สิ่งที่ผมเรียกมันว่า "แต้มต่อ"
พอดีเมื่อวานได้ซื้อแทบเล็ต sumsung galaxty note 8 จากเพื่อนนักลงทุนในห้องสินธร
นัดส่งของกันที่บ้านใร่กาแฟเอกมัย
ก็เลยได้คุยกันหลายๆเรื่อง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++ๅๅๅๅ
เมื่อวานนั่งคุยกัน ๓ คน ก็คุยกันเพลินประมาณ สองชั่วโมง
สรุปที่คุยกัน เท่าที่จำได้มีดังนี้
๑ ผมถามคุณต๊อกว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณต๊อกคือคนกลุ่มไหน
คำตอบทำเอาแปลกใจมาก คุณต๊อกบอกว่า คนวัยทำงาน
ส่วนใหญ่จะซื้อเพราะเหตุผลที่ฟังดูแล้วมันยังไงชอบกลสำหรับคนรุ่นอย่างผม
คือจะซื้อสมารท์โฟน แท็บเล็ตเพราะ
"ฆ่าได้ หยามไม่ได้" อ้าวรุ่นล่าสุดเอ็งมีแล้ว งั้นข้าก็ต้องมีเหมือนกัน
ไปๆมาๆ คุณต๊อกกับพ่อค้ามือถือแท็บเล็ต เลยรวยเอา รวยเอา ไม่ฮานะ
๒ คุณต๊อกยังซื้อขายหุ้นสไตล์เดิมคือ หุ้นต่ำบาท
แต่ได้เสริมการดูกราฟ โดยเน้นกราฟแท่งเทียน และวอลุ่มเป็นหลัก
คุณต๊อกบอกว่า หุ้นปั่น ไม่มีทางขึ้นโดยไม่มีวอลุ่ม เลยต้องสังเกตุให้ดีๆ
ส่วนหุ้นที่ซื้อแล้วถือไว้นานๆ จะดูกราฟและปัจจัยพื่นฐานประกอบ
จะซื้อเก็บไว้จนกำไรเกินสองหรือสามเท่า
ผมเลยออกความเห็นว่า
ความรู้ในตลาดหุ้น เราไม่จำเป็นต้องรู้ไปหมด
รู้มาก ยังสู้ รู้น้อยแต่รู้ให้ลึกไม่ได้
เหมือนกับคุณต๊อก ก็ต้องเลือกใช้แค่กราฟแท่งเทียนและวอลุ่ม
โดยเน้นที่กรอบเวลา รายวันเป็นหลัก
๓ อันนี้ทึ่งมากเลย
ผมถามทั้งคุณบลู และคุณต๊อกว่า
มีจุดคัทลอสหรือไม่
คำตอบเหมือนกันคือ "ไม่มี" !!!!!!!!!!!!!!!!
เหตุผลที่ไม่มีจุดคัทลอส
คุณบลูบอกว่า จะไม่ยอมซื้อหุ้น ตราบใดที่ไม่มี "แต้มต่อตามที่ต้องการ"
ดังนั้น จึงเชื่อว่า ราคาที่ซื้อ ไม่จำเป็นต้องคัทลอส ถือรอเจ้ามือมาปั่นก็พอแล้ว
ส่วนคุณต๊อกบอกว่า
หุ้นที่ซื้อแบบถือยาวรอสองสามเด้ง จะไม่มีจุดคัทลอส
ส่วนหุ้นปั่น จะตั้งจุดคัทลอสไว้ประมาณ ๕ เปอร์เซนต์ (ไม่แน่ใจว่าจำผิดหรือเปล่า)
พอดีหุ้นเกือบเก้าสิบเปอร์เซนต์ เป็นหุ้นที่กะจะถือยาว
เลยไม่ได้ตั้งจุดคัทลอสไว้
เพราะได้ตามดูหุ้นตัวนั้นๆ มานานหลายเดือน
จนแน่ใจว่า มันเป็นจุดต่ำสุด ทั้งทางกราฟ และทางปัจจัยพื้นฐานแล้ว
ก็เลยทะยอยซื้อสะสม ตอนวอลุ่มหาย กราฟเป็นเส้นตรงที่ขอบล่างสุดนานหลายเดือน
หุ้นที่กะจะฟันสองสามเด้ง
คือหุ้นตัวเดียวกับที่คุณปิยะพันธ์ วงศ์นราเจ้าของ สต๊อกทูมอร์โรว์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
๔ ผมสรุปเอาเองว่า
ทุกวิธีการ ต้องมีการต่อยอด ดัดแปลง ประยุกต์ใช้ ให้เหมาะกับตัวเราเอง
แต่ที่เห็นตรงกันคือ จะไม่ซื้อหุ้นตัวไหน ถ้าเชื่อว่า เครื่องมือที่เราใช้ซื้อหุ้น
ราคาหุ้นไม่ได้มีแต้มต่อในหุ้นตัวนั้น
และแต่ละคน จะมีหุ้นทีถูกโฉลกกับตัวเอง
๕ ใครที่ฝืนภาพประกอบนี้ได้
เชื่อว่ายังไงก็ได้กำไรจากตลาดหุ้นแน่ๆ
วันนั้นผมเอ่ยชื่อคนที่ผมคุ้นเคย และเชื่อว่า จะได้กำไรจากตลาดหุ้นแน่ๆคือ
คุณธราธิป คุณหน่อง ใช้แนวกราฟ
คุณกระต่ายป่า ใช้แนวปัจจัยพื้นฐาน
คุณdriverblue ใข้แนว ต้นทุนราคาหุ้นที่เจ้ามือทั้งแด๊กส์ด่วนและตัวจริงซื้อ
+
samsung galaxy note 8 รุ่น ๔ จี
+
๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ต่างคน ต่างแนวทาง แต่ที่มีเหมือนกันคือ.....
