สวัสดีครับ ผมอยากสอบถาม และแจ้งทางเมืองไทยประกันภัย โดยมีสาเหตุดังนี้ (ยาวหน่อยนะครับ เพราะไม่ต้องการให้พลาดทุกจุด)
รถผมทำประกันขั้น 1 กับทางเมืองไทยประกันภัยซึ่งกำลังจะต้องต่ออายุปีที่ 3 และก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการเคลมใดๆ จนเมื่อปีที่แล้ววันที่ 7/10/24 ผมได้จอดรถไว้ที่ลานจอดของบริษัท โดยมีร้านหูฉลามเช่าที่จอดบางส่วนของบริษัทให้ลูกค้ามาใช้บริการ ซึ่งจะเป็นลานเปิดไม่มีเต๊นท์ (ของพนักงานบริษัทจะเป็นส่วนที่เป็นเต๊นท์)
วันดังกล่าวตอนประมาณเที่ยงกว่าๆ ผมกำลังจะออกไปข้างนอกหาลูกค้า ได้เห็นรถคู่กรณีมาจอดข้างๆด้านซ้าย ซึ่งจอดชิด และมีรถอีกคันจอดอีกด้านหนึ่งของรถคู่กรณี ซึ่งปกติตรงช่องนี้จะจอดได้ 2 คัน จอด 3 จะมีคันที่เปิดประตูไม่ได้ ด้วยความสังหรณ์จึงเดินไปตรวจดูที่ฝั่งซ้ายของรถผมก็พบว่า
มีรอยแบบโดนเปิดประตูกระแทกจนเป็นลักยิ้มและทำสติ๊กเกอร์ wrap ย่น ผมจึงได้สอบถามไปที่ร้านหูฉลามว่าเป็นรถลูกค้าหรือไม่ ก็ทราบว่าใช่ กำลังทานอาหารอยู่ข้างบน ทางผมจึงขอให้ช่วยแจ้งลูกค้าคนนั้น (คู่กรณี) ให้ช่วยลงมาดูหน่อย
แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมลง บอกพนักงานร้านให้มายอกผมว่าทานอาหารกับเพื่อนๆอยู่ให้รอ ผมก็แจ้งไปว่าทางผมต้องออกไปหาลูกค้าช่วยลงมาดูหน่อยว่ารถเขา(เป็นผู้หญิง)กับรถผมน่าจะมีอุบัติเหตุกัน สรุปก็ไม่ลงมาจนผมต้องเดินไปหาและบอกด้วยตัวเองว่าช่วยมาดูที่รถหน่อย สรุปผมยังต้องรออีกเกือบชม.กว่าจะมาที่รถพร้อมเพื่อนที่จอดรถข้างๆอีกคัน
พอมาถึงก็ทำหน้าแบบรำคาญ ผมก็ช่างเพราะต้องการทราบแผลที่เกิดมาจากรถของคู่กรณีหรือไม่จะได้เรียกประกันมาให้จบๆไป พอผมแจ้งคู่กรณีๆบอกไม่ใช่เกิดจากเขา ตอนเขาลงรถเขาบอกว่าเขาระวัง ได้ดูและเอามือบังขอบประตูแล้ว แต่จากที่ผมเห็นเขาป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างอ้วน ผมจึงขอให้เขาช่วงลองประตูดู ตอนแรกคู่กรณีก็บ่ายเบี่ยง ผมต้องขอว่าถ้าบอกตอนเขาลงระวังอยู่แล้ว ก็บองเปิดเพื่อความมั่นใจของเขาและความสบายใจของผม
พอลองเปิดดูสรุปแผลกับขอบประตูเขา ตรงกันเป๊ะ! พอเห็นอย่างนั้นผมจะขอให้ช่วยเรียกประกันมา แต่!ทางคู่กรณีบอกผมเลื่อนรถให้แผลมาตรงกับประตูรถเขา?! และอ้างไปว่าเป็นแผลเป่ามั่ง มีรถคันอื่นที่มาจอดแล้วทำมั่ง ผมบอกว่าผมดูแลรถเองเสมอ และก็เลยขอเจ้าหน้าที่บริษัทขอดูกล้องวงจรปิด และส่งคลิปให้ผมทางไลน์
