แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าอเมริกาแบบระบบใหม่ เริ่มแรกเพื่อนมาชวนไปอเมริกา จขกท ก็เลยต้องไปขอวีซ่าอเมริกาให้ได้ก่อน หาข้อมูลจากในพันทิปนี้ล่ะคะ ก็เริ่มจาก
1. สร้างโปรไฟล์ กรอกแบบฟอร์ม DS-160 จาก เวป
https://ceac.state.gov/genniv/ เซฟไว้ค่อยๆกรอกก็ได้นะคะ แต่ต้องจดเลขรหัสไว้ และจำข้อมูลที่ไว้กรอกเพื่อยืนยันตัวเองให้ได้ ค่อยๆกรอกวันละนิดก็ได้คะ เพราะต้องใช้เวลา พยายามกรอกข้อมูลให้ตรงตามความจริง และกรอกให้มากๆนะคะ เช่นของเราต้องหาเอกสารเรียนจบ ,เปิดดูพาสปอร์ตว่าเคยไปไหนมาบ้างใน5ปี ,บรรยายรายละเอียดธุรกิจที่ทำให้ละเอียด ,ชื่อคนที่จะไปด้วย กรอกให้ครบเลยคะ หาข้อมูลที่พักเพิ่มเติมไว้ด้วยนะคะ เวลากงสุลเค้าพิจารณาเค้าอ่านเห็นเราให้ข้อมูลเยอะก็ไม่ค่อยถามอะไร เพราะอ่านในฟอร์มได้อยู่แล้ว (ของเราเค้าสัมภาษณ์แค่3นาทีเองคะ)
2. หลังจากนั้นก็ไปร้านถ่ายรูปให้เค้าถ่ายรูปให้ แต่เอาข้อกำหนดรูปถ่าย จากเวป
http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-photoinfo.asp ให้ร้านเค้าทำตามเลยคะ (กลัวรูปไม่ผ่าน) ร้านแถวบ้านเค้าไม่เคยถ่าย แต่เจ้าของร้านน่ารักมาก ทำตามข้อกำหนดทุกอย่าง และเอา flashdriveไปให้เค้าเซฟรูปมาให้เพื่ออัพโหลดในฟอร์ม DS-160 พออัพเสร็จ เค้าจะบอกเลยคะว่ารูปผ่านหรือไม่ผ่าน ของเราผ่านคะ แต่กว่าจะผ่านก็เกือบแย่เพราะเป็นคนหูหลบ เลยต้องมีเทคนิคใช้ทิชชู่ดันหลังหูให้หูกางออกมา ก็พอได้นะคะ หูกางเห็นชัดเจน 555
3. กรอกฟอร์มเสร็จ เซฟเก็บไว้แล้วไปนัดสัมภาษณ์ที่เวป
http://www.ustraveldocs.com/th/ ต้องสมัครlogin ใหม่ และกรอกข้อมูล เอาเลขแบบฟอร์ม DS-160 ของเรากรอกเพื่อนัดสัมภาษณ์นะคะ ตรงนี้ถ้าใครเป็นครอบครัว ควรกรอกไว้ใน login เดียวกันนะคะ เวลาจ่ายเงิน นัดเวลาสัมภาษณ์ จะได้ทำด้วยกันได้เลย เมื่อกรอกครบแล้วให้พรินท์ใบชำระเงินไปจ่ายที่ธนาคารกรุงศรี(คนละ 4,960 บาท เราไปพร้อมสามีเสียไป 9,920บาทคะ) เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นจะมีอีเมล์มาให้เราจองวันนัดสัมภาษณ์คะ ก็เลือกตามวันที่เราสะดวก เปลี่ยนได้แต่ไม่เกิน3ครั้งนะคะ ถ้าเปลี่ยนเกิน3ครั้งต้องเสียเงินใหม่นะคะ (ถ้าคนที่จองเป็นครอบครัวเค้าก็จะจองให้ในคิวเดียวกันเลยคะ)
4.เตรียมเอกสาร ของเราที่เตรียมนะคะ
- รูปถ่าย
- ฟอร์ม DS-160
- ใบเสร็จธนาคาร
- ใบนัดคิว
- พาสปอร์ตเล่มจริง (ทุกเล่ม)
- บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบทะเบียนพาณิชย์ เอกสารการศึกษา บัญชีธนาคาร บัญชีกองทุน โฉนดที่ดิน เล่มทะเบียนรถ ทะเบียนสมรส รูปแต่งงาน ทุกอย่างเอาตัวจริงพร้อมสำเนาไปคะ
- โปรแกรมท่องเที่ยวที่เราจะไป เราเขียนโปรแกรมแบบละเอียด พร้อมทั้งชื่อโรงแรม สถานที่ที่จะไปเที่ยว สายการบินที่จะไป
ตอนไปเอกสารเราเยอะมาก แต่เราคิดว่าเตรียมไปเกินดีกว่าขาดคะ เพราะถ้าไม่ผ่านก็เสียเงินค่าสมัครคนหนึ่งเกือบ5พันฟรีๆเลย
5.วันสัมภาษณ์ แนะนำ
- ควรนัดตอนเช้าเพราะยิ่งสายคนจะยิ่งเยอะ เวลารอก็จะยิ่งนาน เจ้าหน้าที่เค้าจะเหนื่อยอารมณ์อาจไม่ค่อยดี (จขกท จอง7.30น.)
