์ ภาพของรถขนถังแก๊สLPG จอดส่งแก๊สมนช่องจอดรถคนพิการ อยากรู้จังว่าจะมีคนออกมาด่าด้วยระดับคำพูดเดียวกบัที่ด่าเวลาเห้นรถแพงๆหรือบิ๊กค์ไบค์จอดในช่องคนพิการหรือไม่ เพราะคงไม่มีคนพิการทำงานเป็นพนักงานขนถังแก๊สLPGแน่นอน หรือขับรถบรรทุกบรรทุกวัตถุอันตรายแบบนี้แน่ๆ หรือถ้าจะบอกว่าจอดส่งเสร็จก็ไป เกิดมีคนพิการต้องการจอดรถในจุดนั้น ณ เวลานั้นพอดีหล่ะ แถมยังแสดงให้เห้นว่อาคารนี้ออกแบบ facilities ด้านที่จอดรถได้แย่พอควร ไม่มีที่ไว้เผื่อสำหรับพวกรถส่งของเลยแม้แต่น้อย
ปกป้องสิทธิคนพิการ หรือแค่ หมั่นไส้พวกมีรถแพง(กับอยากหาที่ระบาย)
เหตุสืบเนื่องมาจาก สิ่งนี้ http://fail.in.th/2011/08/handicap-car/#comments
มันใจว่า 2 ใน 3 ของคนที่ไป comment ในนั้น (โดยเฉพาะประเภท รวยไม่พอ ต้อง..ด้วย) คือพวกที่หงุดหงิดจากเรื่องอื่นแล้วหาที่ระบายไม่ได้ มาด่าเอามันส์ แลัวอาจจะเป็นพวกหมั่นไส้คนขับรถแพงๆ ขอมอบนิ้วกลางงามๆให้เลยครับคนพวกนี้เลยครับ
บางคนก็ให้การแย้งที่ดูดีมีเหตุผล เพราะดูๆแล้ว ป้ายที่จอดรถนั่น มันเคลื่อนที่ได้ แล้วที่จอกรถ handicap ตามก้างฯ มันต้องอยุ่ใกล้ประตูทางเข้าห้างฯ เพื่อความสะดวกของคนพิการจริงๆ...เกิดมีไอ้พวกขี้แกล้งคนไหนยกป้ายไปวางแล้วถ่ายรูปมาลงหล่ะ
แล้วถ้าเกิดเขาพิการจริงหล่ะ แต่ยังมีความสามารถที่จะขับรถได้โดยไม่ผิดกฎหมาย และบังเอิญดันรวยด้วย เช่น คนพิการใส่ขาเทียม
หรือคนขับอาจจะไม่พิการ แต่ พาคนพิการมาด้วย
บางคนอาจจะแย้งว่า รถแบบนี้คนพิการไม่น่านั่งสบายนะ แล้วคนพิการไม่มีสิทธิ์ที่จะมีรสนิยมชอบรถสปอร์ตแบบคนปกติอย่างเราหรือไง ถ้าเขามีเงินซ์้อ และมีเงินจ้างคนมาขับ
แล้วอีกอย่างพอพูดถึงเรื่องพวกนี้ ทำไมภาพที่เอามาลงมักเลือกแต่ รถแพงๆ ถ้าเป็นรถเก่ง/กระบะญี่ปุ่นธรรมดาๆก็เลือกรถพวกรุ่นท็อป(สังเกตจากสีรถที่มักจะเป้นขาวมุข) รถแต่ง ไม่ก็มอเตอร์ไซต์จำพวกบิ๊คไบค์ หรือไม่ก็รถหน่วยงานราชการหรือบริษัทห้างร้าน...แต่ที่ผมเจอพวกไม่พิการแต่ชอบจอดช่องคนพิการ ทำไมมีแต่พวกขับรถะรรมดาๆทั่วไปแบบพวกรถเก๋งsub-compact ไม่ก็รถกระบะตอนครึ่งซะส่วนมาก (แบบภาพที่ผมเคยเอามาลง ซึ่งยืนยันได่วาไม่ได้ใส่ร้ายเจ้าของรถพวกนั้นแน่ๆ เพราะผมเห้นตั้งแต่เริ่มเข้าจอดจนรถออกไป ไม่มีคนพิการสักคน) มัรนดูเหมือนเลือกปฏิบัติยังไงเลยนะ แถมดูสองมาตรฐานยังไงก้ไม่รู้ (เหมือนคนรวยซ์้อรถหนีภาษีรุมด่ากระจาย แต่พอคนธรรมดาใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์หรือซ์้อของหนีภาษีอื่นๆ กลับบอกว่า ใครๆก็ทำกัน)
