อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือ "เขาคิชฌกูฏ" จังหวัดจันทบุรี
โดยมีจุดน่าสนใจ คือ น้ำตกกระทิง, ผ้าแดง, เขื่อนพลวง, รอยเสือใหญ่, ยอดเขาพระบาท และที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษนั้น เห็นจะเป็นการนมัสการรอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ หรือ พระบาทพลวง นั่นเอง ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการขอพรที่ได้สมดังหวัง โดยมีประวัติว่ารอยพระพุทธบาทนี้ได้ค้นพบโดยนายพรานหาของป่า ที่เดินขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏเมื่อปี พ.ศ.2397 ซึ่งได้พบกับแหวนนาคขนาดใหญ่ และแผ่นหินที่มีรูปก้นหอยเหมือนรอยเท้าและได้แจ้งให้กับหลวงพ่อเพชรเจ้าคณะจังหวัดทราบ เมื่อตรวจสอบดูก็พบรอยพระพุทธบาทนั้นจริงชาวบ้านต่างก็พากันขึ้นมานมัสการจนกลายเป็นประเพณีสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้
โดยในปีนี้สามารถขึ้นเขาได้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม - 30 มีนาคม ..... เหลืออีก 5 วัน เท่านั้น!!!!! (สามารถขึ้นได้ทั้งวันตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ)
ระหว่างนั่งรถขึ้นไปบนเขา พี่คนขับเล่าให้ฟังว่า " ที่ต้องเปิดให้ขึ้นได้แค่ช่วงนี้ช่วงเดียวเพราะว่าไม่ต้องการให้สัตว์ป่าได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากคนมาขึ้นเขาวันๆ นึงเยอะมากๆ ก็ปล่อยให้สัตว์ป่าได้อยู่สงบๆกัน ส่วนพวกพี่คนขับก็คือชาวสวนจากแถวๆนั้น มาช่วยงานนี้ด้วยใจ ค่ารถที่พวกเราจ่ายไปก็เอาไปใช้เป็นค่าซ่อมรถ ค่าน้ำมัน ที่เหลือก็บริจาคการกุศลทั้งหมด "
ระหว่างทางขึ้นเขาก็มีจุดให้กราบไหว้พระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เป็นระยะๆ
การเดินทางไปเขาคิชกุฏ จังหวัดจันทบุรี จากกรุงเทพฯ นั้นไปได้หลายทางแต่ผมเลือกที่จะนั่งรถตู้หน้าห้าง The Century อนุสาวรีย์ชัย หารถตู้ไปจันทบุรีแล้วบอกว่าลงวัดพลวงหรือวัดกระทิง (เราสามารถเลือกขึ้นเขาคิชกุฏได้จาก 2 ทางนี้) ราคาค่ารถ 350 บาท เดินทางประมาณ 3-4 ชม.
จากนั้นเดินไปซื้อตั๋วรอคิวต่อรถกระบะขึ้นไปจากวัดพลวง 2 ต่อ ต่อละ 50 บาท/คน หรือจากตรงนี้ใครจะเดินเท้าขึ้นไปก็ได้นะครับแต่เส้นทางไกลและชันมากๆ แนะนำให้ฟิตร่างกายให้พร้อมด้วย!!!! อ่อแล้วก็อย่าลืมซื้อดอกไม้ ธูปเทียนและพลอยประจำเดือนกับวันเกิดจากร้านแถวๆ ที่รอคิวรถกระบะด้วยนะครับกันก่อนได้เลยครับ หรือถ้าใครลืมพอขึ้นไปข้างบนก็จะมีร้านขายอีกครับไม่ต้องเป็นห่วง
พอลงจากรถแล้วจะต้องเดินต่อขึ้นไปอีกประมาณ 2-3 กิโลเมตรถึงจะถึงจุดนมัสการรอยพระพุทธบาท ระหว่างทางเต็มไปด้วยหมอก(ขึ้นไปประมาณตี 4 ) น้ำค้างแรงมาก แนะนำรองเท้าที่เกาะๆ พื้นหน่อย และอย่าลืมเตรียมหมวกไปด้วย
จุดนมัสการรอยเสือใหญ่ อีกอึดใจเดียวจะถึงรอยพระพุทธบาทแล้วครับ
ถึงแล้วครับคนแน่นเหลือเกินไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปถ่ายใกล้ๆ ได้จริงๆ (ออกไปถ่ายไกลๆ ก็มองไม่เห็นเพราะติดหมอก) เลยตัดสินใจเดินขึ้นไปอีกจนถึงลานอินทร์เลย
ลานอินทร์ครับ ตรงแท่นคือที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ส่วนนี้มีพระพรหมและพระอินทร์ให้สักการะกันด้วยนะครับ แถมอากาศยังเย็นสบายหายใจเป็นไอได้ (เวลาประมาณตี 4 ) ดีกว่าข้างล่างมาก เดินเลยจุดนี้ขึ้นไปอีกหน่อยจะมีจุดขายน้ำและอาหาร ขนม นม เนย เพียบครับ ไม่ต้องกลัวอด เดินต่อไปอีก 800 เมตรก็จะเป็นจุดสุดทางคือผ้าแดง ถ้าใครแรงเหลือลองเดินไปดูนะครับ
