เจ้าของกระทู้ต้องแจ้งก่อนนะคะว่าเคยเป็นอีสุกอีใสแล้วเมื่อสมัยเป็นเด็ก ตอนอยู่ ป.3 หลายท่านคงสงสัยว่าแล้ว จขกท.เป็นอีกได้ยังไง
ในเมื่ออีสุกอีใสเป็นแล้วจะไม่เป็นอีก อยากจะเล่า ประสบการณ์จริงให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และว่าที่คุณแม่ให้ฟังกันนะคะ ตอนนี้ จขกท.ตั้งครรภ์ได้ 16 สัปดาห์เต็มกับวันที่เขียนกระทู้เลยละคะ เป็นการตั้งครรภ์แรกของ จขกท อีกด้วย เอาละขอเริ่มแชร์ประสบการณ์กันเลยนะคะ
เริ่มจากคุณหลานที่บ้านเป็นอีสุกอีใส เราเองก็อยู่ห่างๆ ย้ำว่าห่างกันจริงถึงขั้นเนรเทศตัวเองออกนอกบ้านไปเลยทีเดียว (น่าเศร้าไหมละคะ) พอคนที่บ้านเห็นว่าคุณหลานหายแล้ว ก็เรียกตัวเรากลับบ้าน เราก็กลับสิคะ อยู่ที่บ้านได้สักแปรปปป ก็เริ่มมีตุ่มเม็ดแดงๆ ขึ้น 3 จุด โดยเริ่มที่ขอบกางเกงใน 2 จุดและ ใกล้ สะดือ 1 จุด ตอนนั้นตั้งครรภ์ได้ 14 ย่าง 15 w แล้วคะ เราก็ไม่เอะใจอะไรเพราะไม่มีอาการที่จะบอกเราว่า "คุณเป็นอีสุกอีใสแล้วนะยะ" มันกูดูเหมือนตุ่มยุงกัดธรรมดาๆ ไม่มีไข้ ไม่มีอาการคันใดๆ เป็นได้ 2 วันก็ไปพบคุณหมอตามนัดครรภ์ปกติ แต่รอบนี้ จขกท เจาะเลือดตรวจคัดกรอง + ซาวน์ด้วยคะ ผลการตรวจก็ปกติดี เจ้าตัวเล็กหันก้นให้ดู เตะขา Say Hi ปาป๊า+มาม๊า ไม่ยอมโชว์เพศให้ดู (ลุ้นต่อไป) พอเจอคุณหมอเราก็ถามสารพัดว่า จะเป็นหัดเยอรมันไหมคะ ทานนั้นโน้นนี่ได้ไหมคะ แต่ดันลืมถามเรื่องอีสุกอีใส ซะอย่างงั้น และผ่านไปอีก 2 วัน(เท่ากับ 4 วัน) จขกท เริ่มสังเกตุว่า ตุ่ม 3 ตุ่มมันเริ่มพองตัวเป็นเม็ดใสๆ แอบอยากจะกรี๊ดว่างานเข้าแล้วไง แต่ก็กลัวลูกจะขี้วีน+เสียใจ ก็ได้แต่ยิ้มฝืดๆ ลูบท้องไปมาแล้วพูดว่า มาม๊าได้แจคพ๊อตละลูก มีท้องแรกก็เป็นอีสุกอีใสด้วยเลย ก็ลงไปถามคุณสามีกับที่บ้านว่า นี่คืออีสุกอีใสใช่ไหม ทุกคนพยักหน้าพร้อมเพรียงกันว่า "ใช่" และปรอบใจว่า เป็นนิดเดียวเองแค่ 3 ตุ่ม หึ...ไม่รู้อะไรซะแล้ว เหมือนมันจะรู้ว่ามีตุ่มน้อย ตกวันรุ่งขึ้น มันพากันมาเป็นฝูงเลยคร๊าาา... ท้อง หลัง หัวไหล่ หน้า และหัวมันพร้อมใจกันขึ้นภายในคืนเดียว...นี่จะสามัคคีกันไปถึงไหนนน....