ฉงชิ่ง เมืองสาวงาม แม่น้ำสองสี ได้เป็นเมืองเศรษฐกิจต้นทางสายไหม แห่งศตวรรษ 21

หลังจากการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน 2014 ได้มีการตกลงให้ฉงชิ่งเป็นเมืองต้นทางวงแหวนเศรษฐกิจทางสายไหมเพื่อเชื่อมเมืองด้านในของประเทศจีนกับเศรษฐกิจโลก
ฉงชิ่งเป็นเมืองใจกลางเมืองจีน เป็นเมืองปกครองระบบเทศบาลแห่งเดียวในทางตะวันตกกลางของจีน มีจุดเด่นด้านอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและการบิน มีทั้งศูนย์การเงินและศูนย์อุตสาหกรรมที่เขตฉงชิ่งเหลียงเจียงแห่งใหม่

เมืองตั้งอยู่บนจุดเชื่อมทางขนส่งการค้าระหว่างแม่น้ำแยงซีเกียงกับถนนสายไหม มีสนามบิน ท่าเรือน้ำจืด และมีทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่าง ฉงชิ่ง-ซินเจียง-ยุโรป ใช้เวลาเดินทาง 14-15 วัน ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายการขนส่งสินค้าจากจีนไปตะวันตก โดยตั้งแต่ปี 2011 ถึงปัจจุบันมีจำนวนรถไฟขนส่งสินค้าทั้งหมด 94 เที่ยวจากฉงชิ่งไปตะวันตก ขนส่งสินค้ารวมมูลค่าแล้วกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

โดยปกติสินค้าจากต่างประเทศจะขนส่งผ่านทางเรือแล้วมาผ่านศุลกากรที่เมืองตามชายฝั่งจีน ฉงชิ่งได้กำลังยื่นเรื่องสินค้าจากยุโรปขนส่งผ่านรถไฟมาลงฉงชิ่งให้สามารถทำเรื่องผ่านศุลกากรที่ฉงชิ่งได้ จะเป็นการช่วยกระจายสินค้าจากใจกลางเมืองจีนไปพื้นที่รอบๆประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ด้านตะวันตกของจีน เปิดดินแดนทางตะวันตกตอนในของจีนให้เชื่อมกับเศรษฐกิจโลก ขยายตลาดภายในประเทศ และพัฒนาอุตสาหกรรมในลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง

การขยายและพัฒนาระบบการขนส่งของฉงชิ่ง คาดว่าจะทำให้มีการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าตัว และจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยปัจจุบันรัฐบาลจีน ได้หารือสร้างความร่วมมือเศรษฐกิจบนเส้นทางสายไหมกับประเทศในเอเชียกลาง เช่นคาซักสถาน และรัสเซีย ซึ่งรัสเซียเองก็ได้เปิดสถานกงสุลที่ฉงชิ่ง เตรียมจัดเที่ยวบินตรงไปกลับฉงชิ่งและหลายเมืองในรัสเซีย และได้สร้างความร่วมมือกับเขตปกครองโวลก้าที่รัสเซีย ในด้านอุตสาหกรรมการผลิตเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินทะเล ทั้งนี้รัฐบาลทั้งสองได้วางแผนศักยภาพการลงทุนและความร่วมมือเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งขณะนี้มีแผนงานที่เตรียมไว้ทั้งหมด 82 แผนงาน

ติดตามข่าวสารเมืองจีนเพิ่มเติมได้ที่ facebook หอการค้าไทยในจีนค่ะ
https://www.facebook.com/chinathaicham






แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่