ย่อ ๆ ก็น่าจะแนว ๆ นี้แบบมันจะสวนทางกับคนทั่วไปจำนวนมาก เรยนะแนวคิดดัช
เช่นเขาพยายามอนุรักษ์ธรรมชาติกันแต่ดัชกลับมองว่าเมื่อถึงเวลานึงมันควรสูญพันธุ์ไป
เช่นช้าง ม้าเคยมี แต่ปัจจุบันอีกหน่อยมันไม่จำเป็น เพราะว่า โลกก้าวหน้ามันสูญพันธุ์ไปก็ไม่เป็นไรเรามีระบบขนส่งทันสมัยมากขึ้น ยิ่งเราเข้าสู่โลกไบโอนิคหรืออื่น ๆ มากเท่าไรเราก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาธรรมชาติในระดับชีวะ มันจะสูญพันธุ์ไปเท่าไรก็ไม่สำคัญ
ออกซิเจนอีกหน่อยก็อาจไม่ต้องใช้ แต่คงอีกนานมากหละแต่ ที่เริ่ม ๆ ต้นนี้คือสิ่งทั่วไปควรสูญพันธุ์ไปในระบบความคิดของพุทธะก็จะแนว ๆ นี้เลย
ถ้าเราไร้จิตใจไร้อารมณ์ไร้วิตกนิวรณ์ ไร้การปรุงแต่งในเรื่อง สวย ๆ งาม ๆ แบบหยาบ ๆ
และภาวะจิตอะไรที่ ดราม่ารวมถึงปวกเปียกเนี่ยก็จะเข้าสู่สภาวะธรรมที่เรียกว่า แกร่งสุดยอด
แต่-----ในขณะที่เหล่าสัตว์ยังปวกเปียกกันอยู่พุทธะก็มีความเมตตาไม่ทอดทิ้งถ่ายทอดวิชาการไว้ใ้ห้เรียนรู้เพื่อไปให้ถึงจุดนั้นคือแนวคิดดัชมันโยงกับพุทธศาสนาในระดับไม่พึ่งพาธาตุที่หยาบและน่าขยะแขยง มันดูคือ ๆ กันเป็นอันเดียวกันในอนาคตถ้ามนุษย์เรายังลังเล สงสัย ในการค้นคว้าความลี้ลับของเอกภพ และจักรวาลเรา แต่ก็จะปราณีตและมีรูปแบบที่สมบูรณ์มากขึ้น ก็จะยังคงดำรงอยู่ในลักษณะที่ว่า ถ้าใครยังมีแขนขารูปกายเนื้อในลักษณะนี้นี่ ที่ยังมีโรครุมเร้า มีน้ำเลือด น้ำเหลือง จะเป็นที่น่ารังเกียจน่าขยะแขยงไปเรยทีเดียวในยุคอนาคตนั้น
เหมือนเราจะมีแค่ระบบประมวลผลและเชื่อมโยงกับอุปกรณ์สื่อสารไร้สายซึ่งมันจะไม่ป่วยไม่เจ็บไม่หิวไม่ต้องมาคอยบำรุงรักษานอนหลับพักผ่อนอะไรมากมายเท่ากับยุคสมัยนี้ แต่ก็อาจจะยังต้องซ่อมบำรุงอยู่บ้าง
เราจะมุ่งมั่นค้นคว้าวิวัฒนาการความก้าวหน้าที่สงสัยได้อย่างเต็มที่มากขึ้นแต่ถ้าไม่สงสัยไม่ลังเลแล้ว เพราะในระบบใหม่ ๆ ในโลกอนาคตที่เรายังมีตัวตนอยู่ในจุดนั้น อาจจะถึงจุดอิ่มตัวรู้สึกขยะแขยงในจักรกลอีกก็ได้ แต่ว่า มันก็ไม่มีเวทนา ในแบบเจ็บปวด ทางกาย แต่ถ้าเบื่อหน่าย เราก็จะเข้าสู่สภาวะวิมุติหลุดพ้นไปเป็นภาวะปัญญาเต็มเปี่ยมในลักษณะวิมุติญาณทัศน นิพพาน
ดัชชอบนะเพราะคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนเด็ก ๆ นี่ คิดว่าอยากจะเปลี่ยน ร่างกายตัวเองให้เป็นจักรกลระบบไบโอนิคให้หมด
ตอนเรียนก็ชอบนั่งออกแบบหุ่นยนต์ จนได้เข้าทีมโรโบคอนอาชีวะ