ระหว่างเดินกลับถึงจะใกล้เช้าแล้วก็หมอกก็ยังคงหนาอยู่คับใครเป็นหวัดง่ายๆ ระวังตัวด้วยน้าาาา
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ ค่ารถตู้ไป/กลับ 700 บาท (ขากลับแอบช้าเล็กน้อยเพราะคนขับจะแวะส่งคนตามแต่ละอำเภอของระยอง, ชลบุรี)
ค่ารถกระบะ ขึ้น/ลง 200 บาท
ค่ากิน + ซื้อของฝาก 200++ บาท
ใครมีอะไรอยากขอพรพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แถมได้เดินป่าออกกำลังกายดูธรรมชาติแบบชิวๆไปด้วย ก็แนะนำนะครับ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้วด้วย ถ้าใครพลาดต้องรออีก 1 ปีเต็มๆ เลยนะคร้าบบบบ !! ^^
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคร้าบบ
..............................................................................
CopyRight and Photograph by "iPaintsomething Photography" by Parinya Suddee
ติดตามผลงานได้ที่ :
https://www.facebook.com/ipaintsomething
Tel: 087-336-6164
Line iD : sonarizise
ขึ้นเขา ขอพร ณ คิชกุฏ จังหวัดจันทบุรี ..... โค้งสุดท้ายแล้วนะครับ
โดยมีจุดน่าสนใจ คือ น้ำตกกระทิง, ผ้าแดง, เขื่อนพลวง, รอยเสือใหญ่, ยอดเขาพระบาท และที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษนั้น เห็นจะเป็นการนมัสการรอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ หรือ พระบาทพลวง นั่นเอง ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการขอพรที่ได้สมดังหวัง โดยมีประวัติว่ารอยพระพุทธบาทนี้ได้ค้นพบโดยนายพรานหาของป่า ที่เดินขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏเมื่อปี พ.ศ.2397 ซึ่งได้พบกับแหวนนาคขนาดใหญ่ และแผ่นหินที่มีรูปก้นหอยเหมือนรอยเท้าและได้แจ้งให้กับหลวงพ่อเพชรเจ้าคณะจังหวัดทราบ เมื่อตรวจสอบดูก็พบรอยพระพุทธบาทนั้นจริงชาวบ้านต่างก็พากันขึ้นมานมัสการจนกลายเป็นประเพณีสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้
โดยในปีนี้สามารถขึ้นเขาได้ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม - 30 มีนาคม ..... เหลืออีก 5 วัน เท่านั้น!!!!! (สามารถขึ้นได้ทั้งวันตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ)
ระหว่างนั่งรถขึ้นไปบนเขา พี่คนขับเล่าให้ฟังว่า " ที่ต้องเปิดให้ขึ้นได้แค่ช่วงนี้ช่วงเดียวเพราะว่าไม่ต้องการให้สัตว์ป่าได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากคนมาขึ้นเขาวันๆ นึงเยอะมากๆ ก็ปล่อยให้สัตว์ป่าได้อยู่สงบๆกัน ส่วนพวกพี่คนขับก็คือชาวสวนจากแถวๆนั้น มาช่วยงานนี้ด้วยใจ ค่ารถที่พวกเราจ่ายไปก็เอาไปใช้เป็นค่าซ่อมรถ ค่าน้ำมัน ที่เหลือก็บริจาคการกุศลทั้งหมด "
ระหว่างทางขึ้นเขาก็มีจุดให้กราบไหว้พระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เป็นระยะๆ
การเดินทางไปเขาคิชกุฏ จังหวัดจันทบุรี จากกรุงเทพฯ นั้นไปได้หลายทางแต่ผมเลือกที่จะนั่งรถตู้หน้าห้าง The Century อนุสาวรีย์ชัย หารถตู้ไปจันทบุรีแล้วบอกว่าลงวัดพลวงหรือวัดกระทิง (เราสามารถเลือกขึ้นเขาคิชกุฏได้จาก 2 ทางนี้) ราคาค่ารถ 350 บาท เดินทางประมาณ 3-4 ชม.
