คำแนะนำ ก่อนเขาคิชฌกุฎจะเปิด

ต้องเรียนชี้แจ้งก่อนว่า จขกท. ไม่ใช่คนจันทบุรี ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่มากนัก แต่ก็อยากมาแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับให้กับทุกท่าน เผื่อเป็นประโยชน์ได้บ้าง
บทความนี้เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัว ของ จขกท. เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ควรได้รับคำแนะนำ

สวัสดีเพื่อนๆ ที่รักการท่องเที่ยว
          ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว สำหรับการนับถอยหลังวันเปิดเขาคิชฌกูฏ  จังหวัดจันทบุรี ซึ่งหลังจากการมรณภาพของท่านพ่อเขียนเมื่อปีก่อน ทำให้มีคำถามเกิดขึ้นว่าในปีนี้ก็ยังไม่ทราบว่าใครจะเป็นประธานในการจัดงานครั้งนี้ และปัญหาภายในจะได้รับการจัดการอย่างไร อันนี้ไม่ขอพูดถึง เพราะเป็นเรื่องไกลตัวผม
          หลายปีมานี้ เขาคิชฌกุฎ ถูกพูดถึงเยอะมากทั้งเรื่องดี และเรื่องไม่ประทับใจ และมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ไปเยือนสถานที่แห่งนี้มาแล้ว บ้างก็กลับไปอย่างมีความสุข แต่บ้างก็กลับไปพร้อมความทุกข์ หรือความไม่ชอบใจในสิ่งที่ได้พบเจอ วันนี้ จขกท. ในฐานะลูกเขยเมืองจันทบุรี ขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ให้การบอกกล่าวอะไรบางอย่างที่เคยพบเจอ จากประสบการณ์ ขึ้นเขาคิชฌกูฏ  ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยขอแยกเป็นข้อๆ เท่าที่คิดออก ดังนี้

1. จะไปขึ้นเขาคิชฌกุฎเดินทางอย่างไรดี มีรถตู้ หรือรถทัวร์ หรือบริษัททัวร์ ไหนจัดไปขึ้นเขาคิชฌกุฏ บ้าง
          เป็นคำถามที่เจอทุกปี ซึ่งก็มีหลายๆ บริษัทที่จัดทัวร์ไปขึ้นเขาคิชฌกุฎ ขอเอ่ยถึง ขสมก. ที่เดียวนะครับ แนะนำที่อื่นเดียวจะว่าผมมีส่วนได้ส่วนเสียกับเค้าอีก
          1.1 ขสมก. ทุกวันนี้จัดทัวร์ค่อยข้างเยอะ โดยเฉพาะไหว้พระ 9 วัด ตามต่างจังหวัดซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการ และทัวร์ขึ้นเขาคิชฌกุฎ ก็เป็นอีก 1 ทัวร์ที่ ขสมก. จัดขึ้น ซึ่งจะสะดวกสบายสำหรับผู้เดินทางมาก เพราะเค้าจัดการทุกอย่างให้เสร็จทั้งรถเดินทางจาก กทม. หรือรถขึ้นเขา ผู้ร่วมเดินทางแค่ชำระเงิน แล้วเตรียมร่างกาย จิตใจ และอุปกรณ์ส่วนตัวนิดหน่อยพอ
          ส่วนคิวรถตู้ รถทัวร์ ทั่วไปเท่าที่ทราบก็ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ขนส่งเอกมัย, แยกบางนา, หมอชิต2 ไปถึงจันทบุรีแล้วก็หารถต่อไปเขาคิชฌกุฎต่อ
          1.2 หากใครขับรถส่วนตัวมาเอง ก็สบายอีกแบบ อยากแวะไหนก็แวะ อยากไปไหนต่อก็ไป แต่คนขับก็จะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวหน่อยถ้าหากเป็นการเดินทางแบบไปเช้า-เย็นกลับ จริงๆ จันทบุรี ไม่ได้ไกลจาก กทม. เท่าไร ประมาณ 250 กม. ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ถ้ารถโล่งๆ หรือเดินทางกลางคืน ที่ไฟแดงตามแยกต่างหยุดให้บริการแล้ว 2 ชั่วโมงกว่า ก็ถึงแล้วครับ ยิ่งใครขับรถใช้ถนนทางนี้บ่อยๆ ยิ่งถึงเร็วกว่าเดิมอีก (ไม่นับรถเติมก๊าซ NGV นะครับ รอเติมก็ 20-30 นาทีแล้ว)
          ปล. ถ้าขับรถมาเองใช้ความระมัดระวังเยอะๆ เพราะถนนเส้นนี้เป็นทางตรงเยอะและไฟแดงน้อย รถก็ไม่ค่อยเยอะทำให้บางท่านทำความเร็วกันเต็มที่ แต่ด้วยสภาพถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ บางคนขับมาไม่ทันเห็นหักหลบกระทันหัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
           1.3 สำหรับคนต้องการเดินทางมาเอง ก็นั้งรถทัวร์จากเอกมัย หรือหมอชิดก็ได้ ไม่งั้นก็รถตู้ตรงอนุสาวรีย์ชัย หรือแยกบางนาก็มีครับ มาถึงขนส่งจันทบุรีแล้ว เรียกรถมาสด้าไปส่งที่วัดพลวง แต่ราคาต้องสอบถามเอาเองนะครับ