- ไปก่อนเวลานัดสัก30นาทีก็พอคะ เพราะไปก่อนก็ต้องไปยืนรออยู่ดี ไม่มีที่นั่งด้วย เจ้าหน้าที่เค้าจะมาเรียกก่อนเวลานัด 30นาทีคะ
- การแต่งตัวควรแต่งตัวให้สุภาพเหมือนให้เกียรติเค้าคะ ผู้ชายแนะนำ เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงผ้าขายาว รองเท้าหุ้มส้น ผู้หญิง ควรเป็นเสื้อมีแขน กระโปรง หรือกางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้นคะ เราว่าการแต่งตัวมีส่วนมากๆเลยนะคะ ของเราใส่ชุดแซ็คมีแขนกระโปรงคุมเข่า รองเท้าคัทชู (ประมาณสาวออฟฟิศ) สามีใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงผ้าขายาว รองเท้าคัทชู พยายามแต่งตัวให้ดูดีนะคะ อย่าโป๊ อย่าใส่เสื้อที่ดูไม่สุภาพเช่นบางหรือ สั้นเกินไป เพราะกงสุลที่สัมภาษณ์คนสุดท้ายเค้าดูนะคะ ว่าเราแต่งตัวอย่างไร เค้าดูภาพรวมประกอบกันในการพิจารณา ถ้าเป็นนักเรียน นักศึกษา ให้ใส่ชุดนักเรียนไปเลยคะ
- ตอนสัมภาษณ์ เจอเจ้าหน้าที่ก็ให้ไหว้สวัสดีทุกคน เพื่อให้เกียรติเค้า เราเป็นคนไทยการไหว้เป็นที่เหมาะสมอยู่แล้วคะไม่ว่าเค้าจะอายุมากหรือน้อยแต่เราให้เกียรติเค้า ไม่มีใครว่าเราหรอกคะ ดูดึอีกตะหาก เสร็จแล้วอย่าลืมไหว้ขอบคุณตบท้ายด้วยนะคะ เป็นคนไทยมารยาทงามคะ
- พยายามยิ้มเข้าไว้ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะแสดงกริยาอย่างไร (ของเราเจอทั้งเจ้าหน้าที่น่ารักมากและน่ารักน้อยคะ555)
- เจ้าหน้าที่เค้าจะขอเอกสารอะไรก็พยายามให้เค้าให้ครบ เค้าจะโยนให้เรา แต่เวลาเราให้เค้าต้องพยายามยื่นให้แบบสุภาพ
- ถ้าคนที่ลายมือไม่ชัด แนะนำให้พกครีมทามือไปทาด้วยนะคะ เพื่อทาให้ลายมือชัดเจนขึ้น
- ของที่ห้ามนำเข้าไปในสถานทูตนะคะ พวกของมีคม ที่ชาร์ทแบต แบตสำรอง ไอแพด ไอพอต อุปกรณ์อิเล็กทริคทั้งหมด เค้ารับฝากแค่มือถือคนละ1เครื่องเท่านั้น ถ้ามีมือถือ2เครื่องให้ฝากแค่1เครื่องอีกเครื่องหนึ่งต้องไปเสียเงินฝากข้างนอกนะคะ สรุปเอาไปแค่ มือถือ1เครื่อง ปากกา กระเป๋าสตางค์ ครีมทามือ กระเป๋าสะพายใบเล็กๆ ถ้าใบใหญ่หรือเป้ไม่ได้นะคะ กระเป๋าโนตบุ๊ค ก็ไม่ได้นะคะ เอกสารให้ใส่ซองใส หรือซองกระดาษ
- ถ้าใครเป็นครอบครัว สามีภรรยา พี่น้อง ตอนสัมภาษณ์ให้เข้าพร้อมกันเลยคะ
ตัวอย่างการสัมภาษณ์ของเรากับสามี
1. คุณเป็นอะไรกัน (เป็นสามีภรรยากันคะ)
2. คุณทำงานอะไร (ทำร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าคะ)