จากนั้นเดินไปซื้อตั๋วรอคิวต่อรถกระบะขึ้นไปจากวัดพลวง 2 ต่อ ต่อละ 50 บาท/คน หรือจากตรงนี้ใครจะเดินเท้าขึ้นไปก็ได้นะครับแต่เส้นทางไกลและชันมากๆ แนะนำให้ฟิตร่างกายให้พร้อมด้วย!!!! อ่อแล้วก็อย่าลืมซื้อดอกไม้ ธูปเทียนและพลอยประจำเดือนกับวันเกิดจากร้านแถวๆ ที่รอคิวรถกระบะด้วยนะครับกันก่อนได้เลยครับ หรือถ้าใครลืมพอขึ้นไปข้างบนก็จะมีร้านขายอีกครับไม่ต้องเป็นห่วง
พอลงจากรถแล้วจะต้องเดินต่อขึ้นไปอีกประมาณ 2-3 กิโลเมตรถึงจะถึงจุดนมัสการรอยพระพุทธบาท ระหว่างทางเต็มไปด้วยหมอก(ขึ้นไปประมาณตี 4 ) น้ำค้างแรงมาก แนะนำรองเท้าที่เกาะๆ พื้นหน่อย และอย่าลืมเตรียมหมวกไปด้วย
จุดนมัสการรอยเสือใหญ่ อีกอึดใจเดียวจะถึงรอยพระพุทธบาทแล้วครับ
ถึงแล้วครับคนแน่นเหลือเกินไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปถ่ายใกล้ๆ ได้จริงๆ (ออกไปถ่ายไกลๆ ก็มองไม่เห็นเพราะติดหมอก) เลยตัดสินใจเดินขึ้นไปอีกจนถึงลานอินทร์เลย
ลานอินทร์ครับ ตรงแท่นคือที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ส่วนนี้มีพระพรหมและพระอินทร์ให้สักการะกันด้วยนะครับ แถมอากาศยังเย็นสบายหายใจเป็นไอได้ (เวลาประมาณตี 4 ) ดีกว่าข้างล่างมาก เดินเลยจุดนี้ขึ้นไปอีกหน่อยจะมีจุดขายน้ำและอาหาร ขนม นม เนย เพียบครับ ไม่ต้องกลัวอด เดินต่อไปอีก 800 เมตรก็จะเป็นจุดสุดทางคือผ้าแดง ถ้าใครแรงเหลือลองเดินไปดูนะครับ
ระหว่างเดินกลับถึงจะใกล้เช้าแล้วก็หมอกก็ยังคงหนาอยู่คับใครเป็นหวัดง่ายๆ ระวังตัวด้วยน้าาาา
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ ค่ารถตู้ไป/กลับ 700 บาท (ขากลับแอบช้าเล็กน้อยเพราะคนขับจะแวะส่งคนตามแต่ละอำเภอของระยอง, ชลบุรี)
ค่ารถกระบะ ขึ้น/ลง 200 บาท
ค่ากิน + ซื้อของฝาก 200++ บาท
ใครมีอะไรอยากขอพรพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แถมได้เดินป่าออกกำลังกายดูธรรมชาติแบบชิวๆไปด้วย ก็แนะนำนะครับ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้วด้วย ถ้าใครพลาดต้องรออีก 1 ปีเต็มๆ เลยนะคร้าบบบบ !! ^^
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคร้าบบ
..............................................................................
CopyRight and Photograph by "iPaintsomething Photography" by Parinya Suddee
ติดตามผลงานได้ที่ : https://www.facebook.com/ipaintsomething
Tel: 087-336-6164
Line iD : sonarizise