พอดีเมื่อวานได้ซื้อแทบเล็ต sumsung galaxty note 8 จากเพื่อนนักลงทุนในห้องสินธร
นัดส่งของกันที่บ้านใร่กาแฟเอกมัย
ก็เลยได้คุยกันหลายๆเรื่อง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++ๅๅๅๅ
เมื่อวานนั่งคุยกัน ๓ คน ก็คุยกันเพลินประมาณ สองชั่วโมง
สรุปที่คุยกัน เท่าที่จำได้มีดังนี้
๑ ผมถามคุณต๊อกว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณต๊อกคือคนกลุ่มไหน
คำตอบทำเอาแปลกใจมาก คุณต๊อกบอกว่า คนวัยทำงาน
ส่วนใหญ่จะซื้อเพราะเหตุผลที่ฟังดูแล้วมันยังไงชอบกลสำหรับคนรุ่นอย่างผม
คือจะซื้อสมารท์โฟน แท็บเล็ตเพราะ
"ฆ่าได้ หยามไม่ได้" อ้าวรุ่นล่าสุดเอ็งมีแล้ว งั้นข้าก็ต้องมีเหมือนกัน
ไปๆมาๆ คุณต๊อกกับพ่อค้ามือถือแท็บเล็ต เลยรวยเอา รวยเอา ไม่ฮานะ
๒ คุณต๊อกยังซื้อขายหุ้นสไตล์เดิมคือ หุ้นต่ำบาท
แต่ได้เสริมการดูกราฟ โดยเน้นกราฟแท่งเทียน และวอลุ่มเป็นหลัก
คุณต๊อกบอกว่า หุ้นปั่น ไม่มีทางขึ้นโดยไม่มีวอลุ่ม เลยต้องสังเกตุให้ดีๆ
ส่วนหุ้นที่ซื้อแล้วถือไว้นานๆ จะดูกราฟและปัจจัยพื่นฐานประกอบ
จะซื้อเก็บไว้จนกำไรเกินสองหรือสามเท่า
ผมเลยออกความเห็นว่า
ความรู้ในตลาดหุ้น เราไม่จำเป็นต้องรู้ไปหมด
รู้มาก ยังสู้ รู้น้อยแต่รู้ให้ลึกไม่ได้
เหมือนกับคุณต๊อก ก็ต้องเลือกใช้แค่กราฟแท่งเทียนและวอลุ่ม
โดยเน้นที่กรอบเวลา รายวันเป็นหลัก
๓ อันนี้ทึ่งมากเลย
ผมถามทั้งคุณบลู และคุณต๊อกว่า
มีจุดคัทลอสหรือไม่
คำตอบเหมือนกันคือ "ไม่มี" !!!!!!!!!!!!!!!!
เหตุผลที่ไม่มีจุดคัทลอส
คุณบลูบอกว่า จะไม่ยอมซื้อหุ้น ตราบใดที่ไม่มี "แต้มต่อตามที่ต้องการ"
ดังนั้น จึงเชื่อว่า ราคาที่ซื้อ ไม่จำเป็นต้องคัทลอส ถือรอเจ้ามือมาปั่นก็พอแล้ว
ส่วนคุณต๊อกบอกว่า
หุ้นที่ซื้อแบบถือยาวรอสองสามเด้ง จะไม่มีจุดคัทลอส
ส่วนหุ้นปั่น จะตั้งจุดคัทลอสไว้ประมาณ ๕ เปอร์เซนต์ (ไม่แน่ใจว่าจำผิดหรือเปล่า)
พอดีหุ้นเกือบเก้าสิบเปอร์เซนต์ เป็นหุ้นที่กะจะถือยาว
เลยไม่ได้ตั้งจุดคัทลอสไว้
เพราะได้ตามดูหุ้นตัวนั้นๆ มานานหลายเดือน
จนแน่ใจว่า มันเป็นจุดต่ำสุด ทั้งทางกราฟ และทางปัจจัยพื้นฐานแล้ว
ก็เลยทะยอยซื้อสะสม ตอนวอลุ่มหาย กราฟเป็นเส้นตรงที่ขอบล่างสุดนานหลายเดือน
หุ้นที่กะจะฟันสองสามเด้ง
คือหุ้นตัวเดียวกับที่คุณปิยะพันธ์ วงศ์นราเจ้าของ สต๊อกทูมอร์โรว์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
๔ ผมสรุปเอาเองว่า
ทุกวิธีการ ต้องมีการต่อยอด ดัดแปลง ประยุกต์ใช้ ให้เหมาะกับตัวเราเอง
แต่ที่เห็นตรงกันคือ จะไม่ซื้อหุ้นตัวไหน ถ้าเชื่อว่า เครื่องมือที่เราใช้ซื้อหุ้น
ราคาหุ้นไม่ได้มีแต้มต่อในหุ้นตัวนั้น
และแต่ละคน จะมีหุ้นทีถูกโฉลกกับตัวเอง
๕ ใครที่ฝืนภาพประกอบนี้ได้
เชื่อว่ายังไงก็ได้กำไรจากตลาดหุ้นแน่ๆ
วันนั้นผมเอ่ยชื่อคนที่ผมคุ้นเคย และเชื่อว่า จะได้กำไรจากตลาดหุ้นแน่ๆคือ
คุณธราธิป คุณหน่อง ใช้แนวกราฟ
คุณกระต่ายป่า ใช้แนวปัจจัยพื้นฐาน
คุณdriverblue ใข้แนว ต้นทุนราคาหุ้นที่เจ้ามือทั้งแด๊กส์ด่วนและตัวจริงซื้อ
+
samsung galaxy note 8 รุ่น ๔ จี
+