Chinatown (1974)
***ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง***
หากนึกถึงภาพยนตร์ดวงกุดบนเวทีออสการ์สักเรื่อง หนึ่งในนั้นที่ต้องได้รับการกล่าวถึงก็คือ Chinatown มันเป็นหนังที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สูงถึง 11 รางวัลแต่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้เพียงรางวัลเดียวคือ 'บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม' เพียงเพราะว่าปีนั้นมีคู่แข่งที่โคตรหินอย่าง The Godfather part II
Chinatown เล่าเรื่องจากมุมมองเดียวของ 'เจค' (Jack Nicholson) อดีตตำรวจที่ผันตัวมาเป็นนักสืบคดีชู้สาว เขาได้รับการว่าจ้างจาก 'เอเวอลีน' (Faye Dunaway) ให้สืบหาว่าสามีของเธอมีชู้หรือเปล่า แต่เมื่อเขาส่งมอบรูปถ่ายหลักฐานให้แก่เธอ รูปดังกล่าวกลับปรากฎบนหน้าหนังสือสือพิมพ์ทำลายชื่อเสียงของ 'ฮอลลิส' สามีของเธอ และมันกลับกลายเป็นว่าคนที่มาว่าจ้างเขาก็ไม่ใช่ 'เอเวอลีน' ตัวจริง ซ้ำร้ายไปกว่านั้นในเวลาต่อมา 'ฮอลลิส' ก็ถูกฆาตกรรมอำพรางว่าเป็นอุบัติเหตุซึ่งอาจพัวพันไปถึงคดีคอรัปชั่นครั้งใหญ่ของกรุงลอสแองเจลิส!
ขอเตือนก่อนนะครับว่าถ้าหากใครอยากดูหนังเรื่องนี้ อย่าได้ไปโดนสปอยล์โดยเด็ดขาดนะครับ
สามเหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้โดยเด็ดขาด
1. บทหนังที่สมบูรณ์แบบทำให้มันเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล
- Chinatown ไม่ได้เป็นแค่หนังฟิล์มนัวร์ชั้นเยี่ยม และมันก็มีดีเกินกว่าจะถูกจดจำแค่ในฐานะหนึ่งในหนังสืบสวนที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่มันคู่ควรกับการยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
การสร้างตัวละครในโลก Chinatown คือความยอดเยี่ยมอย่างแรกของหนัง ทุกตัวละครล้วนมาในลักษณะสีเทา ไม่มีใครที่ทำให้รู้สึกว่าขาวสะอาด แม้กระทั่งตัวละครเอกของเรื่องที่เป็นนักสืบอย่าง 'เจค' ก็มาในลักษณะ 'antihero' ที่ครั้งหนึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องเลวร้ายใน Chinatown บุคลิกส่วนตัวที่เด่นชัดคือปากเสีย และยังสืบคดีด้วยเล่ห์เหลี่ยมสกปรกเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง, 'เอเวอลีน' ก็อยู่ในโหมดเดียวกับตัวละครสาวในหนังฟิล์มนัวร์ทั้งหลาย เธอไม่ใช่ผู้หญิงใสซื่อ เปิดหนังมาเธอก็ยอมรับแล้วว่าเธอมีอะไรกับคนอื่นนอกจากสามีตัวเอง ในขณะเดียวกันตัวละครของเธอก็มีความลับเยอะแยะมากมายที่ปกปิด 'เจค' มาตลอด, และนี่ยังไม่นับรวมตัวละครสมทบอื่น ๆ ที่ดูไม่ใช่คนดีขาวสะอาดสักเท่าไร
ยิ่งเมื่อหนังพาเราเข้าสู่โลกของการ 'สืบสวน' จากจุดเริ่มต้นของคดีชู้สาวที่ควรจะจบลงอย่างง่ายดายกลับกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งใหญ่โตที่ทำให้ 'เจค' โกรธแค้นเพราะนั่นหมายถึงว่าคนที่จ้องเล่นงาน 'ฮอลลิส' ที่กำลังต่อต้านการสร้างเขื่อน ย่อมประสงค์ทำลายชื่อเสียงของเขาด้วย ทำให้เขาต้องสืบหาความจริงว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่หลังการตายของ 'ฮอลลิส' ที่เขาเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม หนังก็พาเราเข้าสู่ประเด็นที่ใหญ่กว่าแค่เรื่องชู้สาวและทำลายชื่อเสียงเขาด้วยการพาคนดูไปร่วมสืบสวนคดีทุจริตครั้งใหญ่