2. ควรเริ่มต้นขึ้นเขากี่โมงดี
          คำตอบจริงๆ คือ เอาความสะดวกของผู้เดินทางเป็นหลัก จะตอนเช้า ตอนบ่าย หรือตอนค่ำ หรือดึก ไปเลยก็ได้ทั้งนั้น เพราะสามารถขึ้นเขาคิชฌกุฎได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีรถให้บริการขึ้นไปถึงต่อที่ 3 ตลอดเวลา ถ้าเดินทางตอนเช้า ตอนบ่าย อาจจะร้อนหน่อยแต่ได้เห็นวิว บรรยากาศรอบข้าง เดินทางตอนค่ำหรือดึก อากาศก็เย็นสบาย บางวันอาจถึงหนาวจัดเลยก็มี แต่ก็จะมองไม่เห็นอะไร ที่ไกลกว่าความสว่างของหลอดไฟไปถึง
          ความเห็น จขกท. : เวลาที่เหมาะสมน่าจะประมาณ ตี 3 ตี 4 เนื่องด้วยว่า อากาศไม่ร้อนเย็นสบายๆ และการเดินทางน่าจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ในการนั้งรถขึ้นถึงตรงพระศรีวลี และเดินอีกประมาณ 1.2 กม. อีกประมาณ 30 นาที เพื่อขึ้นไปให้ถึงตรงหินลูกบาตร รวมแล้วก็ 1 ชั่วโมง นั้นหมายความว่าประมาณ ตี 5 ก็จะถึงยอดเขาคิชฌกุฎ ซึ่งเป็นเวลาสวดมนต์ ทำวัตรเช้าตรงหินลูกบาตรพอดี เสร็จจากทำวัตรเช้า เราก็เดินไปให้สุดทางที่ผ้าแดง ซึ่งทางเดินค่อนข้างลำบากไม่เหมือนทางเดินขึ้นมาหินลูกบาตร ที่มีการปรับปรุงให้เดินทางได้สะดวกกว่าทางไปผ้าแดง ไม่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาเรื่องหัวเขา ข้อเท้าครับ แล้วค่อยลงเขา (เวลาที่ผมคำนวนไม่รวมเวลาที่ต้องรอเรียกคิวขึ้นรถ และเวลาที่นั้งพักตามทางบ่อยๆ นะครับ)

3. จุดขึ้นรถ ตรงไหนบ้าง
          หลายท่านที่ไปครั้งแรก มักจะมุ่งตรงไปยังวัดพลวง เพื่อไปรอคิวขึ้นรถ ซึ่งจริงๆ แล้วมีหลายจุดที่ให้บริการ เช่นตรงวัดพลวง วัดกระทิง อุทยานแห่งชาติน้ำตกกระทิง จุดรับจอดรถ และรีสอทร์ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งที่กล่าวมานี้ มีแค่ตรงวัดพลวงเท่านั้น ที่ต้องขึ้นรถ 2 ต่อ แต่ถ้าขึ้นจุดอื่น นั้งต่อเดียวยาวเลยครับ จะไปลงรถก็ตรงจุดเดินนั้นแหละ
          ความเห็น จขกท. : หากไปกับทัวร์เค้าจัดการให้หมด แต่ถ้าไปกันเองแนะนำให้ขึ้นรถจุดไหนก็ได้ที่ไม่ต้องต่อรถ เพราะจะสะดวกสบายกว่า ไม่ต้องรอเปลี่ยนรถ ไม่พลัดหลงกัน

