เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผลสำรวจเผยคนกรุงฯ มีไลฟ์สไตล์หรูเหมือนคนในเมืองประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่สวนทางกับรายได้ นักวิจัยตั้งข้อสงสัยกรุงเทพฯ แพงเกินไปหรือรายได้ของคนน้อยเกินไป
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2557 บริษัท อิปซอสส์ บิสสิเนส คอนซัลติ้ง บริษัทวิจัยด้านการตลาด เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ มีค่าครองชีพสูงเมื่อเทียบกับรายได้และคุณภาพสาธารณูปโภค และสูงกว่ามาตรฐานของประเทศอื่น ๆ ดังจะเห็นได้จากสินค้าอาทิ กาแฟ อินเทอร์เน็ต และสินค้าไลฟ์สไตล์
โดยจากการศึกษาของ อิปซอสส์ บิสสิเนส คอนซัลติ้ง พบว่า คนไทยจำเป็นต้องจ่ายประมาณ 3.50 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 115.5 บาท) เพื่อกาแฟคาปูชิโน่ของสตาร์บัค ในขณะที่คนที่โตเกียวจ่ายมากกว่าเพียง 50 เซนต์ (ประมาณ 16.75 บาท) ทั้ง ๆ ที่รายได้ของคนในโตเกียวนั้นสูงกว่าคนในกรุงเทพฯ มาก โดยกาแฟหนี่งแก้วที่โตเกียวนั้นถือว่าเป็น 0.13% ของรายได้เฉลี่ยในขณะที่คนในกรุงเทพฯต้องจ่ายมากถึง 0.73%
ส่วนสัญญาณอินเทอร์เน็ตสำหรับคนภายในกรุงเทพฯ นั้น ยังคงล้าหลังกว่าหลายประเทศรวมถึงฮ่องกง โดยแพ็คเก็จอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 200 Mbps ซึ่งค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 300 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 10,050 บาท) ในขณะที่ฮ่องกงจ่ายเพียงหนึ่งในสามเท่าของราคาในกรุงเทพฯ สำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกว่าถึงห้าเท่า (1,000 Mbps) หรืออาจเรียกได้ว่าคนกรุงเทพฯ จ่ายสูงถึง 67% ของรายได้เฉลี่ยเทียบกับคนในฮ่องกงที่จ่ายเพียงแค่ 5% เท่านั้น
นอกจากนี้ คนในกรุงเทพฯ ใช้จ่ายในราคาที่ไม่เหมาะสมกับรายได้เฉลี่ยของตัวเองในแต่ละเดือนให้กับสินค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นห้องพักในโรงแรมฮิลตัน, เสื้อผ้าสตรีของซาร่า, อาหารอย่างเคเอฟซี, รองเท้าวิ่งของไนกี้, ค่าสมาชิกฟิตเนส หรือแม้ขนาดยางรถยนต์ เมื่อเปรียบเทียบกับนิวยอร์กซิตี้
จากผลวิจัยดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าประชากรที่อาศัยอยู่ในโตเกียว นิวยอร์ก ซิดนีย์ หรือแม้กระทั่งกรุงเทพฯ มีไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันที่คล้ายกันในด้านความต้องการของผู้บริโภค แต่ถ้าคนกรุงเทพฯ ต้องการมีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายคลึงกับผู้คนในเมืองใหญ่อื่น ๆ ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับรายได้ต่อเดือน เราจึงควรตั้งคำถามว่า กรุงเทพฯ แพงเกินไป หรือว่ารายได้โดยเฉลี่ยของคนกรุงน้อยเกินกว่าที่จะเราจะสามารถมีไลฟ์สไตล์ในระดับเดียวกับคนในเมืองอื่นกันแน่
ที่มา
http://hilight.kapook.com/view/99463
ผลสำรวจเผยคนกรุงฯ มีไลฟ์สไตล์หรูสวนทางกับรายได้
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผลสำรวจเผยคนกรุงฯ มีไลฟ์สไตล์หรูเหมือนคนในเมืองประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่สวนทางกับรายได้ นักวิจัยตั้งข้อสงสัยกรุงเทพฯ แพงเกินไปหรือรายได้ของคนน้อยเกินไป
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2557 บริษัท อิปซอสส์ บิสสิเนส คอนซัลติ้ง บริษัทวิจัยด้านการตลาด เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ มีค่าครองชีพสูงเมื่อเทียบกับรายได้และคุณภาพสาธารณูปโภค และสูงกว่ามาตรฐานของประเทศอื่น ๆ ดังจะเห็นได้จากสินค้าอาทิ กาแฟ อินเทอร์เน็ต และสินค้าไลฟ์สไตล์
โดยจากการศึกษาของ อิปซอสส์ บิสสิเนส คอนซัลติ้ง พบว่า คนไทยจำเป็นต้องจ่ายประมาณ 3.50 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 115.5 บาท) เพื่อกาแฟคาปูชิโน่ของสตาร์บัค ในขณะที่คนที่โตเกียวจ่ายมากกว่าเพียง 50 เซนต์ (ประมาณ 16.75 บาท) ทั้ง ๆ ที่รายได้ของคนในโตเกียวนั้นสูงกว่าคนในกรุงเทพฯ มาก โดยกาแฟหนี่งแก้วที่โตเกียวนั้นถือว่าเป็น 0.13% ของรายได้เฉลี่ยในขณะที่คนในกรุงเทพฯต้องจ่ายมากถึง 0.73%
ส่วนสัญญาณอินเทอร์เน็ตสำหรับคนภายในกรุงเทพฯ นั้น ยังคงล้าหลังกว่าหลายประเทศรวมถึงฮ่องกง โดยแพ็คเก็จอินเทอร์เน็ตที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 200 Mbps ซึ่งค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 300 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 10,050 บาท) ในขณะที่ฮ่องกงจ่ายเพียงหนึ่งในสามเท่าของราคาในกรุงเทพฯ สำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกว่าถึงห้าเท่า (1,000 Mbps) หรืออาจเรียกได้ว่าคนกรุงเทพฯ จ่ายสูงถึง 67% ของรายได้เฉลี่ยเทียบกับคนในฮ่องกงที่จ่ายเพียงแค่ 5% เท่านั้น
นอกจากนี้ คนในกรุงเทพฯ ใช้จ่ายในราคาที่ไม่เหมาะสมกับรายได้เฉลี่ยของตัวเองในแต่ละเดือนให้กับสินค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นห้องพักในโรงแรมฮิลตัน, เสื้อผ้าสตรีของซาร่า, อาหารอย่างเคเอฟซี, รองเท้าวิ่งของไนกี้, ค่าสมาชิกฟิตเนส หรือแม้ขนาดยางรถยนต์ เมื่อเปรียบเทียบกับนิวยอร์กซิตี้
จากผลวิจัยดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าประชากรที่อาศัยอยู่ในโตเกียว นิวยอร์ก ซิดนีย์ หรือแม้กระทั่งกรุงเทพฯ มีไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันที่คล้ายกันในด้านความต้องการของผู้บริโภค แต่ถ้าคนกรุงเทพฯ ต้องการมีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายคลึงกับผู้คนในเมืองใหญ่อื่น ๆ ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับรายได้ต่อเดือน เราจึงควรตั้งคำถามว่า กรุงเทพฯ แพงเกินไป หรือว่ารายได้โดยเฉลี่ยของคนกรุงน้อยเกินกว่าที่จะเราจะสามารถมีไลฟ์สไตล์ในระดับเดียวกับคนในเมืองอื่นกันแน่
ที่มา
http://hilight.kapook.com/view/99463