ช่วงการสืบสวนเป็นอะไรที่สุดยอดมาก มันเล่าเรื่องคดีได้อย่างน่าเชื่อถือ การสืบคดีของ 'เจค' ก็มาในลักษณะที่สมจริงแบบนักสืบทั่วไปไม่ใช่พวกเก่งกาจเกินจริงหรือมีเรื่องบังเอิญเข้าช่วย การที่หนังเลือกใช้การเล่าเรื่องด้วยสายตาของ 'เจค' ก็เป็นอีกส่วนดีของหนังเพราะมันทำให้คนดูค่อย ๆ รับรู้เรื่องทุกอย่างไปพร้อมกับตัวละครหลัก สเกลอันใหญ่โตของหนังที่ฟังดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนก็ถูกถ่ายทอดเรียบเรียงลำดับออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะหลาย ๆ ฉากที่อาจทำเอาคุณอึ้งได้เลย
2. เซอไพรซ์ ไคลแม็กซ์ ไคลแม็กซ์ และไคลแมกซ์
- จะมีหนังสืบสวนสักกี่เรื่องที่สามารถสร้างบทภาพยนตร์ที่มหัศจรรย์เช่นนี้ได้ เอาแค่ฉากแรกที่ 'เจค' ได้รับการว่าจ้างให้สืบคดีขู้สาวให้ 'เอเวอลีน' ก็สร้างเซอไพรส์คนดูด้วยการเฉลยว่าเขาโดนต้มเสียเปื่อย แล้วมันยังค่อย ๆ พาไปโยงเรื่องทุจริตคอรัปชั่นการสร้างเขื่อนของเมือง นั่นเองที่หนังค่อย ๆ ปล่อยเซอไพรส์ที่คาดไม่ถึงออกมาเรื่อย ๆ โดยยิ่งสืบลึกลงไปเท่าไร หนังก็ยิ่งปล่อยไคลแมกซ์ออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงตอนเฉลยเรื่องราวทั้งหมดที่ต้องเรียกว่าโคตรของโคตรไคลแมกซ์ตลอดกาลฉากหนึ่งเลยทีเดียว
3. ฉากสุดท้ายที่ไม่อาจลืมเลือน
- คงไม่เป็นการเปิดเผยเนื้อหาแต่อย่างใดถ้าผมจะใบ้ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้จบแค่เมื่อตอนเฉลยปมทุกอย่างให้คนดูรับรู้ แต่ 'โรมัน โปลันสกี้' ผู้กำกับซึ่งเป็นคนดัดแปลงตอนจบภาพยนตร์ได้พาเราไปสู่ฉากสุดท้ายที่ทรงพลังกว่าหนังเรื่องไหน ๆ เลยก็ว่าได้ มันเป็นฉากจบที่ 'อยู่บนโลกความเป็นจริง' มาก ๆ และความดีความชอบทั้งหมดของฉากจบมันก็เกิดจากการเล่าเรื่อง 'ไชน่าทาวน์' ได้อย่างน่าสนใจในความลึกลับเพราะตัวละครไม่เล่าอย่างละเอียด อย่างไรก็ตามในฉากจบมันก็ทำให้คนดูเข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งที่ 'เจค' เล่าถึง 'ไชน่าทาวน์' แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ มาตลอดมันคืออะไร
พูดถึงด้านการแสดง ต้องชมเชย 'แจ็ค นิโคลสัน' นักแสดงชายดีกรีเข้าชิงออสการ์ 12 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิตินอมินีสูงที่สุดของฝ่ายชาย เขาคนเดียวแบกหนังทั้งเรื่องได้สบาย ๆ เลยครับ ลุงแจ็คเข้าถึงบุคลิกของตัวละครทำให้คนดูเชื่อว่าเขาคือ 'เจค' นักสืบคดีชู้สาวที่เข้าไปพัวพันคดีคอรัปชั่นครั้งใหญ่
นอกจากความยอดเยี่ยมที่ผมได้อวยมาข้างต้นแล้ว หนังยังมีออสการ์มาช่วยการันตีความยอดเยี่ยมในทุกแง่มุมของหนังตั้งแต่รางวัลชนะเลิศ 'บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม' และการเข้าชิงรางวัลใหญ่ ๆ ทั้งหมดได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, การแสดงนำฝ่ายชาย-หญิงยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, กำกับภาพยอดเยี่ยม รวมถึงงานเทคนิคอีกหลาย ๆ ด้าน เช่น ดนตรีประกอบที่ช่วยส่งเสริมในทุก ๆ ฉากที่ผู้กำกับจำเป็นต้องใช้ดนตรีช่วยสร้างอารมณ์
แม้ตัวละครในหนังจะบอกว่า "ลืมมันเสียเถอะ ที่นี่มันคือไชน่าทาวน์" แต่ผมคงไม่สามารถลืม 'Chinatown' ได้อย่างแน่นอน
Director: Roman Polanski
Writer: Robert Towne
Genre: Film-noir, Crime, Drama, Thriller, Mystery, Suspense
10/10
.
.