พอเจอคุณหมอ คุณหมอบอก ไม่เป็นไรนะ เราก็ 15w น้องมีร่างกายครบแล้วคุณแม่ทำใจให้สบาย ไม่ต้องทานยาใด เดี๋ยวเขาจะหายไปเอง ถ้าคันก็ทาคาามายด์ได้นะ คุณแม่อย่าเครียดพักผ่อน ดื่มน้ำให้มากๆ แล้วก็จริงอย่างที่คุณหมอแนะนำ เราเป็นวันที่ 6 ตุ่มมันยังคงลามและคันอยู่บ้าง แต่พอเข้าวันที่ 7 ก็เริ่มไม่คัน ตุ่มทั้งหลายพร้อมใจกันยุบตัวลง(สามัคคีเรื่องดีๆ ก็เป็น) แห้งและมีแตกบ้าง จขกท ก็รักษาตัวเองด้วยการอาบน้ำด้วยสบู่เหลวที่แอนตี้แบคทีเรีย ไม่ทำตัวให้ร้อน เหงื่อออกมาก ทายาเบตาดีนแบบครีมเพื่อกันเชื้อกระจายกับทุกๆ ตุ่มที่มันโผล่ ตามด้วยวิตามินอี ทาเฉพาะจุดที่แห้งเป็นสีดำแล้ว และถ้าคันก็ใช้คารามายด์ทา บางทีเราคันแต่ไม่มีตุ่มก็ทากันไว้ก่อน แค่นี้ก็ช่วยได้แล้วละคะ จากประสบการณ์นี้ อยากจะบอกคุณแม่ๆ ทุกคนนะคะว่า อย่าตั้งตนในความไม่ประมาท ไปไหนมาไหนพอเจอคนป่วย(ที่แบบว่ามันติดต่อกันได้) หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลยนะคะ เพราะขณะที่เราตั้งครรภ์อยู่นั้นภูมิคุ้มกันของเราจะลดลง มีโอกาสที่จะติดโรคได้ง่ายๆ ยังไง จขกท.ขอเป็นกำลังใจใหุ้คุณแม่ทุกๆ คนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง กันนะคะ หรือคุณแม่คนไหนที่ประสบปัญหาเดียวกันอยู่ก็ขอให้หายเร็วๆ นะคะ
เป็นอีสุกอีใสตอนตั้งครรภ์ได้ 14 สัปดาห์
ในเมื่ออีสุกอีใสเป็นแล้วจะไม่เป็นอีก อยากจะเล่า ประสบการณ์จริงให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และว่าที่คุณแม่ให้ฟังกันนะคะ ตอนนี้ จขกท.ตั้งครรภ์ได้ 16 สัปดาห์เต็มกับวันที่เขียนกระทู้เลยละคะ เป็นการตั้งครรภ์แรกของ จขกท อีกด้วย เอาละขอเริ่มแชร์ประสบการณ์กันเลยนะคะ
เริ่มจากคุณหลานที่บ้านเป็นอีสุกอีใส เราเองก็อยู่ห่างๆ ย้ำว่าห่างกันจริงถึงขั้นเนรเทศตัวเองออกนอกบ้านไปเลยทีเดียว (น่าเศร้าไหมละคะ) พอคนที่บ้านเห็นว่าคุณหลานหายแล้ว ก็เรียกตัวเรากลับบ้าน เราก็กลับสิคะ อยู่ที่บ้านได้สักแปรปปป ก็เริ่มมีตุ่มเม็ดแดงๆ ขึ้น 3 จุด โดยเริ่มที่ขอบกางเกงใน 2 จุดและ ใกล้ สะดือ 1 จุด ตอนนั้นตั้งครรภ์ได้ 14 ย่าง 15 w แล้วคะ เราก็ไม่เอะใจอะไรเพราะไม่มีอาการที่จะบอกเราว่า "คุณเป็นอีสุกอีใสแล้วนะยะ" มันกูดูเหมือนตุ่มยุงกัดธรรมดาๆ ไม่มีไข้ ไม่มีอาการคันใดๆ เป็นได้ 2 วันก็ไปพบคุณหมอตามนัดครรภ์ปกติ แต่รอบนี้ จขกท เจาะเลือดตรวจคัดกรอง + ซาวน์ด้วยคะ ผลการตรวจก็ปกติดี เจ้าตัวเล็กหันก้นให้ดู เตะขา Say Hi ปาป๊า+มาม๊า ไม่ยอมโชว์เพศให้ดู (ลุ้นต่อไป) พอเจอคุณหมอเราก็ถามสารพัดว่า จะเป็นหัดเยอรมันไหมคะ ทานนั้นโน้นนี่ได้ไหมคะ แต่ดันลืมถามเรื่องอีสุกอีใส ซะอย่างงั้น และผ่านไปอีก 2 วัน(เท่ากับ 4 วัน) จขกท เริ่มสังเกตุว่า ตุ่ม 3 ตุ่มมันเริ่มพองตัวเป็นเม็ดใสๆ แอบอยากจะกรี๊ดว่างานเข้าแล้วไง แต่ก็กลัวลูกจะขี้วีน+เสียใจ ก็ได้แต่ยิ้มฝืดๆ ลูบท้องไปมาแล้วพูดว่า มาม๊าได้แจคพ๊อตละลูก มีท้องแรกก็เป็นอีสุกอีใสด้วยเลย ก็ลงไปถามคุณสามีกับที่บ้านว่า นี่คืออีสุกอีใสใช่ไหม ทุกคนพยักหน้าพร้อมเพรียงกันว่า "ใช่" และปรอบใจว่า เป็นนิดเดียวเองแค่ 3 ตุ่ม หึ...ไม่รู้อะไรซะแล้ว เหมือนมันจะรู้ว่ามีตุ่มน้อย ตกวันรุ่งขึ้น มันพากันมาเป็นฝูงเลยคร๊าาา... ท้อง หลัง หัวไหล่ หน้า และหัวมันพร้อมใจกันขึ้นภายในคืนเดียว...นี่จะสามัคคีกันไปถึงไหนนน....พอเจอคุณหมอ คุณหมอบอก ไม่เป็นไรนะ เราก็ 15w น้องมีร่างกายครบแล้วคุณแม่ทำใจให้สบาย ไม่ต้องทานยาใด เดี๋ยวเขาจะหายไปเอง ถ้าคันก็ทาคาามายด์ได้นะ คุณแม่อย่าเครียดพักผ่อน ดื่มน้ำให้มากๆ แล้วก็จริงอย่างที่คุณหมอแนะนำ เราเป็นวันที่ 6 ตุ่มมันยังคงลามและคันอยู่บ้าง แต่พอเข้าวันที่ 7 ก็เริ่มไม่คัน ตุ่มทั้งหลายพร้อมใจกันยุบตัวลง(สามัคคีเรื่องดีๆ ก็เป็น) แห้งและมีแตกบ้าง จขกท ก็รักษาตัวเองด้วยการอาบน้ำด้วยสบู่เหลวที่แอนตี้แบคทีเรีย ไม่ทำตัวให้ร้อน เหงื่อออกมาก ทายาเบตาดีนแบบครีมเพื่อกันเชื้อกระจายกับทุกๆ ตุ่มที่มันโผล่ ตามด้วยวิตามินอี ทาเฉพาะจุดที่แห้งเป็นสีดำแล้ว และถ้าคันก็ใช้คารามายด์ทา บางทีเราคันแต่ไม่มีตุ่มก็ทากันไว้ก่อน แค่นี้ก็ช่วยได้แล้วละคะ จากประสบการณ์นี้ อยากจะบอกคุณแม่ๆ ทุกคนนะคะว่า อย่าตั้งตนในความไม่ประมาท ไปไหนมาไหนพอเจอคนป่วย(ที่แบบว่ามันติดต่อกันได้) หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลยนะคะ เพราะขณะที่เราตั้งครรภ์อยู่นั้นภูมิคุ้มกันของเราจะลดลง มีโอกาสที่จะติดโรคได้ง่ายๆ ยังไง จขกท.ขอเป็นกำลังใจใหุ้คุณแม่ทุกๆ คนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง กันนะคะ หรือคุณแม่คนไหนที่ประสบปัญหาเดียวกันอยู่ก็ขอให้หายเร็วๆ นะคะ