สิ่งที่ได้เห็นช่วงเวลา 11 โมงนิดๆ (ก่อนหน้าตั้งแต่ผมจอดรถเข้าทำงาน ไม่มีรถใครมาจอดข้างๆครับ) ก็พบรถคู่กรณีขับมาจอดข้างๆรถผมที่เป็นเต๊นท์ (ซึ่งเข้าใจได้ว่าไม่ทราบ แต่ตรงเต๊นท์จะมีป้ายติดไว้บอกว่าเป็นที่จอดของรถทะเบียนอะไร) ตอนแรกจอดห่างอยู่ แต่ดันลงแล้วไปเรียกให้เพื่อนมาจอดในเต๊นท์ด้วย คู่กรณีจึงขยับรถมาชิดรถผม เพื่อให้เพื่อนขับมาจอดในร่มด้วยเช่นกัน และตอนคู่กรณีลงจากรถรอบหลัง ที่เขาแจ้งไว้ว่าเขาระมัดระวัง ดูตอนเปิดประตู เอามือบังขอบแล้ว แต่เมื่อดูคลิป คือเปิดแบบไม่ได้สนใจ ใส่ใจที่จะระวังอะไรเลย
มาถึงตรงนี้เขาก็เลยเหมือนหน้าแหก พูดจาเริ่มไม่ดีและก็เรียกประกันมาแบบส่งๆไป ทางผมก็เรียกประกันมาเพื่อมาคุย ซึ่งของทางผมแจ้งทางเมืองไทยๆ ใช้บริษัท outsource มา survey พอประกันมากัน คู่กรณีกับเพื่อนๆ กลับไปที่ร้านหูฉลาม บอกมีอะไรให้ประกันเขาคุยแล้วค่อยไปบอกกับเขาข้างในร้าน เขาให้ประกันคุยกับทางเรากับประกันเอง ผมบอกจนท.ประกันเมืองไทยให้ทราบเหตุการณ์ทั้งหมดข้างต้น และส่งคลิปให้ทางไลน์ พอประกันไปคุยกัน กลับมาบอกผมว่าทางคู่กรณีไม่ยอมรับทุกอย่าง และไม่ยอมเปิดประตูรถให้ประกันดูอีกรอบ บอกให้ไปโรงพักแจ้งความเอา
จนท.เมืองไทย ผมบอกตรงนี้เลยมันไม่ช่วยอะไรสักอย่าง แค่เหมือนรายงานว่าทางประกันของคู่กรณีและคู่กรณีไม่ยอม พร้อมเหมือนตัดจบด้วยว่าแผลแบบนี้ผมออกใบเคลมให้แล้วพี่เอาไปเคลมได้เลย ส่งให้ทาง sms แล้ว พอผมดูใบเคลมทุกอย่างโอเค ยกเว้น ตรงที่ลงว่ารถประกันเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ได้ลงว่ารอผลคดี ผมเลยไม่ยอมและไม่โอเคกับการบริการและความช่วยเหลือที่ได้รับ สุดท้ายก็ให้ไปโรงพัก โดยผมบอกว่ารถห้ามขยับ เพราะจะได้มีไว้เป็นหลักฐาน โดยคู่กรณีจะพยายามเอารถออก แต่ผมไม่ให้ แต่ประกันเมืองไทย บอกไม่เป็นไรพี่ ขับไปคุยกันที่โรงพักเรื่องจะได้จบ สรุปก็เอารถไป
พอไปถึงก็คุยกับร้อยเวรทางผมก็เล่าทุกอย่างพร้อมเปิดคลิปให้ดู ส่วนทางคู่กรณีไม่มีหลักฐานใดๆ แถมยังแจ้งความกลับว่าผมแจ้งความเท็จ?! ซึ่งประกันทางเมืองไทย ไม่ช่วยคุย ช่วยห_นไรเลยครับรออย่างเดียว ตำรวจก็ไกล่เกลี่ย ออกใบลงบันทึกประจำวันให้กัน และประกันเมืองไทยก็มาบอกว่าเอาใบเคลมไปเคลมพี่ เดี๋ยวทางผมจัดการเอง เคลียร์ให้