หนังโปรดของข้าพเจ้า: https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms
Chinatown (1974) หนึ่งในฟิล์มนัวร์สืบสวนที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ [ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ]
***ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง***
หากนึกถึงภาพยนตร์ดวงกุดบนเวทีออสการ์สักเรื่อง หนึ่งในนั้นที่ต้องได้รับการกล่าวถึงก็คือ Chinatown มันเป็นหนังที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สูงถึง 11 รางวัลแต่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้เพียงรางวัลเดียวคือ 'บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม' เพียงเพราะว่าปีนั้นมีคู่แข่งที่โคตรหินอย่าง The Godfather part II
Chinatown เล่าเรื่องจากมุมมองเดียวของ 'เจค' (Jack Nicholson) อดีตตำรวจที่ผันตัวมาเป็นนักสืบคดีชู้สาว เขาได้รับการว่าจ้างจาก 'เอเวอลีน' (Faye Dunaway) ให้สืบหาว่าสามีของเธอมีชู้หรือเปล่า แต่เมื่อเขาส่งมอบรูปถ่ายหลักฐานให้แก่เธอ รูปดังกล่าวกลับปรากฎบนหน้าหนังสือสือพิมพ์ทำลายชื่อเสียงของ 'ฮอลลิส' สามีของเธอ และมันกลับกลายเป็นว่าคนที่มาว่าจ้างเขาก็ไม่ใช่ 'เอเวอลีน' ตัวจริง ซ้ำร้ายไปกว่านั้นในเวลาต่อมา 'ฮอลลิส' ก็ถูกฆาตกรรมอำพรางว่าเป็นอุบัติเหตุซึ่งอาจพัวพันไปถึงคดีคอรัปชั่นครั้งใหญ่ของกรุงลอสแองเจลิส!
ขอเตือนก่อนนะครับว่าถ้าหากใครอยากดูหนังเรื่องนี้ อย่าได้ไปโดนสปอยล์โดยเด็ดขาดนะครับ
สามเหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้โดยเด็ดขาด
1. บทหนังที่สมบูรณ์แบบทำให้มันเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล
- Chinatown ไม่ได้เป็นแค่หนังฟิล์มนัวร์ชั้นเยี่ยม และมันก็มีดีเกินกว่าจะถูกจดจำแค่ในฐานะหนึ่งในหนังสืบสวนที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่มันคู่ควรกับการยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
การสร้างตัวละครในโลก Chinatown คือความยอดเยี่ยมอย่างแรกของหนัง ทุกตัวละครล้วนมาในลักษณะสีเทา ไม่มีใครที่ทำให้รู้สึกว่าขาวสะอาด แม้กระทั่งตัวละครเอกของเรื่องที่เป็นนักสืบอย่าง 'เจค' ก็มาในลักษณะ 'antihero' ที่ครั้งหนึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องเลวร้ายใน Chinatown บุคลิกส่วนตัวที่เด่นชัดคือปากเสีย และยังสืบคดีด้วยเล่ห์เหลี่ยมสกปรกเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง, 'เอเวอลีน' ก็อยู่ในโหมดเดียวกับตัวละครสาวในหนังฟิล์มนัวร์ทั้งหลาย เธอไม่ใช่ผู้หญิงใสซื่อ เปิดหนังมาเธอก็ยอมรับแล้วว่าเธอมีอะไรกับคนอื่นนอกจากสามีตัวเอง ในขณะเดียวกันตัวละครของเธอก็มีความลับเยอะแยะมากมายที่ปกปิด 'เจค' มาตลอด, และนี่ยังไม่นับรวมตัวละครสมทบอื่น ๆ ที่ดูไม่ใช่คนดีขาวสะอาดสักเท่าไร
ยิ่งเมื่อหนังพาเราเข้าสู่โลกของการ 'สืบสวน' จากจุดเริ่มต้นของคดีชู้สาวที่ควรจะจบลงอย่างง่ายดายกลับกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งใหญ่โตที่ทำให้ 'เจค' โกรธแค้นเพราะนั่นหมายถึงว่าคนที่จ้องเล่นงาน 'ฮอลลิส' ที่กำลังต่อต้านการสร้างเขื่อน ย่อมประสงค์ทำลายชื่อเสียงของเขาด้วย ทำให้เขาต้องสืบหาความจริงว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่หลังการตายของ 'ฮอลลิส' ที่เขาเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม หนังก็พาเราเข้าสู่ประเด็นที่ใหญ่กว่าแค่เรื่องชู้สาวและทำลายชื่อเสียงเขาด้วยการพาคนดูไปร่วมสืบสวนคดีทุจริตครั้งใหญ่