3. คุณจะไปเมืองไหน (บินไปนิวยอร์คอยู่ที่นั่น5วันแล้วบินต่อไปที่ ลาสเวกัส ระหว่างนั้นก็หยิบโปรแกรมที่เขียนด้วยลายมือเราเองโชว์ แต่เค้าก็ไม่ได้ดูอะไร)
4. คุณจะไปอยู่กี่วัน (12วันคะ)
5. คุณไปกับทัวร์เหรอ (ไปเองคะ ไปแบคแพคกับเพื่อน ปีที่แล้วเค้าไปมาแล้วสนุกมาก ปีนี่ก็เลยจะไปอีกเค้าเลยชวนเราไปด้วย เราว่าข้อนี้เค้าแอบเช็คที่เรากรอกข้อมูลว่าไปกับเพื่อนอีก2คน ประมาณว่าคุณจะตอบมัวป่าว)
6. คุณพิมพ์ลายนิ้วมือข้างซ้ายทีละคน (ลายมือเราไม่ค่อยชัด สามีก็อยากช่วยเลยบอกเค้าว่ามือเราลอกลายมือไม่ค่อยชัดนะ กงสุลใจดีมากบอกไม่เป็นไร don't worry )
7. วีซ่าคุณผ่าน เรียบร้อยแล้วครับ (เรารีบขอบคุณ ดีใจมากๆ ผ่านง่ายจัง)
สรุป
เรากับสามีได้วีซ่ามา10ปี โดยเค้าไม่ได้ดูstatement หรือ โฉนด หรือ เอกสารอื่นนอกจากพาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ สำเนาทะเบียนสมรส แค่นี้จริงๆคะ นอกจากนั้นเค้าอ่านดูจากในDS-160 ที่เรากรอกมา
ป.ล. ส่วนหนึ่งที่เราผ่านง่ายเพราะ
- เคยไปมา19ประเทศแล้ว
- เคยได้วีซ่าเชงเก้น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย
- รายได้กรอกไปคนละ6หลักคะ
- อายุ30+
- จบการศึกษา คณะเภสัช ทั้งคู่
- การแต่งกายภูมิฐาน
เข้ามาแถมเรื่องที่จอดรถนะคะ อาคารสินธร ฝั่งตรงข้ามง่ายสุดคะ ถ้าไปเช้ามีที่จอดแน่นอนคะในอาคารด้วย ตอนเราไปจอดอุดหนุนS&P ไป200บาท จอดฟรี2ชั่วโมง แต่เราจอดไป2.30ชม. จ่ายเพิ่มไป20หรือ30บาทคะ จอดเสร็จเดินออกมาข้ามสะพานลอยก็ถึงแล้วคะ
เพิ่มเติม หลังจากสัมภาษณ์แล้วเค้าจะส่งEMS พาสปอร์ตมาให้ ประมาณ 2-3วันทำการคะ ของเราอยู่ตจว.สัมภาษณ์วันพฤหัส พอวันเสาร์EMSก็มาส่งถึงบ้านแล้วคะ เราว่าถ้ากทม.อาจได้วันรุ่งขึ้นเลยคะ (ตอนด่านแรกที่เค้าตรวจเอกสารจนท. เค้าจะให้เราจดเลขEMSมาเพื่อติดตามสถานะของที่เวปไปรษณีย์ไทย อย่าลืมจดมานะคะจะได้เช็คได้ว่าพาสปอร์ตเราถึงไหนแล้ว)
ปล.เราไม่ค่อยได้เข้ามาตอบกระทู้นี้ แต่ถ้ามีใครสงสัยก็หลังไมค์มาได้นะคะ
แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าอเมริการะบบใหม่
1. สร้างโปรไฟล์ กรอกแบบฟอร์ม DS-160 จาก เวป https://ceac.state.gov/genniv/ เซฟไว้ค่อยๆกรอกก็ได้นะคะ แต่ต้องจดเลขรหัสไว้ และจำข้อมูลที่ไว้กรอกเพื่อยืนยันตัวเองให้ได้ ค่อยๆกรอกวันละนิดก็ได้คะ เพราะต้องใช้เวลา พยายามกรอกข้อมูลให้ตรงตามความจริง และกรอกให้มากๆนะคะ เช่นของเราต้องหาเอกสารเรียนจบ ,เปิดดูพาสปอร์ตว่าเคยไปไหนมาบ้างใน5ปี ,บรรยายรายละเอียดธุรกิจที่ทำให้ละเอียด ,ชื่อคนที่จะไปด้วย กรอกให้ครบเลยคะ หาข้อมูลที่พักเพิ่มเติมไว้ด้วยนะคะ เวลากงสุลเค้าพิจารณาเค้าอ่านเห็นเราให้ข้อมูลเยอะก็ไม่ค่อยถามอะไร เพราะอ่านในฟอร์มได้อยู่แล้ว (ของเราเค้าสัมภาษณ์แค่3นาทีเองคะ)
