[ผับ พา ยล] เกาะกระแสคู่ชิงบอลโลก เอาหนัง Germany มาดวลหนัง Argentina!

วันนี้แล้วในโลกฟุตบอลถือเป็น "นัดหยุดโลก" ที่จะตัดสินความเป็นแชมป์โลกกัน

แต่ในฐานะที่ผมนิยมเวียนวนอยู่ห้องเฉลิมไทย และมีเพจหนังแบบหนุกๆ บน facebook ชื่อ "ผับ พา ยล" (ใครอยากจะแวะมาติดตามกัน ก็ www.facebook.com/PubPaYol) จะมาวิเตราะห์บอลก็แปลกๆ เลยขอนำเอาหนัง "เยอรมัน" กับ "อาร์เจนติน่า" มาประชันกันให้ดูเล่นๆ ซะหน่อย เพื่อเรียกน้ำย่อยจ้า

ด้วยความบังเอิญที่ไปค้นๆ ดู พบว่าจำนวนครั้งที่ภาพยนตร์จากทั้ง 2 ชาติ ชนะรางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์นั้น เท่ากับจำนวนที่ทีมชาติทั้ง 2 ชาติคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกพอดิบพอดี

Germany คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกรวม 3 ครั้ง (รวมตั้งแต่สมัยเยอรมันตะวันตก) หนังจาก Germany ก็คว้าออสการ์ 3 ครั้งเช่นกัน (จากการชิงรวมถึง 17 ครั้ง)
Argentina คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกรวม 2 ครั้ง หนังจาก Argentina ก็คว้าออสการ์ 2  ครั้ง (จากการชิง 6 ครั้ง) เหมือนกันเด๊ะ!




หนังทั้ง 5 เรื่องนั้น มีอะไรกันบ้าง เราไปดูกันแบบเรื่องต่อเรื่องกันเลยจ้า ^^

(ไม่ได้โพสท์กระทู้มานานเป็นปีๆ เลย ผิดพลาดประการใดขออภัย -*-)

Germany
Die Blechtrommel (The Tin Drum) ปี 1979




"Die Blechtrommel" ชนะออสการ์ตั้งแต่ยังเป็นเยอรมันตะวันตก ว่าด้วยเรื่องของ Oskar เด็กอายุ 16 ปี ที่หยุดเจริญเติบโตทั้งร่างกาย และสมองตั้งแต่ 6 ขวบ ซึ่งตัว Oskar มีกลองเด็กเล่นติดตัวเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว และต้องเจอเรื่องราวมากมาย โดยมีแบ็คกราวน์หนังเป็นยุคสงครามโลก

นอกจากกระแสวิจารณ์จะดีแล้ว เสียงวิจารณ์ด้านอื้อฉาวก็มีเช่นกัน เพราะบท Oskar ซึ่งรับบทโดย David Bennent (เขามีรูปร่างแคระเทียบเท่าเด็ก เหมือนกับตัวละครในบท) มีฉากออรัลเซ็กซ์ และฉากร่วมเพศ ทั้งๆ ที่ผู้แสดงมีอายุเพียง 11 ปี จนถูกหลายประเทศสั่งตัดฉากเหล่านั้นออก

เครดิตภาพ - ashoryaepq.blogspot.com

Argentina
La historia oficial (The Official Story) ปี 1985




"La historia oficial" เป็นภาพยนตร์ที่คว้ารางวัลเกียรติยศออสการ์ครั้งแรกของอาร์เจนติน่า ว่าด้วยเรื่องของครูโรงเรียนมัธยม ที่ตามหาว่าใครคือแม่ของลูกเลี้ยงของเขา หลังจากสงคราม

นอกจากจะคว้ารางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศบนเวทีออสการ์แล้ว "La historia oficial" ยังเข้าชิงรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย (สุดท้ายรางวัลตกเป็นของหนังเรื่อง "Witness")

เครดิตภาพ - fernandoperales.wordpress.com

Germany
Nirgendwo in Afrika (Nowhere in Africa) ปี 2002




อีกหนึ่งหนังที่ได้รับการยอมรับอย่างมากในยุโรป และอเมริกา แม้จะไม่สามารถคว้ารางวัลลูกโลกทองคำมาได้ แต่ก็มาประสบความสำเร็จบนเวทีออสการ์

