ถ้าเป็นคุณเจอแบบนี้ จะคิดยังไงกับผู้ชายคนนี้คะ 18+

กระทู้คำถาม
สวัสดีทุกท่านค่ะ
       ก่อนอื่นต้องบอกเลย..ว่าส่วนตัวดิฉันเป็นคนเหนือ แต่พ่อแม่ทำงานที่กรุงเทพ ดังนั้นดิฉันจึงต้องมาเรียนที่กรุงเทพ เพื่อให้ใกล้สายตาท่านค่ะ ทั้งนี้เรื่องมีอยู่ว่า ...
        ปกติดิฉันอยู่ในสายตาของพ่อแม่ตลอด อยู่ในเส้นที่ท่านขีดไว้ อย่างไม่สามารถปฏิเสธได้ (ครอบครัวดิฉันมีเชื้อสายจีนด้วยค่ะ) ดังนั้นเวลาเรียน ดิฉันจึงต้องอาศัยอยู่ที่หอพักนักศึกษาหญิงของมหาลัย (หอใน) แต่เมื่อดิฉันอยู่ปี 2 ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น คือมีนักศึกษาหญิงฆ่ากันตายโดยเรื่องเกิดขึ้นที่ข้าง ๆ ห้องของดิฉันนี่แหละค่ะ แม่ดิฉันเลยยอมลงทุนซื้อคอนโดให้อยู่ เพื่อที่ให้ฉันไม่ต้องอยู่หอในที่เกิดเรื่องนั้นต่อไป ซึ่งเรื่องทั้งหมด กำลังจะเริ่มต้นต่อจากนี้ค่ะ.

        ฉันได้มาอยู่คอนโดแห่งนึงย่าน สาธร ก็เป็นคอนโดที่สวยดีนะคะ แต่ก็ไม่ได้หรูอะไรมากมาย ดิฉันอยู่คนเดียวตาม Style ของคนที่อยู่คอนโดทั่วไปค่ะ คือไม่ได้สุงสิงอะไรกับใคร เลิกเรียนก็เข้าห้องไปอาบน้ำอ่านหนังสือนอน ตามปกติทั่วไป กลับบ้านทุกเสาร์-อาทิตย์ อยู่แบบนี้ทุกวันจนจะครบเดือนเลยค่ะ

       มีวันหนึ่ง ดิฉันกลับดึกเพราะกิจกรรมมหาลัยค่ะ ก็กลับไปด้วยอาการอ่อนเพลียมากกว่าปกติ คือต้องการกลับไปนอนเลย น้ำค่อยว่ากันทีหลังอะไรประมานนี้ แต่แล้วดิฉันก็เจอผู้ชายคนนึง เป็นนักศึกษาเหมือนกัน เค้าหน้าตาดีนะคะ แถมดูซื่อ ๆ ด้วย หิ้วข้าวของมา พะรุงพะรัง แล้วเราก็ได้ขึ้นลิฟท์ด้วยกันค่ะ ... ลิฟท์ผ่านชั้น 1 - ชั้น 10 เราสองคนเงียบกริบ... ต่างมองไปคนละทาง (คนไม่รู้จักกัน จะมองก็กะไรอยู่นะคะ) จนถึงชั้นที่ 14 เป็นชั้นที่ดิฉันอยู่พอดี เขาก็มองหน้าดิฉันแล้วก็ยิ้ม ๆ ให้ดิฉันเดินนำหน้าออกไป โดยมือที่ถือของพะรุงพะรังของเขา ทำให้เขาโดนลิฟท์หนีบ (แต่ไม่แรงนะ) เพราะเขาเดินตามดิฉันออกมา ฉันแอบยิ้ม ๆ ในใจว่าทำไมไม่บอก จะได้กดลิฟท์ให้ แล้วก็พลันคิดแบบตลก ๆ ว่า "เออ...จะอยู่ห้องติดกับเรารึปล่าวนะ แต่ก็คงไม่หรอก อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น" ว่าแล้วก็เดินไปเปิดประตูห้อง ....ปรากฏว่าเค้าอยู่ข้าง ๆ ห้องดิฉันจริง ๆ ค่ะ

       หลังจากนั้นทุกวัน ฉันก็จะเจอเค้าหิ้วของพะรุงพะรังไปมหาลัยเสมอ หลัง ๆ พอเริ่มคุ้นหน้า ฉันก็เริ่มช่วยเค้าถือของ เพราะฉันคิดว่า อย่างน้อยเราก็น่าจะมีเพื่อนที่พอพึ่งพาได้ จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวที่นี่ ฉันเลยชวนเค้าคุยตามประสาเพื่อนปกติค่ะ ยอมรับว่าฉัน ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับผู้ชายคนนี้แน่นอนนะคะ เพราะดิฉันจะรักใครไม่ได้ พ่อแม่ดิฉันบังคับให้ดิฉันแต่งงานกับคนที่ดิฉันไม่เคยรู้จักไปเรียบร้อยแล้วค่ะ(พูดแล้วอยากร้องไห้) ดิฉันเลยต้องการหาเพื่อนสักคนเท่านั้นเอง....

