น้ำอัดลม VS เบียร์ อันไหนทีโทษมากกว่ากัน #ประโยชน์ของการดื่มเบียร์ไม่เกินวันละ 1 กระป๋อง

ประโยชน์ของเบียร์หากดื่มไม่เกินวันละ 1 กระป๋อง



ประโยชน์ของเบียร์????
หลังจากมีคนเผยแพร่ภาพนี้ จึงได้หาข้อมูลและพบว่าให้ข้อมูลไม่ครบและอาจเกิดความเข้าใจผิด จึงขอนำมาลงให้ครบๆ
0. ประโยชน์ที่อิงตามภาพ ทุกอันคือการดื่มไม่เกินวันละ 1 กระป่อง(1Drink - 12oZ -360ml) ในคนที่สุขภาพปกติและไม่มีโรคประจำตัว
ดังนั้นถ้าดื่มเกิน หรือมีโรคประจำตัวเช่นความดัน หัวใจ เส้นเลือดสมอง ก็อาจจะไม่ได้ประโยชน์และอาจเกิดโทษ
1. ช่วยลดความดันโลหิต
การดื่มเบียร์พอประมาณวันละไม่เกิน 1 กระป๋อง จะลดโอกาสเป็นความดันโลหิตสูง แต่เมื่อดื่มเกินวันละกระป๋อง จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการเป็นความดันโลหิตสูง
2. ป้องกันโรคหัวใจ
อันนี้โอเค งานวิจัยหลายชิ้นยืนยัน ... แต่ว่าสำคัญคือต้องดื่มแค่วันละ1ดริ้งก์หรือวันละกระป๋อง เกินกว่านั้นจะเริ่มมีโทษจากด้านอื่นๆ
3. ช่วยให้กระดูกแข็งแรง
งานวิจัยจากบอสตัน1ชิ้น พบว่าการกินเบียร์วันละ 1 กระป๋อง อาจจะช่วยเพิ่มมวลกระดูกได้ในชายสูงอายุและหญิงวัยหมดประจำเดือน แต่ผู้วิจัยเตือนว่าเกิดเฉพาะในเบียร์ จำนวนผู้ร่วมทดลองยังไม่มากพอ ต้องระวังในการสรุปผล
นอกจากนี้จากงานชิ้นเดียวกันนี้พบว่า การดื่มเบียร์มากกว่า 2กระป๋องต่อวัน จะเพิ่มความเสี่ยงกระดูกหัก
4. ป้องกันนิ่วในไต
งานวิจัย 2-3ชิ้น พบว่าการดื่มเบียร์วันละ1กระป๋องและการดื่มน้ำมากๆ เป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยให้ป้องกันนิ่วทางเดินปัสสาวะเฉพาะในผู้ชาย ... ส่วนในผู้หญิง ผลที่ได้ยังดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผล
5. ช่วยต้านมะเร็ง
งานวิจัยที่หลายๆคนอ้างถึงกัน คือการแช่เนื้อไว้ในเบียร์ ช่วยลดสารก่อมะเร็งในกลุ่ม heterocyclic aromatic amines ได้ประมาณ 70% ทั้งนี้ต้องแช่ประมาณ 4-6ชั่วโมง ,นอกจากนี้มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่าสารบางชนิดในเบียร์และในฮ็อปส์ที่ผสมในเบียร์ ช่วยลดการกลายพันธุ์ของเซลล์ในลำไส้ได้ ช่วยลดการตอบสนองของต่อมลูกหมากต่อฮอร์โมนเพศ ซึ่งอาจจะลดมะเร็งต่อมลูกหมากได้
ปัญหาคือ นั่นคือในหลอดทดลองและห้องวิจัย ... แต่พอมาดูข้อมูลทางระบาดวิทยา ดันปรากฎว่าการดื่มเบียร์(และเหล้า) อาจะมีส่วนทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งทางเดินอาหารส่วนปลาย มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งช่องปาก และมะเร็งท่ยังน่าสงสัยก็มีมะเร็งผิวหนังและมะเร็งรังไข่
ดังนั้นดื่มพอประมาณดีกว่าครับ อย่าเกินวันละกระป๋อง อาจจะเสี่ยงตายจากมะเร็งเพิ่มขึ้นแต่ไปลดความเสี่ยงที่ข้ออื่นแล้วกัน

