วิจารณ์หนัง : Vampire Academy เรื่องเมาธ์สาวแวมไพร์



Vampire Academy เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่สร้างจากวรรณกรรมเยาวชนชื่อดัง ผลงานของ Richelle Mead นักเขียนและครูสาวชาวสหรัฐฯ ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี2007 ติดอันดับหนังสือขายดีตามรอย ล่าสุดความสำเร็จ Vampire twilight ของ Stephenie Meyer นิยายรักแวมไพร์ที่เมื่อถูกสร้างเป็นหนังก็กวาดรายได้ถล่มทลาย สวนกับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบจากสื่อต่างๆ

ในส่วนของ Vampire Academy ได้ มาร์ค วอเตอร์ เจ้าของผลงานหนังวัยรุ่นชื่อดังอย่าง Mean Girls มารับหน้าที่กำกับ และมีสองสาวอย่าง ซาร่าห์ ไฮย์แลนด์ กับ ซูอี้ ดัช มาแสดงนำ แน่นอนว่าทีมงานคงกดดันเล็กๆทั้งเรื่องความคาดหวังจากแฟนๆหนังสือ รวมถึงการถูกเอาไปเปรียบกับหนังสือแนวคล้ายๆกันที่ถูกเอามาทำเป็นหนังไปก่อนหน้า

เนื้อเรื่องของหนังเล่าถึง ลิซซ่า เจ้าหญิงของแวมไพร์โมรอย กลุ่มแวมไพร์ที่กินเลือดเป็นอาหาร โดนแดดอ่อนๆได้ และมีความสามารถทางเวทย์มนต์ กับเพื่อนสาวสุดซี้ โรส ฮาร์ธอะเวย์ แวมไพร์แดมเพียร์ แวมไพร์ครึ่งมนุษย์ กินอาหารทั่วไปและเลือด โดนแดดได้ มีความสามารถทางการต่อสู้ หน้าที่คือเป็นผู้พิทักษ์คอยปกป้องโมรอยจากการโจมตีของ แวมไพร์สไตรกอย กลุ่มผีดิบกระหายเลือด ดุร้าย แข็งแกร่ง เป็นอมตะ มีเพียงแสงแดดกับเหล็กแหลมที่ฆ่าพวกมันได้ สองสาวหนีออกจากโรงเรียนแวมไพร์แต่ก็ถูกตามจับตัวกลับมา

ที่ เซนท์วลาดิเมียร์ วิทยาลัยแวมไพร์ ลิซซ่า โดนนักเรียนโมรอยกลุ่มหนึ่งคอยใส่ร้ายและแอบกลั่นแกล้ง โรส พยายามช่วยหาตัวคนทำมาลงโทษแต่ก็ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากใครเท่าไหร่ ทั้งคู่มีจิตสัมผัสถึงกัน ระหว่างนั้นก็เกิดเรื่องยุ่งๆขึ้นอีกเมื่อ ลิซซ่า พบรักกับ คริสเตียน โอเซร่า นักเรียนหนุ่มผู้เย็นชาที่มีเชื้อสายแวมไพร์สไตรกอย ส่วน โรส ดันไปปิ๊งกับ ดิมิทรี หัวหน้าผู้พิทักษ์จอมขรึมซึ่งเป็นครูฝึกของเธอ

บทหนังค่อนข้างวัยรุ่น ดำเนินเรื่องด้วยบทสนทนา ตัวละครคุยกันนํ้าไหลไฟดับ (ใครอ่านซับไม่เก่งนี่อาจตามเรื่องไม่ทัน) โดยเฉพาะตัวนำอย่าง โรส เนื้อหาไม่เข้มข้น เหมือนดู Harrypotter ผสม Twilight บวกหนังสืบสวน แต่นำเสนอออกมาได้ไม่สุดทาง จึงน่าเบื่อสำหรับหนุ่มๆที่ไม่ชอบฟังสาวๆเมาธ์กัน รายละเอียดของหนังค่อนข้างเยอะเพราะทำจากหนังสือ

ดูเหมือนผู้กำกับไม่กล้าดัดแปลงอะไรจากต้นฉบับ รวมถึงไม่กล้าที่จะตัดส่วนไหนออก ประกอบกับตัวละครที่มาก พอยัดทุกสิ่งที่มีลงมา ในเวลาที่จำกัดหลายฉากจึงดูรวบรัด ซีนต่อสู้มีน้อยและไม่ดุเดือดเท่าไหร่ หนังให้ความสำคัญกับเรื่องรักๆใคร่ๆมากเกินไป มุขตลกเป็นแบบตะวันตก จิกกัด เล่นคำ จึงเรียกเสียงฮาได้น้อย ปมต่างๆไม่ซับซ้อน พอคาดเดาได้ ตัวร้ายดูธรรมดาเกินไป

ซูอี้ ดัช ในบท โรส ฮาร์ธอะเวย์ ถือว่าเป็นคนที่เล่นได้ดีทีเดียว เป็นสาววัยรุ่นที่มีสเน่ห์ แอบโชว์ความเซ็กซี่ให้หนุ่มๆจินตนาการตลอดทั้งเรื่อง น่าเสียดายที่บทและนักแสดงรอบข้างไม่ช่วยส่งเสริมในการเป็นนักแสดงนำเรื่องแรกของเธอ ผิดกับ ซาร่าห์ ไฮย์แลนด์ ที่เล่นเป็น ลิซซ่า ตัวนำอีกคนซึ่งถ้าแสดงได้ค่อนข้างแห้งแล้ง ไร้อารมณ์ ในบรรดาตัวละครสาวด้วยกัน ครูใหญ่คิโรวา ที่แสดงโดย โอลกา คูรีเลนโก ดูจะเป็นจอมขโมยซีนที่สุด ทั้งการแต่งตัว ทรงผม ท่าทาง ผู้ชมล้วนอดสงสัยไม่ได้ว่ายัยสาวแสบนี่นะเหรอครูใหญ่ ทำเอา โจลี่ ริชาร์ดสัน ในบทราชินีทาทิน่าดูจืดไปเลย ส่วนตัวละครชายทั้ง ดานิล่า คอฟลอฟสกี้ ที่เล่นเป็น ดิมิทรี และ โดมินิก เชอร์วู้ด ในบท คริสเตียน โอเซร่า แค่ดูดีแต่ไม่ถึงกับหล่อจนสาวกรี๊ด เคมีของคู่พระนางยังดูขัดๆ ปูพื้นน้อยความสัมพันธ์จึงดูกํ้ากึ่ง ไม่ค่อยเสมกันพอให้คนดูจิ้น

หนังจบลงพร้อมทิ้งท้ายว่ามีภาคต่อแน่ๆ ซึ่งทำท่าว่าจะดูสนุกกว่าภาคแรก แฟนประจำที่อ่านหนังสือคงไม่พลาดที่จะไปดูตัวละครที่ตัวเองชื่นชอบบนจอใหญ่ แต่กับแฟนขาจรที่หลงเข้ามาโดยหวังจะเจอหนังแวมไพร์บู๊เลือดสาดแบบ Underworld หรือ ซึ้งโรแมนติกแบบ Twilight แล้วพบกับ Gossip girl แทน หนังเรื่องนี้อาจจบลงแค่ภาคเดียว

คะแนน 6/10

โดย นกไซเบอร์

ที่มาจาก http://movie.bugaboo.tv/watch/111589/?link=4
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่