2. หลังจากนั้นก็ไปร้านถ่ายรูปให้เค้าถ่ายรูปให้ แต่เอาข้อกำหนดรูปถ่าย จากเวป http://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-photoinfo.asp ให้ร้านเค้าทำตามเลยคะ (กลัวรูปไม่ผ่าน) ร้านแถวบ้านเค้าไม่เคยถ่าย แต่เจ้าของร้านน่ารักมาก ทำตามข้อกำหนดทุกอย่าง และเอา flashdriveไปให้เค้าเซฟรูปมาให้เพื่ออัพโหลดในฟอร์ม DS-160 พออัพเสร็จ เค้าจะบอกเลยคะว่ารูปผ่านหรือไม่ผ่าน ของเราผ่านคะ แต่กว่าจะผ่านก็เกือบแย่เพราะเป็นคนหูหลบ เลยต้องมีเทคนิคใช้ทิชชู่ดันหลังหูให้หูกางออกมา ก็พอได้นะคะ หูกางเห็นชัดเจน 555
3. กรอกฟอร์มเสร็จ เซฟเก็บไว้แล้วไปนัดสัมภาษณ์ที่เวป http://www.ustraveldocs.com/th/ ต้องสมัครlogin ใหม่ และกรอกข้อมูล เอาเลขแบบฟอร์ม DS-160 ของเรากรอกเพื่อนัดสัมภาษณ์นะคะ ตรงนี้ถ้าใครเป็นครอบครัว ควรกรอกไว้ใน login เดียวกันนะคะ เวลาจ่ายเงิน นัดเวลาสัมภาษณ์ จะได้ทำด้วยกันได้เลย เมื่อกรอกครบแล้วให้พรินท์ใบชำระเงินไปจ่ายที่ธนาคารกรุงศรี(คนละ 4,960 บาท เราไปพร้อมสามีเสียไป 9,920บาทคะ) เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นจะมีอีเมล์มาให้เราจองวันนัดสัมภาษณ์คะ ก็เลือกตามวันที่เราสะดวก เปลี่ยนได้แต่ไม่เกิน3ครั้งนะคะ ถ้าเปลี่ยนเกิน3ครั้งต้องเสียเงินใหม่นะคะ (ถ้าคนที่จองเป็นครอบครัวเค้าก็จะจองให้ในคิวเดียวกันเลยคะ)
4.เตรียมเอกสาร ของเราที่เตรียมนะคะ
- รูปถ่าย
- ฟอร์ม DS-160
- ใบเสร็จธนาคาร
- ใบนัดคิว
- พาสปอร์ตเล่มจริง (ทุกเล่ม)
- บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบทะเบียนพาณิชย์ เอกสารการศึกษา บัญชีธนาคาร บัญชีกองทุน โฉนดที่ดิน เล่มทะเบียนรถ ทะเบียนสมรส รูปแต่งงาน ทุกอย่างเอาตัวจริงพร้อมสำเนาไปคะ
- โปรแกรมท่องเที่ยวที่เราจะไป เราเขียนโปรแกรมแบบละเอียด พร้อมทั้งชื่อโรงแรม สถานที่ที่จะไปเที่ยว สายการบินที่จะไป
ตอนไปเอกสารเราเยอะมาก แต่เราคิดว่าเตรียมไปเกินดีกว่าขาดคะ เพราะถ้าไม่ผ่านก็เสียเงินค่าสมัครคนหนึ่งเกือบ5พันฟรีๆเลย
5.วันสัมภาษณ์ แนะนำ
- ควรนัดตอนเช้าเพราะยิ่งสายคนจะยิ่งเยอะ เวลารอก็จะยิ่งนาน เจ้าหน้าที่เค้าจะเหนื่อยอารมณ์อาจไม่ค่อยดี (จขกท จอง7.30น.)