6. ช่วยให้อายุยืน
จากรายงานวิจัยหลายๆชิ้นรวมกัน พบว่าการดื่มเบียร์ในระดับที่พอดี จะทำให้อายุยืนยาวขึ้นเพราะลดการเป็นเบาหวาน หลอดเลือดสมองและหัวใจตีบ ... ทั้งนี้ต้องไม่ดื่มก่อนอายุ 20 และห้ามเมา ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ดริงก์ เพราะพอเกิดวันละ 2 ดริงก์(1-2กระป๋อง) จากที่ช่วยทำให้อายุยืนขึ้นจะอายุสั้นลงจากมะเร็ง อุบัติเหตุ โรคตับ และโรคนานาประการ
7. ป้องกันเบาหวาน
มีงานวิจัยพบว่าการดื่มเบียร์วันละ1กระป๋องในคนที่ไม่เคยดื่มเลย ลดคนที่เป็นเบาหวานลงไป 20% แต่ผลนี้จะไม่ได้ผลในคนที่ดื่มอยู่แล้ว
ทั้งนี้การดื่มเบียร์จะกระตุ้นร่างกายให้ตอบสนองต่ออินซูลินดีขึ้น ...และในทางกลับกันถ้ากินเบียร์มากไปจนมีพุง พุงจะไปกลายเป็นความเสี่ยงที่จำทำให้เป็ฯเบาหวานแทน
ข้อควรระวังคือ คนที่เป็นเบาหวานถ้าจะกินเบียร์ต้องคำนวณcarbดีๆ และระวังให้มากเพราะสามารถกระตุ้นภาวะน้ำตาลต่ำจนเสียชีวิตได้ ...
8. ป้องกันโรคนอนไม่หลับ
การดื่มเบียร์ทำให้คนนอนหลับง่ายขึ้นและนอนไม่หลับได้เหมือนๆกัน
9. ลดความเสี่ยงอัมพฤกษ์อัมพาต
งานวิจัยชิ้นนึง พบว่าการดื่มเบียร์วันละ 1 กระป๋อง ช่วยลดความเสี่ยงโรคเส้นเลือดสมองตีบได้ ประมาณครึ่งนึง แต่ไปเพิ่มความเสี่ยงเรื่องเส้นเลือดสมองแตกขึ้นประมาณ3เท่า

อ้างอิง
(1) Arch Intern Med. 2002;162(5):569-574.
(3) Am J Clin Nutr April 2009 vol. 89 no. 4 1188-1196
(4) Am. J. Epidemiol. (1999) 150 (2): 187-194.
(5) J. Agric. Food Chem., 2008, 56 (22), pp 10625–10632
(5) Mutat Res. 2004 Apr 11;559(1-2):177-87.
(6) Report of the DGAC on the Dietary Guidelines for Americans, 2010 Section 7
(7) Diabetes January 2011 60:74-79
จากเพจ หมอแมว

เดบิต https://www.facebook.com/HmxMaew/photos/a.398936216867904.96187.398912630203596/438525859575606/?type=1
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
สิ่งที่คุณ TinyNu ถามนั้น
นักระบาดวิทยาเขาถามมาสามสิบปีแล้วค่ะ
และมีความพยายามหาหลักฐานมาโต้แย้งตลอดสามสิบปี
เพราะไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดและนำไปใช้ผิดๆ
(จนปัจจุบัน ก็ยังไม่ใช่คำแนะนำมาตรฐานที่ยอมรับกัน
เพราะคำนึงถึงผลเสียมากกว่าผลดี)

จนกระทั่งปัจจุบัน การศึกษา(ที่เป็นการศึกษามาตรฐาน)ในทุกประเทศ
ยืนยันการค้นพบดังกล่าว
(ไม่ว่าใครจะเป็นสปอนเซอร์ก็ตาม)
แม้แต่การวิเคราะห์ meta analysis ก็ยืนยัน
และ biological plausibility ก็อธิบายได้

ถ้าสนใจ ก็ลองสืบค้นเอกสารดูได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่