แล้วบางทีก็ไม่รู้นะว่าเจ้าของรถมันไร้จิตสำนึกจริงหรือเปล่าจากภาพที่เอามาลง ที่มีแค่คำบอกของคนถ่ายภาพ ถ้าอยากให้น่าเชื่อถือจริงๆ ต้องแบบนี้ ต้องเห้นตั้งแต่รถเริ่มเข้ามาขอดและจนกระทั่งรถออกไปว่าไม่มีคนพิการจริงๆ เห็นแค่ตอนรถออกไปแล้วไม่มีคนพิการไปด้วยก้ยังไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจจะเอาคนพิการมาส่งไว้ทำธุระอะไรสักอย่างที่อาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน แล้วคนพิการนั่นอาจจะให้คนที่ขับรถมากลับไปก่อนหรือไปทำธุระอย่างอื่นก่อนแล้วค่อยกลับบมาทีหลัง และนอกจากจะถ่ายภาพตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งรถออกแล้ว อย่าลืมตั้งค่ากล้องให้บันทึกเวลาและวันที่ลงไปด้วยแล้วกัน ยิ่งแสดงในภาพได้ยิ่งดีใหญ่ เพื่อหลักฐานความน่าเชื่อถือ // ใครเรียนกฎหมายมาหรือมีความรู้พอก้น่าจะคิดได้ไม่ยากว่า ต้องมีหลักฐานหรือการยืนยันที่แน่นหนาพอถึงจะระบุได้ว่าผิดจริง โดยเฉพาะหลักฐานทางกายภาพ...หรือไม่ก็น่าจะคืดถึงเรื่องหลักาลมสูตรได้บ้าง (อย่าเชื่อแค่เพราะเขาเล่าเขาลือ อย่าเชื่อเพราะแค่คนบอกกล่าวเป็นคนดุน่าเชื่อถือ อย่าเชื่อแคต่รูปภาพภาพเดียว+แค่คำบอกเล่าของคนเอาภาพมาลง)
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว มันชวนให้นึกถึงนึกถึงฉากๆหนึ่งในหนังเรื่อง Me,Myself & Irine ที่แสดงนำโดย Jim Carrey ฉากที่พระเอกเกิดปรี๊ดแตก เมื่อเห็นผู้ชายวัยรุ่น วๆคนหนึ่ง ขับรถเปิดประทุนถอยเข้าไปจอดในช่องจอดรถคนพิการ ที่มีป้ายบอกไว้ชัดเจน พระเอกของเราก็ขึ้นไปกระหน่ำรถคันนั้นอย่างบ้าคลั่ง เอาถังขยะมาเทใส่ที่นั่งในรถ...แต่สักพัคนขับรถคนนั้นกลับมาจากร้านสะดวกซ์้อในบริเวณนั้น พร้อมกับจูงมือชายชราที่เป้นคนพิการ สภาพความพิการนั้นแทบไม่เป็นผู้เป็นคนเลยครับ คนขับรถคนนั้นแค่แว็บเอารถไปเติมน้ำมันแล้วแวะมารับชายชราพิการคนนี้กลับขึ้นรถ...นี่แหล่ะหนอ ตัดสินคนเพียงแค่ผิวเผิน เหมือนที่นักปกป้องสิทธิคนพิการในดลกออนไลนืบางคนกำลังทำอยู่
แล้วก้สงสัยเหมือนกันว่า ปัญหานี้ไม่ได้เพิ่งมามี แต่ทำไมเพิ่งมาตระหนักกันในตอนนี้ เพิ่งมาทำตัวเป็นนักเรียกร้องสิทธิคนพิการผ่านทางโลกออนไลน์ เหมือนพวกที่ชอบอ้างช้างไทยมาด่าหมีแพนด้า ทั้งที่ปัญหาช้างไทยมันมีมาเนิ่นนานก่อนหลิ่นฮุ่ยกับช่วงช่วงจะลืมตาขึ้นมาดูโลกซะอีก
ก่อนจากฝากภาพนี้ไว้ด้วย เป็นภาพจากประเทศสิงค์โปร์ ภาพของรถขนถังแก๊สLPG จอดส่งแก๊สมนช่องจอดรถคนพิการ อยากรู้จังว่าจะมีคนออกมาด่าด้วยระดับคำพูดเดียวกบัที่ด่าเวลาเห้นรถแพงๆหรือบิ๊กค์ไบค์จอดในช่องคนพิการหรือไม่ เพราะคงไม่มีคนพิการทำงานเป็นพนักงานขนถังแก๊สLPGแน่นอน หรือขับรถบรรทุกบรรทุกวัตถุอันตรายแบบนี้แน่ๆ หรือถ้าจะบอกว่าจอดส่งเสร็จก็ไป เกิดมีคนพิการต้องการจอดรถในจุดนั้น ณ เวลานั้นพอดีหล่ะ แถมยังแสดงให้เห้นว่อาคารนี้ออกแบบ facilities ด้านที่จอดรถได้แย่พอควร ไม่มีที่ไว้เผื่อสำหรับพวกรถส่งของเลยแม้แต่น้อย