ช่วงการสืบสวนเป็นอะไรที่สุดยอดมาก มันเล่าเรื่องคดีได้อย่างน่าเชื่อถือ การสืบคดีของ 'เจค' ก็มาในลักษณะที่สมจริงแบบนักสืบทั่วไปไม่ใช่พวกเก่งกาจเกินจริงหรือมีเรื่องบังเอิญเข้าช่วย การที่หนังเลือกใช้การเล่าเรื่องด้วยสายตาของ 'เจค' ก็เป็นอีกส่วนดีของหนังเพราะมันทำให้คนดูค่อย ๆ รับรู้เรื่องทุกอย่างไปพร้อมกับตัวละครหลัก สเกลอันใหญ่โตของหนังที่ฟังดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนก็ถูกถ่ายทอดเรียบเรียงลำดับออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะหลาย ๆ ฉากที่อาจทำเอาคุณอึ้งได้เลย
2. เซอไพรซ์ ไคลแม็กซ์ ไคลแม็กซ์ และไคลแมกซ์
- จะมีหนังสืบสวนสักกี่เรื่องที่สามารถสร้างบทภาพยนตร์ที่มหัศจรรย์เช่นนี้ได้ เอาแค่ฉากแรกที่ 'เจค' ได้รับการว่าจ้างให้สืบคดีขู้สาวให้ 'เอเวอลีน' ก็สร้างเซอไพรส์คนดูด้วยการเฉลยว่าเขาโดนต้มเสียเปื่อย แล้วมันยังค่อย ๆ พาไปโยงเรื่องทุจริตคอรัปชั่นการสร้างเขื่อนของเมือง นั่นเองที่หนังค่อย ๆ ปล่อยเซอไพรส์ที่คาดไม่ถึงออกมาเรื่อย ๆ โดยยิ่งสืบลึกลงไปเท่าไร หนังก็ยิ่งปล่อยไคลแมกซ์ออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงตอนเฉลยเรื่องราวทั้งหมดที่ต้องเรียกว่าโคตรของโคตรไคลแมกซ์ตลอดกาลฉากหนึ่งเลยทีเดียว
3. ฉากสุดท้ายที่ไม่อาจลืมเลือน
- คงไม่เป็นการเปิดเผยเนื้อหาแต่อย่างใดถ้าผมจะใบ้ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้จบแค่เมื่อตอนเฉลยปมทุกอย่างให้คนดูรับรู้ แต่ 'โรมัน โปลันสกี้' ผู้กำกับซึ่งเป็นคนดัดแปลงตอนจบภาพยนตร์ได้พาเราไปสู่ฉากสุดท้ายที่ทรงพลังกว่าหนังเรื่องไหน ๆ เลยก็ว่าได้ มันเป็นฉากจบที่ 'อยู่บนโลกความเป็นจริง' มาก ๆ และความดีความชอบทั้งหมดของฉากจบมันก็เกิดจากการเล่าเรื่อง 'ไชน่าทาวน์' ได้อย่างน่าสนใจในความลึกลับเพราะตัวละครไม่เล่าอย่างละเอียด อย่างไรก็ตามในฉากจบมันก็ทำให้คนดูเข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งที่ 'เจค' เล่าถึง 'ไชน่าทาวน์' แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ มาตลอดมันคืออะไร
พูดถึงด้านการแสดง ต้องชมเชย 'แจ็ค นิโคลสัน' นักแสดงชายดีกรีเข้าชิงออสการ์ 12 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิตินอมินีสูงที่สุดของฝ่ายชาย เขาคนเดียวแบกหนังทั้งเรื่องได้สบาย ๆ เลยครับ ลุงแจ็คเข้าถึงบุคลิกของตัวละครทำให้คนดูเชื่อว่าเขาคือ 'เจค' นักสืบคดีชู้สาวที่เข้าไปพัวพันคดีคอรัปชั่นครั้งใหญ่
นอกจากความยอดเยี่ยมที่ผมได้อวยมาข้างต้นแล้ว หนังยังมีออสการ์มาช่วยการันตีความยอดเยี่ยมในทุกแง่มุมของหนังตั้งแต่รางวัลชนะเลิศ 'บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม' และการเข้าชิงรางวัลใหญ่ ๆ ทั้งหมดได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, การแสดงนำฝ่ายชาย-หญิงยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, กำกับภาพยอดเยี่ยม รวมถึงงานเทคนิคอีกหลาย ๆ ด้าน เช่น ดนตรีประกอบที่ช่วยส่งเสริมในทุก ๆ ฉากที่ผู้กำกับจำเป็นต้องใช้ดนตรีช่วยสร้างอารมณ์
แม้ตัวละครในหนังจะบอกว่า "ลืมมันเสียเถอะ ที่นี่มันคือไชน่าทาวน์" แต่ผมคงไม่สามารถลืม 'Chinatown' ได้อย่างแน่นอน
Director: Roman Polanski
Writer: Robert Towne
Genre: Film-noir, Crime, Drama, Thriller, Mystery, Suspense
10/10
.
.
หนังโปรดของข้าพเจ้า: https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms