อ้อมแอ้มสาวน้อยผู้แสนสดใสชักจะสดใสไม่ออก เมื่อต้องเสียบ้านทั้งหลังซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายไปในชั่วเวลาไม่กี่วันโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวว่าบ้านที่เต็มไปด้วยความรักความหลังมีเงาทอดยาวของความสุขในครอบครัวจะหลุดมือเธอไป บ้านหลังนี้เป็นเหมือนตัวแทนสายใยผูกพันระหว่างเธอกับพ่อผู้แสนดีซึ่งจากเธอไปก่อนวัยกันควร หากเมื่อโชคชะตาเล่นตลก ชีวิตของเธอเดินมาถึงทางตัน บ้านหลุดมือ ไร้ที่อยู่ถ้ายังไม่หนักแอ้มต้องตกเป็นหนี้บุญคุณใครคนหนึ่ง เขาปากร้าย ก้าวร้าว เอาแต่ใจ และ ทำเธอปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน แต่ก็อีกน่ะแหละ เงื่อนไขที่เขาเสนอ ... มันก็ไม่เลวนัก ในเมื่อจำเป็นต้องตกกระไดพลอยโจนไปกับแผนการพิลึกพิลั่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ก็พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเสียสิ เวลาสองปี กับงานจิปาถะในที่ที่เธอเคยคุ้น และ การออกงานคู่ตามสมควร แป๊บเดียวเท่านั้นแหละแอ้ม ... เธอจะได้บ้านคืน

ส่วนไมค์ ... รายนี้คือซุปตาร์หนุ่มเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ ขี้โมโห เป๊ะ เนี้ยบ และ อีกหลายหลากมากมาย ชีวิตที่กดดันด้วยงานในวงการบันเทิง ความคับแค้นในใจเรื่องน้องสาว การปักใจผู้หญิงคนหนึ่งอย่างยาวนาน หวังไปวัน ๆ โดยไม่มีสิ่งใดตอบกลับมากำลังจะทำให้ไมค์ถึงจุดระเบิด แล้วมันก็ระเบิดจริง ๆ เมื่ออะไรในใจไมค์ขาดผึงยามโดนผู้หญิงที่ตัวเองใฝ่ใจมาตลอดตั้งคำถามว่ารักเธอหรือไม่ ... ทั้งที่เพิ่งปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยก่ออนหน้านั้นไม่นาน และแล้วไมค์ก็สลัดเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงทิ้ง ยกอารมณ์ขึ้นมาเป็นเจ้าเรือนแล้วประชดมินผู้หญิงที่ตัวเองคิดว่ารักคิดว่าขาดไม่ได้ ด้วยการจูบผู้หญิงอีกคนซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรทั้งสิ้นต่อหน้าสาธารณชน จนทำให้สัญญาและเงื่อนไขชนิดพิสดารเกิดขึ้นในที่สุด

เวลา 2 ปี ภายใต้การแต่งงานหวานชื่นหลอก ๆ พร้อมการทำงานบ้าน และ ออกงานอีกนิดหน่อย ไมค์เดอะซุปตาร์ก็จะคืนบ้านให้อ้อมแอ้ม อรดี ... อย่างไร้เงื่อนไขอื่นใด หากมองดูแล้ว "บ้าน" สำหรับไมค์เป็นเพียงสิ่งก่อสร้างอย่างหนึ่งไม่มีความหมายอะไรมากไปกว่านั้น เป็นวัตถุที่ซื้อมาขายไปและจะยกให้ใครก็ได้ถ้าพอใจ ยามเด็กไมค์มีพ่อผู้ซึ่งเก็บอารมณ์ ... ซึ่งก็เป็นธรรมดาของผู้ชายที่เป็นหลักของบ้านโดยทั่วไป ไม่ช่างพูดเจรจา หรือ อธิบาย คำตอบคือความเงียบ นิ่ง สุขุม จนอาจแปรความได้ว่าเย็นชา "บ้าน" ในความคิดของไมค์จึงมีสถานะแค่ House เท่านั้น แม้ไมค์จะผูกพันกับแม่กับย่าแต่ "บ้าน" ก็ไม่มีสิ่งดึงดูดอะไรที่ให้ต้องกลับไป นอกจากความหลังที่เจ็บปวดไร้คำตอบ และ ภาพจำในอาการไร้รอยตอบสนองของผู้เป็นบิดา

ในขณะที่แอ้มแอ้มมองบ้านเป็น Home คือ อนุสรณ์ของความรักความอบอุ่นภายในครอบครัว  บ้านน้อยของแอ้มที่ไมค์ครอบครองอยู่ ณ ตอนนี้ มันเต็มไปด้วยเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหมือนจิ๊กซอร์ต่อกันเป็นภาพใหญ่ จะมองไปที่ใดก็พบความผูกพันในครอบครัว จะมองไปทางใดก็มีความทรงจำที่อบอุ่น คอยย้ำเตือนให้แอ้มไม่ลืมอะไร ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ต้นไม้ดอกไม้ใบหญ้ากำแพงบ้านล้วนมีเรื่องราวน่าจดจำ ต้นไม้นี้ใครปลูกนะ ปลูกเมื่อไหร่ รูปตรงกำแพงนี้ ใครวาดนะ วาดเพราะอะไร มันคือเรื่องราวให้ย้อนระลึกเพื่อสร้างกำลังใจ เพื่อคิดถึงเรื่องราวดี ๆ ส่วนหนึ่งที่ไมค์ให้แอ้มอยู่ด้วย ... ก็น่าจะเป็นตอนที่ไมค์แอบอ่านไดอะรี่ที่แอ้มเขียนถึงพ่อ และ บ้าน

ใจหนึ่งไมค์มีภาพว่าบ้านก็คืออิฐคือปูน ความแข็งแรงของมันขึ้นอยู่กับวิศวกร ความสวยงามขึ้นอยู่กับสถาปนิก แต่เมื่อได้พบถ้อยคำต่าง ๆ นานาในบันทึกของแอ้ม นอกจากความเห็นใจที่เป็นนิสัยน่ารักมุมนึงของไมค์แล้ว ไมค์คงอยากจะรู้เหมือนกันว่าบ้านที่แข็งแรงด้วยรัก และ งดงามด้วยความทรงจำ จะเป็นประการใด ซึ่งไมค์ก็ได้สัมผัสสิ่งเหล่านั้นจากผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างอ้อมแอ้มนี่เอง เมื่อยามที่อยู่ด้วยกันแม้จริง ๆ แล้วทั้งไมค์และแอ้มถือเป็นคนแปลกหน้า แต่สาวน้อยที่เติบโตมาด้วยความรักและอบอุ่น อยู่ใกล้ใครคนไหนมีหรือจะไม่ทำให้คน ๆ นั้นได้อุ่นใจไปด้วย

ด้วยความใส่ใจเข้าใจเห็นอกเห็นใจของแอ้มที่มีต่อไมค์ ทำให้ไมค์เปลี่ยนไป ไมค์ไม่จำเป็นต้องซีเรียส เคร่งเครียด หรือ เป๊ะ ต่อหน้าคน ๆ นี้ ไมค์สามารถจะดำเนินการทะเลาะเบาะแว้ง เปล่งเสียงหัวเราะ หรือแม้แต่หลั่งน้ำตากับอ้อมแอ้มได้ บ้านหลังนี้จึงกลายเป็นที่พักพิงหัวใจให้กับไมค์ ไม่ใช่เพราะมันหรูมันสวย หรือ มันแพง ไม่ใช่เพราะมันเป็นที่คุ้มแดดคุ้มฝนให้ แต่เป็นเพราะมีใครที่ทำให้หัวใจที่เก็บเรื่องราวมากมายของไมค์ได้ผ่อนคลายได้ระบายออก จนสามารถพลิกมุมมองชื่นชมต่อความสวยงามรอบข้าง ชีวิตของไมค์ไม่ได้จำกัดกรอบอยู่ในตู้ปลาอย่างที่เข้าใจ ไมค์เห็นสีสันของท้องฟ้า ผืนน้ำ สัมผัสสายลม แสงแดด และ เสียงนกร้อง เมื่อวันที่อ้อมแอ้มเข้ามาในชีวิต

ขณะเดียวกันเมื่อแอ้มมีไมค์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต ถึงจะสดใสอย่างไรแต่เหตุการณ์ที่เธอประสบมาก็ทำให้เธอแทบล้มคว่ำ แต่ก็เป็นโชคที่เธอผ่านมาเจอผู้ชายใจดีอย่างไมค์ แม้จะเป็นคนใจร้อน ก้าวร้าว ปากเสีย ขี้วีน แต่แอ้มก็รู้ว่าภายใต้ท่าทีเหล่านั้นมีความใจดีซ่อนอยู่ ไมค์ไม่จำเป็นจะต้องให้ที่พักพิงเธอก็ได้แต่เค้าก็ให้ จะแจ้งความก็ได้แต่ไม่ทำ กลับให้เธออยู่ด้วย และ คอยดูแลใส่ใจรวมถึงให้กำลังใจแบบไมค์สไตล์ มันอาจจะน่าโมโห มันจะไม่สบอารมณ์ แต่มันก็คือความจริงใจ เมื่อเรียนรู้กันไปเรื่อย ๆ แอ้มเห็นถึงความอ่อนหวาน ความน่ารัก และ ซื่อตรงของไมค์ ผ่านการแสดงออกต่อคนอื่น และ เธอก็เห็นด้วยเช่นกันว่าไมค์พยายามอย่างหนักที่จะเป็นหลักให้เธอ พยายามที่จะเข้าใจเธอ และ พยายามที่จะให้อ้อมแอ้มเข้าใจตัวเอง อาจจะผิดวิธีอาจจะทำให้โมโหแต่ก็เห้นได้ว่าตั้งใจมากจริง ๆ ที่เรียนรู้เธอไปพร้อม ๆ กับที่เธอเรียนรู้เขา

ด้วยความแตกต่างที่เติมเต็มเช่นนี้เอง ไม่อยากเลยที่ตอนนี้บ้านในความรับรู้ของอ้อมแอ้มและไมค์จะจูนเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว บ้านกลายเป็น Home ที่ทั้งสองคนได้แต่งแต้มความทรงจำและความผูกพันขึ้นมา ไมค์ได้รู้ว่าบ้านที่แข็งแรงด้วยรักและงดงามด้วยเรื่องราวมันเป็นอย่างไร รับรู้ฝังใจกระทั่งเกิดปัญหาเมื่อไมค์คิดถึงสัญญากับใครอีกคนไว้ว่าจะไม่ทิ้งกัน ด้านแอ้มเองก็ไม่แน่ใจกับท่าทีของผู้ชายปากหนักที่อยู่ร่วมบ้านกันมาแรมเดือน ด้วยการเข้ามาของพี่กายและด้วยสัญญาที่ไมค์มีกับมิน ก็ถึงคราวที่นิยามของ "บ้าน" ของทั้งสองคนถูกทดสอบ ความรัก ความทรงจำ และ ความผูกพันที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ จะมีพลังอำนาจ จะมีคุณค่าพอที่จะทำให้แต่ละฝ่ายตัดบ่วงปัญหาเรื่องราวต่าง ๆ ไปได้หรือไม่

เมื่อมีเหตุที่จะต้องจากร้างลากันไป...ด้วยเหตุผลที่คิดแล้วตรองแล้วว่าดีที่สุดสำหรับอีกฝ่าย เมื่อไมค์เลือกจะหยิบยื่นความเจ็บปวดให้กับตัวเอง ไม่ปรารถนาให้อ้อมแอ้มต้องเจ็บปวดเพราะการกระทำของตนอีกต่อไป เมื่อใดที่มองเห็นความสุของผู้อื่นเหนือตัวเองเมื่อนั้นก็คือความรักเปิดประตูทักทาย เมื่อแอ้มพร้อมหยิบยื่นความเจ็บปวดให้กับตัวเองไม่ดันทุรังเพื่อเปิดทางให้ไมค์ได้ดูแลคนที่เลือกแล้ว นั่นก็คือความรักเปิดประตูทักทายเช่นเดียวกัน  ซึ่งท้ายที่สุดเมื่อผ่านการคิดผ่านจิตที่นิ่งผ่านช่วงเวลาระยะหนึ่ง ทั้งคู่ก็ได้ตระหนักว่า ... ไม่มีผู้ใดจะเป็นบ้านของไมค์ได้เท่าแอ้ม และ ไม่มีผู้ใดจะเป็นบ้านของแอ้มได้เท่าไมค์อีก ทั้งไมค์และแอ้มก้าวข้ามผ่านสิ่งที่เป็นวัตถุ รวมทั้งความเหมาะสมต่าง ๆ นานาไปแล้ว  เราต่างคนมีความสุขเมื่ออยู่ที่ไหน ไม่ใช่บ้านหลังนี้หรอกหรือ ที่มีเธอและมีฉัน

ในวันนี้ไมค์และแอ้มจึงได้เข้าใจตรงกันว่า บ้านมิใช่เพียงการเติมเต็มทางวัตถุแต่เป็นการเติมเต็มทางอารมณ์ความรู้สึกของคนสองคนที่สอดประสานร้อยเกี่ยวเป็นหนึ่งเดียวและร่วมสร้างความทรงจำด้วยกัน ในนัยยะของความเป็น "บ้าน" บ้าน full house คือ สิ่งปลูกสร้างที่หล่อเลี้ยงความความรักและผูกพัน แต่สิ่งที่แอ้มและไมค์พบ คือ ความหมายของ "บ้าน"  ซึ่งเป็นอีกนิยามหนึ่งที่สำคัญ คือ บ้านที่อบอุ่นที่สุดนั้น ได้แก่ หัวใจของแต่ละฝ่ายนั่นเอง







จบ ... รีวิวละครไทยครั้งแรกค่ะ ขอขอบคุณผู้ที่ติดตามรีวิว และ ผู้รายงานสดทุกท่าน รวมถึงทีมงานฟูลเฮ้าส์ค่ะ เป็นไทแก่ตัวแล้ว เย้ !

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

วุ่นนักรักเต็มบ้าน (คาแร็คเตอร์รีวิว) : Under the Nice GUY's sleeve ,Nice Guy หลายมิติ
http://ppantip.com/topic/31741734

วุ่นนักรักเต็มบ้าน (คาแรคเตอร์รีวิว) : มินตรา ... เรียกเธอว่า Egoistic Girl
http://ppantip.com/topic/31745795

วุ่นนักรักเต็มบ้าน (คาแร็คเตอร์รีวิว) : อ้อมแอ้ม ... She is sugar. She is spice and she is everything nice.
http://ppantip.com/topic/31750456

วุ่นนักรักเต็มบ้าน (คาแร็คเตอร์รีวิว) : Mike .. boyish mature and in between.
http://ppantip.com/topic/31762092