ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ระหว่างที่รอรถเพื่อลงจากเขาคิชฌกุฎมารับ (ตรงพระสีวลี) เจอเหตุการณ์รถชนคน และทับขาหัก แต่ไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ที่แน่ชัดเป็นอย่างไร ว่าจริงๆ แล้วผู้ประสพเหตุกำลังข้ามถนน หรือ ยืนอยู่ตรงนั้นก่อนแล้ว ถึงโดนรถชน เพราะหันมองทางอื่นอยู่ มารู้อีกทีว่ารถชนคนก็ได้ยินเสียงร้องแล้ว จึงรีบวิ่งไปดู แต่ที่ได้ยินพูดกันว่า ผู้ประสบเหตุลงจากรถคันก่อนหน้าและกำลังข้ามถนนไปตรงพระสีวลี แต่เนื่องจากตัวผู้ประสอบเหตุค่อนข้างอ้วนทำให้ เดินข้ามถนนค่อนข้างช้า และประจวบเหมาะ กับรถคันเกิดเหตุก็เร่งเครื่องเพื่อขึ้นทางชัน พอรถขึ้นได้เท่านั้นแหละ จึงบังเอิญ โลกกลม รถชนคนเข้าเต็มๆ จนท. วิ่งมาพาไปส่งโรงพยาบาล และหลังจากเกิดเหตุ ผมก็ยังคงเห็นเหตุการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง เพียงแต่ยังไม่ชนคนเท่านั้นเอง แค่เกือบๆ คือบางคนลงจากรถแล้วก็ยืนคุยกันตรงนั้นเลย บางคนยืนถ่ายรูป บางคนมองหาญาติพี่น้องที่มาด้วยกัน แต่นั้งรถคนละคัน แทนที่จะรีบเดินหลบไปก่อน

อีกไม่กี่วันเขาคิชฌกุฎก็จะปิดแล้ว เจอกันอีกครั้งก็หลังตรุษจีนปีหน้า ใครที่กำลังจะไปขึ้นเขาคิชฌกุฎปีนี้ ก็ระมัดระวังไว้ด้วยนะครับ เพราะเหตุที่เกิดขึ้น ผมเห็นว่าผิดทั้ง 3 ฝ่าย
- ฝ่ายแรก ผู้ประสบเหตุผิด เพราะตรงจุดเกิดเหตุ เป็นจุดที่รถรับ-ส่ง ต้องวิ่งวนตลอดเวลา และเป็นทางชัน รถต้องเร่งความเร็วเพื่อจะขึ้นให้ได้ ถ้ามีใครซักคนยืนตรงนั้นโดนชนแน่นอน
- ฝ่ายคนขับรถผิด เพราะความประมาทที่คิดว่าเป็นถนนสำหรับรถวิ่ง และต้องเร่งความเร็วขึ้น จนไม่ระมัดระวัง พอขึ้นได้แล้วก็ไม่ปล่อยคันเร่ง พอใกล้จะชนก็เบรคไม่ทัน ชนเข้าเต็มๆ
- ฝ่ายบริหารจัดการ คุณไม่ควรสร้างพระสีวลีตรงนั้น เพราะมันเป็นการยากที่คุณจะห้ามคนข้ามไปข้ามมาเพื่อกราบไหว้ คุณสร้างเสร็จแล้ว ก็ประการให้คนระมัดระวัง เดินเร็วๆ ถ้าคุณไม่สร้าง หรือสร้างตรงจุดอื่น มันจะดีกว่านี้มาก