- ไปก่อนเวลานัดสัก30นาทีก็พอคะ เพราะไปก่อนก็ต้องไปยืนรออยู่ดี ไม่มีที่นั่งด้วย เจ้าหน้าที่เค้าจะมาเรียกก่อนเวลานัด 30นาทีคะ
- การแต่งตัวควรแต่งตัวให้สุภาพเหมือนให้เกียรติเค้าคะ ผู้ชายแนะนำ เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงผ้าขายาว รองเท้าหุ้มส้น ผู้หญิง ควรเป็นเสื้อมีแขน กระโปรง หรือกางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้นคะ เราว่าการแต่งตัวมีส่วนมากๆเลยนะคะ ของเราใส่ชุดแซ็คมีแขนกระโปรงคุมเข่า รองเท้าคัทชู (ประมาณสาวออฟฟิศ) สามีใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงผ้าขายาว รองเท้าคัทชู พยายามแต่งตัวให้ดูดีนะคะ อย่าโป๊ อย่าใส่เสื้อที่ดูไม่สุภาพเช่นบางหรือ สั้นเกินไป เพราะกงสุลที่สัมภาษณ์คนสุดท้ายเค้าดูนะคะ ว่าเราแต่งตัวอย่างไร เค้าดูภาพรวมประกอบกันในการพิจารณา ถ้าเป็นนักเรียน นักศึกษา ให้ใส่ชุดนักเรียนไปเลยคะ
- ตอนสัมภาษณ์ เจอเจ้าหน้าที่ก็ให้ไหว้สวัสดีทุกคน เพื่อให้เกียรติเค้า เราเป็นคนไทยการไหว้เป็นที่เหมาะสมอยู่แล้วคะไม่ว่าเค้าจะอายุมากหรือน้อยแต่เราให้เกียรติเค้า ไม่มีใครว่าเราหรอกคะ ดูดึอีกตะหาก เสร็จแล้วอย่าลืมไหว้ขอบคุณตบท้ายด้วยนะคะ เป็นคนไทยมารยาทงามคะ
- พยายามยิ้มเข้าไว้ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะแสดงกริยาอย่างไร (ของเราเจอทั้งเจ้าหน้าที่น่ารักมากและน่ารักน้อยคะ555)
- เจ้าหน้าที่เค้าจะขอเอกสารอะไรก็พยายามให้เค้าให้ครบ เค้าจะโยนให้เรา แต่เวลาเราให้เค้าต้องพยายามยื่นให้แบบสุภาพ
- ถ้าคนที่ลายมือไม่ชัด แนะนำให้พกครีมทามือไปทาด้วยนะคะ เพื่อทาให้ลายมือชัดเจนขึ้น
- ของที่ห้ามนำเข้าไปในสถานทูตนะคะ พวกของมีคม ที่ชาร์ทแบต แบตสำรอง ไอแพด ไอพอต อุปกรณ์อิเล็กทริคทั้งหมด เค้ารับฝากแค่มือถือคนละ1เครื่องเท่านั้น ถ้ามีมือถือ2เครื่องให้ฝากแค่1เครื่องอีกเครื่องหนึ่งต้องไปเสียเงินฝากข้างนอกนะคะ สรุปเอาไปแค่ มือถือ1เครื่อง ปากกา กระเป๋าสตางค์ ครีมทามือ กระเป๋าสะพายใบเล็กๆ ถ้าใบใหญ่หรือเป้ไม่ได้นะคะ กระเป๋าโนตบุ๊ค ก็ไม่ได้นะคะ เอกสารให้ใส่ซองใส หรือซองกระดาษ
- ถ้าใครเป็นครอบครัว สามีภรรยา พี่น้อง ตอนสัมภาษณ์ให้เข้าพร้อมกันเลยคะ