ผ่านไปประมาณอาทิตย์นึง ผมก็ต้องการทราบว่าว่าผลคดีเป็นอย่างไร เพราะไม่เห็นมีการติดต่อจากทางใดเลย จึงโทรไปสอมถามทางเมืองไทย ก็ได้ข้อมูลว่าดำเนินการอยู่ และจะให้ฝ่ายติดตามคดีติดต่อมา ซึ่งก็ไม่เคยมีใครติดต่อมา ทางผมก็ไม่ได้ไปเคลมเพราะแผลลักยิ้มกับ wrap ย่นๆ ก็เก็บไว้ก่อนได้ แถมช่วงปลายปีก็วุ่นๆกับเรื่องงานอีก
พอช่วงนี้ ผมจะต้องต่อภาษีรถช่วงต้นกุมภา ผมก็เลยจะคุยเรื่องต่อประกัน เพราะจะเอาพรบ. (แถมมากับประกัน ไปต่อภาษี) และปกติประกัน/โบรกเกอร์จะโทรติดต่อมาก่อนหมดประกันแล้ว เพื่อให้เราต่อก่อน ซึ่งแปลกที่ไม่มี เลยโทรไปสอบถามโบรกเกอร์ (กรุงศรีออโต้) เอง และได้ราคาเบี้ยประกันมาสรุปแพงขึ้น 3,000 บาท ผมก็สงสัยและถามไปว่าทำไมไม่มีส่วนลด แถมแพงขึ้นอีก เพราะผมไม่เคยเคลม และมีแค่ครั้งที่เล่ามาและไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
ถ้ากรุงศรีออโต้แจ้งว่าทางเมืองไทยระบุใน
ระบบว่าเราเป็นฝ่ายถูก แต่เนื่องจากยังรอผลคดี จึงถือว่าเราเป็นฝ่ายผิด?!?! ผมก็เหอะ! เรื่องเกิดมา 3 เดือนกว่า ยังรอผลคดี แปลว่าที่โทรสอบถามไปจนถึงตอนนี้ ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ทั้งๆที่ผมทำประกันชั้น 1 กับเขาพร้อมมีหลักฐานคลิปให้แล้ว จึงขอให้ทางกรุงศรีออโต้ ช่วยไปเจรจาต่อรองดูอีกครั้ง และถ้าอยากได้คลิป (เผื่อลบไปแล้ว) ผมมีเก็บไว้ ส่งให้ใหม่ได้ สรุปไม่เป็นผลมั้ง เพราะทางกรุงศรีออโต้ส่งราคาเบี้ยประกันมาเท่าเดิมที่แพงขึ้น 3,000 บาท พร้อมเสนอเบี้ยเจ้าอื่นๆมาให้ ประมาณว่าเมืองไทยไม่แคร์ค่ะ เลือกเจ้าอื่นแทนได้นะคะ!
ผมจึงโทรหาเมืองไทยอีกครั้ง และก็เล่าทุกอย่างอีกครั้ง ซึ่งก็ได้คำตอบคล้ายเดิม แต่มีเปลี่ยนหน่อยตรงที่
จะลงให้ว่าเป็นเคสเร่งด่วน แล้วจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายติดตามคดีติดต่อมาช่วงบ่ายนะคะ ซึ่งผลลัพธ์ิคือไม่มีใครติดต่อมา
**สรุปเมืองไทยประกันภัยจะเอาแบบนี้ใช่ไหม? ซึ่งผมขับรถมากว่า 25 ปี เกิดอุบัติเหตุแค่ 4 ครั้ง เป็นฝ่ายผิด 1 ครั้ง เป็นฝ่ายถูก 2 ครั้ง และครั้งล่าสุดที่เล่า เท่ากับคุณสามารถกินเงินค่าเบี้ยสบายๆจากผม คุณไม่ต้องการลูกค้าแบบนี้??**
***ประกันจะดีไม่ดี จะยิ้มได้เมื่อภัยมา?! ไม่ใช่ๆ จะรู้เมื่อตอนเกิดเหตุจริงๆ***
ผมใช้ CLA250 อยู่กทม. ไม่ใช่ในเมืองขับทำงานไปกลับเฉลี่ยวันละไม่เกิน 10 กิโล ไปตจว. ปีละ 2 รอบ ช่วยแนะนำประกันดีๆ ให้ทีครับ ขอบคุณครับ
เมืองไทยประกันภัย (ผ่านกรุงศรีออโต้) จะเอาอย่างนี้หรือ?