มีแนวคิดที่คิดว่าวันนึงมันต้องถึงจุดนั้นแน่
เช่นเขาพยายามอนุรักษ์ธรรมชาติกันแต่ดัชกลับมองว่าเมื่อถึงเวลานึงมันควรสูญพันธุ์ไป
เช่นช้าง ม้าเคยมี แต่ปัจจุบันอีกหน่อยมันไม่จำเป็น เพราะว่า โลกก้าวหน้ามันสูญพันธุ์ไปก็ไม่เป็นไรเรามีระบบขนส่งทันสมัยมากขึ้น ยิ่งเราเข้าสู่โลกไบโอนิคหรืออื่น ๆ มากเท่าไรเราก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาธรรมชาติในระดับชีวะ มันจะสูญพันธุ์ไปเท่าไรก็ไม่สำคัญ
ออกซิเจนอีกหน่อยก็อาจไม่ต้องใช้ แต่คงอีกนานมากหละแต่ ที่เริ่ม ๆ ต้นนี้คือสิ่งทั่วไปควรสูญพันธุ์ไปในระบบความคิดของพุทธะก็จะแนว ๆ นี้เลย
ถ้าเราไร้จิตใจไร้อารมณ์ไร้วิตกนิวรณ์ ไร้การปรุงแต่งในเรื่อง สวย ๆ งาม ๆ แบบหยาบ ๆ
และภาวะจิตอะไรที่ ดราม่ารวมถึงปวกเปียกเนี่ยก็จะเข้าสู่สภาวะธรรมที่เรียกว่า แกร่งสุดยอด
แต่-----ในขณะที่เหล่าสัตว์ยังปวกเปียกกันอยู่พุทธะก็มีความเมตตาไม่ทอดทิ้งถ่ายทอดวิชาการไว้ใ้ห้เรียนรู้เพื่อไปให้ถึงจุดนั้นคือแนวคิดดัชมันโยงกับพุทธศาสนาในระดับไม่พึ่งพาธาตุที่หยาบและน่าขยะแขยง มันดูคือ ๆ กันเป็นอันเดียวกันในอนาคตถ้ามนุษย์เรายังลังเล สงสัย ในการค้นคว้าความลี้ลับของเอกภพ และจักรวาลเรา แต่ก็จะปราณีตและมีรูปแบบที่สมบูรณ์มากขึ้น ก็จะยังคงดำรงอยู่ในลักษณะที่ว่า ถ้าใครยังมีแขนขารูปกายเนื้อในลักษณะนี้นี่ ที่ยังมีโรครุมเร้า มีน้ำเลือด น้ำเหลือง จะเป็นที่น่ารังเกียจน่าขยะแขยงไปเรยทีเดียวในยุคอนาคตนั้น
เหมือนเราจะมีแค่ระบบประมวลผลและเชื่อมโยงกับอุปกรณ์สื่อสารไร้สายซึ่งมันจะไม่ป่วยไม่เจ็บไม่หิวไม่ต้องมาคอยบำรุงรักษานอนหลับพักผ่อนอะไรมากมายเท่ากับยุคสมัยนี้ แต่ก็อาจจะยังต้องซ่อมบำรุงอยู่บ้าง
เราจะมุ่งมั่นค้นคว้าวิวัฒนาการความก้าวหน้าที่สงสัยได้อย่างเต็มที่มากขึ้นแต่ถ้าไม่สงสัยไม่ลังเลแล้ว เพราะในระบบใหม่ ๆ ในโลกอนาคตที่เรายังมีตัวตนอยู่ในจุดนั้น อาจจะถึงจุดอิ่มตัวรู้สึกขยะแขยงในจักรกลอีกก็ได้ แต่ว่า มันก็ไม่มีเวทนา ในแบบเจ็บปวด ทางกาย แต่ถ้าเบื่อหน่าย เราก็จะเข้าสู่สภาวะวิมุติหลุดพ้นไปเป็นภาวะปัญญาเต็มเปี่ยมในลักษณะวิมุติญาณทัศน นิพพาน
ดัชชอบนะเพราะคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนเด็ก ๆ นี่ คิดว่าอยากจะเปลี่ยน ร่างกายตัวเองให้เป็นจักรกลระบบไบโอนิคให้หมด
ตอนเรียนก็ชอบนั่งออกแบบหุ่นยนต์ จนได้เข้าทีมโรโบคอนอาชีวะ