___ [ กระทู้สุดจินตนาการ ] _ไปเที่ยวชม "..ปราสาทราชวัง ในโลกเทพนิยาย.." กันเถอะ ___



.... เดินทางข้ามขอบฟ้าสู่ดินแดนที่ห่างไกล ณ สุดปลายสายรุ้ง ในดินแดนแห่งออซ
ดำดิ่งสู่อันเดอร์แลนด์ ดินแดนพิศวงที่อยู่ใต้พื้นพิภพ
เปิดตู้โบราณเดินทางสู่ดินแดนที่ถูกสาป นาร์เนีย กับตำนานยิ่งใหญ่สุดอภินิหาร
ผจญภัยในดินแดนแห่งเรื่องราวขับขาน ตำนานแห่งวีรบุรุษ มิดเดิลเอิร์ธ
และพุ่งทะยานเหนือน่านฟ้าแหวกเมฆาฝ่าดวงดาวสู่อาณาจักรแห่งเทพเจ้า แอสการ์ด ....



เดินทางไปเที่ยวชมปราสาทราชวังทั้ง 10 อันวิจิตรตระการตา จาก 5 อาณาจักรเทพนิยาย
สถาปัตยกรรมที่ก่อกำเนิดจากตำนานเล่าขาน นิทานพื้นบ้าน ปกรณัม ปรัมปรา หรือวรรณกรรม
ทอดผ่านยุคสมัยมาเป็นเวลานาน สู่การสรรรสร้างเกิดเป็นภาพอันปรากฏ "บนจอภาพยนตร์"


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ขับกล่อมเรื่องราวด้วยบทเพลงแห่งหุบเขาเดียวดาย


.






1.  แอสการ์ด



แอสการ์ด คือที่อยู่ของเทพปกรณัมนอร์ส ตั้งอยู่ในจุดหนึ่งของห้วงเอกภพ สถาปัตยกรรมต่างๆจะเน้นสีทอง แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเหล่าเทพ



บริเวณทางเดินสุดโอ่อ่า ด้านข้างเป็นรูปปั้นนักรบยืนเรียงรายเป็นแถวยาว



ภาพจากมุมสูง จะเห็นว่าด้านล่างเป็นมหาสมุทร



ใกล้เข้ามาอีกหน่อย จะเห็นประตูทางเข้า ที่มีสะพานทอดผ่านเข้าไป



ใกล้เข้ามาอีก เห็นทางเข้าชัดเจนขึ้น สังเกตจุดเล็กๆเต็มไปหมดที่อยู่ด้านใน นั่นคือเหล่าเทพจำนวนมหาศาล ดังนั้นจะเห็นว่าปราสาทหลังนี้ใหญ่มากๆ



บรรยากาศด้านใน ยิ่งใหญ่มากจริงๆ



นี่คือบัลลังก์ของพระราชา จะเน้นสีทอง และดูยิ่งใหญ่ ที่แท่นทั้ง 2 ข้าง จะมีอีกามาเกาะ เพราะถือเป็นสัตว์ประจำตัวของราชา



สะพานสายรุ้งน้ำแข็ง สะพานที่เชื่อมต่อจากตัวปราสาทใหญ่ไปสู่ห้องประตูมิติ ตามตำนานนอร์สกล่าวว่าสะพานนี้เกิดจากสายรุ้งที่แข็งตัวเป็นน้ำแข็ง เพราะชาวนอร์ส หรือชาวสแกนดิเนเวียอยู่ในภูมิประเทศที่เป็นน้ำแข็งตลอดเวลา เรื่องราวเทพของพวกเขาจึงเกี่ยวข้องกับน้ำแข็ง



ราชาโอดิน บิดาแห่งเทพเจ้านอร์ส ผู้ครองแอสการ์ด







2.  เมืองมรกต



เมืองมรกต ตั้งอยู่ใจกลางดินแดนลับแลที่ชื่อว่าออซ มีลักษณะเป็นสีเขียวแซมสีทองสะท้อนกับแสงตะวันเป็นประกายเหมือนอัญมณีมรกต และมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร บริเวณรอบๆเป็นภูเขา ป่าไม้ ทุ่งหญ้า ทุ่งดอกไม้ และแปลงเกษตร น่าจะสะท้อนถึงประเทศอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นยุคก้าวข้ามศตวรรษ ยุคที่อุตสาหกรรมเริ่มเข้ามามีบทบาทในวิถีคนอเมริกันมากขึ้น สังคมเกษตรกรรมก็เริ่มแคบลงเรื่อยๆ



บริเวณด้านหน้า ประตูทางเข้าสู่เมืองมรกต จะเห็นเป็นถนนอิฐสีเหลืองทอดผ่านเข้าไปในประตูเมือง และบริเวณด้านซ้ายจะเป็นทุ่งดอกไม้สีแดงฉาน นั่นคือทุ่งดอกป๊อปปี้