ตัวอย่างการสัมภาษณ์ของเรากับสามี
1. คุณเป็นอะไรกัน (เป็นสามีภรรยากันคะ)
2. คุณทำงานอะไร (ทำร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าคะ)
3. คุณจะไปเมืองไหน (บินไปนิวยอร์คอยู่ที่นั่น5วันแล้วบินต่อไปที่ ลาสเวกัส ระหว่างนั้นก็หยิบโปรแกรมที่เขียนด้วยลายมือเราเองโชว์ แต่เค้าก็ไม่ได้ดูอะไร)
4. คุณจะไปอยู่กี่วัน (12วันคะ)
5. คุณไปกับทัวร์เหรอ (ไปเองคะ ไปแบคแพคกับเพื่อน ปีที่แล้วเค้าไปมาแล้วสนุกมาก ปีนี่ก็เลยจะไปอีกเค้าเลยชวนเราไปด้วย เราว่าข้อนี้เค้าแอบเช็คที่เรากรอกข้อมูลว่าไปกับเพื่อนอีก2คน ประมาณว่าคุณจะตอบมัวป่าว)
6. คุณพิมพ์ลายนิ้วมือข้างซ้ายทีละคน (ลายมือเราไม่ค่อยชัด สามีก็อยากช่วยเลยบอกเค้าว่ามือเราลอกลายมือไม่ค่อยชัดนะ กงสุลใจดีมากบอกไม่เป็นไร don't worry )
7. วีซ่าคุณผ่าน เรียบร้อยแล้วครับ (เรารีบขอบคุณ ดีใจมากๆ ผ่านง่ายจัง)
สรุป
เรากับสามีได้วีซ่ามา10ปี โดยเค้าไม่ได้ดูstatement หรือ โฉนด หรือ เอกสารอื่นนอกจากพาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ สำเนาทะเบียนสมรส แค่นี้จริงๆคะ นอกจากนั้นเค้าอ่านดูจากในDS-160 ที่เรากรอกมา
ป.ล. ส่วนหนึ่งที่เราผ่านง่ายเพราะ
- เคยไปมา19ประเทศแล้ว
- เคยได้วีซ่าเชงเก้น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย
- รายได้กรอกไปคนละ6หลักคะ
- อายุ30+
- จบการศึกษา คณะเภสัช ทั้งคู่
- การแต่งกายภูมิฐาน
เข้ามาแถมเรื่องที่จอดรถนะคะ อาคารสินธร ฝั่งตรงข้ามง่ายสุดคะ ถ้าไปเช้ามีที่จอดแน่นอนคะในอาคารด้วย ตอนเราไปจอดอุดหนุนS&P ไป200บาท จอดฟรี2ชั่วโมง แต่เราจอดไป2.30ชม. จ่ายเพิ่มไป20หรือ30บาทคะ จอดเสร็จเดินออกมาข้ามสะพานลอยก็ถึงแล้วคะ
เพิ่มเติม หลังจากสัมภาษณ์แล้วเค้าจะส่งEMS พาสปอร์ตมาให้ ประมาณ 2-3วันทำการคะ ของเราอยู่ตจว.สัมภาษณ์วันพฤหัส พอวันเสาร์EMSก็มาส่งถึงบ้านแล้วคะ เราว่าถ้ากทม.อาจได้วันรุ่งขึ้นเลยคะ (ตอนด่านแรกที่เค้าตรวจเอกสารจนท. เค้าจะให้เราจดเลขEMSมาเพื่อติดตามสถานะของที่เวปไปรษณีย์ไทย อย่าลืมจดมานะคะจะได้เช็คได้ว่าพาสปอร์ตเราถึงไหนแล้ว)
ปล.เราไม่ค่อยได้เข้ามาตอบกระทู้นี้ แต่ถ้ามีใครสงสัยก็หลังไมค์มาได้นะคะ