         ด้วยความที่เค้าเป็นคนดีมาก ดิฉันก็เลยชื่นชอบเค้าเป็นพิเศษ (ขนาดห้ามใจแล้วนะ) แล้วเรื่องบังเอิญก็ช่างเข้ามาถี่เหลือเกิน... วันนั้นห้องดิฉัน แอร์เสีย น้ำไหลเต็มห้องเลย ดิฉันตกใจโทรไปบอกพนักงาน เขาบอกว่าให้ดิฉันพักห้องใหม่ก่อน เขาจะจัดการซ่อมให้ เมื่อผู้ชายคนนั้นรู้เขาก็บอกให้ดิฉัน ไปนอนพักที่ห้องของเขาแทน ซึ่งดิฉันเองก็ไว้ใจเค้าพอสมควร จึงตัดสินใจตกลงไป แต่ก็ไม่ลืมจะเอาอุปกรณ์ป้องกันตัวติดกระเป๋าไว้เสมอ เพราะไว้ใจคนยากมากค่ะ ห้องของคอนโดที่นี่จะมีลักษณะ เป็นห้องนั้งเล่นด้านหน้า มีห้องนอน และห้องครัวค่ะ ดิฉันเข้าไปอยู่ตั้งแต่ประมาน 3 ทุ่ม ซึ่งระหว่างที่ฉันดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น อยู่ดี ๆ เขาก็เดินมาบอกกับดิฉันว่า "เดี๋ยวผมขอทำธุระที่ห้องนอนก่อนนะ เสร็จแล้วจะมาเรียกคุณไปเข้านอน ผมจะนอนโซฟาเอง" ดิฉันก็พยักหน้า แล้วก็หัวเราะเบา ๆ เพราะคิดไว้แล้วว่าฉากในหนังแบบนี้มันต้องมีมาให้เห็นแน่นอน ....

          แต่เมื่อเวลาผ่านไป 15 นาที ด้วยความที่ฉันอยากเห็นห้องนอนเค้าว่าเป็นยังไง(ไม่เคยเห็นห้องนอนผู้ชาย) ประกอบกับการที่ฉันง่วงมากแล้วด้วย จึงจะเดินไปบอกเขาว่า ไม่ต้องจัดอะไรให้มากหรอก ฉันนอนได้ (เพราะดิฉันคิดว่าเค้าเข้าไปจัดห้อง) ฉันจึงเคาะประตู (แต่ดิฉันดันไปใช้สันมือเคาะ มันเลยเหมือนกับการผลักเข้าไปค่ะ) ประตูห้องก็ค่อย ๆ แง้มออกไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ

         สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจจนลืมง่วง แต่ก็กริ๊ดไม่ออก คือภาพที่อยู่ตรงหน้า (ขอพูดแบบไม่อ้อมค้อมเยอะนะคะ ไม่ทราบว่ามีเด็กอ่านด้วยหรือปล่าวขออภัยด้วยค่ะ) เค้ากำลังช่วยตัวเอง กับหนังโป๊อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเขา เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ดิฉันเหลือบไปเห็นรูปของดิฉันในเฟสบุ๊ค ถูกปริ้นออกมาแปะ ไว้ที่ผนังจำนวนประมาน 4-5 รูป ด้วย ไกล้ ๆ กับโต๊ะที่เค้านั่งอยู่ ดิฉันตกใจแล้วก็น้ำตาไหลออกมา วิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่น้ำไหลมาครึ่งห้อง ไม่ทันถึง 5 นาทีเค้าก็วิ่งมาเคาะประตูค่ะ แต่ดิฉันไม่ตอบอะไรเค้าเลย คืนนั้นดิฉันนั่งร้องไห้เสียใจทั้งคืน เพราะดิฉันคิดว่าดิฉันคงรักเค้าแล้วค่ะ เค้าเป็นคนดีมาก แต่ภาพที่เห็นตรงหน้า มันดับความรู้สึกดี ๆ ของฉันไปจนหมดสิ้น วันถัดไป ดิฉันไม่ไปมหาลัยเลยเพราะกลัวจะเจอเค้า ดิฉันโกหกแม่ว่าดิฉันป่วยขอพัก 1 วัน ท่านเลยไม่ว่าอะไร ดิฉันอยู่แต่ในห้องทั้งวัน จนวันรุ่งขึ้นดิฉันเดินออกไป โดยที่ไม่หันมองห้องข้าง ๆ ดิฉันเลย แต่ก็ไม่พบเจอเค้าอีกเลยค่ะ

         จนเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ ดิฉันไม่เห็นหน้าเค้า ด้วยความสงสัย (แต่ก็ยังกลัว ๆ) จึงไปถามพนักงานว่า "ขอโทษนะคะ คนห้อง 1412 ไปไหนแล้วคะ" พอดิฉันพูดจบ พนักงานก็หยิบกระดาษส่งมาให้ฉัน 1 แผ่น แล้วก็บอกกับดิฉันว่า เค้าย้ายออกไปได้อาทิตย์นึงแล้วค่ะ แล้วก็ฝากจดหมายนี้ไว้ให้กับคนที่มาถามว่า เค้าไปไหน โดยเค้าบอกกับพนักงานว่าญาติจะมาเอา ในนั้นเขียนที่อยู่ใหม่ไว้ (เข้าใจหลอกพนักงานดีค่ะ) ดิฉันก็ขึ้นมาอ่านที่ห้อง ใจความมีดังนี้ค่ะ

         " สวัสดีครับ ผมจะไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะมันจะเหมือนการแก้ตัวอยู่แล้ว ผมไม่ได้อยู่ใกล้ๆ คุณแล้วด้วย ดังนั้นนี้จึงไม่ใช่จดหมายที่จะขอให้คุณให้อภัยให้ครับ แค่อยากจะพูดแทนผู้ชายหลาย ๆ คน รวมทั้งตัวผมเอง ที่เป็นแบบนี้ ....... คุณรู้ไหมครับ ธรรมชาติของผู้ชาย มันจะหวั่นไหวกับสิ่งที่เป็นเพศหญิงอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่ผมแอบชอบ อย่างคุณ ชีวิตผม ไม่เคยทำร้ายผู้หญิง ผมมีแฟน แต่ผมก็ไม่เคยที่จะทำร้ายเธอ เพราะผมคิดว่าตราบใดที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน นั่นแปลว่าเธออาจจะไม่ใช่ของผม ผมอยากให้เค้าเก็บสิ่งนั้นไว้ให้กับคนที่อยู่คู่กับชีวิตเค้าจริง ๆ แน่นอนครับ ผมโตแล้ว แต่ผมยังไม่เคยมีอะไรกับใคร ผมช่วยตัวเองทุกวัน อย่างที่คุณเห็น คุณรู้ไหมว่าการที่คุณมาอยู่ที่ห้องผม ผมดีใจมากจนทำอะไรไม่ถูก ผมชอบคุณมาก แต่ก็ไม่กล้าบอกไป ยิ่งผมรักคุณมาก ผมยิ่งต้องไม่ทำให้อารมณ์ของผม มันไปทำร้ายคนที่ผมรักอย่างคุณ ผมจึงเลือกที่จะช่วยตัวเอง เพื่อไม่ให้รู้สึกกับคุณแบบนั้น ผมรู้ว่ามันไม่เหมาะ มันไม่ควร แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมช่วยตัวเองทุกวัน ผมทำแล้ว ผมไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ไม่เคยคิดที่ข่มขืนใคร เวลาผมคิดไม่ดี ผมก็จะกลับมาช่วยตัวเองทุกวัน และทุกครั้งที่ผมมีอารมณ์ ผมอยากบอกกับคุณว่า ผมขอโทษ  "

           ดิฉันอ่านข้อความนี้ซ้ำไปซ้ำมาเกือบ 10 รอบ แล้วก็เกิดความสับสนในใจขึ้นมามากมายค่ะ ว่านี่ จริงไม๊ ?.. หรือแค่ข้อแก้ตัว หรือถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ การทำแบบนี้ มันก็ไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อนใช่ไม๊ สิ่งที่โลกติเตียน มันอาจจะนำมาซึ่งอาชญากรรมอย่างที่เขาบอกไว้จริง ๆ หรือปล่าว ถ้าเป็นคุณ คุณยังจะพูดคุยกับผู้ชายคนนี้อยู่รึปล่าวคะ

ขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่