เมื่อมองจากหน้าวัง จะเห็นทุ่งดอกป๊อปปี้ชัดเจนขึ้น ทุ่งนี้ไม่ใช่ดอกป๊อปปี้ธรรมดา แต่เป็นดอกปีอปปี้มรณะ มันจะส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา หากใครสูดดมกลิ่นเข้าไปจะหลับไหล และหากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จะตายในที่สุด



ประตูทางเข้าด้านหลัง ดูเหมือนจะเป็นประตูลับ หรือเป็นประตูสำหรับผ่านเข้าออกสำหรับการขนส่งเล็กๆน้อยๆ



ห้องบัลลังก์พระราชา ที่เก้าอี้ประทับจะมีรูปสลักสิงโต เพราะสิงโตถือเป็นสัตว์ประจำชาติดินแดนนี้ ที่ผืนธงก็เป็นรูปสิงโต



ภาพมุมสูง เห็นเป็นลานตรงกลางขนาดใหญ่ ที่ที่ประชาชนจะมาประชุม ประท้วง หรือจัดงานรื่นเริง ที่บริเวณลานกว้างแห่งนี้



โฉมหน้าของพ่อมดออซ ราชาแห่งดินแดนออซ ผู้ปกครองเมืองมรกต







3.  ปราสาทกลินดา



ปราสาทกลินดา ตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของดินแดนออซ บนหน้าผาสูงเฉียดฟ้า มีหมู่บ้านของประชาชนหลังเล็กปลูกอยู่รายล้อมแนบชิดกัน ประกอบด้วยเผ่าทิงเกอร์ เผ่ามันช์กินส์ และเผ่าควอดลิงส์ สิ่งแวดล้อมโดยรอบเป็นสภาพภูมิทัศน์ที่สวยสดงดงาม มีกำแพงมนตราล้อมรอบ คนที่จะผ่านกำแพงนั้นมาได้ ต้องเป็นคนที่มีจิตใจดีงามบริสุทธิ์เท่านั้น



บริเวณลานตรงกลางพระราชวัง เป็นลักษณะทรงกลมเล็ก ไม่กว้างมาก มีถนนอิฐสีเหลืองทอดผ่านเข้ามา แล้วม้วนเป็นรูปก้นหอย ดูเล็กและอบอุ่น




ประตูทางเข้าไปสู่ภายในวัง บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยการตกแต่งจากต้นไม้ ดอกไม้ หลากสีสัน และมีรูปปั้นสไตล์กรีก เป็นการตกแต่งแบบเทพนิยายมากๆ



นี่คือบริเวณด้านใน เป็นห้องนอน ตกแต่งแบบเรียบง่าย โทนสีอุ่นๆ มืดๆ เหมาะกับการพักผ่อนนอนฝัน



เมื่อมองลงมาจากบนปราสาทก็จะเห็นสภาพภูมิทัศน์ที่ชัดเจนมากขึ้น มองไปไกลๆเป็นภูเขาหิมะ และทุ่งหญ้าป่าไม้หลากสีสันเต็มไปหมด



เป็นภาพภายในหมู่บ้านควอดลิงส์ ที่ปลูกอยู่ใกล้ๆตัวปราสาท จะเป็นพวกที่ทำอาชีพเกษตรกร



แม่มดกลินดา แม่มดแดนใต้ แห่งดินแดนออซ ผู้ครองนคร







4.  แคร์ พาราเวล



ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเขาสูงริมทะเล แห่งดินแดนนาร์เนีย ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ตั้งแต่ยุคอัสลานสร้างโลก และถือเป็นเมืองหลวงของนาร์เนีย รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นสไตล์อังกฤษโบราณ ดูยิ่งใหญ่ แต่เรียบง่าย ที่ผืนธงเป็นสัญลักษณ์สิงโต สื่อถึงสิงโตอัสลาน พระยาราชสีห์แห่งนาร์เนีย ซึ่งเปรียบเสมือนเทพผู้คอยปกป้องคุ้มครองนาร์เนีย เสมือนตัวแทนพระเยซูคริสต์ในคริสต์ศาสนา



อีกมุมหนึ่ง เป็นบริเวณด้านข้าง เห็นชัดขึ้นว่าเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นมาบนภูเขาสูงริมทะเล



ที่ด้านใน จะดูหรูหราเรียบง่าย ประดับดาด้วยดอกไม้สีอ่อน ดูละมุน อ่อนโยน



ที่ประทับของกษัตริย์ ที่เก้าอี้ประทับจะมีรูปสลักอาวุธหรือสิ่งของประจำกายของกษัตริย์และน้องๆทั้งสามของพระองค์ ได้แก่ดาบ ธนู และยาวิเศษ



ห้องบัลลังก์ ยิ่งใหญ่ คล้ายพระราชวังสไตล์อังกฤษ เน้นสีขาวกับสีทอง ดูเรียบง่าย



มองจากระยะไกล จะเห็นว่าสะท้อนกับแสงแดดส่องแสงประกายวับวาว ราวอัญมณีริมทะเล



ราชาปีเตอร์ กษัตริย์แห่งนาร์เนีย  ผู้ครองอาณาจักร




แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่