4. ดอกไม้ ธูป เทียน พลอย จำเป็นหรือไม่
          ตามความเชื่อ ความศรัทธา ของผู้นับถือศาสนาพุทธแล้ว การกราบไหว้บูชา ควรมีดอกไม้ ธูป เทียน ซึ่งปฎิบัติตามกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน แต่หลังๆ มาเริ่มมีการปรับเปลี่ยนของเครื่องสักการะบูชาที่มากขึ้นจนบางครั้งก็มากเกินไป
          ความเห็น จขกท. : ทุกครั้งที่มีคนถาม ผมจะบอกว่าให้เอาไปเท่าที่จำเป็น ดอกไม้ 1 พวงหรือ 1 ช่อ สำหรับไหว้พระ ธูป 1 มัดเล็ก เทียน 1 ห่อเล็ก ก็พอ ถ้าใครเคยไปแล้วจะว่าตามทางเดิน ซอกหินจะมีกลีบดอกดาวเรืองจำนวนมากโรยตามทางเดินและซอกหิน ซึ่งไม่มีจำเป็นต้องทำแบบนั้น เพราะสุดท้ายแล้ว เจ้าหน้าที่เค้าก็มากวาด มาเก็บไปทิ้งเหมือนเดิม เปิดเขาแค่ 2 เดือน ขยะบนเขาคิชฌกุฎมีเยอะมาก ผมจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องซื้อดอกไม้ดาวเรืองหรือเศษพลอย ที่มีคนนำมาวางจำหน่ายระหว่างทาง เพื่อโรยตามก้อนหิน หรือทางเดิน แม้จะมีการกล่าวอ้างถึงความเชื่ออะไรก็ตาม เช่น นำพลอยไปถวายสักการะบูชา จะได้เพ็ชร ได้พลอย ถ้าจริงคนที่เอาพลอยมาขาย คงรวยและเลิกขายไปนานแล้ว และไม่จำเป็นต้องเอาธูปไปปักตามซอกหิน ผมไม่ได้ขัดศรัทธาของใครนะครับ ใครอยากทำก็ทำ ผมเพียงชี้ให้เห็นถึงความเป็นจริงเท่านั้น

5. สิ่งที่จะต้องพบเจอระหว่างเดินขึ้นเขาคิชฌกุฎ
          หลายท่านที่ไปมาแล้ว จะได้พบกับบุคคลกลุ่มหนึ่ง ไม่ขอเอยถึงสถานะทางสังคมนะครับ เค้าเหล่านี้จะคอยประกาศเชิญชวนให้ร่วมทำบุญ โดยอ้างนั้นอ้างนี้ จนเกินความพอดี หรือเรียกว่าโม้นั้นเอง เช่นว่า ทำบุญแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ เกิดชาติหน้ามีเงินร้อยล้าน พันล้าน จนทำให้หลายๆ ท่านเอือมระอา รับไม่ได้ และไม่อยากไปอีก จนมีคำนิยามขึ้นมาว่าการกระทำของคนกลุ่มนี้ที่เอาศาสนามาบังหน้าว่า "พุทธพาณิชย์" นั้นเอง
          ความเห็น จขกท. : หากเราคิดจะขึ้นไปจริงๆ แล้ว ทำใจให้ตั้งมั่น คิดในใจว่าเราจะขึ้นไปนมัสการหินลูกบาตร รอยพระบาท ตามความเชื่อความศรัทธาของเรา สิ่งรอบข้างที่เราต้องพบเจอ คืออุปสรรคที่มาขัดขวาง มาทำลายศรัทธา ไม่ให้เราไปถึงศรัทธาที่เราตั้งมั่นนั้น บางคนอาจจะคิดว่าผมเขียนอะไรสวยงามเกินไป ผมไม่ได้เป็นคนโลกสวยครับ ใครขับรถไม่ดี ผมก็ด่ามันตลอดทางเหมือนกัน บางทีด่ายังบุพการีด้วย

6. สิ่งที่ควรเตรียมไป
- หมวก (บางวันน้ำค้างแรง)
- เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หรือ เสื้อกันหนาว ไม่ต้องหนามากแต่ให้กันลม กันหนาวได้บ้าง ในรายที่มีเด็กๆ ไปด้วยควรเตรียมไว้เป็นที่สุด
- ผ้าเช็ดหน้า
- น้ำดื่ม อาหาร (มีจำหน่ายตามทางเดินขึ้นเขา แต่ราคาจะสูงกว่าหน่อยเพราะบวกค่าขนส่งแล้ว)
- ยาดม ยาประจำตัว
- ดอกไม้ ธูป เทียน เท่าที่จำเป็น ส่วนดอกดาวเรืองและพลอยที่โรยตามทางไม่มีความจำเป็น เสียเงินโดยใช่เหตุแม้จะราคาไม่กี่บาทก็ตาม ผมไม่สนับสนุน