รถผมทำประกันขั้น 1 กับทางเมืองไทยประกันภัยซึ่งกำลังจะต้องต่ออายุปีที่ 3 และก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการเคลมใดๆ จนเมื่อปีที่แล้ววันที่ 7/10/24 ผมได้จอดรถไว้ที่ลานจอดของบริษัท โดยมีร้านหูฉลามเช่าที่จอดบางส่วนของบริษัทให้ลูกค้ามาใช้บริการ ซึ่งจะเป็นลานเปิดไม่มีเต๊นท์ (ของพนักงานบริษัทจะเป็นส่วนที่เป็นเต๊นท์)
วันดังกล่าวตอนประมาณเที่ยงกว่าๆ ผมกำลังจะออกไปข้างนอกหาลูกค้า ได้เห็นรถคู่กรณีมาจอดข้างๆด้านซ้าย ซึ่งจอดชิด และมีรถอีกคันจอดอีกด้านหนึ่งของรถคู่กรณี ซึ่งปกติตรงช่องนี้จะจอดได้ 2 คัน จอด 3 จะมีคันที่เปิดประตูไม่ได้ ด้วยความสังหรณ์จึงเดินไปตรวจดูที่ฝั่งซ้ายของรถผมก็พบว่ามีรอยแบบโดนเปิดประตูกระแทกจนเป็นลักยิ้มและทำสติ๊กเกอร์ wrap ย่น ผมจึงได้สอบถามไปที่ร้านหูฉลามว่าเป็นรถลูกค้าหรือไม่ ก็ทราบว่าใช่ กำลังทานอาหารอยู่ข้างบน ทางผมจึงขอให้ช่วยแจ้งลูกค้าคนนั้น (คู่กรณี) ให้ช่วยลงมาดูหน่อย
แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมลง บอกพนักงานร้านให้มายอกผมว่าทานอาหารกับเพื่อนๆอยู่ให้รอ ผมก็แจ้งไปว่าทางผมต้องออกไปหาลูกค้าช่วยลงมาดูหน่อยว่ารถเขา(เป็นผู้หญิง)กับรถผมน่าจะมีอุบัติเหตุกัน สรุปก็ไม่ลงมาจนผมต้องเดินไปหาและบอกด้วยตัวเองว่าช่วยมาดูที่รถหน่อย สรุปผมยังต้องรออีกเกือบชม.กว่าจะมาที่รถพร้อมเพื่อนที่จอดรถข้างๆอีกคัน
พอมาถึงก็ทำหน้าแบบรำคาญ ผมก็ช่างเพราะต้องการทราบแผลที่เกิดมาจากรถของคู่กรณีหรือไม่จะได้เรียกประกันมาให้จบๆไป พอผมแจ้งคู่กรณีๆบอกไม่ใช่เกิดจากเขา ตอนเขาลงรถเขาบอกว่าเขาระวัง ได้ดูและเอามือบังขอบประตูแล้ว แต่จากที่ผมเห็นเขาป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างอ้วน ผมจึงขอให้เขาช่วงลองประตูดู ตอนแรกคู่กรณีก็บ่ายเบี่ยง ผมต้องขอว่าถ้าบอกตอนเขาลงระวังอยู่แล้ว ก็บองเปิดเพื่อความมั่นใจของเขาและความสบายใจของผม
พอลองเปิดดูสรุปแผลกับขอบประตูเขา ตรงกันเป๊ะ! พอเห็นอย่างนั้นผมจะขอให้ช่วยเรียกประกันมา แต่!ทางคู่กรณีบอกผมเลื่อนรถให้แผลมาตรงกับประตูรถเขา?! และอ้างไปว่าเป็นแผลเป่ามั่ง มีรถคันอื่นที่มาจอดแล้วทำมั่ง ผมบอกว่าผมดูแลรถเองเสมอ และก็เลยขอเจ้าหน้าที่บริษัทขอดูกล้องวงจรปิด และส่งคลิปให้ผมทางไลน์
