อุตสาหกรรมยานยนต์ถือว่าพัมนามาก่อนด้านไอทีมาก แต่ไอทีนี้ถือว่าพัฒนาไปได้เร็วกว่ามาก
ซึ่งสาเหตุหนึ่งส่วนตัวคิดว่าคงเป็นเพราะการแยกภาคผลิตกัน ทำให้การพัฒนาเปิดโอกาศให้มีการนำเสอนที่หลากหลาย และเป็นอิสระในการพัฒนามากกว่า
ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ถูกจำกัดที่ทั้งคันจะต้องเป็นผู้ผลิตเจ้าเดียว ทำให้การพัฒนาเป็นไปได้ช้ากว่า หรือถึงแม้จะมีเทคโนโลยี่ที่ล้ำหน้า แต่ก็ไม่สามารถนำออกผลิดขายได้ เพราะไม่ได้แยกกันผลิต
ถ้าหากว่าติดปัญหาเรื่องสิทธิบัตรของเทคโนโลยี จะว่าไปของไอทีเองก็มีสิทธิบัตรเหมือนกันนะแต่เขาทำข้อตกลงและแยกผลิตกันได้
อุตสาหกรรมยานยนต์เองถ้าจะทำเรื่องสิทธิบัตรก็ไม่น่าจะมีปัญหา
ลองคิดว่าถ้าหากแยกพัฒนาและผลิตกันได้จะมีรถแบบล้ำหน้า ออกมาแบบก้าวกระโดดไม่ต่างจากไอทีนะผมว่า
ขออธิบายเพิ่มเติม โดยยกความเห็นของตัวเองข้างล่างมานะครับ
ตัวอย่าง บริษัท A ไม่ได้ผลิต เครื่อง , ล้อ เอง แต่เขาออกแบบเครื่องโดยรวมแล้วไปใช้ชิ้นส่วนสำคัญๆ จากผู้ผลิตรายอื่น เช่น เครื่อง จาก บริษัท B , ล้อ จาก บริษัท C แล้วก็ไปจ้าง บริษัท D ผลิตส่วนอื่นๆและประกอบและผลิตเป็นเครื่องออกมา ตั้งชื่อสินค้าว่า E อะไรประมานี้ครับ
และเครื่อง E ออกมาก็ทำให้ผู้บริโภคนิยมมาก เขาก็จะจดจำเฉพาะบริษัท A โดยไม่ได้ไปสนว่าจะใช้ เครื่อง จากบริษัทอะไร
ถึงแม้บริษัท B ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องให้เอง มาทำเป็นรถทั้งคันขาย ผู้บริโภคก็อาจจะไม่ชอบ เหมือนกับ ยี่ห้อ E จากบริษัท A แบบนี้ครับ บริษัท B เองก็ผลันตัวไปผลิตเฉพาะเครื่องอย่างเดียว ส่งให้บริษัทอื่นๆ ทำรถออกมาขายแข่งกัน เป็นต้นครับ
พอมีบริษัทที่ทำเฉพาะสิ้นส่วนสำคัญเช่นเครื่องขาย ทีนี้ก็จะเกิดบริษัท หรือยี่ห้ออื่นตามมา ซึ่งก็จะแข็งขันกันในด้านต่างๆ ผู้ผติดเฉพาะเครื่องปีหนึ่ง ๆ อาจจะผลิตได้เยอะมากกว่าไปผลิตเป็นรถทั้งคนก็ได้ ในขณะเดียวกันก็มุ่งพัฒนาไปเฉพาะส่วนของตนคือ ไปพัฒนาเครื่องอย่างเดียว ผมจึงว่าแบบนี้มันจะเป็นการกระจายการพัฒนาได้เร็วกว่า แบบภายใต้บริษัทเจ้าเดิม
ทำไมอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่แยกกันผลิตเหมือนกับอุตสาหกรรมไอที
ซึ่งสาเหตุหนึ่งส่วนตัวคิดว่าคงเป็นเพราะการแยกภาคผลิตกัน ทำให้การพัฒนาเปิดโอกาศให้มีการนำเสอนที่หลากหลาย และเป็นอิสระในการพัฒนามากกว่า
ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ถูกจำกัดที่ทั้งคันจะต้องเป็นผู้ผลิตเจ้าเดียว ทำให้การพัฒนาเป็นไปได้ช้ากว่า หรือถึงแม้จะมีเทคโนโลยี่ที่ล้ำหน้า แต่ก็ไม่สามารถนำออกผลิดขายได้ เพราะไม่ได้แยกกันผลิต
ถ้าหากว่าติดปัญหาเรื่องสิทธิบัตรของเทคโนโลยี จะว่าไปของไอทีเองก็มีสิทธิบัตรเหมือนกันนะแต่เขาทำข้อตกลงและแยกผลิตกันได้
อุตสาหกรรมยานยนต์เองถ้าจะทำเรื่องสิทธิบัตรก็ไม่น่าจะมีปัญหา
ลองคิดว่าถ้าหากแยกพัฒนาและผลิตกันได้จะมีรถแบบล้ำหน้า ออกมาแบบก้าวกระโดดไม่ต่างจากไอทีนะผมว่า
ขออธิบายเพิ่มเติม โดยยกความเห็นของตัวเองข้างล่างมานะครับ
ตัวอย่าง บริษัท A ไม่ได้ผลิต เครื่อง , ล้อ เอง แต่เขาออกแบบเครื่องโดยรวมแล้วไปใช้ชิ้นส่วนสำคัญๆ จากผู้ผลิตรายอื่น เช่น เครื่อง จาก บริษัท B , ล้อ จาก บริษัท C แล้วก็ไปจ้าง บริษัท D ผลิตส่วนอื่นๆและประกอบและผลิตเป็นเครื่องออกมา ตั้งชื่อสินค้าว่า E อะไรประมานี้ครับ
และเครื่อง E ออกมาก็ทำให้ผู้บริโภคนิยมมาก เขาก็จะจดจำเฉพาะบริษัท A โดยไม่ได้ไปสนว่าจะใช้ เครื่อง จากบริษัทอะไร
ถึงแม้บริษัท B ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องให้เอง มาทำเป็นรถทั้งคันขาย ผู้บริโภคก็อาจจะไม่ชอบ เหมือนกับ ยี่ห้อ E จากบริษัท A แบบนี้ครับ บริษัท B เองก็ผลันตัวไปผลิตเฉพาะเครื่องอย่างเดียว ส่งให้บริษัทอื่นๆ ทำรถออกมาขายแข่งกัน เป็นต้นครับ
พอมีบริษัทที่ทำเฉพาะสิ้นส่วนสำคัญเช่นเครื่องขาย ทีนี้ก็จะเกิดบริษัท หรือยี่ห้ออื่นตามมา ซึ่งก็จะแข็งขันกันในด้านต่างๆ ผู้ผติดเฉพาะเครื่องปีหนึ่ง ๆ อาจจะผลิตได้เยอะมากกว่าไปผลิตเป็นรถทั้งคนก็ได้ ในขณะเดียวกันก็มุ่งพัฒนาไปเฉพาะส่วนของตนคือ ไปพัฒนาเครื่องอย่างเดียว ผมจึงว่าแบบนี้มันจะเป็นการกระจายการพัฒนาได้เร็วกว่า แบบภายใต้บริษัทเจ้าเดิม