7. สิ่งที่ไม่ควรทำระหว่างเดินขึ้นเขาคิชฌกุฏ (เค้าไม่ได้ห้ามหรอก แต่เกรงใจคนอื่นเค้าบ้างก็ได้นะ)
- สูบบุหรี่ ดื่มของมึนเมา จริงอยู่ว่าไม่มีป้ายห้าม แต่ในสถานสาธารณะที่มีคนเดินขึ้น-ลง จำนวนมาก ก็ควรมีความเกรงใจคนที่เค้าไม่สูบบุหรี่บ้าง (เชื่อว่ามีจำนวนมากกว่าคนที่สูบบุหรี่แน่ๆ)
- หยอกล้อ เล่นกัน เสียงดัง เจอบ่อยในกลุ่มวัยรุ่นหัวเกรียน ก็เข้าใจว่าเป็นวัยที่พลังเหลือเยอะ แต่เกรงใจคนอื่นบ้างก็ได้นะ
- ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง พบเห็นในบางกลุ่ม บางคน ทั้งที่มีถุงดำไว้ให้ตามทางเดิน แต่จะมีคนบางจำพวกจะทิ้งไม่ลงถุงขยะ ก็ไม่เข้าใจว่ามันยากตรงไหน

8. สิ่งที่ต้องระมัดระวังในการขึ้นเขา
- ทรัพย์สินส่วนตัว เนื่องจากคนที่ค่อนข้างเยอะ ถึงเยอะมาก การเดินเบียด เดินชน จึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก ฉะนั้นเก็บรักษาทรัพย์สินส่วนตัวให้ดีครับ
- ความปลอดภัยส่วนบุคคล ทางเดินในบางจุดเป็นบันได บางจุดมีรากไม้ บางช่วงเป็นบันไดเชื่อมจากหินลูกหนึ่งไปอีกลูกหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าด้านล่างย่อมเป็นหน้าผาหรือเหวลึกลงไป ดูให้ดีและระมัดระวังทุกก้าวที่เดินไปด้วยนะครับ

9. ที่ท่องเที่ยวจันทบุรีมีตรงไหนบ้าง
          เป็นคำถามที่มักจะพบเจอเป็นบางครั้ง สำหรับกลุ่มที่จะเที่ยวต่อหลังจากลงเขาคิชฌกุฎ หรือมีโปรแกรมนอนค้าง 1 คืน เท่าที่จำได้
- อุทยานแห่งชาติน้ำตกกระทิง
- วัดเขาสุกิม
- ศาลหลักเมือง, ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
- อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล
- ชุมชนเก่าริมน้ำจันทบูร
- น้ำตกพลิ้ว
- น้ำตกคลองนารายณ์
- อู่ต่อเรือบ้านเสม็ดงาม
- ค่ายเนินวง
- โอเอซีส ซีเวิล์ด
- ตึกแดง
- คุกขี้ไก่
- หาดเจ้าหลาว
- อ่าวคุ้งวิมาน
- ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน
- ถ้ำเขาแก้ว
- เขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
- ตลาดไทย-เขมร แต่ถ้าไม่พาสปอร์ ข้ามไปไม่ได้นะครับ เพราะเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรแล้ว

10. ที่พักราคา โรงแรม ราคาถูก
          เป็นอะไรที่แนะนำยากที่สุด เพราะก็ไม่รู้ว่า โรงแรมแต่ละที่ สภาพเป็นอย่างไร แนะนำไปแล้วเจอไม่ดีมาผมก็โดน ของถูกมักไม่ค่อยดี ของดีราคาก็แพง บางทีเจอทั้งแพงทั้งไม่ดี เอาเป็นว่าลองเปิด www.ที่พักจันทบุรี.com แล้วเลือกดูส่วนจะเจอแบบไหน ราคาเท่าไร ไม่ขอรับประกันครับ อาจจะเจอที่ราคาถูกและดีก็ได้ครับ

          เท่าที่ผมนึกออกตอนนี้ ก็มีเท่านี้ หากเพื่อน พี่ น้อง ท่านใด มีอะไรแนะนำเพิ่ม ก็ใส่มาได้เลยครับ เป็นประโยชน์ให้กับท่านอื่นที่ยังไม่เคยไป และกำลังจะไป หรือใครมีข้อสงสัยอะไร ถามมาได้นะครับ หากผมทราบยินดีตอบครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่