สิ่งที่ได้เห็นช่วงเวลา 11 โมงนิดๆ (ก่อนหน้าตั้งแต่ผมจอดรถเข้าทำงาน ไม่มีรถใครมาจอดข้างๆครับ) ก็พบรถคู่กรณีขับมาจอดข้างๆรถผมที่เป็นเต๊นท์ (ซึ่งเข้าใจได้ว่าไม่ทราบ แต่ตรงเต๊นท์จะมีป้ายติดไว้บอกว่าเป็นที่จอดของรถทะเบียนอะไร) ตอนแรกจอดห่างอยู่ แต่ดันลงแล้วไปเรียกให้เพื่อนมาจอดในเต๊นท์ด้วย คู่กรณีจึงขยับรถมาชิดรถผม เพื่อให้เพื่อนขับมาจอดในร่มด้วยเช่นกัน และตอนคู่กรณีลงจากรถรอบหลัง ที่เขาแจ้งไว้ว่าเขาระมัดระวัง ดูตอนเปิดประตู เอามือบังขอบแล้ว แต่เมื่อดูคลิป คือเปิดแบบไม่ได้สนใจ ใส่ใจที่จะระวังอะไรเลย
มาถึงตรงนี้เขาก็เลยเหมือนหน้าแหก พูดจาเริ่มไม่ดีและก็เรียกประกันมาแบบส่งๆไป ทางผมก็เรียกประกันมาเพื่อมาคุย ซึ่งของทางผมแจ้งทางเมืองไทยๆ ใช้บริษัท outsource มา survey พอประกันมากัน คู่กรณีกับเพื่อนๆ กลับไปที่ร้านหูฉลาม บอกมีอะไรให้ประกันเขาคุยแล้วค่อยไปบอกกับเขาข้างในร้าน เขาให้ประกันคุยกับทางเรากับประกันเอง ผมบอกจนท.ประกันเมืองไทยให้ทราบเหตุการณ์ทั้งหมดข้างต้น และส่งคลิปให้ทางไลน์ พอประกันไปคุยกัน กลับมาบอกผมว่าทางคู่กรณีไม่ยอมรับทุกอย่าง และไม่ยอมเปิดประตูรถให้ประกันดูอีกรอบ บอกให้ไปโรงพักแจ้งความเอา
จนท.เมืองไทย ผมบอกตรงนี้เลยมันไม่ช่วยอะไรสักอย่าง แค่เหมือนรายงานว่าทางประกันของคู่กรณีและคู่กรณีไม่ยอม พร้อมเหมือนตัดจบด้วยว่าแผลแบบนี้ผมออกใบเคลมให้แล้วพี่เอาไปเคลมได้เลย ส่งให้ทาง sms แล้ว พอผมดูใบเคลมทุกอย่างโอเค ยกเว้น ตรงที่ลงว่ารถประกันเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ได้ลงว่ารอผลคดี ผมเลยไม่ยอมและไม่โอเคกับการบริการและความช่วยเหลือที่ได้รับ สุดท้ายก็ให้ไปโรงพัก โดยผมบอกว่ารถห้ามขยับ เพราะจะได้มีไว้เป็นหลักฐาน โดยคู่กรณีจะพยายามเอารถออก แต่ผมไม่ให้ แต่ประกันเมืองไทย บอกไม่เป็นไรพี่ ขับไปคุยกันที่โรงพักเรื่องจะได้จบ สรุปก็เอารถไป
พอไปถึงก็คุยกับร้อยเวรทางผมก็เล่าทุกอย่างพร้อมเปิดคลิปให้ดู ส่วนทางคู่กรณีไม่มีหลักฐานใดๆ แถมยังแจ้งความกลับว่าผมแจ้งความเท็จ?! ซึ่งประกันทางเมืองไทย ไม่ช่วยคุย ช่วยห_นไรเลยครับรออย่างเดียว ตำรวจก็ไกล่เกลี่ย ออกใบลงบันทึกประจำวันให้กัน และประกันเมืองไทยก็มาบอกว่าเอาใบเคลมไปเคลมพี่ เดี๋ยวทางผมจัดการเอง เคลียร์ให้