"Nirgendwo in Afrika" ย้อนไปในยุค 1930 ว่าด้วยครอบครัวเยอรมันเชื้อสายยิว ที่ต้องลี้ภัยสงครามจักรวรรดินาซี มาอยู่ที่แอฟริกา ในประเทศเคนย่า โดยพ่อ และแม่ต้องตั้งต้นการใช้ชีวิตในที่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ส่วนลูกสาวตัวน้อยนั้น ได้ค้นพบมิตรภาพ และความประทับใจบนพื้นแผ่นดินแอฟริกาอันไม่อาจลืมเลือนได้

เครดิตภาพ - fernandoperales.wordpress.com

Argentina
El secreto de sus ojos (The Secret in Their Eyes) ปี 2009




อีก 1 หนังเยี่ยมจากอเมริกาใต้ที่ชนะรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม แถมชนะหนังจากเยอรมันอย่าง The White Ribbon ซะด้วย

"El secreto de sus ojos" เป็นภาพยนตร์ผสมผสาน กันทั้งหนังสืบสวน ระทึกขวัญ และแอบโรแมนติกเข้าไปอีกต่างหาก เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐและนักกฎหมายสาว ที่มีใจให้กัน ต้องย้อนกลับไปสืบสวนคดีฆาตกรรมข่มขืนที่พวกเขาค้างคา และตามหลอกหลอนมากว่า 25 ปี จนทำให้ทั้งคู่ต้องพลัดพรากกัน

นอกจากคว้ารางวัลออสการ์แล้ว หนังยังได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีเอามากๆ อีกด้วย โดยได้รับคะแนนนักวิจารณ์ถึง 91% จากเว็บชื่อดัง Rotten Tomatoes ด้วยล่ะ

เครดิตภาพ - www.proximosestrenos.com.ar

Germany
Das Leben der Anderen (The Lives of Others) ปี 2006




หนึ่งในหนังยอดเยี่ยม ติดอันดับ 53 หนังยอดเยี่ยมของ IMDB ได้รับรางวัลมากมาย และสามารถคว้ารางวัลได้ทั้ง Oscar และ BAFTA แถมเคยได้รับการสำรวจจาก The Europe List ว่าเป็น 1 ใน 3 หนังยุโรปที่ดีที่สุด (ร่วมกับ Life is Beautiful และ Amelie)

"Das Leben der Anderen" ย้อนไปในปี 1984 โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่เยอรมันตะวันออก เมื่อตำรวจลับของทางการสงสัยในความสัมพันธ์ของนักเขียนและคู่รักของเขา ว่าเขาจะเป็นสายสืบคนสำคัญจากฝั่งเยอรมันตะวันตก

แม้การดำเนินเรื่องจะไม่หวือหวา แต่หนังวางเรื่องมาอย่างดี ทำให้เราติดตามได้อย่างเพลิดเพลิน และเมื่อถึงจุดสำคัญก็วางอารมณ์ได้อย่างน่าชื่นชม

เครดิตภาพ - thefilmelitist.wordpress.com

ครบการดวลกันเรื่องต่อเรื่องของ 2 ประเทศ กันเรียบร้อยแล้ว ถือซะว่าเป็นประเด็นสนุกๆ ที่ให้คอหนังได้อ่านกันละกันครับ


เครดิตภาพ - stickywallpapers.com

ส่วนเรื่องของโลกลูกหนังคืนนี้นั้น ก็คงต้องติดตามดูตี 3 ว่าใครจะเพิ่มสถิติครองแชมป์ฟุตบอลโลกให้ชาติตัวเองได้ และต้องดูกันต่ออีกสเต็ปว่าหากชาติใดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้แล้ว จะนำโชคให้หนังจากประเทศตัวเองคว้ารางวัลบนเวทีออสการ์เพิ่มตามมาหรือเปล่า?

ขออนุญาตฝากอีกที สำหรับใครที่อยากเข้ามาพูดคุย อ่านรีวิวหนังแบบกันเอง, ติดตามเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย, ดาราฮอลลีวู้ดที่ชื่นชอบ ก็เข้ามาเจอกันที่ www.facebook.com/PubPaYol เพจ Community หนังเล็กๆ ของผมคร้าบ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่