ถ้ามีคนด่าว่า คิดถึงวิทยา จัดเยียดและจงใจให้หนังฟีลกู้ด ก็ขอบอกว่า ช่างมันเถอะครับ เพราะหนังมันโคตรจะฟีลกู้ดเลย
ผมขออนุญาตละหนังเรื่องนี้เอาไว้ในส่วนของ ภาพยนตร์รักแบบเทพนิยายก็ละกัน มันจะมีความเหนือจริงและเวอร์ไปบ้าง ผมให้อภัย เพราะมันไม่น่าเกลียดและไม่ประดักประเดิดเลยแม้แต่นิดเดียว
ตัวหนังผสมผสานถึงพล็อตหลักคือความรักของคนที่ไม่เคยเจอหน้ากันแต่อ่านไดอารี่ของอีกฝ่ายหนึ่งแล้วมีอาการปลื้ม อยากเจอ จนถึงกับเพ้อและคิดถึง กับ พล็อตรอง ที่ว่าด้วยเรื่องราวของการศึกษา ระบบการเรียนการสอน สถานที่ จำนวนนักเรียน รวมไปถึงคุณค่าของความเป็นครู ทั้งพล็อตหลักและพล็อตรองของหนังกลับทำออกมาได้ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวผ่านการตัดต่อของหนัง ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพระเอกของหนังไปเลยก็ว่าได้ หนังเล่าเรื่องด้วยเทคนิคการตัดต่อชั้นเทพให้เราเห็นเหตุการณ์ซีนเดียวกัน สถานการณ์เดียวกันของตัวละครสองตัวในต่างช่วงเวลา หนังทำออกมาได้ลงตัว พอดี จนคิดว่ามันพอดีเกินไปด้วยซ้ำ แต่คนดูดูแล้วรู้สึกกลมกลืนสุดๆ
การแสดงที่สุดแสนจะเป็นธรรมชาติของ บี้ ในหนังเรืองนี้ทำให้เรามองพระเอกผมน้อยหัวเถิกในเรื่องนี้ออกมาเป็นคนโคตรจะธรรมดาที่น่ารักแต่ไม่ค่อยจะหล่อเท่าไหร่ออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ น่ารัก และอยากรู้จัก ส่วนพลอย เฌอมาลย์ คงไม่ต้องพูอะไรมาก มีความรู้สึกว่า บทครูแอนเหมือนถูกเขียนมาให้พลอยเล่นด้วยซ้ำ พลอยแสดงเป็นครูแอนได้ดีมาก เป็นการแสดงที่ดีที่สุดครั้งนึงในชีวิตของพลอยเลยก็ว่าได้ ส่วนการแสดงของเวียร์ในบทนักแสดงรับเชิญ ผมกลับเฉยๆมาก แต่ส่วนที่โดดเด่นที่สุดในหนังคงจะไม่พ้นการแสดงของเหล่าบรรดานักแสดงเด็กๆในเรื่อง ที่แสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ น่ารัก น่าหยิก นี่คือส่วนที่โดดเด่นของหนัง GTH ที่มักใช้บริการนักแสดงที่ไม่มีชื่อเสียงมากนัก แต่ทำให้คนดูเชื่อในการแสดงได้ เด็กๆเหล่านี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้หนังสมบูรณ์มากๆ
หนังฟีลกู้ดสุดยอด ทั้งในเรื่องของความคิดถึง ในเรื่องของชีวิตครู รวมไปถึงเด็กๆในเรื่อง ตามร่วมกันสร้างความน่าประทับใจให้คนดูอินได้อย่างสุดยอด
ขอบอกว่า คิดถึงวิทยา คือหนังที่โคตรฟีลกู้ดเลยครับ ยอมรับว่าหลายๆส่วนอาจจะมีเหนือจริงไปบ้าง แต่ผมให้อภัย เพราะผมว่ามันไม่ได้ยัดเยียดจนเกินไป
สรุป ในฐานะหนังไทย ผมให้สอบผ่าน และขอแนะนำให้ไปดูนะครับ ไม่ได้เป็นม้านะครับ แต่ผมชอบจริงๆครับ
ยอมโดนด่าโลกสวย ขออวยไส้แตก คิดถึงวิทยา ฟีลกู้ดโคตรๆ ดูแล้วอิ่มใจ มีความสุข(ไม่มีสปอยล์)
ผมขออนุญาตละหนังเรื่องนี้เอาไว้ในส่วนของ ภาพยนตร์รักแบบเทพนิยายก็ละกัน มันจะมีความเหนือจริงและเวอร์ไปบ้าง ผมให้อภัย เพราะมันไม่น่าเกลียดและไม่ประดักประเดิดเลยแม้แต่นิดเดียว
ตัวหนังผสมผสานถึงพล็อตหลักคือความรักของคนที่ไม่เคยเจอหน้ากันแต่อ่านไดอารี่ของอีกฝ่ายหนึ่งแล้วมีอาการปลื้ม อยากเจอ จนถึงกับเพ้อและคิดถึง กับ พล็อตรอง ที่ว่าด้วยเรื่องราวของการศึกษา ระบบการเรียนการสอน สถานที่ จำนวนนักเรียน รวมไปถึงคุณค่าของความเป็นครู ทั้งพล็อตหลักและพล็อตรองของหนังกลับทำออกมาได้ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวผ่านการตัดต่อของหนัง ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพระเอกของหนังไปเลยก็ว่าได้ หนังเล่าเรื่องด้วยเทคนิคการตัดต่อชั้นเทพให้เราเห็นเหตุการณ์ซีนเดียวกัน สถานการณ์เดียวกันของตัวละครสองตัวในต่างช่วงเวลา หนังทำออกมาได้ลงตัว พอดี จนคิดว่ามันพอดีเกินไปด้วยซ้ำ แต่คนดูดูแล้วรู้สึกกลมกลืนสุดๆ
การแสดงที่สุดแสนจะเป็นธรรมชาติของ บี้ ในหนังเรืองนี้ทำให้เรามองพระเอกผมน้อยหัวเถิกในเรื่องนี้ออกมาเป็นคนโคตรจะธรรมดาที่น่ารักแต่ไม่ค่อยจะหล่อเท่าไหร่ออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ น่ารัก และอยากรู้จัก ส่วนพลอย เฌอมาลย์ คงไม่ต้องพูอะไรมาก มีความรู้สึกว่า บทครูแอนเหมือนถูกเขียนมาให้พลอยเล่นด้วยซ้ำ พลอยแสดงเป็นครูแอนได้ดีมาก เป็นการแสดงที่ดีที่สุดครั้งนึงในชีวิตของพลอยเลยก็ว่าได้ ส่วนการแสดงของเวียร์ในบทนักแสดงรับเชิญ ผมกลับเฉยๆมาก แต่ส่วนที่โดดเด่นที่สุดในหนังคงจะไม่พ้นการแสดงของเหล่าบรรดานักแสดงเด็กๆในเรื่อง ที่แสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ น่ารัก น่าหยิก นี่คือส่วนที่โดดเด่นของหนัง GTH ที่มักใช้บริการนักแสดงที่ไม่มีชื่อเสียงมากนัก แต่ทำให้คนดูเชื่อในการแสดงได้ เด็กๆเหล่านี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้หนังสมบูรณ์มากๆ
หนังฟีลกู้ดสุดยอด ทั้งในเรื่องของความคิดถึง ในเรื่องของชีวิตครู รวมไปถึงเด็กๆในเรื่อง ตามร่วมกันสร้างความน่าประทับใจให้คนดูอินได้อย่างสุดยอด
ขอบอกว่า คิดถึงวิทยา คือหนังที่โคตรฟีลกู้ดเลยครับ ยอมรับว่าหลายๆส่วนอาจจะมีเหนือจริงไปบ้าง แต่ผมให้อภัย เพราะผมว่ามันไม่ได้ยัดเยียดจนเกินไป
สรุป ในฐานะหนังไทย ผมให้สอบผ่าน และขอแนะนำให้ไปดูนะครับ ไม่ได้เป็นม้านะครับ แต่ผมชอบจริงๆครับ