ผ่านไปประมาณอาทิตย์นึง ผมก็ต้องการทราบว่าว่าผลคดีเป็นอย่างไร เพราะไม่เห็นมีการติดต่อจากทางใดเลย จึงโทรไปสอมถามทางเมืองไทย ก็ได้ข้อมูลว่าดำเนินการอยู่ และจะให้ฝ่ายติดตามคดีติดต่อมา ซึ่งก็ไม่เคยมีใครติดต่อมา ทางผมก็ไม่ได้ไปเคลมเพราะแผลลักยิ้มกับ wrap ย่นๆ ก็เก็บไว้ก่อนได้ แถมช่วงปลายปีก็วุ่นๆกับเรื่องงานอีก
พอช่วงนี้ ผมจะต้องต่อภาษีรถช่วงต้นกุมภา ผมก็เลยจะคุยเรื่องต่อประกัน เพราะจะเอาพรบ. (แถมมากับประกัน ไปต่อภาษี) และปกติประกัน/โบรกเกอร์จะโทรติดต่อมาก่อนหมดประกันแล้ว เพื่อให้เราต่อก่อน ซึ่งแปลกที่ไม่มี เลยโทรไปสอบถามโบรกเกอร์ (กรุงศรีออโต้) เอง และได้ราคาเบี้ยประกันมาสรุปแพงขึ้น 3,000 บาท ผมก็สงสัยและถามไปว่าทำไมไม่มีส่วนลด แถมแพงขึ้นอีก เพราะผมไม่เคยเคลม และมีแค่ครั้งที่เล่ามาและไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
ถ้ากรุงศรีออโต้แจ้งว่าทางเมืองไทยระบุในระบบว่าเราเป็นฝ่ายถูก แต่เนื่องจากยังรอผลคดี จึงถือว่าเราเป็นฝ่ายผิด?!?! ผมก็เหอะ! เรื่องเกิดมา 3 เดือนกว่า ยังรอผลคดี แปลว่าที่โทรสอบถามไปจนถึงตอนนี้ ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ทั้งๆที่ผมทำประกันชั้น 1 กับเขาพร้อมมีหลักฐานคลิปให้แล้ว จึงขอให้ทางกรุงศรีออโต้ ช่วยไปเจรจาต่อรองดูอีกครั้ง และถ้าอยากได้คลิป (เผื่อลบไปแล้ว) ผมมีเก็บไว้ ส่งให้ใหม่ได้ สรุปไม่เป็นผลมั้ง เพราะทางกรุงศรีออโต้ส่งราคาเบี้ยประกันมาเท่าเดิมที่แพงขึ้น 3,000 บาท พร้อมเสนอเบี้ยเจ้าอื่นๆมาให้ ประมาณว่าเมืองไทยไม่แคร์ค่ะ เลือกเจ้าอื่นแทนได้นะคะ!
ผมจึงโทรหาเมืองไทยอีกครั้ง และก็เล่าทุกอย่างอีกครั้ง ซึ่งก็ได้คำตอบคล้ายเดิม แต่มีเปลี่ยนหน่อยตรงที่ จะลงให้ว่าเป็นเคสเร่งด่วน แล้วจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายติดตามคดีติดต่อมาช่วงบ่ายนะคะ ซึ่งผลลัพธ์ิคือไม่มีใครติดต่อมา
**สรุปเมืองไทยประกันภัยจะเอาแบบนี้ใช่ไหม? ซึ่งผมขับรถมากว่า 25 ปี เกิดอุบัติเหตุแค่ 4 ครั้ง เป็นฝ่ายผิด 1 ครั้ง เป็นฝ่ายถูก 2 ครั้ง และครั้งล่าสุดที่เล่า เท่ากับคุณสามารถกินเงินค่าเบี้ยสบายๆจากผม คุณไม่ต้องการลูกค้าแบบนี้??**
***ประกันจะดีไม่ดี จะยิ้มได้เมื่อภัยมา?! ไม่ใช่ๆ จะรู้เมื่อตอนเกิดเหตุจริงๆ***
ผมใช้ CLA250 อยู่กทม. ไม่ใช่ในเมืองขับทำงานไปกลับเฉลี่ยวันละไม่เกิน 10 กิโล ไปตจว. ปีละ 2 รอบ ช่วยแนะนำประกันดีๆ ให้ทีครับ ขอบคุณครับ